xs
xsm
sm
md
lg

ไหว้ “9 วัดสวยใกล้เมืองกรุง” อิ่มบุญ เพลินอุรา เสริมสิริมงคลได้ตลอดปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


องค์พระปฐมเจดีย์
หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่นี้ หลายคนอาจไม่อยากเดินทางไปไหนไกลบ้านกัน แต่ในช่วงต้นปีเช่นนี้การได้เข้าวัดทำบุญเพื่อขอพรให้เป็นสิริมงคล ห่างไกลจากอันตรายทั้งปวงตลอดปีก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน

ครั้งนี้จึงได้รวบรวม 9 วัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก มาให้สายบุญได้สักการะกัน ซึ่งนอกจากจะได้ทำบุญให้จิตใจผ่องแผ้วแล้ว ยังได้เปลี่ยนบรรยากาศชมทิวทัศน์ของชานเมือง และสถาปัตยกรรมอันสวยงามของทั้ง9 วัดอีกด้วย

รอบองค์พระปฐมเจดีย์
วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จ.นครปฐม
 


“องค์พระปฐมเจดีย์” หรือที่ชาวนครปฐมมักเรียกกันติดปากว่า “องค์พระ” ตั้งอยู่ภายในวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ต.องค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม บริเวณใจกลางของตัวเมืองนครปฐม

พระร่วงโรจนฤทธิ์
องค์พระปฐมเจดีย์ถือเป็นพระมหาเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดิมมีชื่อเรียกว่า “พระธมเจดีย์” เป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่ รูปทรงระฆังคว่ำ โครงสร้างเดิมเป็นไม้ซุง รัดด้วยโซ่เส้นใหญ่ ก่อด้วยอิฐ มาที่นี่แล้วต้องแวะมากราบไหว้ “พระร่วงโรจนฤทธิ์” หรือ “หลวงพ่อพระร่วง” เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติศิลปะแบบสุโขทัย ประทับยืนอยู่บนฐานโลหะทองเหลืองลายบัวคว่ำบัวหงาย ทำวงพระพักตร์ตามยาว และพระบาทไม่เสมอกัน เป็นที่เคารพบูชาของชาวจังหวัดนครปฐมและพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั่วไป

วัดโสธรวรารามวรวิหาร
วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา


“วัดโสธรวรารามวรวิหาร” หรือ“วัดหลวงพ่อโสธร” เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ที่มีประวัติการสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเดิมนั้นชื่อว่า “วัดหงส์” เนื่องจากมีหงส์ทำด้วยทองเหลืองอยู่บนยอดเสา ต่อมาหงส์ที่ยอดเสาหักตกลงมาเสียชำรุด ทางวัดจึงเอาธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงส์ จึงได้ชื่อว่าวัดเสาธง แล้วต่อมาก็เกิดมีพายุพัดเสานี้หักลงส่วนหนึ่ง จึงได้ชื่อว่าวัดเสาทอน และต่อมาชื่อนี้กลายไปเป็น “วัดโสธร” ในปัจจุบัน

สักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธร
สำหรับภายในวัดหลวงพ่อโสธร เป็นสถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระพุทธโสธร” หรือ “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพสักการะของชาวแปดริ้วและประชาชนทั่วไป ใครผ่านไปผ่านมาในเมืองแปดริ้ว ก็จะต้องแวะมาสักการะหลวงพ่อเพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ

วัดเล่งเน่ยยี่ 2
วัดเล่งเน่ยยี่ 2 จ.นนทบุรี 

“วัดเล่งเน่ยยี่ 2” หรือ “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์” ตั้งอยู่ที่ ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นวัดจีนที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายรัชกาลที่ ๙ เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์”


ความสวยงามของวัดเล่งเน่ยยี่ 2
สถาปัตยกรรมภายในวัดสวยงดงามตระการตา ได้ถูกออกเเบบด้วยสถาปัตยกรรมจีนในยุคสมัยราชวงศ์หมิง เเละถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมพุทธศิลป์จีนโบราณ บรรยากาศภายในวัดจึงเหมือนอยู่ในพระราชวังจีน หลายคนที่มาที่นี่นอกจากจะมาไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลในชีวิตแล้ว ก็มักจะมาแก้ปีชงด้วยเช่นกัน

วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา 


“วัดไชยวัฒนาราม” เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โดยมีการนำรูปแบบแผนผังของวัดมาจากนครวัด มีปรางค์ประธานอยู่ตรงกลางตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม แล้วก็มีระเบียงคดภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยจำนวน 120 องค์

มุมหนึ่งของวัดไชยวัฒนาราม

อุโบสถสีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้
วัดปากน้ำโจ้โล้ จ.ฉะเชิงเทรา

“วัดปากน้ำโจ้โล้” ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลายสร้างประมาณ 200 กว่าปีมาแล้ว ชื่อ “โจ้โล้” นั้นมาจากการที่พระเจ้าตากสินมหาราชทรงวางแผนการศึกเข้าโจมตีทหารพม่าโดยการโล้เรือมาตามลำน้ำให้ทหารพม่าตายใจว่าทรงมาเพียงลำพัง แล้วให้ทหารของพระองค์ซุ้มล้อมโจมตีจนได้ชัยชนะจึงได้เรียกกันว่า “เจ้าโล้” ต่อมาได้เพี้ยนมาเป็น b นั่นเอง ซึ่งวัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณปากน้ำจึงถูกเรียกรวมกับชื่อสถานที่ตั้งกลายเป็น “วัดปากน้ำโจ้โล้” จนถึงปัจจุบัน

ภายในอุโบสถสีทอง
ไฮไลต์เด่นของที่วัดนี้ก็คือ “พระอุโบสถสีทอง” เป็นอุโบสถสีทองหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ทาสีทองทั้งหลังซึ่งสีทองเป็นเสมือนการจำลองภาพบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อมีผู้พบเห็นเกิดความปีติสุข และเลื่อมใสศรัทธาต่อพุทธศาสนา

วัดบางกุ้ง
วัดบางกุ้ง จ.สมุทรสงคราม 

“วัดบางกุ้ง” หรือที่คุ้นหูกันว่า “ค่ายบางกุ้ง” เดิมเคยเป็นค่ายทหารเรือ สมัยพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวของวีรกรรมชาวแม่กลอง ในช่วงปลายสมัยอยุธยาและตอนต้นกรุงธนบุรี ทหารไทย-จีน

โบสถ์ปรกโพธิ์
ซึ่งที่วัดนี้มี “โบสถ์ปรกโพธิ์” เป็นความโดดเด่นไม่มีใครเหมือน ตัวโบสถ์ภายนอกถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ 4 ชนิด คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไกร และต้นกร่าง ส่วนภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี นับเป็นความลงตัวที่แปลกตาน่ายลถือเป็นอันซีนไทยแลนด์อันโด่งดังแห่งเมืองแม่กลอง

วัดชลอ
วัดชลอ จ.นนทบุรี 

“วัดชลอ” เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราว พ.ศ.2275 ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๙ ตัววัดตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ที่เป็นโค้งน้ำที่น้ำไหลเชี่ยวจึงมักมีอุบัติเหตุอยู่เสมอ ภายหลังจึงมีการสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตให้คนเรือได้ลดความเร็วและใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเมื่อเดินเรือมาถึงบริเวณนี้

อุโบสถเรือสุพรรณหงส์
สำหรับ “อุโบสถเรือสุพรรณหงส์” เป็นอุโบสถหลังใหม่ที่ริเริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี 2526 โดยดำริของพระครูนนทปัญญาวิมล (หลวงพ่อสุเทพ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลอ

วัดม่วง
วัดม่วง จ.อ่างทอง 


“วัดม่วง” อ.วิเศษชัยชาญ แห่งนี้เป็นสถานที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง 95 เมตร

วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ จ.กาญจนบุรี 


“วัดถ้ำเสือ” ใน ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นวัดที่มีทัศนียภาพงดงามเป็นอย่างมาก และยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่คือ “พระพุทธชินประทานพร” สร้างขึ้นในปี 2516 มีขนาดหน้าตักกว้าง 11.27 เมตร ความสูง 18.22 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ประดับตกแต่งด้วยโมเสคสีทองอร่ามทั้งองค์

ทัศนียภาพรอบวัดถ้ำเสือ
อย่างไรก็ดีออกจากบ้านทุกครั้งการ์ดต้องอย่าตกในการป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด-19 และอย่าลืมปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัดด้วย

...........................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR


กำลังโหลดความคิดเห็น