หลังจากเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์ของชาวมาเลเซีย กับประเด็นการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “เสือร้องไห้” โดยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งของมาเลเซีย ล่าสุดเจ้าของบริษัทดังกล่าวได้ออกมาขอโทษและถอนใบจดทะเบียนการค้าดังกล่าวเพื่อลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโซเชียลฯ
ดรามาดังกล่าวนี้เริ่มมาจากในโซเชียลมีเดียของชาวมาเลย์มีการเผยแพร่ข่าวการยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า “ฮาริมาอู เมอนางิส” (Harimau Menangis) คำภาษามลายู ที่มีความหมายว่า “เสือร้องไห้” โดยบริษัท Noor Khan Enterprise บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในมาเลเซียซึ่งมีเจ้าของคือ ดาติน นูร์ คาร์ตินี นูร์ โมฮัมเหม็ด (Datin Noor Kartini Noor Mohamed) นักธุรกิจ และมารดาของดาราสาวชาวมาเลเซีย นูร์ นีโลฟา โมห์ด นูร์ (Noor Neelofa Mohd Noor)
เรื่องนี้กลายเป็นไวรัลอย่างกว้างขวางในมาเลเซีย มีการเผยแพร่เอกสารการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไปยังสำนักทรัพย์สินทางปัญญาของมาเลเซีย (MyIPO) ลงวันที่ยื่นจดทะเบียนวันที่ 24 พ.ย. 63 และสถานะเอกสารในวันที่ 30 พ.ย. 63 นั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากการจดทะเบียนดังกล่าวอาจส่งผลกระทบถึงร้านค้าขนาดเล็กที่มีขายเมนูเสือร้องไห้ อีกทั้งยังมีข้อสังเกตว่าบริษัทดังกล่าวสามารถจดทะเบียนในชื่อ “ฮาริมาอู เมอนางิส” ได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้เป็นผู้คิดค้นและตั้งชื่อนี้ขึ้นมา อีกทั้งเมนูเสือร้องไห้ยังมีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย
ส่วนนักเคลื่อนไหวด้านภาษาของมาเลเซียให้ข้อมูลว่า คำว่า “ฮาริมาอู เมอนางิส” ตามพจนานุกรม หมายถึงส่วนหนึ่งของเนื้อ ไม่ใช่เมนูอาหาร
กรณีนี้ทำให้ประชาชนบางส่วนส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง MyIPO ว่าบริษัทดังกล่าวนำชื่อเสือร้องไห้ไปจดทะเบียนเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตัวในเชิงพาณิชย์ และทางรัฐบาลมาเลเซียประกาศชะลอการรับรองคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในครั้งนี้แล้ว โดยระบุว่ากรณีนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน
ล่าสุด นักธุรกิจคนดังกล่าวออกมากล่าวขอโทษ และถอนใบจดทะเบียนการค้าในชื่อ “ฮาริมาอู เมอนางิส” แล้ว และกล่าวว่า ตนยื่นเรื่องจดทะเบียนการค้าสูตรการทำเมนูเสือร้องไห้เพื่อป้องกันสินค้าเลียนแบบเท่านั้น และหวังว่าการถอนใบจดทะเบียนการค้าจะช่วยระงับความขัดแย้งที่แพร่กระจายไปทั่วสื่อโซเชียลฯ
สำหรับ “เสือร้องไห้” เป็นเนื้อวัวส่วนอก ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Brisket” จะมีเนื้อสองส่วนที่มีไขมันสีขาวคั่นกลาง เป็นเนื้อที่มีความเหนียว จึงเหมาะกับการนำไปสโลว์คุกที่ใช้เวลาหลายชั่วโมง ส่วนเมนูเด็ดจากเสือร้องไห้ของไทยต้องยกให้การนำไปหมักแล้วย่างพอสุก แล่เป็นชิ้นบางๆ แล้วจิ้มน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด
ส่วนเหตุที่เรียกเนื้อส่วนนี้ว่าเสือร้องไห้ เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมามากที่สุดก็คือ เนื้อส่วนนี้มีความเหนียวจนแม้แต่เสือกินแล้วยังต้องน้ำตาไหล
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม “เสือร้องไห้” ถือว่าเป็นเมนูเด็ดในร้านอาหารอีสานที่คนรักเนื้อวัวต้องห้ามพลาด
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่างๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR