“ดอยอินทนนท์” เปี่ยมมนต์ขลัง “น้ำตกรักจังมิติใหม่” ชวนประทับใจเส้นทางตามรอยพ่อ

2,565.3341 เมตร

คือระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลของยอดดอยอินทนนท์ ณ จุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย หรือจุด “สูงสุดแดนสยาม” ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” ที่วันนี้มีการพัฒนา “เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว” เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

อินทนนท์เปี่ยมมนต์ขลัง

ดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ใน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ดอยแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาถนนธงชัย และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย


ดอยอินทนนท์ เดิมเรียกขานกันว่า “ดอยหลวง” ที่หมายถึงขุนเขาที่มีขนาดใหญ่(หลวง : ภาษาเหนือหมายถึงใหญ่) กับอีกชื่อหนึ่ง คือ “ดอยอ่างกา” เพราะมีเรื่องเล่าขานกันว่า ที่นี่มีแอ่งน้ำจืดที่ฝูงกาจำนวนมากชอบลงไปเล่นน้ำ จึงเป็นที่มาของ “ดอยอ่างกา”

ดอยหลวงในอดีตอยู่ในการดูแลของเจ้าผู้ครองนคร อันเป็นไปตามการปกครองสมัยนั้นที่ป่าไม้ทางภาคเหนือต่างขึ้นอยู่ในอาณัติของเจ้าผู้ครองนคร จนกระทั่งมาถึงในสมัย“พระเจ้าอินทรวิชยานนท์” ผู้ครองนครเชียงใหม่ พระองค์เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับป่าไม้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผืนป่าดอยหลวงที่มีความรักเป็นพิเศษ ถึงขนาดรับสั่งว่า หากสิ้นพระชนม์ไป ขอให้เอาอัฐิส่วนหนึ่งไปบรรจุไว้บนยอดดอยหลวง


ปัจจุบันดอยอินทนนท์ อยู่ภายใต้การดูแลของ “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” ที่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตั้งแต่ปี 2515 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 6 ของประเทศไทย

ก่อนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์มีชาวเขาทั้งกะเหรี่ยง ทั้งม้งอยู่อาศัยบนดอยมานานแล้วครั้นพอประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ก็มีการกันพื้นที่ทำกินเดิม ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้ชาวบ้านอาศัยทำมาหากินได้


นอกจากนี้ก็ยังมีการพัฒนาจุดที่มีความสวยงามภายในอุทยานฯ ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากยอดดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดแดนสยามแล้ว อช.อินทนนท์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พระมหาธาตุนภเมทนีดล-พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ, เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา, เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน, ถ้ำบริจินดา, ดอยผาตั้ง และน้ำตกต่าง ๆ อาทิ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร

รวมถึง “น้ำตกผาดอกเสี้ยว” หรือที่มีอีกหนึ่งชื่อเรียกขานว่า “น้ำตกรักจัง” เนื่องจากน้ำตกแห่งนี้ (ชั้น 7) เคยถูกใช้เป็นฉากของภาพยนตร์ไทยเรื่อง “รักจัง” ที่มีคู่พระ-คู่นาง อย่าง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และพอลล่า เทเลอร์ มาใช้สะพานไม้หน้าน้ำตกแห่งนี้จู๋จี๋กัน

เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรตินำร่อง



น้ำตกผาดอกเสี้ยว หรือน้ำตกรักจัง เป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวอันโรแมนติกเชื่อมโยงกับทุ่งนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง ซึ่งทาง อช. ดอยอินทนนท์ ได้มีการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเรื่อยมา

กระทั่งล่าสุดทาง อช.ดอยอินทนนท์ ได้ยกระดับพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว ให้น่าสนใจมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก จนถูกคัดเลือกให้เป็น “เส้นทางศึกษาธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติทางบกนำร่องใต้พระบารมีในรัชกาลที่ ๑๐” โดยมี “นายกริชสยาม คงสตรี” (อดีตหัวหน้า อช.ดอยอินทนนท์) เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการพัฒนาเส้นทางดังกล่าว


เส้นทางสายนี้นอกจากจะมีน้ำตกผาดอกเสี้ยวทั้ง 10 ชั้นให้ได้ชื่นชมในความงาม ควบคู่ไปกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และมีวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง ที่เป็นหนึ่งในทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยที่สุดในเมืองไทยแล้ว เรายังได้เห็นวิถีชีวิตของชนเผ่าปกาเกอะญอที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ควบคู่ไปกับปรับตัวตามยุคสมัยที่ยังไม่ทิ้งวิถีดั้งเดิม

วันนี้ชนเผ่าปกาเกอะญอที่นี่ต่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อันเนื่องมาจากสายพระเนตรอันยาวไกล ของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงได้มาวางรากฐานยกฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอในพื้นที่ให้ดีขึ้น


น้ำตกผาดอกเสี้ยวมิติใหม่ ชวนประทับใจเส้นทางตามรอยพ่อ

เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว มีระยะทางประมาณ 2.6 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ลงไปทางจอมทองประมาณ 1 กิโลเมตร

ปากทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่คอยลงทะเบียนและบอกกล่าวถึงกฎกติกาการใช้เส้นทาง ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์พยายามจะให้ชาวบ้านมามีส่วนร่วมในการดูแลเส้นทาง โดยให้ชาวบ้านในท้องที่มาเป็นไกด์นำทางเที่ยว ในอัตรา 200 บาทต่อกลุ่ม (ไม่เกิน 10 คน)


เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยและเจ้าหน้าที่จัดคนนำทางให้แล้ว ก็จะเป็นการเริ่มต้นการเดินทาง ไปตามเส้นทางที่มีการจัดทำอย่างดี ในช่วงเริ่มต้นจะเดินขึ้นเนินไปไม่ไกล ทางก็จะเดินลงเนินยาว ๆ ท่ามกลางป่าสน ป่าไม้ก่อ

ระหว่างทางมีป้ายศึกษาธรรมชาติ เกริ่นบอกสภาพป่า บอกประวัติความเป็นมาของพื้นที่ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบันเพื่อให้เข้าใจสภาพของพื้นที่ จากนั้นเส้นทางจะตัดลงหุบเขาชัน แต่มีบันไดและราวจับ ลงไปจนถึงลำห้วยซึ่งเป็นน้ำตกชั้นที่ 10 หรือชั้นบนสุด


เมื่อเดินลงไปตามทางอีกราว 40 เมตร ก็จะถึงจุดชมน้ำตกชั้นที่ 9 ซึ่งจะเห็นว่าลำห้วยสายนี้เป็นลำห้วยขนาดใหญ่ ชั้นน้ำตกแต่ละชั้นมีปริมาณน้ำมากตกลงจากหน้าผาหินสูงร่วม 15 เมตร ไหลทอดยาวลงมาเป็นระยะทางกว่า 30 เมตร จึงดูเป็นน้ำตกที่ใหญ่ไม่น้อย

จากนั้นเส้นทางก็จะพานำไปยังน้ำตกชั้นที่ 8 ที่ไหลซอกซอนตกลงไปในแอ่งน้ำกว้างเบื้องล่าง ครั้นเดินลงบันไดไม้มาอีกไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกชั้นที่ 7 หรือชั้น “น้ำตกรักจัง” เพราะเป็นชั้นที่ใช้เป็นฉากประกอบภาพยนตร์เรื่องรักจัง (ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น)


น้ำตกชั้นที่ 7 เป็นชั้นไฮไลท์ที่สวยที่สุดของน้ำตกผาดอกเสี้ยว ตกลงมาชั้นเดียวจากหน้าผาสูงราว 20 เมตร ด้านหน้ามีสะพานไม้ไผ่ทอดข้ามผ่านสายธารน้ำตก ถือเป็นจุดถ่ายรูปคู่กับน้ำตกที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ขณะที่ห่างไปอีกหน่อยก็จะเป็นน้ำตกชั้นที่ 6 ซึ่งลำห้วยของน้ำตกชั้นนี้จะไหลเข้าไปในป่าทึบ มีทางเดินเลาะเลียบเชิงเขา ที่ชาวบ้านมาทำลำรางต่อน้ำจากน้ำตก ไหลมาตามลำรางดินไปยังเรือกสวนไร่นา ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น


จากนั้นไฮไลท์จุดถัดไปจะเป็น จุดชมวิว “ทุ่งนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง” รวมทั้งทิวทัศน์ของ “ผาดอกเสี้ยว” อันเป็นที่มาของชื่อน้ำตก ซึ่งในช่วงราวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะเห็นดอกเสี้ยวออกดอกสีขาวแต่งแต้มผืนป่าดู

ส่วนถ้ามาช่วงหน้าฝน จะเห็นความเขียวขจีของต้นข้าว แต่ถ้ามาช่วงเดือนพฤศจิกายนจะเห็นนาข้าวสีเหลืองทองอร่าม ถือเป็นจุดชมวิวที่มากความสวยงามใน 3 ฤดูแตกต่างกันออกไป

จากจุดชมวิว ถัดไปเส้นทางเดินจะนำพาเราผ่านย่านที่ทำกินของชาวบ้านและผืนป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์ ที่จะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวบ้าน ท้องทุ่งนา เถียงนาน้อย ฝูงควาย รวมถึงป้ายอธิบายวิถีชีวิตของชาวปากเกอะญอกับผืนป่า และป้ายอธิบายที่มาของว่า ทำไมต้องเป็นนาขั้นบันได


นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมี “สวนกาแฟต้นแรก” ที่ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จมาทอดพระเนตร และส่งเสริมให้ชาวบ้านในพื้นที่ปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น ก่อนเส้นทางจะนำไปสิ้นสุดที่ร้านกาแฟแม่กลางหลวง ของชาวบ้านเจ้าของต้นกาแฟที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเสด็จทอดพระเนตร

ที่ร้านกาแฟแม่กลางหลวงนักท่องเที่ยวจะได้ชิมกาแฟที่ชาวบ้านคั่ว บด และชงให้ดื่มฟรี ๆ เป็นกาแฟสดใหม่กรุ่นกลิ่นหอมชื่นใจ


นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดขายสินค้าที่ระลึกผลิตภัณฑ์ชุมชน อย่าง กาแฟ ผ้าทอมือ และสินค้าอื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวเลือกชอปติดไม้ติดมือส่งท้ายก่อนกลับบ้าน อันถือเป็นการสิ้นสุดของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสายนี้

นับได้ว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว นอกจากจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่น่ายลไปด้วยธรรมชาติ มีเอกลักษณ์ มีวิวทิวทัศน์สวยงามแล้ว ยังเป็นเส้นทางตามรอยพ่อใต้พระบารมีที่ชวนประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

##########################################


หมายเหตุ : เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 ทาง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้ประกาศปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยวเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่5 มกราคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยังคงเปิดให้เข้าท่องเที่ยวปกติ ทั้งนี้ เน้นย้ำนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยขณะท่องเที่ยว, เว้นระยะห่างทางสังคม, ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์, ลงทะเบียนไทยชนะ และลงทะเบียนCM-CHANA ก่อนเข้าพื้นที่ ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 0-5328-6729