ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ชวนชมผลงานมาสเตอร์พีซในรูปแบบดิจิทัล ที่เป็นดั่งซิมโฟนีแห่งแสงและเสียง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล (MODA) ตั้งแต่ 8 ม.ค.- 18 เม.ย. 64
ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ชวนมาชมนิทรรศการครั้งแรกของปี 2021 กับ The Impressionists ซึ่งจะจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล (MODA) ที่ชั้น 2 ของอาร์ตเซ็นเตอร์แห่งนี้ เหล่าอาร์ตเลิฟเวอร์สจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับนิทรรศการนี้ซึ่งได้เนรมิตวิถีชีวิตในกรุงปารีสช่วงศตวรรษที่ 19
กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งผ่านงานศิลปะของศิลปินมาสเตอร์ทั้ง 10 คนแห่งยุคสมัยนั้น ในเดือนม.ค. 64 ผลงานที่มีชื่อเสียงอย่าง ‘The Ballet Class’ โดย เอ็ดการ์ เดอกาส์ (Edgar Degas) ‘Dance at Bougival’ โดย เรอนัวร์ (Renoir) ‘A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte’ โดย จอร์จส์ เซอราต์ (Georges Seurat) จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งที่ MODA Gallery ดั่งคำกล่าวของโคลด โมเนต์ (Claude Monet) ที่ว่า “ความรุ่มรวยที่ปรากฏในผลงานของผมมาจากธรรมชาติ จุดเริ่มต้นแห่งแรงบันดาลใจของผม” เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ นิทรรศการ The Impressionists จะมอบความสุขและแรงบันดาลใจให้กับทุกคนมาชมงานนี้
นอกจากนี้ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ต้องการนำเสนอ ‘ความบันเทิงควบคู่ไปกับความรู้ และการเรียนรู้อย่างไม่รู้จบ’ ของนิทรรศการต่างๆ ที่นำเสนอจึงครอบคลุมทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ผ่านการนำเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนทุกเพศวัยและผู้ที่สนใจในเรื่องดังกล่าว ในปี 2020 ที่ผ่านมา ผู้คนต่างหลั่งไหลมาชมย่านเมืองเก่าแห่งนี้ของกรุงเทพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่อาร์ตแกลเลอรี และพิพิธภัณฑ์ พวกเขาซื้อบัตรชมนิทรรศการกันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ริเวอร์ ซิตี้ ของเราจึงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้ผู้คนหันมาสนใจวัฒนธรรมและศิลปะในทุกรูปแบบ
ศิลปินคนสำคัญทั้ง 10 คน คือ เอดูอาร์ มาเนต์ (Edouard Manet) โคลด โมเนต์ (Claude Monet) เอ็ดการ์ เดอกาส์ (Edgar Degas) ออกุสต์ เรอนัวร์ (Auguste Renoir) อ็องรี เดอ ตูลูส-โลเทร็ค (Henri de Toulouse-Lautrec) อ็องรี รูสโซ (Henri Rousseau) จอร์จ เซอราต์ (George Seurat) ฟินเซนต์ ฟาน ก็อกฮ์ (Vincent Van Gogh) ปอลล์ เซซานน์ (Paul Cezanne) และ ปอล โกแก็ง (Paul Gauguin) The Impressionists จะพาย้อนกลับไปสู่ยุคแห่งศิลปะช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อันเป็นยุคสมัยของศิลปินทั้ง 10 คนนี้
พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวิวทิวทัศน์และภาพวิถีชีวิตประจำวันซึ่งขัดกับแนวคิดของสถาบันวิจิตรศิลป์ แต่ศิลปินกลุ่มนี้ยังคงยืนกรานที่จะนำเสนอวิถีทางในแบบของพวกเขาซึ่งสวนทาง กับสถาบันศิลปะที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในเวลานั้นคือ ‘Academie des Beaux-Arts’ หรือ สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงปารีส ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานอันเคร่งครัดให้กับ ‘Paris Salon’ (ปารีส ซาลง) หรือนิทรรศการศิลปะที่จัดขึ้นอย่างเป็นทางการโดยสถาบันแห่งนี้และเป็นเสมือนเวทีแห่งการค้าขายงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดอันเป็นที่ปรารถนาของเหล่าศิลปินในยุคนั้น
The Impressionists จะพาย้อนกลับไปสู่ยุคแห่งศิลปะช่วงปลายศตวรรษที่ 19 อันเป็นยุคสมัยของศิลปินทั้ง 10 ท่านนี้ พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวิวทิวทัศน์และภาพวิถีชีวิตประจำวันซึ่งขัดกับแนวคิดของสถาบันวิจิตรศิลป์ แต่ศิลปินกลุ่มนี้ยังคงยืนกรานที่จะนำเสนอวิถีทางในแบบของพวกเขาซึ่งสวนทางกับสถาบันศิลปะที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในเวลานั้นคือ ‘Academie des Beaux-Arts’ หรือ สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงปารีส ดื่มด่ำไปกับความรุ่งเรืองของประเทศฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 ผ่านนิทรรศการมัลติมีเดียที่เป็นดั่งซิมโฟนีแห่งแสงและเสียงที่นำเสนอชีวิตและผลงานของศิลปินขั้วขบถในเวลานั้นและได้รับการยกย่องในระดับมาสเตอร์
นิทรรศการแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่
ปารีสในศตวรรษที่ 19
ก้าวแรกเมื่อเข้าสู่ MODA Gallery ผู้ชมจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของท้องถนนในกรุงปารีสและการเพื่อเป็นการโหมโรงบริบทไปก่อนที่จะเข้าถึงเรื่องราวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในโซนถัดไป
หัวขบถแห่งโลกศิลปะ
ศิลปะซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 19 และเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานของสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงปารีสคือศิลปะแบบ ‘ลัทธิคลาสสิกใหม่’ (Neoclassism) และ ‘ศิลปะจินตนิยม’ (Romanticism) น้อยนักที่ได้เห็นศิลปะในสไตล์อื่นๆ มีบทบาทในช่วงเวลานั้น เนื่องจากปารีสซาลงมีมาตรฐานที่ค่อนข้างไปทางอนุรักษ์นิยมและเข้มงวดในการคัดเลือกผลงานที่จะทำเข้ามาจัดแสดง ด้วยเหตุนี้จึงมีผลงานศิลปะหลายผลงานที่โดนปฏิเสธที่จะขึ้นจัดแสดงที่นี่เป็นที่ทราบกันว่าผู้ริเริ่มลัทธิประทับใจ หรือ ‘กลุ่มอิมเพรสชั่นนิสม์’ นั้นมีหลายคนแต่แนวคิดในการสร้างสรรค์ศิลปะแนวนี้นั้นเริ่มมาจากสมาชิกคนสำคัญ ได้แก่ โคลด โมเนต์ (Claude Monet) ออกุสต์ เรอนัวร์ (Auguste Renoir) และอัลเฟรด ซิสลี่ (Alfred Sisley) ที่ชื่นชอบการวาดภาพทิวทัศน์จากสถานที่จริงเป็นชีวิตจิตใจ เพราะพวกเขาคิดว่าการวาดรูปจากสถานการณ์และสถานที่จริงนั้นมีเสน่ห์และให้ความสมจริงมากกว่าการวาดรูปในสตูดิโอจากภาพสเก็ตช์
คาเฟ่ เชร์บัวส์ (Café Guerbois)
ความขัดแย้งทางด้านความคิดระหว่างกลุ่มศิลปินที่ถูกปฏิเสธผลงานจากปารีส ซาลอง (Paris Salon) รวมไปถึงการตีกรอบทางความคิดของสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงปารีสทำให้เหล่าศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ตัดสินใจแยกตัวออกมา และรวมตัวกันที่คาเฟ่ เชร์บัวส์ (Café Guerbois) เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ของตน คาเฟ่ เชร์บัวส์ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 11 ถนนบาติญอลส์ (Batignolles) บนเนินเขาในย่านมงต์มาร์เตรอ กรุงปารีสเขต 18 ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญของการริเริ่มแนวคิดศิลปะแบบสมัยใหม่ โดยเหล่าศิลปินที่มีแนวคิดนี้จะรวมตัวกันทุกวันอาทิตย์ และวันพฤหัสบดี ซึ่งผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นหัวหน้าของกลุ่มนี้คือ เอดูอาร์ มาเนต์ (Edouard Manet)
นิทรรศการครั้งแรกของเหล่าศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ปีค.ศ. 1874 หากถามว่าเหตุการณ์ที่ทำให้กลุ่มอิมเพรสชั่นนิสต์กลายเป็นที่รู้จักของทุกคนก็คงไม่พ้นนิทรรศการศิลปะครั้งแรกของพวกเขาในปี 1874 แม้ว่าชื่อเสียงของพวกเขาค่อนข้างจะไปในทางลบ แต่พวกเขาก็กล้าหาญพอที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง นิทรรศการนี้จัดขึ้นโดยโมเนต์ (Monet) พิสซาโร (Pissaro) เดกาส์ (Degas) เรอนัวร์ (Renoir) ซิสลีย์ (Sisley) และ แบร์ธ โมริโซ (Berthe Morisot) พร้อมด้วยผลงานศิลปะทั้งหมด 165 ชิ้นจากศิลปิน 30 คน ครั้งนี้เองที่ ‘อิมเพรสชั่นนิสม์’ กลายเป็นชื่อเรียกในวงการศิลปะของพวกเขา ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากภาพ ‘Impression Sunrise’ ผลงานชิ้นเอกของโมเนต์ แม้ว่าจำนวนคนที่เข้ามาชมนิทรรศการมีมากถึง 3,500 คน ทว่าคนเหล่านี้กลับไม่ได้มาเพื่อชื่นชมผลงานของพวกเขาอย่างแท้จริง
พวกเขามาเพื่อหัวเราะเยาะผลงานเหล่าศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์เท่านั้น แม้กระทั่งสื่อสิ่งพิมพ์มากมายก็ต่างเขียนคำสบประมาทมากมายให้พวกเขา
การเป็นที่รู้จักในระดับสากล
อย่างไรก็ตาม เหล่าศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ต่างก็ไม่ยอมแพ้ต่อคำสบประมาทเหล่านั้น พวกเขายังคงจัดนิทรรศการของตัวเองอย่างต่อเนื่องถึง 8 ครั้งระหว่างปีค.ศ.1874 ถึงค.ศ. 1886 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนกระทั่ง ปอล ดูรองต์-รูแอล (Paul Durand-Ruel) นักจัดการศิลปะชาวปารีสที่สนับสนุนพวกเขามาตลอดได้นำผลงานของพวกเขา ทั้งหมด 300 ชิ้นไปนำเสนอที่กรุงนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ในปี 1886 ให้กับเหล่าเศรษฐีชาวอเมริกัน ช่วงเวลานั้นเองที่ชื่อเสียงของศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ได้ดังสะพัดไปทั่วโลก และเริ่มเป็นที่ยอมรับในแวดวงศิลปะมากขึ้น
สวนของโมเนต์
หลังจากที่ผลงานของกลุ่มอิมเพรสชั่นนิสต์ได้ประสบความสำเร็จมากมาย โคลด โมเนต์จึงตัดสินใจแยกตัวไปใช้ชีวิตบั้นปลายของตัวเองที่เมืองจีแวร์นี (Giverny) ในสวนหลังบ้านของเขาเต็มไปด้วยสระบัวและมวลดอกไม้มากมาย ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดผลงานชื่อดัง ‘Water Lillies’ ตัวอย่างผลงานมาสเตอร์พีซที่นำเสนอในนิทรรศการ The Impressionists ในรูปแบบดิจิทัล
• The Luncheon on the Grass (1863), Édouard Manet
• Impression Sunrise (1872), Woman with a Parasol – Madame Monet and Her Son (1875), Water Lily Pond (1919), Claude Monet
• The Ballet Class (1871-1874), Edgar Degas
• Dance at Bougival (1883), Auguste Renoir
• A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte (1884–1886), Georges Seurat
ผู้ที่สนใจร่วมประทับใจไปกับที่สุดแห่งศิลปะจากศตวรรษที่ 19 จากฝีมือของศิลปินทั้ง 10 คน นำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดียทั้งภาพและเสียงได้ ในงานนิทรรศการ The Impressionists ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. – 18 เม.ย. 64 ที่ MODA Gallery ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก *นิทรรศการในห้องมัลติมีเดียใช้เวลา 45 นาที บัตร Early Bird ราคาพิเศษถึงวันที่ 7 ม.ค. 64 ทาง https://www.zipeventapp.com/e/theimpressionists และ The Gallery Shop ชั้น 1
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR
