ปี พ.ศ. 2564 เป็นปีฉลูหรือปีวัว ตามปีนักษัตร ที่แม้หลาย ๆ คน จะเรียกว่าปีวัวทอง แต่ก็ทำท่าจะเป็นปีวัวดุ โดยเฉพาะในบ้านเรา เพราะเพียงแค่เปิดต้นปีมาพิษโควิด-19 ระลอกใหม่ก็ทำเมืองไทยระส่ำอีกครั้ง
ขณะที่ผลกระทบจากโควิด-19 ทั่วโลกนั้นก็ยังคงหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวยังคงเป็นไปในแบบ New Normal ที่ไม่สามารถไปไหนอิสระได้เหมือนที่ผ่าน ๆ มา อีกทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบและพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไปพอสมควร
ด้วยเหตุนี้ Booking.com บริษัทผู้นำด้านการเดินทางดิจิทัลของโลก จึงได้ทำการสำรวจข้อมูลผู้เดินทางมากกว่า 22,000 คนใน 28 ประเทศ ถึงเทรนด์และการคาดการณ์ต่าง ๆ ด้านการท่องเที่ยวในปีวัวทอง ซึ่งก็ได้ข้อสรุปเป็น 5 ทริป 5 สไตล์ของเทรนด์ท่องเที่ยวมาแรงในปี 2564 ดังนี้
1.ลุยเดี่ยวก็เที่ยวได้
การเที่ยวคนเดียวเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง เพราะในช่วงที่ผ่านมาการเดินทางได้ถูกตั้งกฎเกณฑ์ไว้มากมาย ทำให้ผู้คนเริ่มคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้ออกไปลุยเดี่ยวในปี 2564
ทั้งนี้ก่อนช่วงโควิด-19 ผลสำรวจจาก Booking.com ได้เผยว่ามีผู้เดินทางชาวไทยเพียง 17%* เท่านั้นที่วางแผนเที่ยวแบบลุยเดี่ยว ซึ่งต่างกับผลสำรวจล่าสุดที่ผู้เดินทางจำนวนถึง 40%** วางแผนจะลุยเที่ยวคนเดียวมากขึ้นในอนาคต และผู้เดินทาง 51%** ต้องการเดินทางมากขึ้นในอนาคตเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในปี 2563
และนี่ก็คือแรงขับเคลื่อนหลักที่กระตุ้นให้ผู้เดินทางอยากออกไปท่องเที่ยวแบบลุยเดี่ยวสักครั้งในชีวิต
2.เที่ยวด้วยอร่อยด้วย
ความต้องการในการออกไปสำรวจโลกกว้างของผู้เดินทางชาวไทยไม่ได้ลดน้อยลง แต่คนส่วนใหญ่ยังหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ (77%**) เนื่องด้วยมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับการเดินทางต่างประเทศที่ยังคงเข้มงวด
ด้วยเหตุนี้การเที่ยวในประเทศจึงกลายเป็นวิถีใหม่สำหรับผู้เดินทาง โดยการได้ไปตระเวนชิมอาหารเลิศรส เป็นสิ่งที่คนอยากทำเป็นอันดับต้น ๆ โดยผู้เดินทางชาวไทย 52%** อยากลิ้มรสและดื่มด่ำกับเมนูขึ้นชื่อในท้องถิ่น ระหว่างทริปเดินทาง ส่วนอีก 36%** อยากออกไปร้านอาหารบ่อยขึ้นเพราะมีเงินเก็บจากการงดไปทริปต่างประเทศ
3.ขอเพียงได้ผ่อนคลาย
หลังจากทริปต่าง ๆ ได้ถูกยกเลิกจากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกว่าแค่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวก็เกินพอแล้ว โดยผู้เดินทางชาวไทย 77%** ตั้งมั่นว่าในอนาคตจะไม่มองข้ามคุณค่าของการเดินทางอีก
ดังนั้นแม้ผลสำรวจจะแสดงให้เห็นว่าผู้เดินทางยังคงปรารถนาที่จะได้เดินทางอีกครั้ง แต่มีเพียง 8%** เท่านั้นที่วางแผนเพื่อไปทริปพักผ่อนสุดหรู (เช่น การพักในวิลลา หรือโรงแรม 5 ดาว) ส่วนผู้เดินทางชาวไทยส่วนใหญ่ (48%)** กลับวางแผนทริปเพื่อได้ใช้เวลาผ่อนคลายและหลีกหนีความวุ่นวายต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าการได้พักผ่อนคือความปรารถนาที่แท้จริงของผู้เดินทางในปี 2564
4.ตัวอยู่ไกลแต่ใจใกล้กัน
ในปี 2563 ผู้เดินทางจำนวนมากถูกแยกอาศัยกับครอบครัวและเพื่อนเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนรู้สึกเหงาและห่อเหี่ยว ทำให้ผู้เดินทางชาวไทย 78%** วางแผนใช้การเดินทางในอนาคต เป็นโอกาสพบปะและเชื่อมสัมพันธ์กับคนที่รักอีกครั้ง
นอกจากนี้ในขณะที่ต้องอยู่ไกลกันนั้น ผู้เดินทาง 38%** เผยว่าหนึ่งในแรงบันดาลใจหลัก ๆ ที่ทำให้อยากเดินทางอีกครั้ง คือการได้พูดคุยเรื่องทริปกับเพื่อน ๆ และครอบครัว
5.สนุกสุดสัปดาห์
เนื่องจากผู้เดินทางจำนวนมากกังวลกับความไม่แน่นอนที่อาจส่งผลต่อทริปของพวกเขาอีกครั้ง ทำให้ความต้องการที่จะเที่ยวในช่วงเวลาสั้น ๆ มีเพิ่มมากขึ้น
โดยผู้เดินทางชาวไทยเกินครึ่ง (62%)** ต้องการไปทริปพักผ่อนที่มีระยะสั้นลงในปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดี่ยวกันในปี 2562 เพื่อลดความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทางส่วนอีก 44%** คิดถึงการท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์มาเป็นอย่างแรก หลังมีการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศ ทำให้เห็นว่าผู้เดินทางมีความต้องการอย่างมากที่จะหลบไปพักใจจากโลกแห่งความเป็นจริงแม้จะเป็นเวลา เพียงไม่กี่วันก็ตาม
และนี่ก็คือเทรนด์ของไลฟ์สไตล์ทริปท่องเที่ยวในปี 2564 ซึ่งเรายังคงต้องชีชีวิตแบบ New Normal ไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะมีวัคซีนและสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลาย ดังนั้นการการ์ดไม่ตก ป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโควิด-19 จึงจำเป็นที่สุด ต้องสวมแมสก์เสมอเวลาออกนอกบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม กินร้อนช้อนตน ล้างมือบ่อย ๆ รวมถึงที่สำคัญคือต้องมีสติอย่าตื่นตระหนก
แล้วเราจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน
##########################################
หมายเหตุ :
*การสำรวจนี้ดำเนินการโดย Booking.com โดยได้สอบถามข้อมูลด้วยตนเองจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งได้เดินทางในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา/วางแผนที่จะเดินทางในอีก 12 เดือนข้างหน้า มีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทั้งหมด 22,000 คน (ประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้เข้าร่วมแห่งละ 1,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น จีน บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย อินโดนีเซีย โคลอมเบีย และเกาหลีใต้ ส่วนประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้เข้าร่วมแห่งละ 500 คน ได้แก่ นิวซีแลนด์ ไทย อาร์เจนตินา เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฮ่องกง โครเอเชีย ไต้หวัน เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สิงคโปร์ และอิสราเอล) ผู้เข้าร่วมได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ระหว่างวันที่ 9-28 สิงหาคม 2562
**การสำรวจข้อมูลนี้ดำเนินการโดย Booking.com โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งได้เดินทางทริปธุรกิจหรือทริปพักผ่อนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และต้องมีแผนที่จะเดินทางในช่วง 12 เดือนนับจากนี้ (หาก/เมื่อมีการยกเลิกการจำกัดการเดินทาง) ผู้เข้าร่วมการสำรวจมีจำนวนทั้งหมด 20,934 คนใน 28 ประเทศ/ภูมิภาค (สหรัฐอเมริกา 999 คน แคนาดา 496 คน เม็กซิโก 497 คน โคลอมเบีย 997 คน บราซิล 999 คน อาร์เจนตินา 499 คน ออสเตรเลีย 995 คน นิวซีแลนด์ 499 คน สเปน 999 คน อิตาลี 996 คน ฝรั่งเศส 996 คน สหราชอาณาจักร 999 คน เยอรมนี 996 คน เนเธอร์แลนด์ 498 คน เดนมาร์ก 499 คน สวีเดน 499 คน โครเอเชีย 498 คน รัสเซีย 1,001 คน อิสราเอล 498 คน อินเดีย 997 คน จีน 994 คน ฮ่องกง 499 คน ไทย 497 คน สิงคโปร์ 496 คน ไต้หวัน 499 คน เกาหลีใต้ 997 คน เวียดนาม 500 คน และญี่ปุ่น 995 คน) ผู้เข้าร่วมได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนกรกฎาคม 2563