หนาวนี้เที่ยวเชียงราย ชมฟ้าดาวเดือน ที่ “ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน”

“เชียงราย” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่ทุกๆ ฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางไปเยี่ยมเยือนเพื่อชมความงามของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย โดยเฉพาะการไปเที่ยวภู-ดอย ชมทะเลหมอกสวยๆ อันเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย

แม้หน้าหนาวปีนี้โรคโควิด-19 และกลุ่มคนไม่รับผิดชอบต่อสังคมที่ลักลอบข้ามเขตแดนไทยมาพร้อมเชื้อโควิดจะทำให้การท่องเที่ยวของเชียงรายเป๋ไปบ้าง แต่ธรรมชาติสวยๆ ของเชียงรายก็ยังคงงดงามอยู่เสมอ และยังคงท่องเที่ยวกันได้อย่างปลอดภัยหากนักท่องเที่ยวยังระมัดระวังเรื่องของการเว้นระยะห่างทางสังคม ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ

และสำหรับคนที่พร้อมจะเที่ยวเชียงรายกันแล้ว วันนี้เรามี 3 ภูสวยแห่งเชียงราย สถานที่ชมทะเลหมอก ชมพระอาทิตย์ และชมวิวงามๆ คือ ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน มาฝากกัน


“ภูชี้ฟ้า”

ถ้าให้นึกถึงสถานที่ชมทะเลหมอกอลังการแห่งเชียงราย ต้องนึกถึง “ภูชี้ฟ้า” ขึ้นมาเป็นแห่งแรก โดย “ภูชี้ฟ้า” ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย อ.เทิง จ.เชียงราย บนรอยต่อของเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นที่เป็นดังหลังคาเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร

รูปพรรณสัณฐานอันโดดเด่นของภูลูกนี้ทำให้ได้ชื่อว่า “ภูชี้ฟ้า” เพราะมีลักษณะเป็นหน้าผาตัด ยอดภูเป็นเหลี่ยมแหลมเชิดสูงชี้ไปบนฟ้า




นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์และทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้ากันตั้งแต่เช้ามืดท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและลมพัดแรง โดยจากบริเวณจุดจอดรถจะต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตรก็จะถึงยอดภูชี้ฟ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวมักแวะรอชมพระอาทิตย์ขึ้นระหว่างทาง เพื่อให้เห็นจุดชมวิวมุมยอดนิยมที่ปรากฏเป็นภาพสัญลักษณ์ของภูชี้ฟ้า นั่นคือจุดที่สามารถมองเห็นยอดแหลมของภูที่ชี้พุ่งไปสู่ท้องฟ้า ท่ามกลางทะเลหมอกหนาเป็นปุย พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และแนวยอดภูเบื้องล่างได้อย่างลงตัวงดงาม

หลังจากดวงตะวันค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้า แสงแดดสีส้มจะสาดส่องทำให้ทะเลหมอกกลายเป็นสีทอง เป็นภาพที่น่าประทับใจยิ่งนัก เราสามารถเดินขึ้นไปชมความงามนี้ได้บนยอดภูชี้ฟ้าที่มีลักษณะเป็นยอดหน้าผาตัด มองลงไปเห็นทิวทัศน์ได้หลายมุม โดยเฉพาะภาพทะเลหมอกยามเช้าของที่นี่ในยามฟ้าเปิดเรียกได้ว่ามีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว


“ภูชี้ดาว”

มีภูชี้ฟ้าแล้วก็ต้องมี “ภูชี้ดาว” ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน โดยภูชี้ดาวตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ทางซ้ายมือของภูชี้ฟ้า ลักษณะเป็นสันเขายาวแคบๆ ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา โดยทางเดินไปสู่ยอดภูได้สร้างรั้วไม้ไปตลอดแนวเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว




แต่เดิมชาวบ้านเรียกภูแห่งนี้ว่า “ภูหัวโล้น” ตามลักษณะของยอดภูที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้าโล่งเตียน ต่อมาชาวบ้านร่มโพธิ์เงินเห็นว่าพบว่าทิวทัศน์บนภูแห่งนี้งดงามไม่แพ้ที่ไหน จึงได้เข้ามาร่วมกันพัฒนาภูหัวโล้นให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เคียงคู่กับภูชี้ฟ้า และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ภูชี้ดาว”

การขึ้นไปชมวิวบนภูชี้ดาว นักท่องเที่ยวจะต้องมาขึ้นรถที่บริเวณจุดจอดรถบ้านร่มโพธิ์เงิน โดยต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อของชาวบ้านพาขึ้นไปยังภูชี้ดาว รถจะพาไต่ไปบนเขาสูงชันใช้เวลาราว 20 นาที จากนั้นเราจะต้องเดินจากจุดจอดรถขึ้นไปยังจุดชมวิวภูชี้ดาวอีก ราว 350 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาที ก็จะพบกับความงดงามบนภูชี้ดาว




เมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว เราจะพบสันเขายาวเบื้องหน้า โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเดินไปทางซ้ายหรือขวา สำหรับทางขวามือจะเป็นยอดภูชี้ดาว บนความสูง 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งบนยอดปลายสุดสันเขาจะมีหลักเขตอันเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิต ฝั่งนี้ก็จะมีคนเยอะหน่อย ส่วนทางฝั่งซ้ายมือก็จะเป็นอีกหนึ่งยอดของภูชี้ดาวซึ่งมีระดับความสูงน้อยกว่า ทางฝั่งนี้จะเดินสะดวกเพราะคนน้อยกว่า และสามารถชมวิวสวยๆ ได้เช่นเดียวกัน

ในวันที่ท้องฟ้าเป็นใจ ที่นี่จะเป็นจุดชมทะเลหมอกและจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามยิ่งนัก มองเห็นเป็นทะเลหมอกหนาเป็นปุย มียอดเขาที่โผล่พ้นหมอกขึ้นมาให้เห็นอย่างมีเสน่ห์ และหากมองไปทางขวามือก็จะได้เห็นยอดภูชี้ฟ้าได้ชัดเจนอีกด้วย




“ภูชี้เดือน”

ที่อยู่ไม่ไกลกันกับภูชี้ดาวก็คือ “ภูชี้เดือน” อีกหนึ่งภูชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้แบบ 360 องศา อยู่บนเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าหลวง ม.12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 8 กม. ส่วนจุดจอดรถขึ้นภูชี้เดือนอยู่ที่บ้านร่มฟ้าหลวง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดขึ้นภูชี้ดาวบ้านร่มโพธิ์เงินเพียง 650 เมตร เท่านั้น

การขึ้นสู่ยอดภูชี้เดือนก็จะต้องนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อของชาวบ้านที่คอยให้บริการ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินเท้าขึ้นไปอีกนิดหน่อยก็ถึงจุดชมวิวภูชี้เดือนแล้ว ส่วนจุดสูงจุดของภูชี้เดือนต้องเดินขึ้นไปตามสันเขาทางซ้ายมือ ใช้เวลา 5-10 นาทีก็ถึงแล้ว




สภาพภูมิประเทศของภูชี้เดือนเป็นเนินเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดนฝั่งไทย อีกด้านเป็นพื้นที่ของฝั่ง สปป.ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และมียอดภูชี้เดือน ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,743 เมตร ด้วยความสูงของภูชี้เดือน ที่สูงกว่ายอดภูเขาลูกอื่นทำให้สามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว ที่อยู่ทางขวามือ และยังมองเห็นผาตั้งที่อยู่ทางซ้ายมือได้พร้อมๆ กัน

ที่ภูชี้เดือนนี้ก็เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า และภูชี้ดาวเลยทีเดียว อีกทั้งบนยอดภูชี้เดือนยังมีดอกบัวตองที่ชาวบ้านนำมาปลูกไว้ซึ่งจะบานสวยในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน แม้ตอนนี้จะเหี่ยวไปแล้ว แต่ทะเลหมอกและวิวสวยๆ บนภูชี้เดือนก็ทำให้เราประทับใจได้ไม่น้อย

หนาวนี้ใครจะไปเที่ยวเชียงราย ถ้ามีเวลาก็อยากให้ไปเที่ยวกันให้ครบทั้ง 3 ภู โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ในจังหวัดเชียงรายได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทร. 0-5371-7433, 0-5374-4674-5


* * * * * * * * * * * * * * * *




การเดินทางสู่เชียงราย สายการบินนกแอร์ ให้บริการเที่ยวบิน ดอนเมือง-เชียงราย วันละ 4 เที่ยวบิน โดยมีมาตรการด้านสุขอนามัยในการป้องกันโรค covid-19 ตั้งแต่ที่บริเวณจุดเช็กอินในสนามบิน ประตูทางขึ้นเครื่อง และบนเครื่องบิน โดยมีการให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ วัดอุณหภูมิก่อนขึ้นเครื่อง พนักงานสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันหน้ากากอนามัยและถุงมือยางทุกคน ผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาเดินทาง มีการทำ Social distancing ในทุกๆ ขั้นตอนของการเดินทาง บนเครื่องบินนกแอร์ใช้ระบบกรองอากาศแบบ hepa filter ซึ่งมีประสิทธิภาพดักจับไวรัสและแบคทีเรียได้มากกว่า 99.77% และมีการทำความสะอาดแบบ Deep cleaning พื้นผิวสัมผัส 34 จุด ที่ผู้โดยสารและลูกเรือมีโอกาสสัมผัสบ่อย

สามารถดูรายละเอียดและจองเที่ยวบินได้ที่ www.nokair.com หรือ โทร.1318




.............................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่างๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR