ในช่วงปลายฝนแบบนี้ เป็นช่วงที่น้ำตกต่างๆ จะมีความสวยงามมากที่สุด ด้วยความเขียวขจีของต้นหญ้าป่าเขาที่รายล้อม และยังสายน้ำที่ไหลแรงจากปริมาณน้ำฝนที่สะสมมาตลอด
หากใครที่อยากไปเที่ยวแบบชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็นของน้ำตกใกล้กรุง แนะนำให้มุ่งหน้าไปที่ จ.กาญจนบุรี เพราะที่นี่ล้อมรอบด้วยภูเขาและธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ซึ่งทำให้มีน้ำตกมากมาย เราจึงได้รวบรวม “10 น้ำตกเมืองกาญจน์” ที่อยากชวนไปเย็นฉ่ำกัน แต่สำหรับในช่วงนี้น้ำตกส่วนใหญ่จะยังเปิดให้เข้าชมเท่านั้น ยังไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19
น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
“น้ำตกจ๊อกกะดิ่น” อยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นน้ำตกขนาดย่อมที่ซ่อนอยู่กลางป่า ความสูงประมาณ 30 เมตร มีชั้นเดียว แต่มีความพิเศษตรงที่สายน้ำจากด้านบนจะไหลผ่านหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นสีครามปนเขียว และที่สำคัญคือเป็นแอ่งน้ำพื้นทรายที่เหมาะแก่การเล่นน้ำ น้ำตกแห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงหน้าแล้งจะมีน้ำน้อยมาก ช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวคือช่วงปลายฝนถึงช่วงฤดูหนาว
น้ำตกไดช่องถ่อง
น้ำตกไดช่องถ่อง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ-สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อย โดยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีกประมาณ 600 เมตร น้ำตกไดช่องถ่อง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามอลังการกลางผืนป่าอันร่มรื่น สายน้ำตกมีทั้งหมด 5 ชั้น ไหลเป็นชั้นลดหลั่นกันมาจากหน้าผาหินปูนสู่แอ่งเบื้องล่าง ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนแม่กลองต่อไป
น้ำตกผาตาด
อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกที่สามารถเดินเข้าไปชมได้อย่างสบายๆ มีชั้นน้ำตกลดหลั่นลงไป 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงและความกว้างที่ตระการตา บรรยากาศโดยรอบรื่มรื่นเย็นสบาย บริเวณชั้น 1 จะมีธารน้ำไหลผ่านจุดกางเต็นท์ เดินเข้าไปตามทางอีกประมาณ 100 เมตรจะถึงน้ำตกชั้น 2 ส่วนน้ำตกชั้น 3 เป็นชั้นที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุด
น้ำตกกะเต็งเจ็ง
เป็นน้ำตกที่อยู่หลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม แต่อยู่ห่างออกไปราว 4 กิโลเมตร ก่อนเข้าไปเที่ยวชมต้องแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานล่วงหน้า เนื่องจากไม่มีป้ายบอกทางตามเส้นทางเดิน และบางจุดของเส้นทางอาจมีอันตราย ใช้เวลาเข้าเที่ยวชมน้ำตกอย่างน้อยครึ่งวัน จึงต้องเตรียมน้ำดื่มและอาหารไปกินระหว่างทาง ส่วนตัวน้ำตกจะมีทั้งหมด 9 ชั้น สายน้ำไหลลงมาจากภูเขาหินปูน
น้ำตกผาสวรรค์
น้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เส้นทางที่เดินทางเข้าไปต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ จากนั้นควรพักค้างแรมที่จุดกางเต็นท์ และจากจุดกางเต็นท์ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรจึงจะถึงตัวน้ำตก ระหว่างทางเดินเป็นป่า มีต้นไม้หนาแน่นโดยรอบ ตัวน้ำตกมี 7 ชั้น ที่ตั้งชื่อว่าน้ำตกผาสวรรค์เนื่องจากสายน้ำที่ไหลตกลงมาจากผาสูง โดยเฉพาะชั้นสูงสุดมีความสูง 80 เมตร
น้ำตกภูเตย
เดิมชื่อ “น้ำตกหัวยองเผาะ” เพิ่งถูกค้นพบและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบผจญภัยและเดินป่า เนื่องจากจะต้องเดินขึ้นลงเขาท่ามกลางป่าดิบชื้น ข้ามแอ่งน้ำตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง และควรมีไกด์นำทาง ตัวน้ำตกปัจจุบันสำรวจพบแล้ว 15 ชั้น แต่เปิดให้เที่ยวเพียง 9 ชั้น ไล่ระดับจากชั้นบนสู่ชั้นล่าง บริเวณชั้น 8 และ 9 จะมีความสูงกว่า 100 เมตร ทางเดินไปชมจะต้องปีนป่ายหน้าผาที่สูงและลื่น มีความอันตรายอย่างมาก
น้ำตกไทรโยคใหญ่
เรียกอีกชื่อว่า “น้ำตกเขาโจน” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นน้ำตกที่ไหลลงจากหน้าผาสู่แม่น้ำแควน้อย มีขนาดใหญ่และมีเพียงชั้นเดียว น้ำตกจะไหลลงมาแล้วรองรับด้วยหินสลับเป็นชั้นๆ ความสูงประมาณ 8 เมตร หากจะชมน้ำตกไทรโยคใหญ่ให้สวยงามต้องเดินข้ามสะพานแขวนบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยคไปยังอีกฝั่งเพื่อชมสายน้ำที่ไหลลงมาอย่างสวยงาม
น้ำตกไทรโยคน้อย
“น้ำตกไทรโยคน้อย” เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ตัวน้ำตกเกิดจากหน้าผาหินปูนที่พังทลายลงมา จนเกิดโขดหินปูนลดหลั่นกันอยู่ตรงบริเวณเชิงเขา มีต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูง ประมาณ 15 เมตร แล้วแผ่กระจายไปตามพื้นเขาลาดเอียง รอบข้างร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับ 2 ของกาญจนบุรี รองจากน้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้งหมด 7 ชั้น มีต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขากะลา แต่ละชั้นมีความสูงลดหลั่นทอดยาวไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ นอกจากนี้น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นในบริเวณชั้น 4 ยังมีอันซีนที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศของน้ำตกแห่งนี้อย่างยิ่ง คือ “แมลงหนอนปลอกน้ำ” ที่อาศัยอยู่คล้าย ๆ ชั้นหินงอกหินย้อยบริเวณชั้นน้ำตก ในแต่ละปีชั้นน้ำตกบริเวณนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากหนอนปลอกน้ำมีจำนวนมากชั้นน้ำตกก็จะยื่นออกมาอย่างสวยงาม
น้ำตกเอราวัณ
เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในกาญจนบุรี โดยเป็นน้ำตกหินปูนสีเขียวมรกตที่มีความสวยงามโดยมี 7 ชั้นด้วยกัน ชั้นบนสุดชั้นที่7 มีชื่อว่าภูผาเอราวัณ เมื่อน้ำตกไหลบ่าลงมายังก้อนหินจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียรหรือช้างเอราวัณจึงเป็นที่มาของชื่อน้ำตกและชื่ออุทยานแห่งชาติเอราวัณนั่นเอง
และในตอนนี้ น้ำตกเอราวัณก็ถือว่าเป็นน้ำตกนำร่องแห่งแรกของประเทศไทยที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำแบบ New Normal มีข้อปฏิบัติคือ จะต้องจองคิวผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ หรือติดต่อจุดให้บริการเข้าอุทยานฯ ซึ่งกำหนดให้เข้าเที่ยวชมและเล่นน้ำตกครั้งละ 500 คน/ช่วง โดยสามารถลงเล่นน้ำได้แล้วที่ชั้น 1-3 รอบละ 20 นาทีภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ และมีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแต่ละชั้นดังนี้ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ลงเล่นน้ำ 20 คน/รอบ, ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ลงเล่นน้ำ 20 คน/รอบ และชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ลงเล่นน้ำ 30 คน/รอบ ส่วนที่ชั้น 4-7 สามารถเดินเที่ยวชมได้ตามปกติ
สำหรับในอนาคตอาจจะมีการเปิดให้ลงเล่นน้ำในน้ำตกอื่นๆ โดยใช้น้ำตกเอราวัณเป็นโมเดล ซึ่งจะต้องติดตามข่าวจากทางกรมอุทยานฯ ต่อไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่Youtube :Travel MGR