หนึ่งในสถานที่ที่นักเดินทางหลายคนให้ความสนใจก็คือ “สนามบิน” เนื่องจากเป็นด่านแรกที่จะได้เจอก่อนเดินทางเข้าประเทศนั้นๆ ทำให้สนามบินหลายๆ แห่งเน้นการพัฒนาทั้งทางด้านการให้บริการ ความสวยงาม และการสร้างจุดสนใจให้นักท่องเที่ยวทั้งหลาย
และอีกสนามบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก นั่นก็คือ “สนามบินชางงี” (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้รับการจัดอันดับจาก SKYTRAX บริษัทจัดอันดับให้แก่อุตสาหกรรมการบิน ให้เป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกอันดับ1 เป็นเวลา 8 ปีติดต่อกัน
“สนามบินชางงี” เป็นสนามบินหลักของประเทศสิงคโปร์ เปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 โดยมีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนในปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสาร 4 อาคาร ให้บริการผู้โดยสารทั้งทางด้านการบินและกิจกรรมอื่นๆ อาทิ การช้อปปิ้งสินค้าหลากหลาย มีร้านอาหารมากมาย และจุดพักผ่อนหย่อนใจที่สามารถแวะเที่ยวได้เหมือนกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง
และล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัว “Jewel Changi Airport” เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิงที่อยู่ติดกับสนามบินชางงี โดยมีเส้นทางเชื่อมต่อจากอาคารผู้โดยสารในสนามบิน ทำให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับทั้งผู้โดยสารในสนามบิน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วย โดยที่นี่เป็นอาคารโดมแก้ว 10 ชั้น มีร้านค้าชั้นนำมากมาย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ และสวนป่า รวมถึงมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย
และนี่คือ 10 ไฮไลต์ที่ต้องไปเช็คอิน เมื่อเดินทางมายังสนามบินชางงี
“Cactus Garden” (Terminal 1) สวนแคคตัสบนดาดฟ้าของอาคารผู้โดยสาร 1 เปิดพื้นที่โล่งให้ผ่อนคลายกับเครื่องดื่มที่บาร์ พร้อมชมความสวยงามของพืชตระกูลกระบองเพชรและพืชทนแล้งกว่า 100 สายพันธุ์จากทะเลทรายและพื้นที่แห้งแล้งในเอเชีย อัฟริกา และอเมริกา
“Discovery Garden” (Terminal 1) อีกหนึ่งจุดที่สวยงามที่สุดของสนามบิน เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติแบบลอยฟ้า ที่จะสามารถชมต้นไม้และสวนที่ตกแต่งอย่างสวยงาม
“Tropical Rainforest Vivarium” (Terminal 1) จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงของป่าฝนเขตร้อน ประกอบด้วยพืชและสัตว์กว่า 60 ชนิด ในพื้นที่ความยาวเกือบ 5 เมตร ที่สามารถเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิด
“Water Lily Garden” (Terminal 1) เป็นสวนบัวเล็กๆ ที่จัดสภาพแวดล้อมทางน้ำตามธรรมชาติ ออกแบบเป็นรูปใบของดอกบัว ในขณะที่ทางเดินก็คดเคี้ยวเป็นรูประลอกคลื่นน้ำ มีดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์ให้มาชมและนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้
“Crystal Garden” (Terminal 3) ชมประติมากรรมแก้วเป็นรูปดอกแดนดิไลออน ที่มีความหมายถึงการเป็นดอกไม้แห่งความสุขและความหวัง มีจำนวน 12 ดอก ในขนาดต่างๆ กัน ประกอบด้วยแก้วกว่า 1,735 ชิ้น ทุกชิ้นสร้างด้วยมือ และตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้ต่างๆ เมล็ดของดอกแดนดิไลออนสามารถกระจายไปได้ทั่ว เปรียบเสมือนผู้โดยสารที่จะเดินทางกระจายออกไปสู่มุมต่างๆ ในโลก
“Rain Vortex” (Jewel) ถือว่าเป็นไฮไลต์ของ Jewel และเป็นไฮไลต์ล่าสุดของสนามบินชางงีด้วย เป็นน้ำตกในร่มที่มีความสูง 40 เมตร และถือว่าเป็นน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก โดยน้ำที่ใช้เป็นน้ำฝนที่กักเก็บไว้ในช่วงเวลาที่ฝนตก แล้วใช้ระบบปั๊มน้ำจากถังเก็บน้ำใต้ดินขึ้นไปปล่อยบนหลังคาให้ตกลงมาเป็นน้ำตก ในช่วงกลางวันก็ถ่ายรูปสวย ส่วนในช่วงกลางคืนก็จะสวยไปอีกแบบ เพราะจะมีการแสดงแสงสีเสียงประกอบการยิงเลเซอร์ผ่านน้ำตก
“Canopy Bridge” (Jewel) เป็นเส้นทางเดินลอยฟ้า ที่สูงจากพื้นดิน 23 เมตร สามารถเดินชมวิวด้านล่าง พร้อมกับชม Rain Vortex ในอีกมุมมอง โดยจะมีหมอกบางๆ ลอยออกมา ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนก้อนเมฆ
“Petal Garden” (Jewel) สวนดอกไม้สวยๆ ที่ใช้ดอกไม้ตามฤดูกาลจากทั่วโลกมาประดับตกแต่งให้มีสีสัน สร้างความสดใส สามารถมาเดินชม นั่งเล่น และถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลิน
“Hedge Maze” (Jewel) ตื่นเต้นไปกับการหาทางออกจากเขาวงกตที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ แต่ก็สามารถเดินได้อย่างสบายๆ เมื่อไปถึงหอนาฬิกาที่เป็นแกนกลางของเขาวงกต ก็จะสามารถหันกลับมาชมความสลับซับซ้อนของเส้นทางได้
“Changi Experience Studio” (Jewel) สนุกสนานกับโลกเสมือนจริงของสนามบินชางงี ที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาสร้างกิจกรรมสนุกๆ ให้ร่วมสนุกและได้เรียนรู้เกี่ยวกับการบินในเรื่องต่างๆ มีเกมสนุกๆ และจุดอินเทอร์แอกทีฟในธีมต่างๆ
นอกจาก 10 จุดนี้ ที่สนามบินชางงียังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นสวยสวยๆ ผลงานศิลปะ มีจุดให้ทำกิจกรรมสนุกๆ อีกหลายแห่ง ใครที่มีโอกาสมาที่สนามบินแห่งนี้ก็ลองแวะไปชมกันได้ แต่สำหรับช่วงนี้ที่อาคารผู้โดยสาร 2 มีการปิดปรับปรุง ส่วนที่อาคารผู้โดยสาร 4 ก็ปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
*ภาพประกอบจาก Changi Airport
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR