ตัวเลขผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย 2-3 วันที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าสิบราย แสดงให้เห็นว่าคนไทยดูแลตัวเองได้ดีพอควร อีกทั้งแพทย์พยาบาลก็ร่วมมือกันดูแลผู้ติดเชื้ออย่างเต็มที่ รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐกำหนดมาก็มีส่วนทำให้สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ การต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินก็ยังมีต่อไปอีกหนึ่งเดือน แต่ก็คาดว่าจะการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป
สำหรับใครที่กำลังคิดถึงการออกไปท่องเที่ยวนอกบ้านนั้น ก็ขอบอกว่าต้องอดใจรออีกนิด รอให้สถานการณ์ของโรคคลี่คลายกว่านี้และมีมาตรการควบคุมที่เหมาะสม ถึงวันนั้นเราจะได้ออกเที่ยวกันให้สนุกและปลอดภัย แต่ในช่วงนี้ก็ขอแนะนำให้เที่ยวออนไลน์ Travel From Home ไปก่อนจะดีที่สุด ซึ่งหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมศิลปากร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ได้สร้างช่องทางเที่ยวออนไลน์เสมือนจริง (Virtual Tour) ออกมาให้คนที่ต้องอยู่แต่ในบ้านได้ออกไปท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาผ่านปลายนิ้วกัน
สำหรับการเที่ยวออนไลน์เสมือนจริงวันนี้เราได้คัดแหล่งท่องเที่ยวที่คนรักประวัติศาสตร์และชอบเที่ยวโบราณสถานจะต้องชอบ ทั้งนี้ขอแนะนำ 3 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์เที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วไทย และ เว็บไซต์เที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วไทย ของกรมศิลปากร ที่จัดเต็มทั้งภาพ ข้อมูล และเสียงบรรยาย และเว็บไซต์เที่ยว 10 จังหวัด 13 จุดท่องเที่ยวของ ททท. ที่เหมือนกับการเดินเที่ยวเพลินๆ มีข้อมูลให้ทราบบางจุด
เริ่มเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันก่อน ที่แรกที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร" กรุงเทพฯ อันเป็นแหล่งรวมของดีของล้ำค่าทั่วฟ้าเมืองไทย โดยในเว็บไซต์เราสามารถเลือกชมได้ทั้งแบบพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง ที่เหมือนกับเราเข้าไปเดินชมเอง เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้เองตามชอบ แถมยังมีเสียงบรรยายข้อมูลของพิพิธภัณฑ์และห้องจัดแสดงด้วย (มีเฉพาะบางแห่ง)
ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นั้นสามารถเดินชมแบบเสมือนจริงได้ทั้งในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน อาคารมหาสุรสิงหนาท พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย โรงราชรถ และอีกหลายจัดด้วยกัน ใครสนใจตรงไหนก็กดเลือกชมได้
และที่พิเศษขึ้นไปอีกคือจะมีโบราณวัตถุชิ้นไฮไลต์บางชิ้นที่สามารถเลือกชมแบบ Virtual Model 360 ได้ด้วย อาทิ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระแก้วขาว พระพุทธรูปคันธารราฐ ฯลฯ ที่ทั้งหมุนทั้งซูมดูได้แบบเต็มตา อาจจะชัดกว่าไปชมถึงที่เสียด้วยซ้ำไป
ต่อมาที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา" จ.พระนครศรีอยุธยา ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาและจัดแสดงโบราณวัตถุจากวัดราชบูรณะ หลังจากมีการค้นพบพระพุทธรูป พระพิมพ์ และเครื่องทองมีค่าจำนวนมหาศาลในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ พ.ศ.2500
ดังนั้นไฮไลต์ที่เราจะชวนไปชมก็คือเครื่องทองจากกรุพระปรางค์นั่นเอง โดยอยู่ในอาคารจัดแสดงที่ 1 ชั้นที่ 2 มีโบราณวัตถุจากกรุวัดราชบูรณะ ซึ่งส่วนใหญ่ได้คืนจากการติดตาม จับกุมผู้ร้ายที่ลักลอบขุดกรุวัดราชบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2500 ประกอบด้วย เครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องราชูปโภคทองคำ เครื่องทรงถนิมพิมพาภรณ์ พระปรางค์ทองคำ พระเจดีย์ทองคำ เครื่องราชบรรณาการ และเครื่องอุทิศต่างๆ ในสมัยอยุธยาตอนต้น
ไปกันต่อที่ "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดแห่งแรกในภาคอีสาน แค่ตัวอาคารก็สวยงามและน่าสนใจแล้วเพราะเดิมเป็นศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2461 ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
สำหรับของน่าชมในพิพิธภัณฑ์ อุบลฯ นี้มีทั้งโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยทวารวดี ทั้งเสมาหินทราย พระพุทธรูปหินทราย ที่ซึ่งล้วนแสดงถึงพัฒนาการของชุมชนโบราณในบริเวณภาคอีสานตอนล่างในแต่ละสมัยที่ปรากฏร่องรอยการอยู่อาศัยต่อเนื่อง เรื่อยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงปัจจุบัน สามารถกดเลือกชม Virtual Model 360 ได้เช่นกัน
ลงใต้ไปชม "พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา" จังหวัดนี้เป็นเมืองท่าและเมืองชายทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของภาคใต้มาตั้งแต่โบราณ พบหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในแถบนี้เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ประมาณ 6,000 ปีมาแล้ว และมีพัฒนาการมาเป็นเมืองท่าบนเส้นทางการค้าทางทะเล แน่นอนว่าข้าวของโบราณวัตถุและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่นี่น่าสนใจยิ่งนัก
เปลี่ยนมาชมอุทยานประวัติศาสตร์กันบ้าง พาไปชม "อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย" เมืองมรดกโลก ที่มีโบราณสถานทั้งในและนอกกำแพงเมืองกว่า 200 แห่ง สำหรับการชมแบบเสมือนจริงนั้นสามารถชมได้ภายในเขตกำแพงเมือง อาทิ วัดมหาธาตุ วัดศรีสวาย วัดสระศรี เนินปราสาท เป็นต้น ทั้งนี้แนะนำให้ชมแบบภาพมุมสูง ซึ่งการท่องเที่ยวตามปกติแล้วจะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ แต่เมื่อชมภาพมุมสูงแล้วเราก็จะเห็นความอลังการของเมืองสุโขทัยไปอีกแบบหนึ่ง
ต่อมาชวนมาชม "อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง" จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทพนมรุ้ง บนยอดเขาพนมรุ้ง อันเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ที่นี่เป็นโบราณสถานศิลปะแบบเขมรในประเทศไทยที่มีความงดงามและมีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย โดยชื่อ “พนมรุ้ง” มาจากภาษาเขมรว่า “วนํรุง” แปลว่า ภูเขาอันกว้างใหญ่ โดยคำนี้ปรากฎอยู่ในศิลาจารึกอักษรขอมพบที่ปราสาทพนมรุ้ง ขอแนะนำให้ชมปราสาทพนมรุ้งแบบภาพมุมสูงเช่นเดียวกัน จะเห็นความงดงามของตัวปราสาท บันไดขึ้นปราสาท และทางดำเนินได้อย่างแปลกตา
อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมไม่แพ้กัน "อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี" จ.เพชรบุรี พระราชวังในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2402 ประกอบไปด้วย หมู่พระที่นั่ง ตำหนัก และอาคารต่างๆ ซึ่งสร้างด้วยไม้ อิฐ และปูน กรมศิลปากรได้ดำเนินการสำรวจ และประกาศขึ้นทะเบียนพระนครคีรีเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ กำหนดเขตโบราณสถานไว้ทั้งภูเขา รวม 3 ยอดเขา และกั้นเขตบริเวณโดยรอบพระนครคีรีออกไปจากตีนเขาอีก 20 เมตร นับเป็นโบราณสถานคู่เมืองเพชรบุรีที่งามสง่ายิ่งนัก
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเว็บไซต์ของ ททท. นั้น ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เริ่มกันที่ "วัดศรีชุม" จ.สุโขทัย วัดนี้เป็นโบราณสถานนอกกำแพงเมือง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า "พระอจนะ" องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในมณฑป พระพุทธอจนะ เป็นที่เลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์และมีมนต์เสน่ห์และเอกลักษณ์ชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและสักการะอย่างไม่ขาดสาย
มาต่อกันที่ "วัดบางกุ้ง" จ.สมุทรสงคราม มีความโดดเด่นตรงอุโบสถเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาที่ถูกปกคลุมทั้งอาคารด้วยรากของต้นโพธิ์ ต้นกร่าง ต้นไกร จนได้รับยกให้เป็นอันซีนแห่งสมุทรสงคราม ภายในประดิษฐานหลวงพ่อนิลมณี พระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีผู้คนไปกราบไหว้และปิดทองกันอยู่เสมอ
ปิดท้ายกันที่ "วัดมหาธาตุนครศรีธรรมราช" วัดสำคัญของเมืองนคร สำหรับ Virtual Tour ในเว็บไซต์ของ ททท.นี้สามารถชมได้เฉพาะภายในวิหารพระม้า หรือวิหารมหาภิเนษกรมณ์ ซึ่งเป็นวิหารหลักที่ใช้สำหรับเป็นทางขึ้นไปประกอบพิธีกรรมต่างๆ 0เช่น การแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ เพื่อเป็นการสักการะบูชาองค์พระมหาธาตุเจดีย์ ภายในวิหารนี้มีสิ่งสำคัญคือรูปปูนปั้นแสดงถึงพุทธประวัติในตอนที่มีการเสด็จออกบวชของเจ้าชายสิทธัตถะหรือพระพุทธเจ้า ทั้งยังเป็นที่ตั้งของท้าวจตุคาม และท้าวรามเทพ ซึ่งเป็นเทพผู้อภิบาลพระมหาเจดีย์อีกด้วย