เพจ พรรคพลังประชารัฐ เผยเหตุผลเรือสำราญ SEABOURN OVATION ได้จอดเทียบท่า ที่จ.ภูเก็ต มีเงื่อนไขต่างกับเรือสำราญ WESTERDAM ที่ไม่ได้เข้าเทียบท่าที่แหลมฉบัง โดยเงื่อนไขการคัดกรองของเรือสำราญ SEABOURN OVATION เป็นไปตามมาตรฐานระดับนานาชาติ
เพจ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความและภาพกราฟฟิค เปรียบเทียบถึงเหตุผลระหว่าง เรือสำราญ 2 ลำคือ เรือสำราญ SEABOURN OVATION กับเรือสำราญ WESTERDAM ว่าทำไมลำหนึ่งถึงได้เข้าเทียบท่าที่เมืองไทย ส่วนอีกลำหนึ่งไม่ได้เข้าเทียบท่าดังนี้
เผยเหตุผลเรือสำราญ SEABOURN OVATION จอดเทียบท่า ที่จ.ภูเก็ต เหตุเงื่อนไขต่างกับเรือสำราญ WESTERDAM เนื่องจาก WESTERDAM อยู่นอกเส้นทางการเดินเรือ และมาขอเทียบท่าโดยไม่มีกำหนดผ่านประเทศไทย รวมถึงมีผู้โดยสารชาวจีนอยู่ในเงื่อนไขการเฝ้าระวัง 20 กว่าคน ขณะที่ SEABOURN OVATION เป็นเส้นทางการเดินเรือปกติ และลูกเรือเป็นชาวยุโรปหมด และสามารถ
ติดตามผู้โดยสารและลูกเรือทุกรายเนื่องจากเป็นจุดแวะพักเพียง 10 ชั่วโมง
ซึ่งที่ผ่านมาเรือสำราญ WESTERDAM ผ่านไปประเทศไหนไม่มีใครรับ ขณะที่ประเทศไทยเองก็ไม่ทราบข้อมูลอะไรของเรือลำนี้ ดังนั้นเงื่อนไขคุณสมบัติของเรือที่มีปัญหา และไม่มีปัญหามันคนละอย่างกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของภูเก็ตมีความเข้มข้นในการตรวจ คัดกรองอยู่แล้ว และมีการเตรียมพร้อมในการรับมือโรคนี้อย่างเต็มที่
โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังตั้งจุดคัดกรองนักท่องเที่ยวและลูกเรือที่เดินทางมาพร้อมเรือสำราญ โดยการคัดกรองนักท่องเที่ยวจะเป็นไปตามมาตรฐานการป้องกัน ทั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้เข้าร่วมคัดกรองนักท่องเที่ยวจากเรือ SEABOURN OVATION โดยพลเรือโท เชิงชายชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 พร้อมด้วย พลเรือตรี สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้อำนวยการสำนักงาน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3 ได้นำกำลังพลเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจคัดกรอง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ที่มากับเรือ SEABOURN OVATION ซึ่งการคัดกรองเป็นไปตามมาตรฐานระดับนานาชาติ โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คณะสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ร่วมดำเนินการอย่างใกล้ชิด
