Facebook :Travel @ Manager
แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวทางภาคเหนือ การมาเดินชม “ไร่ชา” ในบรรยากาศเย็นๆ ย่อมเป็นตัวเลือกยอดฮิตที่หลายคนเลือกมาแน่นอน อย่างที่ “เชียงใหม่” ก็มีไร่ชาหลายแห่งให้ได้เลือกไปชมกัน หนึ่งในนั้นมี “Araksa” ไร่ชาออร์แกนิกที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจ
“Araksa” หรือ "ไร่ชาอรักษ" (อ่านว่า อะ-รัก-สะ) มาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่า “รักษาให้คงอยู่” ไร่ชานี้ตั้งอยู่ อ.แม่แตง เป็นไร่ชาออร์แกนิกที่รายล้อมด้วยขุนเขาสวยงาม ซึ่งที่นี่มีปรัชญาว่าจะรักษาและอนุรักษ์ทั้งสภาพแวดล้อม ธรรมชาติล้อมตัวให้คงอยู่ไว้ รวมถึงวัฒนธรรมในเรื่องของการคั่วชาในท้องถิ่นด้วย
ที่นอกจากจะมีวิวธรรมชาติที่เขียวขจีสวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรม “การเก็บใบชา” ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินอีกด้วย โดยจะมีตะกร้าเก็บใบชาให้ยืมสะพายขึ้นหลัง แล้วเดินไปเก็บใบชาจากไร่ตามวิถีชาวเขาดั้งเดิม
ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะเก็บใบชาไม่ได้ เพราะจะมีไกด์ท้องถิ่นให้ความรู้ในเรื่องของการเลือกเก็บใบชาอย่างใกล้ชิด โดยให้เลือกเก็บเฉพาะยอดอ่อนใบชาเท่านั้น มีวิธีการสังเกตคือ ยอดอ่อน 1 ใบ สำหรับชาขาว, ยอดอ่อน 2 ใบ สำหรับชาเขียว และยอดอ่อน 3-4 ใบสำหรับชาดำ
จากนั้นเมื่อเก็บใบชากันได้เรียบร้อยแล้วก็จะมาถึงขั้นตอนการ “คั่วใบชาแบบใช้เตาถ่าน” โดยจะใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมงจนได้ใบชาสำเร็จออกมา เริ่มจาก “การคั่วมือ” เพื่อลดความขมและเอาความชื้นในใบชาสดออก จะใช้เวลาคั่วประมาณ 7-8 นาทีต่อใบชาสด 1 กิโลกรัม ระหว่างการคั่วจะให้กลิ่นอโรมาหอมๆ ลอยออกมาด้วย
หลังจากคั่วแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอน “การนวดมือ” ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที จะนวดจนใบชาแตกตัว ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการนวดจะช่วยให้มีกลิ่นที่หอมยิ่งขึ้น และรสชาติดียิ่งขึ้น หากไม่นวดใบชาเลยเวลานำไปชงชาแล้วจะไม่มีรสชาติออกมา
ขั้นตอนสุดท้ายคือ “การคั่วแห้ง” ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที จะใช้มือคั่วในกระทะเตาถ่านจนความชื้นระเหยเป็นไออกมาจนหมด ซึ่งนอกจากจะมีขั้นตอนการคั่วแบบใช้เตาถ่านแล้ว ที่นี่ไร่ชาอรักษยังมีระบบการคั่วแบบใช้ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งข้อดีของการคั่วไฟฟ้าคือจะประหยัดเวลากว่ามากและยังให้ปริมาณใบชาที่คั่วเสร็จแล้วเยอะกว่า แต่ในเรื่องของความหอมอาจจะสู้แบบใช้เตาถ่านไม่ได้นั่นเอง
หลังจากที่ได้สนุกสนานกับการเก็บใบชาและคั่วใบชาแล้ว ก็จะมีชาหอมๆ ให้ได้ชิมกันเพื่อเติมความสดชื่นก่อนกลับบ้าน จะมีทั้งชาเขียวร้อน ชาดำเย็น และขนมแฮนด์เมดอร่อยๆ หรือใครอยากสั่งเพิ่มเติมก็มีคาเฟ่เล็กๆ ขายเบเกอรี่แฮนด์เมดให้ได้อุดหนุนเช่นกัน
ก่อนกลับบ้านใครถูกใจอยากจะซื้อใบชาออร์แกนิกกลับไปชงดื่มที่บ้าน ก็มีร้านจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย อย่าง “ไวท์ทีอรุณ” ที่เป็นชาขาวที่เก็บในช่วง 06.00-08.00 น. จะมีรสชาติเหมือนน้ำผึ้ง หรือจะเป็น “ไวท์ทีสายัณห์” เป็นชาขาวที่เก็บในช่วงหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป รสชาติให้ความหวานหอมเหมือนผลไม้ ซึ่งชาขาวนั่นถือเป็นชาที่คุณภาพดีที่สุดและมีราคาสูงกว่าชาชนิดอื่น
หากใครอยากมาเรียนรู้วิธีการเก็บใบชาและการคั่วชาด้วยเตาถ่านอย่างใกล้ชิด มาที่ “ไร่ชาอรักษ” ไม่ผิดหวังแน่นอน แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวธรรมชาติสวยงาม จากไร่ชาแบบออร์แกนิกอีกด้วย
************************************
“ไร่ชาอรักษ” ตั้งอยู่ ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 09-4989-1156 หรือที่เฟสบุ๊ก Araksa Tea Garden
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวทางภาคเหนือ การมาเดินชม “ไร่ชา” ในบรรยากาศเย็นๆ ย่อมเป็นตัวเลือกยอดฮิตที่หลายคนเลือกมาแน่นอน อย่างที่ “เชียงใหม่” ก็มีไร่ชาหลายแห่งให้ได้เลือกไปชมกัน หนึ่งในนั้นมี “Araksa” ไร่ชาออร์แกนิกที่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจ
“Araksa” หรือ "ไร่ชาอรักษ" (อ่านว่า อะ-รัก-สะ) มาจากภาษาสันสกฤตที่แปลว่า “รักษาให้คงอยู่” ไร่ชานี้ตั้งอยู่ อ.แม่แตง เป็นไร่ชาออร์แกนิกที่รายล้อมด้วยขุนเขาสวยงาม ซึ่งที่นี่มีปรัชญาว่าจะรักษาและอนุรักษ์ทั้งสภาพแวดล้อม ธรรมชาติล้อมตัวให้คงอยู่ไว้ รวมถึงวัฒนธรรมในเรื่องของการคั่วชาในท้องถิ่นด้วย
ที่นอกจากจะมีวิวธรรมชาติที่เขียวขจีสวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรม “การเก็บใบชา” ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินอีกด้วย โดยจะมีตะกร้าเก็บใบชาให้ยืมสะพายขึ้นหลัง แล้วเดินไปเก็บใบชาจากไร่ตามวิถีชาวเขาดั้งเดิม
ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะเก็บใบชาไม่ได้ เพราะจะมีไกด์ท้องถิ่นให้ความรู้ในเรื่องของการเลือกเก็บใบชาอย่างใกล้ชิด โดยให้เลือกเก็บเฉพาะยอดอ่อนใบชาเท่านั้น มีวิธีการสังเกตคือ ยอดอ่อน 1 ใบ สำหรับชาขาว, ยอดอ่อน 2 ใบ สำหรับชาเขียว และยอดอ่อน 3-4 ใบสำหรับชาดำ
จากนั้นเมื่อเก็บใบชากันได้เรียบร้อยแล้วก็จะมาถึงขั้นตอนการ “คั่วใบชาแบบใช้เตาถ่าน” โดยจะใช้เวลารวมประมาณ 1 ชั่วโมงจนได้ใบชาสำเร็จออกมา เริ่มจาก “การคั่วมือ” เพื่อลดความขมและเอาความชื้นในใบชาสดออก จะใช้เวลาคั่วประมาณ 7-8 นาทีต่อใบชาสด 1 กิโลกรัม ระหว่างการคั่วจะให้กลิ่นอโรมาหอมๆ ลอยออกมาด้วย
หลังจากคั่วแล้วจะเข้าสู่ขั้นตอน “การนวดมือ” ใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที จะนวดจนใบชาแตกตัว ซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะการนวดจะช่วยให้มีกลิ่นที่หอมยิ่งขึ้น และรสชาติดียิ่งขึ้น หากไม่นวดใบชาเลยเวลานำไปชงชาแล้วจะไม่มีรสชาติออกมา
ขั้นตอนสุดท้ายคือ “การคั่วแห้ง” ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที จะใช้มือคั่วในกระทะเตาถ่านจนความชื้นระเหยเป็นไออกมาจนหมด ซึ่งนอกจากจะมีขั้นตอนการคั่วแบบใช้เตาถ่านแล้ว ที่นี่ไร่ชาอรักษยังมีระบบการคั่วแบบใช้ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งข้อดีของการคั่วไฟฟ้าคือจะประหยัดเวลากว่ามากและยังให้ปริมาณใบชาที่คั่วเสร็จแล้วเยอะกว่า แต่ในเรื่องของความหอมอาจจะสู้แบบใช้เตาถ่านไม่ได้นั่นเอง
หลังจากที่ได้สนุกสนานกับการเก็บใบชาและคั่วใบชาแล้ว ก็จะมีชาหอมๆ ให้ได้ชิมกันเพื่อเติมความสดชื่นก่อนกลับบ้าน จะมีทั้งชาเขียวร้อน ชาดำเย็น และขนมแฮนด์เมดอร่อยๆ หรือใครอยากสั่งเพิ่มเติมก็มีคาเฟ่เล็กๆ ขายเบเกอรี่แฮนด์เมดให้ได้อุดหนุนเช่นกัน
ก่อนกลับบ้านใครถูกใจอยากจะซื้อใบชาออร์แกนิกกลับไปชงดื่มที่บ้าน ก็มีร้านจำหน่ายให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย อย่าง “ไวท์ทีอรุณ” ที่เป็นชาขาวที่เก็บในช่วง 06.00-08.00 น. จะมีรสชาติเหมือนน้ำผึ้ง หรือจะเป็น “ไวท์ทีสายัณห์” เป็นชาขาวที่เก็บในช่วงหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป รสชาติให้ความหวานหอมเหมือนผลไม้ ซึ่งชาขาวนั่นถือเป็นชาที่คุณภาพดีที่สุดและมีราคาสูงกว่าชาชนิดอื่น
หากใครอยากมาเรียนรู้วิธีการเก็บใบชาและการคั่วชาด้วยเตาถ่านอย่างใกล้ชิด มาที่ “ไร่ชาอรักษ” ไม่ผิดหวังแน่นอน แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิวธรรมชาติสวยงาม จากไร่ชาแบบออร์แกนิกอีกด้วย
************************************
“ไร่ชาอรักษ” ตั้งอยู่ ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 09-4989-1156 หรือที่เฟสบุ๊ก Araksa Tea Garden
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
