xs
xsm
sm
md
lg

ปลายฝนต้นหนาว เที่ยว “แม่ฮ่องสอน” วิวสวยสุดตา เสน่ห์ตรึงใจ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
สะพานโขกู้โส่ อ.ปาย
ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ถือว่าเป็นอีกช่วงของปีที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในภาคเหนือ ความชุ่มฉ่ำจากสายฝนที่เริ่มทิ้งช่วงห่าง ทำให้เที่ยวสะดวกมากกว่าช่วงก่อนหน้านี้ แล้วก็เริ่มมีลมเย็นๆ ในช่วงเช้าของแต่ละวันพัดโชยมาพอให้ชื่นใจ แถมด้วยความเขียวขจีรอบๆ ตัว ที่มองไปทางไหนก็รู้สึกสบายตา

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกเดินทางมาที่ “แม่ฮ่องสอน” ในยามปลายฝนต้นหนาวแบบนี้

ตั้งต้นกันทางตอนใต้ของแม่ฮ่องสอน ที่ “อ.แม่สะเรียง” อำเภอเล็กๆ อันสงบงาม เป็นทางผ่านและจุดพักระหว่างทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาพักผ่อน สัมผัสกับบรรยากาศชิลๆ ปล่อยอารมณ์ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่นี่
พระธาตุจอมกิตติ อ.แม่สะเรียง
ตัวเมืองแม่สะเรียงในมุมสูง
แม่สะเรียงได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่ง “พระธาตุ 4 จอม” เนื่องจากมีการสร้างพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองไว้ ทั้ง 4 ทิศ 4 มุมเมือง ได้แก่ “พระธาตุจอมกิตติ”, “พระธาตุจอมทอง”, “พระธาตุจอมแจ้ง” และ “พระธาตุจอมมอญ” ตามตำนานที่ว่า มีพระฤาษี 4 ตน เป็นพี่น้องกันได้มาศึกษากับครูพระฤาษีที่เก่งกาจทรงมหาอิทธิฤทธิ์ เหนือเมืองยวม (ปัจจุบันคือเมืองแม่สะเรียง) พระฤาษี 4 ตนพี่น้องศึกษาวิทยาจากท่านพระฤาษีจนจบวิชาที่ร่ำเรียน ท่านครูพระฤาษีจึงบอกให้พระฤาษีลูกศิษย์ทั้ง 4 พี่น้อง ไปบำเพ็ญเพียรและไปโปรดชาวเมืองยวม โดยให้ไปอยู่ ณ ดอยสี่มุมเมือง
ทางขึ้นพระธาตุจอมมอญ
พระธาตุจอมมอญ อ.แม่สะเรียง
ในทริปนี้เราได้ไปเยือนกัน 2 แห่ง เริ่มจาก “พระธาตุจอมกิตติ” ที่เล่ากันว่า ฤาษีผู้พี่ซึ่งเก่งในทางรักษาโรค สามารถปรุงยาชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้ ได้มาตั้งสำนักอยู่ ณ ดอยจอมกิตติ ด้วยเหตุนี้พระธาตุจอมกิตติจึงเป็นพระธาตุพี่ใหญ่และเป็นที่เคารพสักการะมาจนปัจจุบัน ลักษณะพระธาตุเป็นสถูปแบบล้านนา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณด้านบนนั้นสามารถชมวิวเมืองแม่สะเรียงในมุมสูงได้อย่างกว้างไกล ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ก็จะเห็นถึงความเขียวชอุ่มสดชื่น

อีกจุดคือ “พระธาตุจอมมอญ” พระธาตุเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง สามารถเดินขึ้นบันได 339 ขั้น ขึ้นไปสักการะพระธาตุที่อยู่ด้านบน หรือถ้าเดินไม่ไหว ก็มีถนนให้รถขับขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งด้านบนพระธาตุนั้นยังมี รอยเท้าอรหันต์ 7 ขวบ และ พระพุทธรูปหลวงพ่อโต รวมถึงสามารถชมวิวรอบๆ เมืองแม่สะเรียงได้ด้วยเช่นกัน
บ้านละอูบ อ.แม่ลาน้อย
จากตัวอำเภอเล็กๆ ที่แม่สะเรียง ไปเที่ยวกันต่อในหมู่บ้านเล็กๆ แต่น่ารัก ที่ “บ้านละอูบ” ในเขต อ.แม่ลาน้อย ที่นี่เป็นชุมชนชาติพันธุ์ละเวือะ (ละว้า/ลัวะ) ทำเลที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงชัน พื้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขา ทำให้มีอุณหภูมิเย็นสบายตลอดทั้งปี มีอากาศบริสุทธิ์เหมาะแก่การมาพักผ่อน
ลายพดด้วง ลวดลายเฉพาะของชาวละเวือะ
กลุ่มทำเครื่องเงินที่บ้านละอูบ
ซึ่งที่บ้านละอูบก็เพิ่งเปิดชุมชนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสวิถีชุมชนได้ไม่นาน โดยมีวิวสวยๆ และฐานการเรียนรู้ให้แวะเข้าไปศึกษาวิถีชาวละเวือะได้ โดยเฉพาะงานฝีมือที่ขึ้นชื่อของชาวละเวือะอย่าง เครื่องเงิน และ ผ้าทอ

สำหรับเครื่องเงินของบ้านละอูบนั้นมีการทำมากว่า 20 ปีแล้ว โดยได้เข้าไปเรียนรู้การทำเครื่องเงินมาจากในวัง จากนั้นก็นำกลับมาทำในชุมชน แล้วค่อยๆ ขยายเพิ่มขึ้นทีละครอบครัว เครื่องเงินที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็จะเน้นการทำเครื่องประดับของผู้หญิง โดยมีลวดลายเฉพาะของละเวือะคือ ลายพดด้วง นอกจากนี้ก็ยังมีการมีดสำหรับผู้ชายชาวละเวือะด้วย
หลอมเม็ดเงินแท้
ทำเป็นเครื่องประดับของสาวละเวือะ
ขั้นตอนการทำเครื่องเงินเริ่มจากนำเม็ดเงินแท้มาหลอมให้เป็นแท่ง (การทำเครื่องเงินแบบดั้งเดิมจะใช้เตาไฟจากถ่าน ปัจจุบันมีการเปลี่ยนมาใช้แก๊สบ้างแล้ว) จากนั้นนำมาตัดเป็นท่อนเล็กๆ ก่อนจะนำไปตีเป็นลวดลายตามที่ต้องการ แล้วค่อยประกอบเป็นเครื่องประดับ ซึ่งปัจจุบันหญิงชาวละเวือะก็ยังใช้เครื่องประดับเงินกันอยู่ หากใครที่สนใจอยากชมเครื่องเงินชาวละเวือะ ก็มีจุดจำหน่ายอยู่ในหมู่บ้าน รวมถึงการไปออกบูธตามงานต่างๆ ด้วย

อีกจุดเป็นกลุ่มทอผ้า โดยเสื้อผ้าของชาวละเวือะโดดเด่นทั้งเรื่องสีสันและลวดลาย เป็นผ้าทอจากฝ้าย ย้อมสี และทอเป็นลวดลายเฉพาะ โดยในวัฒนธรรมชาวละเวือะนั้น ตั้งแต่เกิดจนตายจะมีความผูกพันกับผ้า
ผ้าทออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวละเวือะ
ชมวิวหมู่บ้านที่ตั้งบนภูเขา
ส่วนมุมชมวิวสวยๆ ของบ้านละอูบก็มีอยู่หลายจุด อย่างบริเวณสถานีอนามัย จะสามารถชมทิวทัศน์ของบ้านละอูบ จะเห็นบ้านเรือนที่สร้างลดหลั่นกันไปตามความสูงของไหล่เขา เรียงสลับซับซ้อนกันดูสวยแปลกตา และยังมีจุดชมวิวทิวเขาเขียวขจี ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าเขา หากว่ามาในช่วงเช้า (และโชคดี) ก็จะเห็นสายหมอกสวยๆ ชวนให้ถ่ายรูปเช็คอิน และบนจุดชมวิวนี้ก็ยังมี “พระพุทธนิโรคันตรายนริศรจตุรทิศประชานารถ” เป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งองค์ใหญ่ ให้ขึ้นมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

ใครติดใจบรรยากาศสงบแสนสบายที่บ้านละอูบ ที่นี่ก็เปิดบ้านให้พักเป็นแบบโฮมสเตย์ และมีพื้นที่กางเตนท์พักแรมด้วย สามารถติดต่อได้ที่เฟสบุคแฟนเพจ “บ้านละอูบ”
วิวสวยๆ ทิวเขาสลับซับซ้อน
สักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่
จากแม่สะเรียง มุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ มาที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน มาชมความเขียวขจีของทุ่งนาที่มีสะพานไม้ไผ่ทอดผ่าน หลายๆ คนเห็นภาพแล้วก็ต้องนึกออกว่าที่นี่ “สะพานซูตองเป้” สะพานไม้อันโด่งดัง ตั้งอยู่ที่บ้านกุงไม้สัก ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 8 กิโลเมตร

ซูตองเป้ เป็นภาษาไทใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จสัมฤทธิผล เป็นสะพานไม้ไผ่กว้างประมาณ 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร สร้างทอดข้ามผ่านทุ่งนาจากบ้านกุงไม้สัก ข้ามผ่านแม่น้ำสะงา เชื่อมต่อไปสู่ “สวนธรรมภูสมะ” สถานปฏิบัติธรรมอันสงบ ปลีกวิเวก
สะพานซูตองเป้
สะพานซูตองเป้
สะพานซูตองเป้ ข้ามทุ่งนาไปยังสวนธรรมภูสมะ
สะพานซูตองเป้ เกิดจากแรงศรัทธาของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าของที่นาได้ถวายผืนนาที่สะพานสร้างทอดผ่าน ส่วนคณะศรัทธาอื่นๆ ก็ได้บริจาคเสาไม้ บริจาคไม้ไผ่ แรงงาน และปัจจัยอื่นๆ ในการสร้างสะพานแห่งนี้

หลังสะพานแห่งนี้สร้างแล้วเสร็จ นอกจากประโยชน์ด้านการสัญจรไป-มาแล้ว ด้วยมนต์เสน่ห์ความสวยงามคลาสสิกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประกอบกับทำเลที่ตั้งท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงามของท้องทุ่งนา รวมถึงวิถีปฏิบัติของพระ-เณรแห่งสวนธรรมภูสมะนั้นก็เปี่ยมศรัทธาน่าเลื่อมใส ส่งผลให้วันนี้สะพานซูตองเป้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของแม่ฮ่องสอน ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสความงามกันไม่ได้ขาด
สะพานซูตองเป้ในมุมสูง
เพลิดเพลินกับการหามุมส่วนตัวถ่ายรูปบนสะพานเรียบร้อยแล้ว ก็ขึ้นไปชมความงามของสะพานซูตองเป้ในมุมสูงกันที่สวนธรรมภูสมะ พร้อมเข้าไปกราบสักการะ “หลวงพ่อซูตองเป้” พระพุทธรูปทรงเครื่องแบบพม่าสีทองอร่ามที่ประดิษฐานอยู่ในวิหารโถงไม่มีผนัง
สักการะหลวงพ่อซูตองเป้
ติดกันกับสวนธรรมภูสมะ เป็นจุดแวะพักแวะเช็คอินแห่งใหม่ ชื่อว่า “กุงคุณลุง” เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยว มีมุมของอร่อย จุดถ่ายรูปสวยๆ และยังเป็นแหล่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของแม่ฮ่องสอนด้วย

เริ่มจากมุมอาหาร ที่มีทั้งเครื่องดื่ม ไอศกรีม ของว่าง ของหวาน รวมไปถึงอาหารคาวให้กินอิ่มท้องในบรรยากาศนั่งสบาย ทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่ม เป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ บางเมนูก็เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะ “ถั่วลายเสือ” ที่นำมาแปรรูปได้หลายแบบ หลายเมนู
กุงคุณลุง
โซนร้านอาหารนั่งสบาย
ไอศกรีมทำจากถั่วลายเสือ
ใครที่อยากเห็นต้นถั่วลายเสือ หากมาถูกจังหวะก็จะมีให้เห็นในแปลงปลูกใกล้ๆ กับร้านอาหาร ซึ่งในบริเวณนั้นก็มีสะพานไม้ให้เดินเล่น แวะถ่ายรูปมุมสวยๆ และมีศาลานั่งพักผ่อนสบายๆ อีกด้านมีระเบียงชิมวิวมุมสูงด้านบน ส่วนมุมที่ติดริมน้ำนั้นสามารถเดินหรือปั่นจักรยานไปนั่งชิลล์ๆ รับลมเย็นๆ ได้ด้วย
สะพานไม้ จุดเช็คอิน
ชมวิวริมน้ำนั่งสบาย
มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนแล้ว ขอปิดท้ายทริปที่ “อ.ปาย” อีกมุมสวยๆ ของแม่ฮ่องสอนในยามปลายฝนต้นหนาวแบบนี้

ปาย เป็นเมืองเที่ยวยอดฮิตมาหลายปี ทั้งกับชาวไทยและชาวต่างชาติ มีความโดดเด่นเรื่องของธรรมชาติและวิถีชีวิต แม้ว่าในระยะหลังจะเปลี่ยนมาเป็นที่เที่ยวสำหรับแวะเช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆ จิบกาแฟในคาเฟ่ หรือที่เที่ยวสไตล์อินดี้ แต่ก็ยังมีหลายๆ คนอยากมาเยือนอยู่ดี
สะพานโขกู้โส่ อ.ปาย
สะพานโขกู้โส่ ทอดยาวผ่านทุ่งนา
นอกจากที่เที่ยวเดิมๆ อย่างจุดชมทะเลหมอก สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย หมู่บ้านสันติชล ฯลฯ ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เพิ่งเป็นที่รู้จักกัน นั่นก็คือ "สะพานโขกู้โส่" สะพานบุญแห่งเมืองปาย

"โขกู้โส่" มีความหมายว่า "สะพานบุญ" เป็นสะพานไม้ที่ทำมาจากไม้ไผ่ที่นำมาสานกันเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร และมีความกว้างประมาณ 1.80 เมตร สร้างทอดยาวผ่านกลางท้องนาของชาวบ้านที่นำมาถวายวัด เพื่อเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับพุทธอุทยานห้วยคายคีรี โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 เดือน จึงแล้วเสร็จเกิดเป็นสะพานบุญโขกู้โส่อันงดงาม โดยในวันงานบุญใหญ่ หรือ วันสำคัญๆ เช่น วันแม่ จะมีการทำบุญตักบาตรช่วงเช้าประมาณ 7.00 น.
แวะถ่ายรูปมุมสวยๆ
บริเวณทางเข้าจะมีจุดให้บริจาค (ตามกำลังศรัทธา) เพื่อเป็นทุนในการซ่อมแซมสะพาน เนื่องจากเป็นสะพานไม้ไผ่ที่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนัก ต้องมีการซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา เดินตามสะพานเข้ามาเล็กน้อยก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ แล้ว หรือใครเริ่มเหนื่อยเริ่มร้อน ก็มีร้านกาแฟเล็กๆ ให้นั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวทุ่งนาเขียวขจีได้

ตัวสะพานไม้ทอดยาวผ่านทุ่งนาไปเรื่อยๆ มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ กันหลายจุด มีศาลาให้แวะนั่งพักผ่อน หากเดินไปจนสุดทางก็สามารถแวะเข้าไปไหว้พระที่พุทธอุทยานห้วยคายคีรีได้ด้วย
สะพานโขกู้โส่
ถึงแม้ว่าเส้นทางท่องเที่ยวใน จ.แม่ฮ่องสอน อาจจะต้องนั่งรถผ่านเส้นทางถนนคดเคี้ยวเป็นเวลานาน ผ่านมาหลายโค้ง แต่พอได้ชมวิวสวยๆ ทุ่งนาสีเขียว ทิวเขาสลับซับซ้อนเขียวชอุ่มในช่วงปลายในต้นหนาวแบบนี้ ความเหนื่อยจากการนั่งรถก็กลายเป็นความชุ่มชื่นใจ ยิ่งได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบไม่มี PM 2.5 ก็ยิ่งสดชื่น หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
สะพานโขกู้โส่
* * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมการท่องเที่ยวใน จ.แม่ฮ่องสอน ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0-5361-2982 Facebook : TAT Maehongson
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น