Facebook :Travel @ Manager

เทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนกันเดินทางไปสัมผัส กับบรรยากาศท่ามกลางทุ่งนาอันเขียวขจี มีที่ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจมากมาย และสร้างความผ่อนคลายให้ชวนไปพักผ่อน พร้อมยลความงดงามของธรรมชาติ ปัจจุบันมีให้เห็นอยู่หลากหลายทุกภูมิภาคของไทย
อย่างที่แดนใต้ “พัทลุง” นี้เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนเสน่ห์น่าสนใจมากมาย มีธรรมชาติสวย ๆ ในมุมที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนได้มาสัมผัส อีกหนึ่งแลนด์มาร์คน้องใหม่ที่มาแรงแห่งพัทลุงขณะนี้ ที่อยากชักชวนให้ได้ไปสัมผัสก็คือ “สำเภาไทย” ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาที่กำลังออกรวงข้าว โดยเฉพาะในช่วงนี้ (สิงหาคม-กันยายน) จากทุ่งนาอันเขียวขจีเป็นสีเหลืองทอง จะได้สัมผัสกับท้องทุ่งที่เหลืองอร่ามไปด้วยรวงข้าวที่ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว

“สำเภาไทย” ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 10 ไร่ มีท้องทุ่งนาเขียวขจีสบายตา บริเวณด้านหน้าทางเข้าจะมีร้านค้าขายของให้เราได้เลือกสรร จากนั้นผ่านทางเดินปูด้วยแผ่นปูนบนพื้นหิน มีพืชผักนานาพันธุ์เลื้อยเป็นซุ้มคล้ายอุโมงค์ เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับลูกมะพร้าวแห้งแกะสลักเป็นรูปหน้าคิงคอง แขวนห้อยคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามา


ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ หุ่นฟางเป็นตัวคิงคองยักษ์ใหญ่ ขนาดความสูงราว 6 เมตร ที่ยืนทำท่าทางเหมือนกำลังลากจูงเรือสำเภาไทย โดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางท้องทุ่งนา เป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่พบเห็น หากใครมาท่องเที่ยวที่นี่จะต้องไม่พลาดมาเซลฟี่หรือถ่ายภาพเก็บความประทับใจ

ถ้าใครอยากใกล้ชิดกับหุ่นฟางร่างใหญ่ตัวนี้ ก็จะมีบันไดสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนได้ มีทางเดินที่เป็นโครงสร้างเหล็กเล็กๆ ให้เดินไปสัมผัส แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการโพสท่าทางกันสักหน่อย มิเช่นนั้นอาจพลัดตกลงมาให้บาดเจ็บกันได้ ส่วนของเรือสำเภาก็สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนได้ด้วยเช่นกัน หากขึ้นไปแล้วก็จะมองเห็นทัศนียภาพของท้องทุ่งนามุมสูงโดยรอบ


นอกจากมุมคิงคองยักษ์ที่เป็นไฮไลต์แล้ว ยังมีสะพานไม้ทอดยาวไปถึงกลางทุ่งนา ให้นักท่องเที่ยวเดินเล่น ถ่ายภาพกับจุดถ่ายภาพเก๋ๆ มีมุมให้เลือกแชะภาพเพียบตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งชิงช้าชิลๆ มีวิวด้านหลังเป็นทุ่งนาตัดกับท้องฟ้าอันสดใส และมีสะพานไม้ขนาดเล็กกลางทุ่ง หรือเลือกถ่ายภาพกับบานประตูแห่งแปลงนาที่มีรวงข้าวอร่าม แต่ถ้าอยากพักเหนื่อยก็มีศาลามุงจากมาให้เราได้มานั่งรับลมพัดเย็นๆ ผ่อนคลายอารมณ์เช่นกัน



หากใครเดินทางไปในช่วงเย็นๆ ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของแต่ละวันที่สวยงามมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการห้องพักที่มองเห็นวิวทุ่งนาจากหน้าต่าง ได้สัมผัสท้องทุ่งนากันได้อย่างจุใจตลอดทั้งวัน รวมถึงมีร้านจำหน่ายกาแฟ และของกินไว้ให้ได้นั่งชิล หรือจะนั่งห้อยขาจิบกาแฟ ชมวิวทุ่งนาท่ามกลางธรรมชาติ สายลม และแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า และในยามเย็น

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของคนที่ชอบบรรยากาศผ่อนคลาย กับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ผสมผสานวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวพัทลุงท่องเที่ยวอย่างลงตัว หากใครมีโอกาสไปเที่ยวพัทลุง ก็อย่าลืมแวะไปเช็คอิน “สำเภาไทย” ที่บ้านท่าสำเภาใต้ แห่งนี้กัน

“สำเภาไทย” ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 20 บาท / เด็ก 10บาท ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-1904-5260, 08-9599-9479
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังมาแรง ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนกันเดินทางไปสัมผัส กับบรรยากาศท่ามกลางทุ่งนาอันเขียวขจี มีที่ถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจมากมาย และสร้างความผ่อนคลายให้ชวนไปพักผ่อน พร้อมยลความงดงามของธรรมชาติ ปัจจุบันมีให้เห็นอยู่หลากหลายทุกภูมิภาคของไทย
อย่างที่แดนใต้ “พัทลุง” นี้เองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่ซ่อนเสน่ห์น่าสนใจมากมาย มีธรรมชาติสวย ๆ ในมุมที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนได้มาสัมผัส อีกหนึ่งแลนด์มาร์คน้องใหม่ที่มาแรงแห่งพัทลุงขณะนี้ ที่อยากชักชวนให้ได้ไปสัมผัสก็คือ “สำเภาไทย” ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ตั้งอยู่กลางทุ่งนาที่กำลังออกรวงข้าว โดยเฉพาะในช่วงนี้ (สิงหาคม-กันยายน) จากทุ่งนาอันเขียวขจีเป็นสีเหลืองทอง จะได้สัมผัสกับท้องทุ่งที่เหลืองอร่ามไปด้วยรวงข้าวที่ใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยว
“สำเภาไทย” ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง มีเนื้อที่กว้างขวางประมาณ 10 ไร่ มีท้องทุ่งนาเขียวขจีสบายตา บริเวณด้านหน้าทางเข้าจะมีร้านค้าขายของให้เราได้เลือกสรร จากนั้นผ่านทางเดินปูด้วยแผ่นปูนบนพื้นหิน มีพืชผักนานาพันธุ์เลื้อยเป็นซุ้มคล้ายอุโมงค์ เมื่อเดินเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับลูกมะพร้าวแห้งแกะสลักเป็นรูปหน้าคิงคอง แขวนห้อยคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินเข้ามา
ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ หุ่นฟางเป็นตัวคิงคองยักษ์ใหญ่ ขนาดความสูงราว 6 เมตร ที่ยืนทำท่าทางเหมือนกำลังลากจูงเรือสำเภาไทย โดดเด่นสะดุดตาอยู่กลางท้องทุ่งนา เป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่พบเห็น หากใครมาท่องเที่ยวที่นี่จะต้องไม่พลาดมาเซลฟี่หรือถ่ายภาพเก็บความประทับใจ
ถ้าใครอยากใกล้ชิดกับหุ่นฟางร่างใหญ่ตัวนี้ ก็จะมีบันไดสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนได้ มีทางเดินที่เป็นโครงสร้างเหล็กเล็กๆ ให้เดินไปสัมผัส แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังในการโพสท่าทางกันสักหน่อย มิเช่นนั้นอาจพลัดตกลงมาให้บาดเจ็บกันได้ ส่วนของเรือสำเภาก็สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนได้ด้วยเช่นกัน หากขึ้นไปแล้วก็จะมองเห็นทัศนียภาพของท้องทุ่งนามุมสูงโดยรอบ
นอกจากมุมคิงคองยักษ์ที่เป็นไฮไลต์แล้ว ยังมีสะพานไม้ทอดยาวไปถึงกลางทุ่งนา ให้นักท่องเที่ยวเดินเล่น ถ่ายภาพกับจุดถ่ายภาพเก๋ๆ มีมุมให้เลือกแชะภาพเพียบตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งชิงช้าชิลๆ มีวิวด้านหลังเป็นทุ่งนาตัดกับท้องฟ้าอันสดใส และมีสะพานไม้ขนาดเล็กกลางทุ่ง หรือเลือกถ่ายภาพกับบานประตูแห่งแปลงนาที่มีรวงข้าวอร่าม แต่ถ้าอยากพักเหนื่อยก็มีศาลามุงจากมาให้เราได้มานั่งรับลมพัดเย็นๆ ผ่อนคลายอารมณ์เช่นกัน
หากใครเดินทางไปในช่วงเย็นๆ ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกดิน แสงสุดท้ายของแต่ละวันที่สวยงามมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบริการห้องพักที่มองเห็นวิวทุ่งนาจากหน้าต่าง ได้สัมผัสท้องทุ่งนากันได้อย่างจุใจตลอดทั้งวัน รวมถึงมีร้านจำหน่ายกาแฟ และของกินไว้ให้ได้นั่งชิล หรือจะนั่งห้อยขาจิบกาแฟ ชมวิวทุ่งนาท่ามกลางธรรมชาติ สายลม และแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า และในยามเย็น
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของคนที่ชอบบรรยากาศผ่อนคลาย กับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ผสมผสานวิถีชีวิต และวัฒนธรรมของชาวพัทลุงท่องเที่ยวอย่างลงตัว หากใครมีโอกาสไปเที่ยวพัทลุง ก็อย่าลืมแวะไปเช็คอิน “สำเภาไทย” ที่บ้านท่าสำเภาใต้ แห่งนี้กัน
“สำเภาไทย” ตั้งอยู่ที่ บ้านท่าสำเภาใต้ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ : 20 บาท / เด็ก 10บาท ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-1904-5260, 08-9599-9479
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager