xs
xsm
sm
md
lg

6 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ “โทโฮคุ” ธรรมชาติเนรมิต งดงามราวภาพฝัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
ลำธารโออิราเสะ จังหวัดอาโอโมริ
โทโฮคุ” (Tohoku) เป็นภูมิภาคที่อยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย 6 จังหวัด ได้แก่ อาโอโมริ (Aomori), อาคิตะ (Akita), อิวาเตะ (Iwate), มิยางิ (Miyagi), ยามากาตะ (Yamagata) และจังหวัดฟุกุชิมะ (Fukushima)

ภูมิภาคโทโฮคุมีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็น ภูเขาสูง ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาชิราคามิ (Shirakami) ที่มีความอุดมสมบูรณ์จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

ขณะที่ลักษณะทางกายภาพของบ้านเมืองยังมีความเป็นชนบท เต็มเปี่ยมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ทั้งทะเลสาบ น้ำตก ออนเซ็นตามธรรมชาติท่ามกลางหุบเขา

ภูมิภาคโทโฮคุเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) จะดูงดงามน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยสีสันอันหลากหลายของใบไม้ส่วนใหญ่ ที่จะทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ส้ม แดง และน้ำตาล ไปจนก่อนจะค่อยร่วงหล่นจนหมด

ช่วงเวลานี้หลายคนต่างนิยมเรียกว่า “ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี” ซึ่งภูมิภาคโทโฮคุเป็นหนึ่งในดินแดนที่งดงามเลื่องชื่อในเรื่องฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น โดยใบไม้ในแถบนี้จะเริ่มทยอยเปลี่ยนสีตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป

สำหรับไฮไลท์ในการเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนแสนงามใน 6 จุดสำคัญของภูมิภาคโทโฮคุนั้นมีที่ไหนบ้าง ? ขอเชิญทัศนากันได้

1.ลำธารโออิราเสะ จังหวัดอาโอโมริ

โออิราเสะเป็นลำธารที่มีความยาว 14 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากต้นน้ำเนะโนคุจิบนทะเลสาบโทวะดะ ทั้งสายน้ำและวิวทิวทัศน์สองข้างทางมีความสวยงามแตกต่างกันไปตลอดเส้นทาง ทำให้เหมาะแก่การเดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสี

โออิราเสะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น และถูกจัดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์เนื่องจากมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ไกลกันยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ หมู่บ้านออนเซ็น ทะเลสาบโทวาดะ และเทือกเขาฮักโกดะ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีพรรณไม้ได้แก่ ใบคัทซึระ ใบบุนะ ใบเกาลัดม้าญี่ปุ่น และใบเมเปิ้ล โดยจุดหลักๆ ที่สามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ ลำธารอิชิเกะโดะ น้ำตกโจชิโอะทากิ ลำธารอาชูระ และน้ำตกคุโมอิ

2.หุบเขาเกบิเค จังหวัดอิวาเตะ
หุบเขาเกบิเค  จังหวัดอิวาเตะ
เกบิเคเป็นหุบเขาหินปูนที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลาง มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร สองข้างทางรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร วิวทิวทัศน์ของเกบิเคสวยงามมากจนถูกจัดให้เป็นหนึ่งในร้อยสถานที่ที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น

ในฤดูใบไม้ร่วงนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาล่องเรือชมสีสันความงามของใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมชมประติมากรรมธรรมชาติของหน้าผาที่มีรูปร่างแปลกตา เช่น โชฟุกันหรือหินสามีหินภรรยาที่มีแม่น้ำคั่นกลาง ที่ดูคล้ายคนสองคนหันหน้าด้านข้างให้กัน หรือโอเกบิอิวะ ซึ่งเป็นหน้าผาขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายจมูกสิงโต

ขณะที่ในส่วนของการล่องเรือ จะมีนายเรือใช้ไม้ไผ่เพียงลำเดียวถ่อเรือไปตามลำน้ำและร้องเพลงพื้นบ้านโบราณที่เรียกว่าเพลงเกบิโอยวาเกะ เสียงเพลงเรือจะก้องกังวานไปทั่วหุบเขาอันเงียบสงบ ทำให้ได้บรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยมีชนิดของพรรณไม้ คือ ใบเคยากิ ใบคาชิ ใบเมเปิ้ล

3.ที่ราบสูงฮาจิมันไต จังหวัดอาคิตะ-อิวาเตะ
ที่ราบสูงฮาจิมันไต จังหวัดอาคิตะ-อิวาเตะ
ที่ราบสูงฮาจิมันไตมีพื้นที่กว้างใหญ่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ โดยเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมกันตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป
บริเวณนี้นอกจากจะสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีจากสองข้างทางระหว่างขับรถบนถนนสาย Aspite Line และ Jukai Line แล้ว อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือก็เส้นทางศึกษาธรรมชาติโกะโชกาเคะที่สามารถชมวิวภูเขาไฟและเพลิดเพลินกับบรรยากาศเย็นสบายของบึงน้ำโอนุมะ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบดะเคะคัมบะ ใบนานะคามาโดะ ใบบุนะ ใบเมเปิ้ล ใบชิราคะบะ จุดที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้แก่ จุดชมวิวยอดเขาฮะจิมันไต จุดชมวิวโอฟุกะซาวะ จุดชมวิวฟุเกะโนะยุ เส้นทางศึกษาธรรมชาติโอนุมะ และเส้นทางชมหุบเขายูเซะ

4.หุบเขานารุโกะ จังหวัดมิยางิ
หุบเขานารุโกะ จังหวัดมิยางิ
หุบเขานารุโกะ เป็นหุบเขาสูงที่มีแม่น้ำโอยะที่ใสสะอาดไหลผ่าน สองข้างทางมีหน้าผาสูงชันรูปร่างสวยแปลกตาและน้ำตกสูงให้ได้ชม

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงพรรณไม้ของที่นี่จะเปลี่ยนสีปกคลุมทั้งหุบเขา ตัดกับภาพแม่น้ำโอยะที่คดเคี้ยวอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีความลึกกว่า 100 เมตร

สำหรับจุดชมวิวที่ดีที่สุดคือบริเวณศาลา Narukokyo Resthouse และไม่ไกลกันนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติโอฟุคาซาว่า ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเดินเล่นได้แบบไม่เหนื่อยนัก

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบเมเปิ้ลอุริฮาดะ ใบเมเปิ้ลอิตายะ ใบบุนะ

5.แม่น้ำโมกามิ จังหวัดยามากาตะ
แม่น้ำโมกามิ จังหวัดยามากาตะ
ที่ยามากาตะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสายน้ำกับการล่องเรือในเส้นทางบะโชไปตามแม่น้ำโมกามิ เพื่อชมทัศนียภาพอันสวยงามสองข้างทาง พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับบทเพลงพื้นบ้านที่ขับร้องระหว่างล่องเรือ
กิจกรรมนี้เมื่อมองจากบนเรือจะเห็นทิวเขาถูกแต่งแต้มด้วยพรรณไม้สีต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนลงบนผืนน้ำราวกับภาพบนกระจก เป็นความประทับใจที่หาได้ยากจากที่อื่น ๆ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ ใบนาระ

6.ผาหินหมื่นปี โทโนะเฮะทสึริ จังหวัดฟุกุชิมะ
ผาหินหมื่นปี โทโนะเฮะทสึริ จังหวัดฟุกุชิมะ
หน้าผาโทโนะเฮะทสึริ ถูกสายน้ำของแม่น้ำโอกาวะกัดเซาะมานานหลายหมื่นปี จนเกิดเป็นรูปทรงคล้ายเจดีย์ และด้วยความเก่าแก่จึงได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในพื้นที่อนุรักษ์ของญี่ปุ่น

ภาพของหน้าผาเมื่อมองจากระยะไกลจะเหมือนเจดีย์ 10 องค์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงาม บริเวณหน้าผายังถูกน้ำกัดเซาะลึกเข้าไป จึงสามารถเดินชมได้โดยรอบ

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมใบไม้เปลี่ยนสีคือปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ชนิดของพรรณไม้ ได้แก่ ใบเมเปิ้ล ใบบุนะ และอื่นๆ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีหลักคือจากตัวสะพานแขวน

เที่ยวสบาย-คุ้มค่าในโทโฮคุ
บัตร Welcome Suica
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ (2562) มีหลายสิ่งที่เอื้ออำนวยให้การเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคโทโฮคุสะดวกสบาย และประหยัดคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น อาทิ

-บัตร Welcome Suica : บริษัท East Japan Railway หรือ JR East เริ่มจำหน่ายบัตร IC Card แบบใหม่ที่เรียกว่า Welcome Suica ซึ่งเปิดขายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในญี่ปุ่น

บัตร Welcome Suica มีความพิเศษคือจะไม่เก็บเงินค่ามัดจำ 500 เยน เหมือนบัตรอื่น ๆ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาทำเรื่องขอคืนค่ามัดจำคืนเมื่อจะกลับประเทศ

บัตรนี้สามารถใช้ได้กับทั้งรถบัสและรถไฟทั่วประเทศเหมือนบัตร Suica PASMO แต่ที่พิเศษยิ่งกว่าคือสามารถใช้เป็น e-money ชำระค่าสินค้าตามสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า และแท็กซี่ได้ด้วย ดีไซน์ของบัตรยังสะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่นด้วยฉากหลังสีแดงที่แทนดวงอาทิตย์บนธงชาติญี่ปุ่น และดอกซากุระสีขาวน่ารักเก๋ไก๋ เหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นที่ระลึก

บัตร Welcome Suica เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 1 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ในหลายราคาตั้งแต่ 1,000 เยน 2,000 เยน 3,000 เยน 4,000 เยน 5,000 เยน และ 10,000 เยน โดยไม่มีค่ามัดจำบัตร และมีอายุ 28 วันนับตั้งแต่วันซื้อบัตร (ยอดเงินคงเหลือในบัตรจะไม่สามารถขอคืนได้)

สถานที่จัดจำหน่าย ได้แก่ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว JR EAST (สถานีสนามบินนาริตะ สถานีอาคาร 2 สนามบินนาริตะ สถานีโตเกียวโมโนเรลในสนามบินนานาชาติฮาเนดะ สถานีโตเกียว สถานีชินจูกุ สถานีชิบูย่า สถานีอิเคะบุคุโระ สถานีอุเอโนะ สถานีฮามะมัตสึโจ และที่เครื่องจำหน่ายบัตร Welcome Suica ที่สนามบินนาริตะและสนามบินฮาเนดะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมของบัตร Welcome Suica ได้ที่ http://www.jreast.co.jp/e/welcomesuica/welcomesuica.html
รถไฟขบวนพิเศษ Kairi
-“Kairi” รถไฟขบวนใหม่ : ประเทศญี่ปุ่น โดย JR East จะเปิดให้บริการเส้นทางใหม่ นีงาตะ- โชไน พร้อมกับเปิดตัวรถไฟขบวนพิเศษ “Kairi” โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ 5 ตุลาคม 2562

Kairi เป็นรถไฟดีเซลไฮบริดใหม่เอี่ยมที่มีตู้โดยสาร 4 ตู้ ให้บริการระหว่างจังหวัดนีงาตะและเมืองซากาตะ ส่วนการตกแต่งภายนอกเป็นการไล่เฉดสีส้มแดงของอาทิตย์อัสดงและสีขาวของหิมะตกใหม่อย่างสวยงาม

รถไฟขบวนนี้มีจุดเด่นคือการนำเสนออาหารท้องถิ่นของนีงาตะและโชไน และผสานกับความสวยงามของท้องทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่ารถไฟขบวนนี้จะกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดนีงาตะ

สำหรับจังหวัดนีงาตะและเมืองโชไนของจังหวัดยามากาตะ ถือเป็นพื้นที่ที่มีทะเล (Kai) และท้องถิ่น (Ri) ที่อุดมสมบูรณ์ จึงนำสองคำนี้มารวมกันกลายเป็นชื่อรถไฟ “Kairi” ที่ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟบนขบวน พร้อมกับดื่มด่ำความสวยงามของวิวทิศทัศน์สองข้างทาง
วิวทิวทัศน์ตามเส้นทาง นีงาตะ- โชไน
ทั้งนี้ ขบวนรถไฟเที่ยวขาล่องจากจังหวัดนีงาตะไปเมืองซากาตะ จะให้บริการอาหารท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะตามฤดูกาลจาก 3 ร้านอาหารชื่อดังที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ได้แก่ ร้านอิคินาริยะ ร้านนาเบะจะยะ และร้านอิจิชิเมะ

ส่วนขบวนรถไฟขาขึ้นจากเมืองซากาตะไปจังหวัดนีงาตะจะให้บริการอาหารอิตาเลียนสไตล์โอคุดะที่ปรุงโดยเชฟจากร้าน Al Ché-cciano และควบคุมคุณภาพโดยเจ้าของร้านคือมาซายูคิ โอคุดะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดเชฟของญี่ปุ่นอีกด้วย

นอกจากนี้ที่ร้าน Al Ché-cciano ยังได้นำผลผลิตประจำท้องถิ่นของเมืองโชไนที่ปลูกสืบต่อกันมาหลายช่วงอายุคนมารังสรรค์เป็นอาหารอิตาเลียนสุดพรีเมียม หากทานอาหารที่เสิร์ฟบนรถไฟแล้วรู้สึกติดใจก็สามารถแวะไปทานอีกได้ที่ร้าน Al Ché-cciano
อาหารท้องถิ่นของจังหวัดนีงาตะที่ให้บริการบนรถไฟ
Joyful Trian รถไฟแสนสนุก : Joyful Train เป็นรถไฟยุคใหม่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะซึ่งจะนำพาไปยังจุดหมายเท่านั้น หากแต่จะทำให้ตลอดการเดินทางมีความประทับใจมากยิ่งขึ้น

Joyful Train มีให้เลือกใช้บริการในหลายประเภททั้งชินคันเซ็น รถจักรไอน้ำ และรถไฟสายไซไรเซ็น ที่ออกแบบมาในธีมต่าง ๆ

ภายในขบวนรถไฟมีสิ่งอำนวยความสะดวกอันชวนเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง ทั้งเมนูอาหารพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่, บ่อน้ำร้อนสำหรับแช่เท้า, ท้องฟ้าจำลอง และอื่น ๆ อีกมากมาย

JR EAST PASS เที่ยวสนุกคุ้มค่ายิ่งขึ้น : โทโฮคุเป็นภูมิภาคขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ การเดินทางจะสะดวกสบายและคุ้มค่ายิ่งขึ้นหากนักท่องเที่ยวใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area)

บัตร JR EAST PASS สามารถขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยวเป็นเวลา 5 วัน ทำให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกและเจาะลึกได้มากขึ้น โดยตั๋วผู้ใหญ่จำหน่ายในราคา 19,000 เยน และตั๋วเด็กราคา 9,500 เยน (ราคาสำหรับซื้อจากนอกประเทศญี่ปุ่นที่เว็บไซต์ทางการของ JR-EAST) ผู้สนใจชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jreast.co.jp/e/eastpass_t/index.html

และสามารถเดินทางได้สะดวกกว่าเดิมด้วยบริการจองที่นั่งบนรถไฟ JR-EAST ล่วงหน้าผ่านอินเตอร์เน็ตก่อนเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น ได้ที่เว็บไซต์
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx

นอกจากนี้ที่เว็บไซต์ของ JR-EAST ยังนำเสนอข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในคันโตและโทโฮคุทั้ง 4 ฤดู เพื่อการวางแผนก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นและเลือกท่องเที่ยวได้ตามความสนใจ โดยเข้าชมได้ที่ https://eastjapanrailway.com/th/2019-autumn
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น