xs
xsm
sm
md
lg

“Shinsen Fish Market” เสิร์ฟความสด เลิศรสอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
หลากหลายอาหารญี่ปุ่นชวนกิน
“อาหารญี่ปุ่น” นับว่าเป็นอีกหนึ่งอาหารต่างชาติที่ถูกปากโดนใจ “ตระเวนกิน” ซึ่งเมื่อเราอยากจะไปลองลิ้มอาหารญี่ปุ่นที่ไหนสักร้าน สิ่งแรกที่เราคำนึงถึงคือเรื่องความสดของวัตถุดิบเป็นหัวใจสำคัญ เพราะว่าเมื่อวัตถุดิบดี มีความสดบวกกับฝีมือของเชฟที่ยอดเยี่ยม ก็ย่อมทำให้อาหารญี่ปุ่นนั้นชวนลิ้มลองเป็นยิ่งนัก
โซนซุปเปอร์มาร์เก็ตมีสินค้ามากมายจากญี่ปุ่นมีให้เลือกซื้อ
มื้อนี้เราจึงขอชวนมิตรรักนักกินที่พิสมัยอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ มาสัมผัสกับอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพเรื่องความสดของอาหาร และยอดเยี่ยมไปด้วยรสชาติอันเลอเลิศกันที่ร้าน “Shinsen Fish Market” ตั้งอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 39 ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้ว 3 ปี และกำลังก้าวสู่ปีที่ 4 โดยร้านแห่งนี้ภูมิใจนำเสนออาหารญี่ปุ่น และอาหารทะเลสดๆ ในราคาที่นักกินชาวไทยจับต้องได้ แบบไม่ต้องเสียเงินบินไปกินไกลถึงประเทศญี่ปุ่น
โต๊ะชวนนั่งสบายๆ
ร้าน “Shinsen Fish Market” แห่งนี้เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ร้านอาหารญี่ปุ่นธรรมดาๆ แต่เป็นตลาดปลาแห่งแรกในประเทศไทยก็ว่าได้ ที่ได้คัดสรรอาหารทะเลคุณภาพขึ้นชื่อ อาทิ ปูทาระบะ, หอยเชลล์โฮตาเตะ, Live Uni, กุ้งล็อบสเตอร์ รวมถึงอาหารทะเลหลากหลายที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นแบบเป็นๆ สดๆ
โซนโต๊ะนั่งด้านในชวนนั่งชิลๆ
เมื่อมาถึงร้านจะได้สัมผัสกับความใหญ่โตกว้างขวางของร้าน ที่ตกแต่งในบรรยากาศสบายสไตล์ Modern Japanese ผสมผสานเอกลักษณ์ของ Industrial Loft ดูดีมีสไตล์ ด้านในร้านมีหลากหลายโซนให้ได้สัมผัสกัน แน่นอนว่ามีโซนที่โดดเด่นไม่เหมือนร้านไหนก็คือ โซนฟิชมาร์เก็ต เป็นโซนที่ลูกค้าสามารถเดินมาดู มาเลือกอาหารทะเลสดๆ หลากหลายชนิดที่ส่งตรงจากญี่ปุ่น มาแบบเป็นๆ วัตถุดิบทุกอย่างมีความสดอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของปลาที่นำเข้าจากท่าเรือประมงทั้งหมด 8 แห่งภายใต้เครือของบริษัท เชื่อมต่อตั้งแต่ Hokkaido ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งถึงทางใต้ของ Kagoshima
ปูทาระบะส่งตรงมาจากญี่ปุ่น
เรียกว่ามั่นใจได้ว่าวัตถุดิบอาหารทะเลของที่นี่ล้วนแล้วแต่มีความสด เหมือนได้ที่ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน โดยพวกปู ปลา หอย จะถูกเลี้ยงอยู่ในบ่อเลี้ยงอย่างดี ทำให้อาหารทะเลเหล่านั้นมีความสดแบบยังเป็นๆ ให้เห็น แล้วเราก็สามารถเลือกนำไปปรุงเป็นเมนูเลิศรสได้ตามต้องการ โดยมีเชฟริกิ Executive Chef ญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี มีฝีมือยอดเยี่ยมเป็นผู้รังสรรค์เมนูต่างๆ ออกมาให้ได้ลองลิ้มกันแบบสมใจปรารถนา
โต๊ะนั่งเคาน์เตอร์บาร์ได้เห็นเชฟทำอาหาร
อีกทั้งภายในร้านยังมีโซนโต๊ะนั่งหลากหลายให้เลือกนั่งตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นโซนโต๊ะนั่งในมุมชิลๆ ด้านใน มีโซนโต๊ะนั่งเคาน์เตอร์บาร์ให้ได้นั่งกินอาหารไปด้วยและได้เห็นเชฟโชว์การทำซูชิ ซาชิมิ และเห็นการปรุงอาหารแบบครัวเปิด มีโซนค์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลายแบบฟูบาร์ ทั้งยังมีโซนซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้ามากมายจากญี่ปุ่นให้ได้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มเบียร์ สาเก แล้วก็ยังมีโซนโต๊ะนั่งด้านหน้าที่ชวนนั่งสบายๆ หากใครชื่นชอบนั่งรับลมธรรมชาติเย็นๆ ก็มีโต๊ะนั่งด้านหน้าร้านให้บริการ รวมถึงยังมีส่วนของชั้น 2 ของร้านที่มีโซนโต๊ะนั่งให้บริการชาบูสไตล์ญี่ปุ่น และมีโซนห้องส่วนตัวให้บริการอีกด้วย
Nijo Sashimi Set
นี่แค่บรรยากาศร้านก็ตระการตาแล้ว มาถึงอาหารญี่ปุ่นของที่นี่ทางร้านภูมิใจนำเสนออาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพของความสดใหม่ของวัตถุดิบ นำมารังสรรค์เป็นอาหารญี่ปุ่นกว่า 300 เมนู ใน 20 หมวดให้ได้เลือกอิ่มหนำสำราญกันอย่างเต็มที่ อย่างในมื้อนี้เราได้ลิ้มลองเมนูญี่ปุ่นเลิศรสที่ถูกปากโดนใจ จนต้องขอนำมาเสนอให้ได้ตามมาชิมกันก็มี Nijo Sashimi Set (2,590 บาท+) เมนูนี้เอาใจคนชอบกินซาชิมิ จะได้สัมผัสกับปลาดิบหลากหลาย ที่เป็นปลายอดนิยมกว่า 16 ชนิด มี Hon MaguroOtoro, Hon MaguroChutoro, Hon MaguroAkami, Salmon, Salmon Harasu, ปลาเนื้อขาวตามฤดูกาล 1 ชนิด, Shime Saba, Hokkaido Hotate Maki, AmaEbi, Hokkigai, KaniKamaboko, AoriIka, Uniและ Ikura บอกได้เลยว่าเมนูนี้กินแล้วสัมผัสได้ถึงความสดมากๆ ของปลาดิบ ที่เนื้อนุ่มหวาน กินแล้วฟินดีต่อใจยิ่งนัก
Uni
เมนูถัดมานำเสนอ Uni (ราคาไม่เท่ากันในแต่ละวัน) ทางร้านคัดสรรอูนิ (ไข่หอยเม่น) อย่างดีและเป็นสายพันธุ์ยอดนิยมนำมาบรรจุลงในกล่องขนาดกำลังกิน 100 กรัม ไข่หอยเม่นมีคุณภาพ มีเอกลักษณ์สีเหลืองทอง กินแล้วเนื้อละมุนนุ่มปาก หอมกลิ่นน้ำทะเล และหากใครอยากสัมผัสกับอีกหนึ่งประสบการณ์การกินอาหารญี่ปุ่นตามแบบสไตล์ต้นตำรับ แนะนำให้สั่งอูนิมากินคู่กับสาหร่าย (30 บาท+) และข้าวซูชิหอมๆ (60 บาท+) โดยนำข้าวซูชิวางบนสาหร่ายแล้วใส่อูนิโปะลงมาแล้วห่อเป็นคำ ส่งเค้าปากเคี้ยวกร้วมอร่อยเต็มปากเต็มคำ
Iwagaki
แล้วมาลิ้มลองเมนูหอยกันบ้าง แนะนำ Iwagaki (500 บาท+ / ตัว) เมนูนี้ที่มีให้กินตามฤดูกาล เป็นหอยนางรมขนาดใหญ่เท่าฝ่าส่งตรงมาจากเมือง Nagasaki ประเทศญี่ปุ่น ขนาดของหอยนางรมนี้หนักถึงครึ่งกิโลกรัม ใหญ่กว่าหอยนางรมปกติถึง 10 เท่า ทำให้เนื้อของ Iwagaki มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กินสดๆ สัมผัสได้ถึงความแน่นเด้งของหอยคุณภาพดี รสหวานละมุนลิ้น และหอมกลิ่มน้ำทะเล ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมกินหอยนางรมคู่กับน้ำจิ้มพอนสึ ช่วยเพิ่มรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
Tsubugai
ต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูหอย คือ Tsubugai (ราคาไม่เท่ากันในแต่ละวัน หนึ่งตัวหนักประมาณ 400 กรัม) เป็นหอยสังข์ญี่ปุ่น ด้วยเอกลักษณ์รูปทรงที่แตกต่างจากหอยชนิดอื่น จึงทำให้ Tsubugai เป็นที่นิยม โดยลักษณะของเนื้อหอยชนิดนี้จะมีความนุ่มกว่า Awabi หรือหอยเป่าฮื้อ และมีความหอมหวาน การกินหอยชนิดนี้คนญี่ปุ่นนิยมกินเป็นแบบซาซิมิ หรือซูชิ เชฟจะแล่เนื้อหอยมาแบบบางที่สุด กินแบบซาชิมิกินแล้วสัมผัสได้ถึงเนื้อหอยที่บางนุ่มเคี้ยวเด้งกรึบ มีความหวานสดถูกปากดีจริง
Iwashi
กินเมนูหอยมาชิมเมนูปลาที่ชวนกินอย่าง Iwashi (ราคาไม่เท่ากันในแต่ละวัน หนึ่งตัวหนักประมาณ 150 กรัม) เป็นปลาซาร์ดีนญี่ปุ่น ที่มีโอเมก้า3, วิตามิน D สูง และมีไขมันดีจากปลามาก เชฟแล่ปลาสดเสิร์ฟมาให้กินแบบซาชิมิ ชิมแล้วปลาเนื้อแน่นนุ่ม ไม่คาว รสชาติสดหวานโดนใจ
Grilled Taraba Kanimiso
จากนั้นมาลองลิ้มเมนูปู Grilled Taraba Kanimiso (460 บาท+) คือมันปูย่างที่เชฟใช้มันปูจากปูทาระบะตัวเป็นๆ มาผสมกับมันปูสูตรพิเศษ ปรุงรสจนกลายเป็น Kanimiso สูตรเฉพาะ มันปูย่างเสิร์ฟมาพร้อมกับเตาไฟ ย่างร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมชวนกิน ลิ้มรสแล้วถูกปากตรงที่มันปูมีความเข้มข้น หอม มันกินอร่อยปาก ยิ่งกินคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ เข้ากันดีแท้
Ebi Tempura Kawari Shio Sanshu
จากนั้นมาอิ่มท้องกันต่อกับเมนู Ebi Tempura Kawari Shio Sanshu (390 บาท+) ใครที่ชอบกินกุ้งเทมปุระทอดกรอบๆ สไตล์ต้นตำรับญี่ปุ่นไม่ควรพลาด เพราะเชฟคัดสรรกุ้งตัวโตนำมาชุบแป้งสูตรเด็ดทอดมาจนกุ้งเป็นสีเหลืองทองน่ากิน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มเทมปุระสูตรเด็ด กินกุ้งเทมปุระแป้งไม่อมน้ำมันมีความกรอบนอกนุ่มใน เนื้อกุ้งเด้งนุ่มหวาน และทางร้านยังเพิ่มความพิเศษให้เมนูนี้ด้วยการกินเทมปุระตามแบบฉบับคนญี่ปุ่น คือ การกินเทมปุระคู่กับเกลือ สามารถเลือกอร่อยกับเกลือตามแบบฉบับญี่ปุ่นถึง 3 ชนิด ได้แก่ เกลือชาโคลที่ออกรสชาติเค็ม หอมกลิ่นถ่านย่างนิดๆ เกลือบ๊วย ที่มีรสหวานปนเค็ม และเกลือชาเขียวออกรสเค็มเล็กๆ พร้อมกลิ่นหอมของชาเขียวเกนไมญี่ปุ่น
Wafu Madagascar Vanilla Bean Parfait
แนะนำเมนูของคาวไปหลายรายการแล้ว ชวนมาล้างปากด้วยเมนูของหวานกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Wafu Madagascar Vanilla Bean Parfait (139 บาท+) มีไอศกรีมวานิลลามาดากัสก้าร์ที่หอมหวาน เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงสไตล์ญี่ปุ่น อย่างถั่วแดง, วาราบิโมจิเคี้ยวนุ่มหนึบปาก คลุกเคล้าด้วยผงถั่วเหลือง และครัมเบิ้ลเพิ่มความกรุบกรอบ ราดด้วยซอสคาราเมลหอมหวานกินแล้วสดชื่นปาก
Tofu Blanmange
ถัดมาชวนลิ้มรส Tofu Blanmange (79 บาท+) เป็นขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นที่เอาใจคนชอบกินเต้าหู้ จะได้ลิ้มลองกับความหอมของพุดดิ้งเต้าหู้แบบฉบับญี่ปุ่นที่เนื้อเต้าหู้มีความนุ่มเนียน ละลายในปาก เพิ่มความเข้มข้นของถั่วเหลืองด้วยผงถั่วเหลืองป่นด้านบน เสิร์ฟพร้อมน้ำตาลคาราเมลสูตรพิเศษ ช่วยเพิ่มความหอมหวานให้กับเมนูขนมนี้กินแล้วดีต่อใจ
Baked Sweet Potato, Madagascar Vanilla Bean Ice Cream
ส่งท้ายด้วยเมนูนี้ Baked Sweet Potato, Madagascar Vanilla Bean Ice Cream (149 บาท+) เป็นมันหวานนำมาอบร้อนๆ ท็อปปิ้งด้วยไอศกรีมวานิลลาที่คัดสรรความอร่อยจากฝักวานิลลามาดากัสการ์ โรยด้วยครัมเบิ้ลป่น ตักกินพร้อมกันสัมผัสได้ถึงความหอมหวานของมันหวานอบร้อนๆ กินกับไอศกรีมรสวานิลลาหอมหวานลงตัวเข้ากันดีจริง
โซนโต๊ะนั่งชั้นบนให้บริการชาบู
นอกจากเมนูคาว-หวานมากมายที่แนะนำมาเหล่านี้แล้ว ในเมนูก็ยังมีอาหารญี่ปุ่นอีกหลากหลายเมนูเลิศรสที่ชวรลองลิ้ม อาทิ Taraba Fried Rice (350 บาท+ / 650 บาท+) Shinsen Don (530 บาท+) Unagi Don (480 บาท+) Shinsen Kobore (560 บาท+) Salmon Cream Cheese Maki (250 บาท+) ฯลฯ ซึ่งถ้าใครเป็นสาวกคออาหารญี่ปุ่น ที่เน้นเรื่องความสดของวัตถุดิบพรีเมียม เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพของอาหารรสชาติดี ขอให้ชวนกันมาที่ร้าน “Shinsen Fish Market” แห่งนี้
โต๊ะนั่งด้านนอกรับลมธรรมชาติ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“Shinsen Fish Market” ตั้งอยู่ที่ 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น. โทร. 0-2260-6522 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Shinsenfishmarket, IG: shinsenfishmarket,Line@: @shinsenfishmarket
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager




กำลังโหลดความคิดเห็น