Facebook :Travel @ Manager
การจะเลือกไปกินอาหารที่ร้านไหนสักร้าน สำหรับ “ตระเวนกิน” แน่นอนว่าเรื่องของรสชาติอาหารที่ถูกปากต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และเรื่องของบรรยากาศร้านก็เป็นอันดับสองรองตามมา ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้เราอยากพาตัวเองไปนั่งกินอาหารยังร้านอาหารแห่งนั้น
เหมือนที่ในมื้อนี้เมื่อเราได้มาเจอเข้ากับร้านอาหารที่มีทั้งรสชาติของอาหารที่ดี และมีบรรยากาศร้านที่สวยงาม ชวนให้มานั่งกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศร้านชวนนั่งแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีความรื่นรมย์เป็นยิ่งนัก
เมื่อมาถึงร้านได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ว่า เป็นเหมือนบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยสวนสวยๆ ที่ดูร่มรื่นเขียวขจี มีต้นไม้น้อยใหญ่สร้างความสดชื่นรื่นรมย์ มีสนามหญ้าขนาดกว้างขวางพร้อมเครื่องเล่นให้เด็กๆ ได้มาเล่นกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน มีมุมตกแต่งด้วยสวนน้ำพุและดอกไม้สีสันงดงามตา
ภายในร้านถูกสร้างขึ้นเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ หลังคาสูงดูโปร่งโล่งสบาย ด้านในกรุกระใสให้ได้มองวิวสวนสวยๆ ด้านนอก มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนคาเฟ่สีขาวดูงดงามสบายตา โซนโต๊ะนั่งด้านในมีโต๊ะเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลดูอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ พร้อมกับตกแต่งด้วยพุ่มไม้สีเขียวดูสดชื่นใจ
แล้วยังมีโซนจัดเลี้ยงที่จัดสรรโต๊ะนั่งแบบชวนนั่งสบายๆ ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามมีสไตล์ ซึ่งทุกโซนโต๊ะนั่งเป็นห้องแอร์ทั้งหมด และก็ยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้เลือกนั่งรับลมธรรมชาติชิลๆ อีกทั้งภายในร้านมีการตกแต่งเพ้นท์ผนังด้วยภาพสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปคู่อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินใจ
นี่แค่บรรยากาศร้านที่ชวนนั่งแบบฟินใจ ส่วนเรื่องของอาหารก็ต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้บรรยากาศ เพราะทางร้านนำเสนออาหารไทยพื้นบ้านขนานแท้ และอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยากแล้วในปัจจุบัน แต่ว่าทางร้านและเชฟมากฝีมือได้รังสรรค์อาหารไทยโบราณหลากหลายขึ้นมาตามสูตรของทางร้านโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนได้ลองลิ้มอาหารไทยพื้นบ้านที่ปรุงแต่งแบบโฮมเมด และให้ความสำคัญใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ บรรจงปรุงเป็นอาหารไทย ขนมไทย และเบเกอรี่แบบไทยๆ ที่ชวนลิ้มรสมากมาย
อย่างเมนูโดดเด่นที่ถ้ามาถึงร้านแนะนำว่าให้สั่งมาลองลิ้มกันให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแช่ (350 บาท+) อาหารไทยแท้สูตรโบราณ ที่ถ้ามาที่ร้านแห่งนี้มีให้กินทุกวัน ข้าวแช่ของที่นี่จัดเสิร์ฟมาอย่างอลังการในหาบใหญ่ ประกอบไปด้วยข้าวแช่ที่หอมกลิ่นดอกไม้อบควันเทียน มีเนื้อปลาฝอยเป็นปลาช่อนยีปรุงรส หมูฝอยปรุงรส ลูกกะปิดทอด หอมทอด หัวไชโป๊วผัด พริกหยวกสอดไส้หมู พร้อมกับผักสดแกะสลักอย่างสวยงาม เวลากินก็จะมีน้ำแข็งใส่ใส่ลงไปในข้าวแช่เพิ่มความเย็นกินแล้วข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มลิ้นหอมหวานเย็นชื่นใจ แล้วก็กินเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีมาให้ รสชาติดีถูกปากโดนใจ
เมนูถัดมาชวนชิม พล่ากะปิ (169 บาท+) คือน้ำพริกกะปิ ใส่กุ้ง ใส่สมุนไพรไทยอย่างตระไคร้ซอย หองแดงซอย พริกขี้หนูซอย และพริกไทยอ่อน เสิร์ฟมาให้กินคู่กับหมูหวานที่ทางร้านทำเอง ใช้เนื้อหมูส่วนสันคอมาผัดเคี่ยวกับเครื่องปรุงตามสูตรเฉพาะ หมูเนื้อนุ่มรสหวานกลมกล่อม กินลงตัวเข้ากันกับน้ำพริกรสเข้มข้นลูกลิ้น และมีผักสดนานาชนิดมาให้กินเคียงกัน
ต่อด้วยเมนู ปลากะพงผัดชะอม (198 บาท+) เชฟคัดสรรปลากะพงอย่างดีแล่เอาแต่เนื้อล้วนๆ หั่นเป็นชิ้นนำไปทอด แล้วเอามาผัดกับกระเทียมคลุกเคล้ากับชะอมปรุงรสตามสูตรเด็ด ใส่พริกไทยดำป่น เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นพริกไทยขึ้นจมูก กินปลากะพงเนื้อนุ่มหวานสด กินเข้ากันดีกับชะอมถูกปากโดนใจ
จากนั้นมาลองลิ้ม คั่วกลิ้งลูกชิ้นปลากราย (159 บาท+) สีสันชวนกิน ลูกชิ้นปลากรายเชฟทำเองจากเนื้อปลากรายล้วนๆ และนวดด้วยมือปั้นเป็นลูกชิ้นขนาดกำลังดี นำมาผัดกับเครื่องพริกแกงที่เชฟโขลกเอง ใส่พริกไทยอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด ผัดคั่วให้เครื่องทุกอย่างเข้ากันแบบแห้งๆ กินแล้วขอยกนิ้วให้ในความอร่อยเคี้ยวนุ่มหนึบปากของลูกชิ้นปลากราย ชุ่มไปด้วยเครื่องพริกแกงรสเด็ดเผ็ดจัดจ้าน กินกับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดสะระตี่
มาลิ้มรสกันต่อกับเมนู ปลากะพงโบราณ (359 บาท+) เชฟคัดสรรปลากะพงสดๆ ขนาด 7 - 8 ขีด นำปลามาแบะแล้วทอดจนเหลืองกรอบ มาพร้อมกับน้ำจิ้มแบบโบราณ ที่ใส่เครื่องสมุนไพรไทยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ขิง ข่า ตะไคร้ พริก หอมแดง ใส่แครอทกับมะม่วงด้วย แล้วยังใส่หัวกะทิมาด้วย กินปลากะพงทอดกรอบนอกเนื้อนุ่มหวาน กินเข้ากันกับน้ำจิ้มรสชาติออกรส เปรี้ยว เค็ม มันกะทิถูกปากดีแท้
แล้วมาซดน้ำซุปร้อนๆ กับเมนูนี้ ต้มจิ๋ว (179 บาท+) เป็นอาหารไทยโบราณ คล้ายกับต้มยำแต่ว่าไม่ได้ใส่เครื่องต้มยำ แต่ใส่ใบโหระพากับในกะเพราแทน แล้วก็ใส่เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ใส่มันเทศและหอมแดงด้วย แค่ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกลิ่นโหระพาและใบกะเพราก็ชื่นใจ น้ำซุปรสกลมกล่อมซดคล่องคอดีจริง ส่วนหมูก็เคี้ยวนุ่มละมุนปาก
กินของคาวแล้วก็ต้องกินของหวาน ชวนล้างปากด้วย ขนมอินทนิล (89 บาท+) เมนูนี้มีให้ชิมเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตัวขนมเป็นแป้งสูตรเฉพาะของเชฟ ที่นำมากวนกับน้ำใบเตยนาน 2- 3 ชม. แล้วก็ใส่น้ำกะทิอบควันเทียนหอมๆ ใส่น้ำแข็ง กินแล้วแป้งนุ่มนิ่มละมุนลิ้น หอมหวานเย็นน้ำกะทิชื่นใจดีจริง
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเมนูน้ำที่ชวนดื่มสดชื่นใจ อย่างเช่น น้ำมะตูม (79 บาท+) ที่เชฟใช้มะตูมแห้งมาคั่วให้หอม แล้วค่อยต้มใส่น้ำตาลทรายแดง ใส่เนื้อมะตูมแห้ง ดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจหอมหวานกำลังดี อีกแก้วที่ชวนดื่ม คือ ชาพีช (89 บาท+) เป็นชาไทยชงกับไซรัปพีชและเนื้อพีช แล้วเชคให้เข้ากัน ใส่เนื้อพีชสดมาด้วย ดื่มแล้วหอมกลิ่นพีช ได้รสชาไทยผสมรสพีชเข้ากันลงตัว ดื่มแล้วสดชื่นดีนักแล
แล้วในเมนูอาหารก็ยังมีอาหารไทยพื้นบ้านโบราณให้เลือกลองลิ้มอีกมากหลาย อาทิ น้ำพริกไข่เค็ม (139 บาท+) แกงจี๋จ๋วน (189 บาท+) เมี่ยงมะม่วงโบราณ (139 บาท+) หมูพริกขี้หนู (139 บาท+) ฯลฯ และขนมไทยโบราณหลากหลายชนิดที่หากินได้ยากก็มีให้ได้ชิมกัน ซึ่งถ้ามิตรรักนักกกินคนไหนอยากจะอิ่มอร่อยกับอาหารไทยพื้นบ้านโบราณรสเลิศ และขนมไทยโบราณรสดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่สวยงามชวนนั่งชิล แนะนำว่ามาที่ร้าน “กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” แห่งนี้ไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” ตั้งอยู่ที่ 14 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ร้านกะทิบ้านอาหารไทยและขนม ตั้งอยู่ข้างสะพานข้ามทางรถไฟตลิ่งชัน ผ่านศูนย์ฮอนด้าให้ชิดซ้ายเลียบฟุตปาธ ตรงมาก็จะเห็นร้านกะทิอยู่ข้างศูนย์ซูซูกิ มีที่จอดรถด้านหลังร้าน เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 22.30 น. ถ้ามากินอาหารวันเสาร์ - อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อนโทร. 0-2081-8986, 09-1770-6929 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/KathiBaanAhaanthai, IG : Kathithairestaurant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
การจะเลือกไปกินอาหารที่ร้านไหนสักร้าน สำหรับ “ตระเวนกิน” แน่นอนว่าเรื่องของรสชาติอาหารที่ถูกปากต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และเรื่องของบรรยากาศร้านก็เป็นอันดับสองรองตามมา ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้เราอยากพาตัวเองไปนั่งกินอาหารยังร้านอาหารแห่งนั้น
เหมือนที่ในมื้อนี้เมื่อเราได้มาเจอเข้ากับร้านอาหารที่มีทั้งรสชาติของอาหารที่ดี และมีบรรยากาศร้านที่สวยงาม ชวนให้มานั่งกินข้าวท่ามกลางบรรยากาศร้านชวนนั่งแห่งนี้ที่มีชื่อว่า “กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” เป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีความรื่นรมย์เป็นยิ่งนัก
เมื่อมาถึงร้านได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ของทางร้านที่ว่า เป็นเหมือนบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยสวนสวยๆ ที่ดูร่มรื่นเขียวขจี มีต้นไม้น้อยใหญ่สร้างความสดชื่นรื่นรมย์ มีสนามหญ้าขนาดกว้างขวางพร้อมเครื่องเล่นให้เด็กๆ ได้มาเล่นกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน มีมุมตกแต่งด้วยสวนน้ำพุและดอกไม้สีสันงดงามตา
ภายในร้านถูกสร้างขึ้นเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ หลังคาสูงดูโปร่งโล่งสบาย ด้านในกรุกระใสให้ได้มองวิวสวนสวยๆ ด้านนอก มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนคาเฟ่สีขาวดูงดงามสบายตา โซนโต๊ะนั่งด้านในมีโต๊ะเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลดูอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ พร้อมกับตกแต่งด้วยพุ่มไม้สีเขียวดูสดชื่นใจ
แล้วยังมีโซนจัดเลี้ยงที่จัดสรรโต๊ะนั่งแบบชวนนั่งสบายๆ ตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามมีสไตล์ ซึ่งทุกโซนโต๊ะนั่งเป็นห้องแอร์ทั้งหมด และก็ยังมีโต๊ะนั่งด้านนอกให้เลือกนั่งรับลมธรรมชาติชิลๆ อีกทั้งภายในร้านมีการตกแต่งเพ้นท์ผนังด้วยภาพสวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปคู่อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินใจ
นี่แค่บรรยากาศร้านที่ชวนนั่งแบบฟินใจ ส่วนเรื่องของอาหารก็ต้องบอกว่ามีดีไม่แพ้บรรยากาศ เพราะทางร้านนำเสนออาหารไทยพื้นบ้านขนานแท้ และอาหารไทยโบราณที่หากินได้ยากแล้วในปัจจุบัน แต่ว่าทางร้านและเชฟมากฝีมือได้รังสรรค์อาหารไทยโบราณหลากหลายขึ้นมาตามสูตรของทางร้านโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนได้ลองลิ้มอาหารไทยพื้นบ้านที่ปรุงแต่งแบบโฮมเมด และให้ความสำคัญใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มีความสดใหม่ บรรจงปรุงเป็นอาหารไทย ขนมไทย และเบเกอรี่แบบไทยๆ ที่ชวนลิ้มรสมากมาย
อย่างเมนูโดดเด่นที่ถ้ามาถึงร้านแนะนำว่าให้สั่งมาลองลิ้มกันให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแช่ (350 บาท+) อาหารไทยแท้สูตรโบราณ ที่ถ้ามาที่ร้านแห่งนี้มีให้กินทุกวัน ข้าวแช่ของที่นี่จัดเสิร์ฟมาอย่างอลังการในหาบใหญ่ ประกอบไปด้วยข้าวแช่ที่หอมกลิ่นดอกไม้อบควันเทียน มีเนื้อปลาฝอยเป็นปลาช่อนยีปรุงรส หมูฝอยปรุงรส ลูกกะปิดทอด หอมทอด หัวไชโป๊วผัด พริกหยวกสอดไส้หมู พร้อมกับผักสดแกะสลักอย่างสวยงาม เวลากินก็จะมีน้ำแข็งใส่ใส่ลงไปในข้าวแช่เพิ่มความเย็นกินแล้วข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มลิ้นหอมหวานเย็นชื่นใจ แล้วก็กินเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีมาให้ รสชาติดีถูกปากโดนใจ
เมนูถัดมาชวนชิม พล่ากะปิ (169 บาท+) คือน้ำพริกกะปิ ใส่กุ้ง ใส่สมุนไพรไทยอย่างตระไคร้ซอย หองแดงซอย พริกขี้หนูซอย และพริกไทยอ่อน เสิร์ฟมาให้กินคู่กับหมูหวานที่ทางร้านทำเอง ใช้เนื้อหมูส่วนสันคอมาผัดเคี่ยวกับเครื่องปรุงตามสูตรเฉพาะ หมูเนื้อนุ่มรสหวานกลมกล่อม กินลงตัวเข้ากันกับน้ำพริกรสเข้มข้นลูกลิ้น และมีผักสดนานาชนิดมาให้กินเคียงกัน
ต่อด้วยเมนู ปลากะพงผัดชะอม (198 บาท+) เชฟคัดสรรปลากะพงอย่างดีแล่เอาแต่เนื้อล้วนๆ หั่นเป็นชิ้นนำไปทอด แล้วเอามาผัดกับกระเทียมคลุกเคล้ากับชะอมปรุงรสตามสูตรเด็ด ใส่พริกไทยดำป่น เสิร์ฟมาร้อนๆ หอมกลิ่นพริกไทยขึ้นจมูก กินปลากะพงเนื้อนุ่มหวานสด กินเข้ากันดีกับชะอมถูกปากโดนใจ
จากนั้นมาลองลิ้ม คั่วกลิ้งลูกชิ้นปลากราย (159 บาท+) สีสันชวนกิน ลูกชิ้นปลากรายเชฟทำเองจากเนื้อปลากรายล้วนๆ และนวดด้วยมือปั้นเป็นลูกชิ้นขนาดกำลังดี นำมาผัดกับเครื่องพริกแกงที่เชฟโขลกเอง ใส่พริกไทยอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูด ผัดคั่วให้เครื่องทุกอย่างเข้ากันแบบแห้งๆ กินแล้วขอยกนิ้วให้ในความอร่อยเคี้ยวนุ่มหนึบปากของลูกชิ้นปลากราย ชุ่มไปด้วยเครื่องพริกแกงรสเด็ดเผ็ดจัดจ้าน กินกับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดสะระตี่
มาลิ้มรสกันต่อกับเมนู ปลากะพงโบราณ (359 บาท+) เชฟคัดสรรปลากะพงสดๆ ขนาด 7 - 8 ขีด นำปลามาแบะแล้วทอดจนเหลืองกรอบ มาพร้อมกับน้ำจิ้มแบบโบราณ ที่ใส่เครื่องสมุนไพรไทยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ขิง ข่า ตะไคร้ พริก หอมแดง ใส่แครอทกับมะม่วงด้วย แล้วยังใส่หัวกะทิมาด้วย กินปลากะพงทอดกรอบนอกเนื้อนุ่มหวาน กินเข้ากันกับน้ำจิ้มรสชาติออกรส เปรี้ยว เค็ม มันกะทิถูกปากดีแท้
แล้วมาซดน้ำซุปร้อนๆ กับเมนูนี้ ต้มจิ๋ว (179 บาท+) เป็นอาหารไทยโบราณ คล้ายกับต้มยำแต่ว่าไม่ได้ใส่เครื่องต้มยำ แต่ใส่ใบโหระพากับในกะเพราแทน แล้วก็ใส่เนื้อหมูส่วนสะโพกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ ใส่มันเทศและหอมแดงด้วย แค่ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกลิ่นโหระพาและใบกะเพราก็ชื่นใจ น้ำซุปรสกลมกล่อมซดคล่องคอดีจริง ส่วนหมูก็เคี้ยวนุ่มละมุนปาก
กินของคาวแล้วก็ต้องกินของหวาน ชวนล้างปากด้วย ขนมอินทนิล (89 บาท+) เมนูนี้มีให้ชิมเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตัวขนมเป็นแป้งสูตรเฉพาะของเชฟ ที่นำมากวนกับน้ำใบเตยนาน 2- 3 ชม. แล้วก็ใส่น้ำกะทิอบควันเทียนหอมๆ ใส่น้ำแข็ง กินแล้วแป้งนุ่มนิ่มละมุนลิ้น หอมหวานเย็นน้ำกะทิชื่นใจดีจริง
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเมนูน้ำที่ชวนดื่มสดชื่นใจ อย่างเช่น น้ำมะตูม (79 บาท+) ที่เชฟใช้มะตูมแห้งมาคั่วให้หอม แล้วค่อยต้มใส่น้ำตาลทรายแดง ใส่เนื้อมะตูมแห้ง ดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจหอมหวานกำลังดี อีกแก้วที่ชวนดื่ม คือ ชาพีช (89 บาท+) เป็นชาไทยชงกับไซรัปพีชและเนื้อพีช แล้วเชคให้เข้ากัน ใส่เนื้อพีชสดมาด้วย ดื่มแล้วหอมกลิ่นพีช ได้รสชาไทยผสมรสพีชเข้ากันลงตัว ดื่มแล้วสดชื่นดีนักแล
แล้วในเมนูอาหารก็ยังมีอาหารไทยพื้นบ้านโบราณให้เลือกลองลิ้มอีกมากหลาย อาทิ น้ำพริกไข่เค็ม (139 บาท+) แกงจี๋จ๋วน (189 บาท+) เมี่ยงมะม่วงโบราณ (139 บาท+) หมูพริกขี้หนู (139 บาท+) ฯลฯ และขนมไทยโบราณหลากหลายชนิดที่หากินได้ยากก็มีให้ได้ชิมกัน ซึ่งถ้ามิตรรักนักกกินคนไหนอยากจะอิ่มอร่อยกับอาหารไทยพื้นบ้านโบราณรสเลิศ และขนมไทยโบราณรสดี ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่สวยงามชวนนั่งชิล แนะนำว่ามาที่ร้าน “กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” แห่งนี้ไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“กะทิบ้านอาหารไทยและขนม” ตั้งอยู่ที่ 14 ถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ร้านกะทิบ้านอาหารไทยและขนม ตั้งอยู่ข้างสะพานข้ามทางรถไฟตลิ่งชัน ผ่านศูนย์ฮอนด้าให้ชิดซ้ายเลียบฟุตปาธ ตรงมาก็จะเห็นร้านกะทิอยู่ข้างศูนย์ซูซูกิ มีที่จอดรถด้านหลังร้าน เปิดจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.30 - 22.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 22.30 น. ถ้ามากินอาหารวันเสาร์ - อาทิตย์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อนโทร. 0-2081-8986, 09-1770-6929 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/KathiBaanAhaanthai, IG : Kathithairestaurant
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager