Facebook :Travel @ Manager

เมื่อบอกว่าจะไปเที่ยว “สระแก้ว” ร้อยทั้งร้อยต้องนึกถึง “อรัญประเทศ” ไปลุยช้อปของมือสองที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนอันแสนโด่งดัง บ้างก็ข้ามไปเยือนฝั่งปอยเปตของประเทศเพื่อนบ้าน
แต่สระแก้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อย่างในวันนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอพามาที่ "อำเภอเขาฉกรรจ์" ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองสระแก้วเพียง 17 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอเมืองสระแก้วทางทิศเหนือ และติดกับจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทราทางทิศตะวันตก

ชื่อของอำเภอเขาฉกรรจ์มาจาก “เขาฉกรรจ์” ภูเขาหินปูน 3 ลูกเรียงกันอย่างโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง โดยมีเขาฉกรรจ์เป็นลูกที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลาง เขามิ่งอยู่ทางด้านซ้าย และเขาฝาละมีอยู่ด้านขวา จุดสูงสุดของภูเขามีความสูง 324 เมตร
ส่วนคำว่าฉกรรจ์นั้น เล่ากันว่ามีที่มาจากเมื่อครั้งสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากสินหรือพระยาวชิรปราการในขณะนั้นได้ทรงรวบรวมคนไทยจากชุมนุมต่างๆ ร่วมกันกอบกู้เอกราช และได้มาทรงกระทำพิธี ฉอ-กัณฑ์ หรือพิธีตัดไม้ข่มนาม พิธีกำราบเจตภูติ ก่อนที่จะยกทัพไปปราบชุมนุมต่างๆ จนกระทั่งสามารถรวบรวมผู้คนมาสร้างกรุงธนบุรีในเวลาต่อมา โดยคำว่า "ฉอ-กัณฑ์" ได้เพี้ยนมาเป็น "ฉกรรจ์" อย่างในปัจจุบัน


ทุกวันนี้เขาฉกรรจ์นอกจากจะเป็นดังสัญลักษณ์ของอำเภอแห่งนี้แล้วก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ หน้าผาชันของเขาหินปูนมีเห็นโพรงถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมายถึง 72 ถ้ำ บางถ้ำสามารถเข้าไปชมได้ เช่น ถ้ำมืด ถ้ำหนุมาน ถ้ำเขาทะลุ ถ้ำมหาหิงส์ ถ้ำแก้วพลายชุมพล เป็นต้น โดยในถ้ำบางแห่งได้ขุดพบลูกปัดดินเผาสีต่างๆ ลูกปัดแก้ว ขวานหินขัด และเศียรพระพิมพ์สมัยลพบุรี สันนิษฐานว่าโบราณวัตถุดังกล่าวอยู่ในสมัยทวาราวดี อีกทั้งยังมีลิงจำนวนมากอาศัยอยู่บนภูเขา
ถ้ำที่สำคัญและมีคนไปเยี่ยมชมมากที่สุดคือ “ถ้ำเขาทะลุ” ที่เราสามารถปีนบันไดจากตีนเขาบริเวณวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ที่ด้านบนของถ้ำ บันไดกว่า 300 ขั้นทอดยาวซิกแซกจากตีนเขาขึ้นไปสู่ถ้ำทะลุ ระหว่างทางเดินขึ้นก็จะมีลิงเจ้าถิ่นมาโชว์ตัวให้ชมเป็นจำนวนมาก แต่จากการสังเกตของ “ตะลอนเที่ยว” เห็นว่าลิงที่นี่ค่อนข้างจะเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว


บันไดในช่วงแรกเดินขึ้นได้อย่างสบายๆ พักเหนื่อยได้ตามอัธยาศัย แต่บันไดในช่วงปลายที่จะขึ้นไปสู่ถ้ำทะลุนั้นเป็นบันไดไม้ที่ค่อนข้างแคบและชันมาก ผู้สูงอายุและเด็กๆ ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่หากได้ปีนบันไดขึ้นไปจนสุดแล้วก็จะได้ไปกราบสักการะพระพุทธรูปทางด้านบน และยังจะได้ชมวิวทิวทัศน์ผ่านช่องทะลุขนาดใหญ่ ที่มองลงไปเห็นถนนทางหลวงและชมทิวทัศน์บริเวณรอบๆ ได้อย่างสวยงามมากทีเดียว
ชมวิวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินกลับลงมาเบื้องล่าง สามารถลงไปทำบุญไหว้พระที่วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ได้ และหากใครอยากให้อาหารลิงที่สามารถซื้อผลไม้จากร้านค้าด้านล่างได้ โดยจะมีจุดให้อาหารลิงอยู่บริเวณสวนรุกชาติเขาฉกรรจ์ที่อยู่ทางด้านหน้าใกล้กับถนนใหญ่


เจ้าลิงป่าทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ต่างเดินไปเดินมาอย่างอิสระ บ้างปีนหน้าผาปีนต้นไม้เล่น บ้างลงมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ริมถนน บางตัวมีลูกน้อยเกาะหน้าเกาะหลังมาด้วยอย่างน่าเอ็นดู เวลาใครขับรถเข้ามาเที่ยวบริเวณนี้ก็อย่าลืมขับช้าๆ ระมัดระวังเจ้าลิงเหล่านี้ด้วย
และนอกจากลิงป่าที่อาศัยอยู่ในภูเขาหินปูนแห่งนี้แล้ว ก็ยังมีค้างคาวนับล้านตัวอยู่ในเขาด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่เขาฉกรรจ์แห่งนี้จึงเป็นจุดชมค้างคาวนับล้านๆ ตัวที่บินออกจากถ้ำเป็นสายยาวไปหากินในยามเย็น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คือราวๆ หกโมงเย็น (บวกลบ 15นาที) ก็จะได้เห็นขบวนค้างคาวนับล้านเรียงแถวกันออกมา

ส่วนจุดชมค้างคาวนั้นจะอยู่บริเวณอีกฝั่งหนึ่งของภูเขาฝั่งตรงข้ามกับวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ โดยในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้มารอชมค้างคาวอยู่ที่ “สถานีเขาฉกรรจ์” พื้นที่ของเอกชนที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างเป็นคาเฟ่ชมวิวเขาฉกรรจ์และชมค้างคาวยามเย็น เรามายืนรอค้างคาวกันอยู่พักหนึ่ง เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงก็เริ่มมองเห็นค้างคาวฝูงแรกบินออกมาเป็นสาย จากนั้นก็อีกสายและอีกสาย เป็นภาพที่น่าตื่นตาไม่น้อยและมีให้เห็นในทุกๆ วัน

นอกจากการมาเที่ยวชมถ้ำเขาทะลุ ไหว้พระวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ชมลิงและค้าวคาวทั้งหลายแล้ว วันนี้รอบๆ เขาฉกรรจ์ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวมานั่งชิลชมวิวอลังการของเขาหินปูน พร้อมทั้งชมทุ่งดอกไม้สวยๆ จิบเครื่องดื่มหรือกินอาหารอร่อยๆ ไปพร้อมกัน โดยมีสวน 2 แห่งที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวชมกัน

ที่แรกคือ “วู้ดเฮาส์ เขาฉกรรจ์” ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆ มีเครื่องดื่มเย็นๆ ให้จิบ และมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการอยู่รอบๆ ทีเด็ดของที่นี่อยู่ที่วิวที่มองเห็นเขาฉกรรจ์ได้แบบอลังการ และเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกด้วยดอกไม้ที่ปลูกเป็นทุ่งกว้าง พร้อมด้วยสะพานไม้ให้เดินถ่ายรูปชมวิวกันแบบจุใจ


ดอกไม้เหล่านี้จะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ บางครั้งเป็นดอกผักเสี้ยนฝรั่ง แต่ในช่วงนี้เป็นดอกดาวกระจายสีเหลืองสดใส และจะบานให้ชมไปอีกราว 1-2 1เดือนก่อนที่จะหมุนเวียนใหม่อีกครั้ง โดยเราสามารถมานั่งชมวิวดอกไม้และภูเขาได้ที่วู้ดเฮาส์คาเฟ่ หรือจะขึ้นไปดูวิวบนหอชมวิวเหนือคาเฟ่ก็ได้ และจุดนี้ก็จะมองเห็นค้างคาวออกหากินในยามเย็นด้วยเช่นกัน

และอีกหนึ่งสวนคือ “มีเขามีเรา” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่จะได้ชมวิวภูเขาอย่างใกล้ชิดขึ้นมาอีกหน่อย และมีทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิดให้ชมด้วย โดยในขณะนี้เป็นดอกแพงพวย ดาวกระจาย ฯลฯ อีกทั้งยังมีเครื่องดื่ม เค้กให้ชิมกัน พร้อมทั้งจุดถ่ายรูปมากมายกับสะพานไม้กลางทุ่งดอกไม้ และที่นี่ก็เป็นจุดชมค้างคาวที่เห็นได้ชัดเจนอีกด้วย


เมื่อเร็วๆ ที่เขาฉกรรจ์เพิ่งจะมีกิจกรรมใหญ่อย่าง “Peak Mountain Duo Ultra Adventure Level 3 @ เขาฉกรรจ์” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมนี้เป็นการแข่งวิ่งผจญภัยระยะ 10 ก.ม. ที่เป็นเส้นทาง Trail เส้นทาง Cross Country และบันไดอุโมงค์สวรรค์ และผ่านด่าน 10 ฐาน อาทิ ปีนข้ามกำแพง 3 เมตร ปีนข้ามบ่อโคลน แบกขอนไม้ แบกคู่หูข้ามคลอง ลากคู่หูนั่งล้อยาง เป็นต้น
ในเส้นทางแข่งวิ่งผจญภัยนี้ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะได้วิ่งไปตามเส้นทางต่างๆ รอบๆ เขาฉกรรจ์ ไม่ว่าจะเป็นบันไดที่ขึ้นสู่ถ้ำเขาทะลุที่บริเวณวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ วิ่งผ่านสะพานไม้ไผ่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่วู้ดเฮาส์ ผ่านวิวสวยๆ ของมีเขามีเรา รวมถึงลงบ่อโคลนที่บริเวณสถานีเขาฉกรรจ์


กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก แต่เชื่อว่าจะเป็นการแนะนำความสวยงามของ “เขาฉกรรจ์” ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รู้จัก เผื่อว่าใครอยากจะใช้เวลาช่วงวันหยุดไปท่องเที่ยวแบบชิลๆ ใกล้กรุงเทพฯ ไปดูวิวเขาสวยๆ พร้อมทั้งทุ่งดอกไม้งามสดใส ชมฝูงลิงและค้างคาวฝูงใหญ่ คงจะน่าประทับใจไม่น้อยทีเดียว
ผู้ที่มาท่องเที่ยวที่เขาฉกรรจ์ และต้องการสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวในเขาฉกรรจ์ หรือจังหวัดสระแก้ว สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (ดูแลนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) โทร.0 3731 2282, 0 3731 2284 หรือ www.tat8.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เมื่อบอกว่าจะไปเที่ยว “สระแก้ว” ร้อยทั้งร้อยต้องนึกถึง “อรัญประเทศ” ไปลุยช้อปของมือสองที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนอันแสนโด่งดัง บ้างก็ข้ามไปเยือนฝั่งปอยเปตของประเทศเพื่อนบ้าน
แต่สระแก้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อย่างในวันนี้ “ตะลอนเที่ยว” ขอพามาที่ "อำเภอเขาฉกรรจ์" ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอเมืองสระแก้วเพียง 17 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอเมืองสระแก้วทางทิศเหนือ และติดกับจังหวัดปราจีนบุรีและฉะเชิงเทราทางทิศตะวันตก
ชื่อของอำเภอเขาฉกรรจ์มาจาก “เขาฉกรรจ์” ภูเขาหินปูน 3 ลูกเรียงกันอย่างโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ของเมือง โดยมีเขาฉกรรจ์เป็นลูกที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ตรงกลาง เขามิ่งอยู่ทางด้านซ้าย และเขาฝาละมีอยู่ด้านขวา จุดสูงสุดของภูเขามีความสูง 324 เมตร
ส่วนคำว่าฉกรรจ์นั้น เล่ากันว่ามีที่มาจากเมื่อครั้งสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าตากสินหรือพระยาวชิรปราการในขณะนั้นได้ทรงรวบรวมคนไทยจากชุมนุมต่างๆ ร่วมกันกอบกู้เอกราช และได้มาทรงกระทำพิธี ฉอ-กัณฑ์ หรือพิธีตัดไม้ข่มนาม พิธีกำราบเจตภูติ ก่อนที่จะยกทัพไปปราบชุมนุมต่างๆ จนกระทั่งสามารถรวบรวมผู้คนมาสร้างกรุงธนบุรีในเวลาต่อมา โดยคำว่า "ฉอ-กัณฑ์" ได้เพี้ยนมาเป็น "ฉกรรจ์" อย่างในปัจจุบัน
ทุกวันนี้เขาฉกรรจ์นอกจากจะเป็นดังสัญลักษณ์ของอำเภอแห่งนี้แล้วก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ หน้าผาชันของเขาหินปูนมีเห็นโพรงถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมายถึง 72 ถ้ำ บางถ้ำสามารถเข้าไปชมได้ เช่น ถ้ำมืด ถ้ำหนุมาน ถ้ำเขาทะลุ ถ้ำมหาหิงส์ ถ้ำแก้วพลายชุมพล เป็นต้น โดยในถ้ำบางแห่งได้ขุดพบลูกปัดดินเผาสีต่างๆ ลูกปัดแก้ว ขวานหินขัด และเศียรพระพิมพ์สมัยลพบุรี สันนิษฐานว่าโบราณวัตถุดังกล่าวอยู่ในสมัยทวาราวดี อีกทั้งยังมีลิงจำนวนมากอาศัยอยู่บนภูเขา
ถ้ำที่สำคัญและมีคนไปเยี่ยมชมมากที่สุดคือ “ถ้ำเขาทะลุ” ที่เราสามารถปีนบันไดจากตีนเขาบริเวณวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ที่ด้านบนของถ้ำ บันไดกว่า 300 ขั้นทอดยาวซิกแซกจากตีนเขาขึ้นไปสู่ถ้ำทะลุ ระหว่างทางเดินขึ้นก็จะมีลิงเจ้าถิ่นมาโชว์ตัวให้ชมเป็นจำนวนมาก แต่จากการสังเกตของ “ตะลอนเที่ยว” เห็นว่าลิงที่นี่ค่อนข้างจะเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว
บันไดในช่วงแรกเดินขึ้นได้อย่างสบายๆ พักเหนื่อยได้ตามอัธยาศัย แต่บันไดในช่วงปลายที่จะขึ้นไปสู่ถ้ำทะลุนั้นเป็นบันไดไม้ที่ค่อนข้างแคบและชันมาก ผู้สูงอายุและเด็กๆ ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่หากได้ปีนบันไดขึ้นไปจนสุดแล้วก็จะได้ไปกราบสักการะพระพุทธรูปทางด้านบน และยังจะได้ชมวิวทิวทัศน์ผ่านช่องทะลุขนาดใหญ่ ที่มองลงไปเห็นถนนทางหลวงและชมทิวทัศน์บริเวณรอบๆ ได้อย่างสวยงามมากทีเดียว
ชมวิวกันเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินกลับลงมาเบื้องล่าง สามารถลงไปทำบุญไหว้พระที่วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ได้ และหากใครอยากให้อาหารลิงที่สามารถซื้อผลไม้จากร้านค้าด้านล่างได้ โดยจะมีจุดให้อาหารลิงอยู่บริเวณสวนรุกชาติเขาฉกรรจ์ที่อยู่ทางด้านหน้าใกล้กับถนนใหญ่
เจ้าลิงป่าทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ต่างเดินไปเดินมาอย่างอิสระ บ้างปีนหน้าผาปีนต้นไม้เล่น บ้างลงมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ริมถนน บางตัวมีลูกน้อยเกาะหน้าเกาะหลังมาด้วยอย่างน่าเอ็นดู เวลาใครขับรถเข้ามาเที่ยวบริเวณนี้ก็อย่าลืมขับช้าๆ ระมัดระวังเจ้าลิงเหล่านี้ด้วย
และนอกจากลิงป่าที่อาศัยอยู่ในภูเขาหินปูนแห่งนี้แล้ว ก็ยังมีค้างคาวนับล้านตัวอยู่ในเขาด้วยเช่นกัน ดังนั้นที่เขาฉกรรจ์แห่งนี้จึงเป็นจุดชมค้างคาวนับล้านๆ ตัวที่บินออกจากถ้ำเป็นสายยาวไปหากินในยามเย็น โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คือราวๆ หกโมงเย็น (บวกลบ 15นาที) ก็จะได้เห็นขบวนค้างคาวนับล้านเรียงแถวกันออกมา
ส่วนจุดชมค้างคาวนั้นจะอยู่บริเวณอีกฝั่งหนึ่งของภูเขาฝั่งตรงข้ามกับวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ โดยในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” ได้มารอชมค้างคาวอยู่ที่ “สถานีเขาฉกรรจ์” พื้นที่ของเอกชนที่ขณะนี้กำลังก่อสร้างเป็นคาเฟ่ชมวิวเขาฉกรรจ์และชมค้างคาวยามเย็น เรามายืนรอค้างคาวกันอยู่พักหนึ่ง เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลงก็เริ่มมองเห็นค้างคาวฝูงแรกบินออกมาเป็นสาย จากนั้นก็อีกสายและอีกสาย เป็นภาพที่น่าตื่นตาไม่น้อยและมีให้เห็นในทุกๆ วัน
นอกจากการมาเที่ยวชมถ้ำเขาทะลุ ไหว้พระวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ชมลิงและค้าวคาวทั้งหลายแล้ว วันนี้รอบๆ เขาฉกรรจ์ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวมานั่งชิลชมวิวอลังการของเขาหินปูน พร้อมทั้งชมทุ่งดอกไม้สวยๆ จิบเครื่องดื่มหรือกินอาหารอร่อยๆ ไปพร้อมกัน โดยมีสวน 2 แห่งที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวชมกัน
ที่แรกคือ “วู้ดเฮาส์ เขาฉกรรจ์” ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็กๆ มีเครื่องดื่มเย็นๆ ให้จิบ และมีร้านค้าร้านอาหารให้บริการอยู่รอบๆ ทีเด็ดของที่นี่อยู่ที่วิวที่มองเห็นเขาฉกรรจ์ได้แบบอลังการ และเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีกด้วยดอกไม้ที่ปลูกเป็นทุ่งกว้าง พร้อมด้วยสะพานไม้ให้เดินถ่ายรูปชมวิวกันแบบจุใจ
ดอกไม้เหล่านี้จะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ บางครั้งเป็นดอกผักเสี้ยนฝรั่ง แต่ในช่วงนี้เป็นดอกดาวกระจายสีเหลืองสดใส และจะบานให้ชมไปอีกราว 1-2 1เดือนก่อนที่จะหมุนเวียนใหม่อีกครั้ง โดยเราสามารถมานั่งชมวิวดอกไม้และภูเขาได้ที่วู้ดเฮาส์คาเฟ่ หรือจะขึ้นไปดูวิวบนหอชมวิวเหนือคาเฟ่ก็ได้ และจุดนี้ก็จะมองเห็นค้างคาวออกหากินในยามเย็นด้วยเช่นกัน
และอีกหนึ่งสวนคือ “มีเขามีเรา” ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน ที่นี่จะได้ชมวิวภูเขาอย่างใกล้ชิดขึ้นมาอีกหน่อย และมีทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิดให้ชมด้วย โดยในขณะนี้เป็นดอกแพงพวย ดาวกระจาย ฯลฯ อีกทั้งยังมีเครื่องดื่ม เค้กให้ชิมกัน พร้อมทั้งจุดถ่ายรูปมากมายกับสะพานไม้กลางทุ่งดอกไม้ และที่นี่ก็เป็นจุดชมค้างคาวที่เห็นได้ชัดเจนอีกด้วย
เมื่อเร็วๆ ที่เขาฉกรรจ์เพิ่งจะมีกิจกรรมใหญ่อย่าง “Peak Mountain Duo Ultra Adventure Level 3 @ เขาฉกรรจ์” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมนี้เป็นการแข่งวิ่งผจญภัยระยะ 10 ก.ม. ที่เป็นเส้นทาง Trail เส้นทาง Cross Country และบันไดอุโมงค์สวรรค์ และผ่านด่าน 10 ฐาน อาทิ ปีนข้ามกำแพง 3 เมตร ปีนข้ามบ่อโคลน แบกขอนไม้ แบกคู่หูข้ามคลอง ลากคู่หูนั่งล้อยาง เป็นต้น
ในเส้นทางแข่งวิ่งผจญภัยนี้ผู้เข้าร่วมแข่งขันจะได้วิ่งไปตามเส้นทางต่างๆ รอบๆ เขาฉกรรจ์ ไม่ว่าจะเป็นบันไดที่ขึ้นสู่ถ้ำเขาทะลุที่บริเวณวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ วิ่งผ่านสะพานไม้ไผ่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ที่วู้ดเฮาส์ ผ่านวิวสวยๆ ของมีเขามีเรา รวมถึงลงบ่อโคลนที่บริเวณสถานีเขาฉกรรจ์
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นปีนี้เป็นปีแรก แต่เชื่อว่าจะเป็นการแนะนำความสวยงามของ “เขาฉกรรจ์” ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รู้จัก เผื่อว่าใครอยากจะใช้เวลาช่วงวันหยุดไปท่องเที่ยวแบบชิลๆ ใกล้กรุงเทพฯ ไปดูวิวเขาสวยๆ พร้อมทั้งทุ่งดอกไม้งามสดใส ชมฝูงลิงและค้างคาวฝูงใหญ่ คงจะน่าประทับใจไม่น้อยทีเดียว
ผู้ที่มาท่องเที่ยวที่เขาฉกรรจ์ และต้องการสอบถามข้อมูลท่องเที่ยวในเขาฉกรรจ์ หรือจังหวัดสระแก้ว สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (ดูแลนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) โทร.0 3731 2282, 0 3731 2284 หรือ www.tat8.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager