Facebook :Travel @ Manager

ปัจจุบันนี้รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของ “กลุ่มคู่รัก” มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของเพศและวัย จึงทำให้คู่รักในแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างในครั้งนี้ที่จะพาไปรู้จักกับเส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” ที่เป็น 1 ใน 5 เส้นทาง Love is Journey ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดขึ้น

เส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” เป็นเส้นทางรักของ 3 เมือง เลียบชายฝั่งภาคตะวันออกของไทย “ระยอง จันทบุรี ตราด” ที่มีความสวยงามของท้องทะเลอ่าวไทย มีกิจกรรมสำหรับคู่รักหลากหลาย มีทัศนียภาพที่สวยงามชวนเดินเล่น เรียกได้ว่าหากมาเที่ยวที่เส้นทางนี้จะได้ความสนุกทุกรสชาติเหมือนความรักที่ครบรสไม่รู้เบื่อนั่นเอง

ที่แรกที่จะพามาคือที่ บ้านเนินทราย ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง เป็นหมู่บ้านที่มีคลองตาโบ๊ยและป่าชายเลนคลองตาโบ๊ย ที่มีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ทั้งผืนน้ำและผืนป่า ซึ่งเมื่อมาที่นี่แล้วจะต้องมาเดินชมความงามของ “สะพานรักษ์แสม” สะพานแขวนไม้อันสวยงามที่สร้างทอดข้ามคลองท่าตาโบ๊ยสู่ป่าชายเลนผืนใหญ่อันอุดมสมบูรณ์

นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ที่มีการจัดพิธีแต่งงานที่แหวกแนวไม่น้อยนั่นก็คือ “พิธีแต่งงานปู” ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พิธีแต่งงานปูมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวกับวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ คือในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ของทุกปี
งานนี้มีไฮไลต์อยู่ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 62 ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานปู โดยมีการนำ “ปูเจ้าบ่าว” จากป่าชายเลนภาคใต้เดินทางมาสู่ขอ “ปูเจ้าสาว” ที่บริเวณสะพานรักษ์แสม ท่ามกลางบรรยากาศวัฒนธรรมประเพณีพิธีแต่งงานแบบท้องถิ่น มีขบวนขันหมาก ขบวนกลองยาว รวมทั้งการแห่ขันหมากทางน้ำนับเป็นไฮไลต์เด็ดของที่นี่

จากนั้นเดินทางต่อข้ามจังหวัดมาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี (คนละแห่งกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน) ที่มี “ลานหินสีชมพู” โขดหินริมทะเลที่มีสีแดงอมชมพูสดใส โดยหินสีชมพูนี้เป็นหินทรายสีแดงอมชมพูที่เรียกว่าหินทรายอาร์โคส เนื่องจากมีส่วนผสมของแร่เหล็กมากจึงทำให้หินมีสีแดงอมชมพู

ยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงแดดจ้าก็ยิ่งออกสีชมพูสดใส แม้จะร้อนไปสักนิดแต่ถ้าได้แดดแรงๆ รับรองถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน หรือหากอยากได้ความโรแมนติกทวีขึ้นไปอีก ต้องมาในยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า มานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบโขดหินสีชมพูแสนหวาน รับรองว่าประทับใจมิรู้ลืมแน่นอน

อีกหนึ่งสถานที่ชวนเดินเล่นใน จ.จันทบุรี ก็คือที่ “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ในตัวเมืองจันท์ โดยชุมชนนี้จะมีทั้งของกินอร่อยๆ ของฝากขึ้นชื่อ และจุดถ่ายรูปสุดชิคมากมาย ทั้งกำแพงสตรีทอาร์ตเก๋ๆ และบ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เรียงรายตลอดสองข้างทาง ให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ทรงหลังคาปั้นหยา เรือนไม้สองชั้น เรือนขนมปังขิง ตึกฝรั่งแบบปีนังและสิงคโปร์ หรือตึกแบบยุโรป ที่ล้วนแล้วแต่มีความเก่าแก่คลาสสิกแตกต่างกันไป และไฮไลต์ที่น่าสนใจของที่นี่อีกจุดก็คือ “โบสถ์คริสต์” หรือ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” เป็นโบสถ์คาทอลิก

ปิดท้ายที่ จ.ตราด ด้วยการข้ามมาที่ “เกาะหมาก” เกาะเป็นอันดับสามของหมู่เกาะช้าง รองจากเกาะช้างและเกาะกูด ตั้งอยู่ช่วงกลางระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ที่มีเสน่ห์ของเกาะคือความสงบเป็นส่วนตัว มีธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้เกาะหมากเป็นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

และเกาะหมากยังเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ “โลว์คาร์บอน” ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมด้วยกัน อย่างเช่น การเก็บผักผลไม้มาทำอาหารกินด้วยกัน การปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบเกาะ การพายเรือคายัคชมทะเล ฯลฯ ซึ่งทุกกิจกรรมนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษมากนัก ยังสามารถใช้เวลาร่วมกับคนข้างๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

เสร็จจากเที่ยวชมทะเลแล้ว ก็ข้ามมากลับมาที่ฝั่งมาเที่ยวชมความสมบูรณ์ของป่าชายเลนกันบ้างที่ ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด ที่นี่เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำตราด ที่ออกสู่อ่าวทะเลตราด ซึ่งไฮไลต์ของการล่องเรือที่นี่ก็คือการนั่งเรือไปชม “ลานตะบูน” ลานขนาดใหญ่ที่มีรากของต้นตะบูนขึ้นอยู่เต็มทั่วพื้นที่นั่นเอง

ซึ่งชาวบ้านได้คิดกิจกรรมขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกที่ลานตะบูนในกิจกรรมชื่อว่า “โบว์ลิ่งตะบูน” เป็นการนำไม้ตะบูน และลูกตะบูนมาทำเป็นลานโบว์ลิ่งธรรมชาติ นอกจากจะได้ทำกิจกรรมโยนโบว์ลิ่งแล้ว ยังจะได้เก็บภาพสวยๆ กับรากของต้นตะบูนที่เกาะตัวกันอย่างหนาแน่นจนเป็นลานกว้าง สามารถเดินเล่นได้สบาย
และนี่คือ เส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” ใน 3 จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกครบรสอย่าง จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด หากใครกำลังวางแผนพาคนรู้ใจไปเที่ยวอยู่ เส้นทางนี้นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ปัจจุบันนี้รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของ “กลุ่มคู่รัก” มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของเพศและวัย จึงทำให้คู่รักในแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างในครั้งนี้ที่จะพาไปรู้จักกับเส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” ที่เป็น 1 ใน 5 เส้นทาง Love is Journey ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดขึ้น
เส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” เป็นเส้นทางรักของ 3 เมือง เลียบชายฝั่งภาคตะวันออกของไทย “ระยอง จันทบุรี ตราด” ที่มีความสวยงามของท้องทะเลอ่าวไทย มีกิจกรรมสำหรับคู่รักหลากหลาย มีทัศนียภาพที่สวยงามชวนเดินเล่น เรียกได้ว่าหากมาเที่ยวที่เส้นทางนี้จะได้ความสนุกทุกรสชาติเหมือนความรักที่ครบรสไม่รู้เบื่อนั่นเอง
ที่แรกที่จะพามาคือที่ บ้านเนินทราย ต.เนินฆ้อ อ.แกลง จ.ระยอง เป็นหมู่บ้านที่มีคลองตาโบ๊ยและป่าชายเลนคลองตาโบ๊ย ที่มีระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ทั้งผืนน้ำและผืนป่า ซึ่งเมื่อมาที่นี่แล้วจะต้องมาเดินชมความงามของ “สะพานรักษ์แสม” สะพานแขวนไม้อันสวยงามที่สร้างทอดข้ามคลองท่าตาโบ๊ยสู่ป่าชายเลนผืนใหญ่อันอุดมสมบูรณ์
นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจแล้ว สะพานแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ที่มีการจัดพิธีแต่งงานที่แหวกแนวไม่น้อยนั่นก็คือ “พิธีแต่งงานปู” ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พิธีแต่งงานปูมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวกับวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ คือในระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ของทุกปี
งานนี้มีไฮไลต์อยู่ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 62 ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานปู โดยมีการนำ “ปูเจ้าบ่าว” จากป่าชายเลนภาคใต้เดินทางมาสู่ขอ “ปูเจ้าสาว” ที่บริเวณสะพานรักษ์แสม ท่ามกลางบรรยากาศวัฒนธรรมประเพณีพิธีแต่งงานแบบท้องถิ่น มีขบวนขันหมาก ขบวนกลองยาว รวมทั้งการแห่ขันหมากทางน้ำนับเป็นไฮไลต์เด็ดของที่นี่
จากนั้นเดินทางต่อข้ามจังหวัดมาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี (คนละแห่งกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน) ที่มี “ลานหินสีชมพู” โขดหินริมทะเลที่มีสีแดงอมชมพูสดใส โดยหินสีชมพูนี้เป็นหินทรายสีแดงอมชมพูที่เรียกว่าหินทรายอาร์โคส เนื่องจากมีส่วนผสมของแร่เหล็กมากจึงทำให้หินมีสีแดงอมชมพู
ยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงแดดจ้าก็ยิ่งออกสีชมพูสดใส แม้จะร้อนไปสักนิดแต่ถ้าได้แดดแรงๆ รับรองถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน หรือหากอยากได้ความโรแมนติกทวีขึ้นไปอีก ต้องมาในยามเย็นที่ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า มานั่งชมพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบโขดหินสีชมพูแสนหวาน รับรองว่าประทับใจมิรู้ลืมแน่นอน
อีกหนึ่งสถานที่ชวนเดินเล่นใน จ.จันทบุรี ก็คือที่ “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” ในตัวเมืองจันท์ โดยชุมชนนี้จะมีทั้งของกินอร่อยๆ ของฝากขึ้นชื่อ และจุดถ่ายรูปสุดชิคมากมาย ทั้งกำแพงสตรีทอาร์ตเก๋ๆ และบ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เรียงรายตลอดสองข้างทาง ให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ทรงหลังคาปั้นหยา เรือนไม้สองชั้น เรือนขนมปังขิง ตึกฝรั่งแบบปีนังและสิงคโปร์ หรือตึกแบบยุโรป ที่ล้วนแล้วแต่มีความเก่าแก่คลาสสิกแตกต่างกันไป และไฮไลต์ที่น่าสนใจของที่นี่อีกจุดก็คือ “โบสถ์คริสต์” หรือ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” เป็นโบสถ์คาทอลิก
ปิดท้ายที่ จ.ตราด ด้วยการข้ามมาที่ “เกาะหมาก” เกาะเป็นอันดับสามของหมู่เกาะช้าง รองจากเกาะช้างและเกาะกูด ตั้งอยู่ช่วงกลางระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ที่มีเสน่ห์ของเกาะคือความสงบเป็นส่วนตัว มีธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้เกาะหมากเป็นที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
และเกาะหมากยังเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวแบบ “โลว์คาร์บอน” ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรมด้วยกัน อย่างเช่น การเก็บผักผลไม้มาทำอาหารกินด้วยกัน การปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบเกาะ การพายเรือคายัคชมทะเล ฯลฯ ซึ่งทุกกิจกรรมนอกจากจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษมากนัก ยังสามารถใช้เวลาร่วมกับคนข้างๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
เสร็จจากเที่ยวชมทะเลแล้ว ก็ข้ามมากลับมาที่ฝั่งมาเที่ยวชมความสมบูรณ์ของป่าชายเลนกันบ้างที่ ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด ที่นี่เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำตราด ที่ออกสู่อ่าวทะเลตราด ซึ่งไฮไลต์ของการล่องเรือที่นี่ก็คือการนั่งเรือไปชม “ลานตะบูน” ลานขนาดใหญ่ที่มีรากของต้นตะบูนขึ้นอยู่เต็มทั่วพื้นที่นั่นเอง
ซึ่งชาวบ้านได้คิดกิจกรรมขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกที่ลานตะบูนในกิจกรรมชื่อว่า “โบว์ลิ่งตะบูน” เป็นการนำไม้ตะบูน และลูกตะบูนมาทำเป็นลานโบว์ลิ่งธรรมชาติ นอกจากจะได้ทำกิจกรรมโยนโบว์ลิ่งแล้ว ยังจะได้เก็บภาพสวยๆ กับรากของต้นตะบูนที่เกาะตัวกันอย่างหนาแน่นจนเป็นลานกว้าง สามารถเดินเล่นได้สบาย
และนี่คือ เส้นทาง “คู่รักภาคตะวันออก Flavourful love” ใน 3 จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกครบรสอย่าง จ.ระยอง จ.จันทบุรี และ จ.ตราด หากใครกำลังวางแผนพาคนรู้ใจไปเที่ยวอยู่ เส้นทางนี้นับเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager