Facebook :Travel @ Manager

“ย่างกุ้ง” อดีตเมืองหลวงของเมียนมาร์ เป็นอีกเมืองที่มีความเจริญในหลายๆ ด้าน รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวอันยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างเดินทางไปท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย
นอกจากท่องเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว เมียนมาร์ยังเป็นประเทศที่ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา มีวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมไปกราบไหว้ ขอพร เสริมดวง กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มักเพลิดเพลินใจไปในเมืองย่างกุ้ง ได้เรียนรู้วัฒนธรรม การใช้ชีวิตคนเมืองของพม่า

หากใครไปท่องเที่ยวที่เมืองย่างกุ้ง และกำลังมองหาสถานที่อื่นๆ ใกล้เคียง ครั้งนี้จะขอชักชวนออกเดินทางออกนอกเมืองกันสักหน่อย โดยเมืองที่จะพาเยือนนั่นก็คือ “ตันลยิน” (Thanlyin) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “สิเรียม” (Syriam) อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำพะโคและแม่น้ำย่างกุ้ง ในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองท่าสำคัญในการเดินเรือของชาวโปรตุเกส
ปัจจุบันเมืองสิเรียมเป็นเมืองอุตสาหกรรม ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่ก็เป็นลูกจ้างในโรงเบียร์ ประชากรส่วนมากเป็นชาวพม่าเชื้อชายอินเดีย เพราะในสมัยที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สิเรียมเป็นศูนย์กลางของเมืองท่าและยังเป็นแหล่งผลิตอาหารส่งสู่กรุงย่างกุ้ง และอังกฤษต้องเกณฑ์แรงงานอินเดียมาทำนา แล้วพากันมาปักหลักทำมาหากินกันจนถึงปัจจุบันนี้


แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเมื่อเดินทางมาเมืองสิเรียมแล้ว ก็คือ “ไจ๊มอวุน” หรือ “เจดีย์เยเลพญา” เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยมอญมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ได้มาเจอเกาะกลางน้ำบริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์ขึ้นมาและนำพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าสองเส้นที่ได้มาจากศรีลังกามาไว้ที่นี่
และท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ 3 ข้อ ข้อแรกถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำกว้างใหญ่ ข้อสองถ้าประชาชนมากราบไหว้จำนวนมากก็ขอให้รองรับได้เพียงพอ และข้อสุดท้าย หากใครที่มากราบไหว้ขอพรก็ให้สมหวังดังปรารถนา หากทำให้การทำธุรกิจทางการค้า เจริญก้าวหน้าและสมดังใจหวัง

เมื่อมาถึงบริเวณจุดขึ้นเรือเพื่อนั่งข้ามฟากไปยังเจดีย์ฯ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยจะใช้เวลานั่งเรือเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวจะเสียค่าบริการเช่าเหมาเรือราคาลำละ 5,000 จ๊าด ระหว่างที่เรือพาเราข้ามมายังบริเวณเจดีย์ เราสามารถถอดรองเท้าฝากไว้ที่เรือด้วยก็ได้ เพราะการที่เราจะเข้าไปชมสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาของเมียนมาร์จะต้องถอดรองเท้าเข้า

ภายในกลางเจดีย์มีพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ที่ทำจากหยกขาวทรงเครื่องตามแบบฉบับพม่า นอกจากนี้ผู้คนนิยมมาสักการะ พระอุปคุต โดยคนที่นี่มีความเชื่อกันว่า พระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ และมีโชคลาภ ซึ่งวิหารของพระอุปคุตจะอยู่ด้านหลังองค์เจดีย์ ถูกสร้างยื่นออกมาจากเกาะเล็กน้อย และถัดไปไม่ไกลนักจะมีเทพน้ำจืด-น้ำเค็ม ส่วนใหญ่ผู้คนที่มากราบไหว้เทพทั้งสององค์นี้มักจะขอพรในเรื่องของธุรกิจการค้า
และเมื่อเราเข้าไปชมความงดงามภายในเจดีย์ และไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นมาเดินมายังจุดขึ้นลงเรือ เพื่อรอเรือลำเดิมเพื่อข้ามฝั่งกลับไป

จากนั้นเดินทางไปยัง “เจดีย์ไจ๊เค้า” เป็นเจดีย์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง และเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองสิเรียม สร้างโดยกษัตริย์รัฐมอญที่เมืองสะเทิม มาสร้างเจดีย์ที่เนินเขาชื่อว่าไลโป๊ะกง โดยเนินเขาแห่งนี้มีฤาษีอยู่ตนหนึ่งชื่อว่า คอลาก๊ะ หรือ เคาะล๊ะ อาศัยปกปักรักษาอยู่บริเวณเนินเขา เดิมเจดีย์แห่งนี้มีชื่อตามภาษามอญว่าไจ๊เคาะล๊ะ ต่อมาเพี้ยนเป็นภาษาเมียนมาร์ว่า ไจ๊เค้า โดยวัดแห่งนี้

ภายในเจดีย์ไจ๊เค้าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิที่ผู้คนนิยมเข้าไปกราบไหว้บูชา นั่นก็คือพระเกศาของพระพุทธเจ้า 6 เส้นที่บรรจุอยู่ด้านในขององค์เจดีย์ ส่วนใหญ่จะมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล หากใครที่อยากจะมาขอพรนั้น จะต้องมากราบขอพระกับองค์เทพทันใจที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งมีชื่อชื่อว่า “ตันลยินไจ๊เค้าโบโบจี”

นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของเจดีย์ มีองค์พระมหามัยมุนี องค์จำลอง สีเหลืองทองอร่าม เป็นพระพุทธรูปเพียงหนึ่งเดียวใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของเมียนมาร์ ปัจจุบันองค์จริงประดิษฐานอยู่ที่ “วัดมหามัยมุนี” เมืองมัณฑะเลย์ พระมหามัยมุนี ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะชาวพม่าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้มาประทานลมหายใจอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในพระวรกายของพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งถือเป็นดังตัวแทนของพระพุทธองค์ที่มีชีวิตจิตใจ


เอกลักษณ์ของเจดีย์ไจ๊เค้า หากใครที่ได้มาเยือนจะสังเกตว่าเจดีย์แห่งนี้มีรูปทรงคล้ายกับเจดีย์ชเวดากองที่อยู่ในเมืองย่างกุ้ง มีพื้นฐานแปดเหลี่ยม ทรงระฆังคว่ำ มีลายบัวคว่ำบัวหงาย เพียงแค่มีขนาดที่แตกต่างกันเท่านั้น

ถ้าใครมาท่องเที่ยวที่เมืองย่างกุ้งแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาเยือนเมืองสิเรียมด้วย นอกจากจะได้มาชมความงดงามของเจดีย์กลางน้ำแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอันเป็นเสน่ห์ในระหว่างการเดินทางอีกด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“ย่างกุ้ง” อดีตเมืองหลวงของเมียนมาร์ เป็นอีกเมืองที่มีความเจริญในหลายๆ ด้าน รวมถึงมีแหล่งท่องเที่ยวอันยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างเดินทางไปท่องเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย
นอกจากท่องเที่ยวชมธรรมชาติแล้ว เมียนมาร์ยังเป็นประเทศที่ยึดมั่นในพระพุทธศาสนา มีวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมไปกราบไหว้ ขอพร เสริมดวง กันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มักเพลิดเพลินใจไปในเมืองย่างกุ้ง ได้เรียนรู้วัฒนธรรม การใช้ชีวิตคนเมืองของพม่า
หากใครไปท่องเที่ยวที่เมืองย่างกุ้ง และกำลังมองหาสถานที่อื่นๆ ใกล้เคียง ครั้งนี้จะขอชักชวนออกเดินทางออกนอกเมืองกันสักหน่อย โดยเมืองที่จะพาเยือนนั่นก็คือ “ตันลยิน” (Thanlyin) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “สิเรียม” (Syriam) อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 45 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำพะโคและแม่น้ำย่างกุ้ง ในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองท่าสำคัญในการเดินเรือของชาวโปรตุเกส
ปัจจุบันเมืองสิเรียมเป็นเมืองอุตสาหกรรม ชาวเมืองส่วนใหญ่ทำงานในโรงกลั่นน้ำมันหรือไม่ก็เป็นลูกจ้างในโรงเบียร์ ประชากรส่วนมากเป็นชาวพม่าเชื้อชายอินเดีย เพราะในสมัยที่พม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ สิเรียมเป็นศูนย์กลางของเมืองท่าและยังเป็นแหล่งผลิตอาหารส่งสู่กรุงย่างกุ้ง และอังกฤษต้องเกณฑ์แรงงานอินเดียมาทำนา แล้วพากันมาปักหลักทำมาหากินกันจนถึงปัจจุบันนี้
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเมื่อเดินทางมาเมืองสิเรียมแล้ว ก็คือ “ไจ๊มอวุน” หรือ “เจดีย์เยเลพญา” เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ตามตำนานเล่าว่า เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยมอญมอญเรืองอำนาจ เมื่อราวพันกว่าปีก่อน โดยมีคหบดีชาวมอญเป็นผู้สร้างและยังได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ได้มาเจอเกาะกลางน้ำบริเวณนี้ จึงสร้างเจดีย์ขึ้นมาและนำพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าสองเส้นที่ได้มาจากศรีลังกามาไว้ที่นี่
และท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ 3 ข้อ ข้อแรกถ้าน้ำท่วมก็ขออย่าให้ท่วมองค์พระเจดีย์ เพราะเจดีย์แห่งนี้สร้างบนเกาะมีสภาพเป็นเพียงเกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำกว้างใหญ่ ข้อสองถ้าประชาชนมากราบไหว้จำนวนมากก็ขอให้รองรับได้เพียงพอ และข้อสุดท้าย หากใครที่มากราบไหว้ขอพรก็ให้สมหวังดังปรารถนา หากทำให้การทำธุรกิจทางการค้า เจริญก้าวหน้าและสมดังใจหวัง
เมื่อมาถึงบริเวณจุดขึ้นเรือเพื่อนั่งข้ามฟากไปยังเจดีย์ฯ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยจะใช้เวลานั่งเรือเพียงแค่ห้านาทีเท่านั้น โดยนักท่องเที่ยวจะเสียค่าบริการเช่าเหมาเรือราคาลำละ 5,000 จ๊าด ระหว่างที่เรือพาเราข้ามมายังบริเวณเจดีย์ เราสามารถถอดรองเท้าฝากไว้ที่เรือด้วยก็ได้ เพราะการที่เราจะเข้าไปชมสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาของเมียนมาร์จะต้องถอดรองเท้าเข้า
ภายในกลางเจดีย์มีพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ที่ทำจากหยกขาวทรงเครื่องตามแบบฉบับพม่า นอกจากนี้ผู้คนนิยมมาสักการะ พระอุปคุต โดยคนที่นี่มีความเชื่อกันว่า พระอุปคุตจะบันดาลให้มีกินมีใช้ และมีโชคลาภ ซึ่งวิหารของพระอุปคุตจะอยู่ด้านหลังองค์เจดีย์ ถูกสร้างยื่นออกมาจากเกาะเล็กน้อย และถัดไปไม่ไกลนักจะมีเทพน้ำจืด-น้ำเค็ม ส่วนใหญ่ผู้คนที่มากราบไหว้เทพทั้งสององค์นี้มักจะขอพรในเรื่องของธุรกิจการค้า
และเมื่อเราเข้าไปชมความงดงามภายในเจดีย์ และไหว้พระขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นมาเดินมายังจุดขึ้นลงเรือ เพื่อรอเรือลำเดิมเพื่อข้ามฝั่งกลับไป
จากนั้นเดินทางไปยัง “เจดีย์ไจ๊เค้า” เป็นเจดีย์เก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง และเป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองสิเรียม สร้างโดยกษัตริย์รัฐมอญที่เมืองสะเทิม มาสร้างเจดีย์ที่เนินเขาชื่อว่าไลโป๊ะกง โดยเนินเขาแห่งนี้มีฤาษีอยู่ตนหนึ่งชื่อว่า คอลาก๊ะ หรือ เคาะล๊ะ อาศัยปกปักรักษาอยู่บริเวณเนินเขา เดิมเจดีย์แห่งนี้มีชื่อตามภาษามอญว่าไจ๊เคาะล๊ะ ต่อมาเพี้ยนเป็นภาษาเมียนมาร์ว่า ไจ๊เค้า โดยวัดแห่งนี้
ภายในเจดีย์ไจ๊เค้าจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิที่ผู้คนนิยมเข้าไปกราบไหว้บูชา นั่นก็คือพระเกศาของพระพุทธเจ้า 6 เส้นที่บรรจุอยู่ด้านในขององค์เจดีย์ ส่วนใหญ่จะมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล หากใครที่อยากจะมาขอพรนั้น จะต้องมากราบขอพระกับองค์เทพทันใจที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งมีชื่อชื่อว่า “ตันลยินไจ๊เค้าโบโบจี”
นอกจากนี้บริเวณด้านนอกของเจดีย์ มีองค์พระมหามัยมุนี องค์จำลอง สีเหลืองทองอร่าม เป็นพระพุทธรูปเพียงหนึ่งเดียวใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญสูงสุดของเมียนมาร์ ปัจจุบันองค์จริงประดิษฐานอยู่ที่ “วัดมหามัยมุนี” เมืองมัณฑะเลย์ พระมหามัยมุนี ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะชาวพม่าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้มาประทานลมหายใจอันศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในพระวรกายของพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งถือเป็นดังตัวแทนของพระพุทธองค์ที่มีชีวิตจิตใจ
เอกลักษณ์ของเจดีย์ไจ๊เค้า หากใครที่ได้มาเยือนจะสังเกตว่าเจดีย์แห่งนี้มีรูปทรงคล้ายกับเจดีย์ชเวดากองที่อยู่ในเมืองย่างกุ้ง มีพื้นฐานแปดเหลี่ยม ทรงระฆังคว่ำ มีลายบัวคว่ำบัวหงาย เพียงแค่มีขนาดที่แตกต่างกันเท่านั้น
ถ้าใครมาท่องเที่ยวที่เมืองย่างกุ้งแล้ว ก็อย่าลืมแวะมาเยือนเมืองสิเรียมด้วย นอกจากจะได้มาชมความงดงามของเจดีย์กลางน้ำแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอันเป็นเสน่ห์ในระหว่างการเดินทางอีกด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager