Facebook :Travel @ Manager

เวลาที่มีผองเพื่อนมิตรรักนักกินมาบอกกล่าวแนะนำกับ “ตระเวนกิน” ว่ามีร้านอาหารอร่อยๆ ชวนให้ไปลองลิ้ม คนชอบกินอย่างเราไม่เคยปฏิเสธคำแนะนำเหล่านั้นเลย ขอเพียงให้รู้ว่าร้านอาหารร้านเด็ดนั้นอยู่ที่ไหน เป็นต้องขอออกเดินทางตามไปลิ้มลองให้รู้รสกับปากตัวเอง ว่าร้านอาหารร้านนั้นมีอาหารรสเลิศให้ชิมจริงหรือเปล่า

ว่าแล้วในมื้อนี้เมื่อเราได้รับคำแนะนำมาว่าแถวถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง จังหวัดนนทบุรี มีร้านอาหารไทยเจ้าเด็ดแห่งหนึ่งชวนให้ไปลองลิ้ม คนชอบกินอย่างเรามีหรือจะมัวรอช้าอยู่ได้อย่างไร เรารีบตรงดิ่งมายังร้าน “ครัวลับแล” เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ โดยเป็นบ้านที่ดัดแปลงพื้นที่บางส่วนมาเปิดเป็นร้านอาหาร มีความเป็นกันเองแบบสไตล์บ้านสวนดูร่มรื่น ด้านในร้านมีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งในส่วนของห้องแอร์เย็นสบาย ส่วนของโต๊ะนั่งรับลมธรรมชาติด้านนอกชิลๆ และยังมีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย

นั่นคือส่วนของบรรยากาศร้านที่เมื่อมาถึงแล้วก็ชวนให้เราเลือกโต๊ะนั่งในมุมสบายๆ ตามชอบใจ ส่วนเรื่องอาหาร เมื่อมาเมนูมาดูก็ทำเอาน้ำลายสอปาก เพราะว่าที่นี่นำเสนอาหารไทยหลากหลาย มีทั้งแนวอาหารพื้นบ้านทั่วไป อาหารป่า และยังเน้นเมนูปลาแม่น้ำ ส่งตรงมาแบบสดๆ มาจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนปลาสัก
อาหารรสเลิศของที่ร้านนี้มีคุณเสนาะ น้อยศักดิ์ และคุณสุภาภรณ์ น้อยศักดิ์ ผู้เป็นทั้งเจ้าของร้านและพ่อครัวแม่ครัวฝีมือเอก ในการคิดสูตรเมนูต่างๆ ขึ้นมาเอง แล้วก็ให้ความใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างมาก ต้องมีความสดใหม่ และมีคุณภาพ ซึ่งทางเจ้าของร้านจ่ายตลาดสดเองทุกวัน เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเลิศรสมากหลาย ให้เหล่านักกินได้เลือกชิมแบบอิ่มอร่อยท้อง แล้วถ้าหากลูกค้าอยากจะสั่งอาหารอย่างอื่นๆ ที่มีนอกเหนือจากในเมนูของทางร้าน ก็สามารถบอกทางร้านได้ ซึ่งถ้าทางร้านมีวัตถุดิบก็จัดทำให้ลูกค้าได้กินแบบสมใจปาก อ้อ!! ต้องขอบอกด้วยว่าอาหารของที่นี่เสิร์ฟมาแบบจานใหญ่ เพระว่าเจ้าของร้านอยากจะให้ลูกค้าที่มากินอาหารอิ่มเอมกับอาหารอย่างเต็มที่

ในมื้อนี้เราได้เลือกสั่งเมนูจานเด็ดที่ถ้ามาถึงร้านแล้ว ต้องสั่งมาขึ้นโต๊ะชิมกันให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน จานแรกนำเสนอ ปลาดุกฟูดูไบ (180 บาท) ทางร้านนำปลาดุกสดๆ มาสับทอดจนฟูกรอบ แล้วคลุกเคล้ากับน้ำกะเพราสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ โรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบและพริกแห้งทอด ลิ้มรสปลาดุกฟูเคี้ยวกร้วมกรอบกรุบ ได้รสชาติเครื่องกะเพราจัดจ้านโดนใจ กินเพลินปากมากเมนูนี้

จานถัดมาชวนกินเมนูปลาแม่น้ำขึ้นชื่ออย่าง ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักปลา ขีดละ 75 บาท) หน้าตาสีสันอาหารน่ากิน ทางร้านเลือกเฟ้นปลาเนื้ออ่อนสดๆ ที่มีคุณภาพ นำมาทอดจนเนื้อปลาสุกได้ที่ แล้วราดด้วยเครื่องแกงฉู่ฉี่ ที่ปรุงจากเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง ใช้กะทิคั้นสด ปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะ แล้วโรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูดซอยหอมๆ กินฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนแล้วขอยกนิ้วให้ตรงที่เนื้อปลาแน่นนุ่มมีความหวานสด ฉ่ำน้ำเครื่องแกงฉู่ฉี่รสชาติเข้มข้นถึงพริกถึงเครื่องแกง กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันดีแท้

ชวนมาอร่อยกันต่อกับเมนู ปลากะพงทอดน้ำปลา (280 บาท) ทางร้านคัดสรรปลากะพงสดๆ ขนาด 1 กก. ขึ้นไป นำมาทอดแบบทั้งตัว แล้วราดด้วยน้ำปลาอย่างดีที่เคี่ยวกับตะไคร้เพิ่มความหอม กินปลากะพงทอดร้อนๆ เนื้อปลาหวานสดกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มน้ำปลารสชาติกลมกลอมลิ้น แถมยังมีน้ำยำมะม่วงเสิร์ฟมาให้กินเคียงกับปลาด้วย

อีกหนึ่งเมนูปลาแม่น้ำที่ไม่ควรพลาด คือ ต้มยำปลาคัง (150 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ มีเนื้อปลาคังซึ่งเป็นปลาแม่น้ำจากเมืองกาญจน์ ที่คัดมาแบบมีคุณภาพสดใหม่ นำมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ต้มกับเครื่องต้มยำไทยครบเครื่อง ใส่หอมแดงตำใส่ลงไปด้วยช่วยดับกลิ่นคาวปลา ใส่ใบกะเพราเพิ่มความหอม ใส่เห็ดและโรยด้วยพริกแห้งทอด เป็นต้มยำน้ำใสที่ซดน้ำซุปร้อนๆ แล้วช่างหอมกลิ่นใบกะเพรา และกลิ่นหอมแดงขึ้นจมูก รสชาติแซ่บเด็ดจัดจ้านถึงใจ เนื้อปลาคังสดหวานนุ่มแน่นถูกปากดีจริง

จากเมนูปลาหันมากินเมนูกุ้งกันบ้าง นำเสนอ กุ้งซอสมะขาม (300 บาท) เป็นกุ้งทะเลตัวใหญ่นำมาทอด แล้วราดด้วยซอสมะขามที่ปรุงเคี่ยวตามสูตรเด็ดเฉพาะ โรยหน้าด้วยหอมเจียวทอดและพริกแห้งทอด กินกุ้งตัวโตเนื้อแน่นเคี้ยวเด้งหวานสด ฉ่ำซอสมะขามรสเด็ดสะระตี่

แล้วมาชิมเมนูนี้กันต่อ น้ำพริกลงเรือ (150 บาท) เป็นน้ำพริกลงเรือครบเครื่องสูตรเด็ดเฉพาะที่ทางร้านคิดขึ้นมาเป็นพิเศษ ใส่หมูหวานกับปลาดุกฟูมาในน้ำพริกด้วย และใส่ไข่แดงเค็มโปะมาเต็มที่ มีไข่ต้มยางมะตูม พร้อมกับผักสดให้กินแกล้มกับน้ำพริกลงเรือรสชาติดีถูกลิ้นโดนใจ

ตามติดมาด้วยเมนูนี้ หลนเนื้อปู (150 บาท) ที่มีส่วนผสมของเนื้อปูและเนื้อไก่เคี่ยวกับกะทิ ใส่หอมแดง และปรุงรสตามสูตรเด็ด โรยหน้าด้วยเนื้อปู ชิมหลนเนื้อปูรสชาติกลมกล่อมมีความเข้มข้นถึงเครื่องหลนดีจริง มีผักสดให้กินเคียงกันด้วย

จากนั้นมาลองลิ้ม ยำวุ้นเส้นโบราณ (130 บาท) เป็นยำวุ้นเส้นที่มีส่วนผสมของวุ้นเส้น เห็นหูหนูดำ หมูสับ และที่เรียกว่าเป็นแบบโบราณก็คือใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสง ปรุงรสน้ำยำตามสูตรเฉพาะของทางร้าน ลิ้มรสแล้วถูกปากยิ่งนัก วุ้นเส้นเหนียวนุ่มชุ่มน้ำยำรสเด็ด เคี้ยวมันเพลินปากกับกุ้งแห้งและถั่วลิสง

เมนูต่อมาชวนมาอิ่มท้องกับ ข้าวผัดคุณชาย (180 บาท) หน้าตาสีสันน่ากิน ข้าวผัดจานนี้ทางร้านนำข้าวหอมมะลิ มาผัดกับกุ้งขาว ใส่ไชโป้ว กุ้งแห้ง และแครอท ผัดเครื่องทุกอย่างให้เข้ากันแบบร่วนๆ กินข้าวผัดข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มลิ้นไม่แฉะปาก รสชาติกลมกล่อมลงตัว มีมะนาวให้บีบเพิ่มรสชาติความเปรี้ยวตามชอบ และมีแตงกวากับต้นหอมให้กินแกล้มกัน

ส่งท้ายแนะนำเมนูซดน้ำซุปร้อนๆ ต้มจืดทรงเสวย (200 บาท) เป็นแกงจืดกะหล่ำปลีที่เอาแต่ใบกะหล่ำปลีมาห่อกับหมูสับปรุงรส มัดด้วยต้นหอมให้มีขนาดพอดีคำ ต้มกับน้ำซุปกระดุกหมู ใส่แครอท และเห็ดหอม เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมหวานกลมกล่อมคล่องคอ กะหล่ำปลีห่อหมูสับรสชาติเยี่ยมถูกปากดีนักแล

แต่ก็ใช่ว่าทางร้านจะมีเมนูจานเด่นเพียงเท่านี้ เพราะในเมนูยังมีอาหารจานเด็ดอีกหลายอย่างที่ชวนชิม อาทิ แกงป่าปลาคัง (150 บาท) ทอดมันปลากราย (150 บาท) กุ้งพริกเกลือ (300 บาท) กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (80 บาท) และอีกสารพัดเมนูอาหารไทยรสเลิศ ที่เรียกได้ว่า “ตระเวนกิน” คงจะต้องได้แวะมาฝากท้องอิ่มที่ร้าน “ครัวลับแล” แห่งนี้กันอีกหลายครั้งเป็นแน่ เพราะนอกจากอาหารรสชาติดีที่ถูกปากแล้ว การบริการจากเจ้าของร้านก็มีอัธยาศัยไมตรีที่น่ารัก ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ครัวลับแล” ตั้งอยู่ที่ 3/4 หมู่ 3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี การเดินทางจากสะพานพระราม5 วิ่งไปตามถนนนครอินทร์ จนก่อนถึงสะพานข้ามแยกบางกรวย-ไทรน้อย จะเห็นห้างโลตัสสาขานครอินทร์อยู่ทางซ้ายมือ ให้ชิดซ้ายเข้าถนนคู่ขนาน เจอแยกไฟแดงให้ชิดขวา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย วิ่งตรงต่อไปประมาณ 2.2 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแปดหมื่นสามัคคี ปากซอยจะมีป้ายครัวลับแลให้เห็นชัดเจน (จะมีป้ายบอกทางไปร้านครัวลับแลตลอดเส้นทาง) วิ่งตรงไปจนเจอป้ายเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวขวาจนเจอป้ายหมู่บ้านภิรมย์ การ์เด้นโฮม เจอป้ายหมู่บ้านแล้วให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไปจนเจอป้ายให้เลี้ยวขวา เลี้ยวขวาแล้ววิ่งตรงต่อไป จะเห็นร้านครัวลับแลอยู่ขวามือ มีที่จอดรถให้บริการ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 9.00 ครัวปิดเวลา 20.30 น. ถ้ามากินอาหารวันศุกร์ - อาทิตย์ ควรโทร. มาจองโต๊ะนั่งล่วงหน้า ทางร้านมีบริการจัดเลี้ยงทั้งภายในร้านควรโทร. จองล่วงหน้าก่อน และมีบริการจัดงานเลี้ยงต่างๆ นอกสถานที่ด้วย โทร. 08-9884-7590, 08-9771-7190 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ครัวลับแล
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เวลาที่มีผองเพื่อนมิตรรักนักกินมาบอกกล่าวแนะนำกับ “ตระเวนกิน” ว่ามีร้านอาหารอร่อยๆ ชวนให้ไปลองลิ้ม คนชอบกินอย่างเราไม่เคยปฏิเสธคำแนะนำเหล่านั้นเลย ขอเพียงให้รู้ว่าร้านอาหารร้านเด็ดนั้นอยู่ที่ไหน เป็นต้องขอออกเดินทางตามไปลิ้มลองให้รู้รสกับปากตัวเอง ว่าร้านอาหารร้านนั้นมีอาหารรสเลิศให้ชิมจริงหรือเปล่า
ว่าแล้วในมื้อนี้เมื่อเราได้รับคำแนะนำมาว่าแถวถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง จังหวัดนนทบุรี มีร้านอาหารไทยเจ้าเด็ดแห่งหนึ่งชวนให้ไปลองลิ้ม คนชอบกินอย่างเรามีหรือจะมัวรอช้าอยู่ได้อย่างไร เรารีบตรงดิ่งมายังร้าน “ครัวลับแล” เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ โดยเป็นบ้านที่ดัดแปลงพื้นที่บางส่วนมาเปิดเป็นร้านอาหาร มีความเป็นกันเองแบบสไตล์บ้านสวนดูร่มรื่น ด้านในร้านมีโต๊ะให้เลือกนั่งทั้งในส่วนของห้องแอร์เย็นสบาย ส่วนของโต๊ะนั่งรับลมธรรมชาติด้านนอกชิลๆ และยังมีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย
นั่นคือส่วนของบรรยากาศร้านที่เมื่อมาถึงแล้วก็ชวนให้เราเลือกโต๊ะนั่งในมุมสบายๆ ตามชอบใจ ส่วนเรื่องอาหาร เมื่อมาเมนูมาดูก็ทำเอาน้ำลายสอปาก เพราะว่าที่นี่นำเสนอาหารไทยหลากหลาย มีทั้งแนวอาหารพื้นบ้านทั่วไป อาหารป่า และยังเน้นเมนูปลาแม่น้ำ ส่งตรงมาแบบสดๆ มาจากเขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนปลาสัก
อาหารรสเลิศของที่ร้านนี้มีคุณเสนาะ น้อยศักดิ์ และคุณสุภาภรณ์ น้อยศักดิ์ ผู้เป็นทั้งเจ้าของร้านและพ่อครัวแม่ครัวฝีมือเอก ในการคิดสูตรเมนูต่างๆ ขึ้นมาเอง แล้วก็ให้ความใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบเป็นอย่างมาก ต้องมีความสดใหม่ และมีคุณภาพ ซึ่งทางเจ้าของร้านจ่ายตลาดสดเองทุกวัน เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูเลิศรสมากหลาย ให้เหล่านักกินได้เลือกชิมแบบอิ่มอร่อยท้อง แล้วถ้าหากลูกค้าอยากจะสั่งอาหารอย่างอื่นๆ ที่มีนอกเหนือจากในเมนูของทางร้าน ก็สามารถบอกทางร้านได้ ซึ่งถ้าทางร้านมีวัตถุดิบก็จัดทำให้ลูกค้าได้กินแบบสมใจปาก อ้อ!! ต้องขอบอกด้วยว่าอาหารของที่นี่เสิร์ฟมาแบบจานใหญ่ เพระว่าเจ้าของร้านอยากจะให้ลูกค้าที่มากินอาหารอิ่มเอมกับอาหารอย่างเต็มที่
ในมื้อนี้เราได้เลือกสั่งเมนูจานเด็ดที่ถ้ามาถึงร้านแล้ว ต้องสั่งมาขึ้นโต๊ะชิมกันให้ได้ก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน จานแรกนำเสนอ ปลาดุกฟูดูไบ (180 บาท) ทางร้านนำปลาดุกสดๆ มาสับทอดจนฟูกรอบ แล้วคลุกเคล้ากับน้ำกะเพราสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ โรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบและพริกแห้งทอด ลิ้มรสปลาดุกฟูเคี้ยวกร้วมกรอบกรุบ ได้รสชาติเครื่องกะเพราจัดจ้านโดนใจ กินเพลินปากมากเมนูนี้
จานถัดมาชวนกินเมนูปลาแม่น้ำขึ้นชื่ออย่าง ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักปลา ขีดละ 75 บาท) หน้าตาสีสันอาหารน่ากิน ทางร้านเลือกเฟ้นปลาเนื้ออ่อนสดๆ ที่มีคุณภาพ นำมาทอดจนเนื้อปลาสุกได้ที่ แล้วราดด้วยเครื่องแกงฉู่ฉี่ ที่ปรุงจากเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง ใช้กะทิคั้นสด ปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะ แล้วโรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูดซอยหอมๆ กินฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนแล้วขอยกนิ้วให้ตรงที่เนื้อปลาแน่นนุ่มมีความหวานสด ฉ่ำน้ำเครื่องแกงฉู่ฉี่รสชาติเข้มข้นถึงพริกถึงเครื่องแกง กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันดีแท้
ชวนมาอร่อยกันต่อกับเมนู ปลากะพงทอดน้ำปลา (280 บาท) ทางร้านคัดสรรปลากะพงสดๆ ขนาด 1 กก. ขึ้นไป นำมาทอดแบบทั้งตัว แล้วราดด้วยน้ำปลาอย่างดีที่เคี่ยวกับตะไคร้เพิ่มความหอม กินปลากะพงทอดร้อนๆ เนื้อปลาหวานสดกรอบนอกนุ่มใน ชุ่มน้ำปลารสชาติกลมกลอมลิ้น แถมยังมีน้ำยำมะม่วงเสิร์ฟมาให้กินเคียงกับปลาด้วย
อีกหนึ่งเมนูปลาแม่น้ำที่ไม่ควรพลาด คือ ต้มยำปลาคัง (150 บาท) จัดเสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ มีเนื้อปลาคังซึ่งเป็นปลาแม่น้ำจากเมืองกาญจน์ ที่คัดมาแบบมีคุณภาพสดใหม่ นำมาหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ต้มกับเครื่องต้มยำไทยครบเครื่อง ใส่หอมแดงตำใส่ลงไปด้วยช่วยดับกลิ่นคาวปลา ใส่ใบกะเพราเพิ่มความหอม ใส่เห็ดและโรยด้วยพริกแห้งทอด เป็นต้มยำน้ำใสที่ซดน้ำซุปร้อนๆ แล้วช่างหอมกลิ่นใบกะเพรา และกลิ่นหอมแดงขึ้นจมูก รสชาติแซ่บเด็ดจัดจ้านถึงใจ เนื้อปลาคังสดหวานนุ่มแน่นถูกปากดีจริง
จากเมนูปลาหันมากินเมนูกุ้งกันบ้าง นำเสนอ กุ้งซอสมะขาม (300 บาท) เป็นกุ้งทะเลตัวใหญ่นำมาทอด แล้วราดด้วยซอสมะขามที่ปรุงเคี่ยวตามสูตรเด็ดเฉพาะ โรยหน้าด้วยหอมเจียวทอดและพริกแห้งทอด กินกุ้งตัวโตเนื้อแน่นเคี้ยวเด้งหวานสด ฉ่ำซอสมะขามรสเด็ดสะระตี่
แล้วมาชิมเมนูนี้กันต่อ น้ำพริกลงเรือ (150 บาท) เป็นน้ำพริกลงเรือครบเครื่องสูตรเด็ดเฉพาะที่ทางร้านคิดขึ้นมาเป็นพิเศษ ใส่หมูหวานกับปลาดุกฟูมาในน้ำพริกด้วย และใส่ไข่แดงเค็มโปะมาเต็มที่ มีไข่ต้มยางมะตูม พร้อมกับผักสดให้กินแกล้มกับน้ำพริกลงเรือรสชาติดีถูกลิ้นโดนใจ
ตามติดมาด้วยเมนูนี้ หลนเนื้อปู (150 บาท) ที่มีส่วนผสมของเนื้อปูและเนื้อไก่เคี่ยวกับกะทิ ใส่หอมแดง และปรุงรสตามสูตรเด็ด โรยหน้าด้วยเนื้อปู ชิมหลนเนื้อปูรสชาติกลมกล่อมมีความเข้มข้นถึงเครื่องหลนดีจริง มีผักสดให้กินเคียงกันด้วย
จากนั้นมาลองลิ้ม ยำวุ้นเส้นโบราณ (130 บาท) เป็นยำวุ้นเส้นที่มีส่วนผสมของวุ้นเส้น เห็นหูหนูดำ หมูสับ และที่เรียกว่าเป็นแบบโบราณก็คือใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสง ปรุงรสน้ำยำตามสูตรเฉพาะของทางร้าน ลิ้มรสแล้วถูกปากยิ่งนัก วุ้นเส้นเหนียวนุ่มชุ่มน้ำยำรสเด็ด เคี้ยวมันเพลินปากกับกุ้งแห้งและถั่วลิสง
เมนูต่อมาชวนมาอิ่มท้องกับ ข้าวผัดคุณชาย (180 บาท) หน้าตาสีสันน่ากิน ข้าวผัดจานนี้ทางร้านนำข้าวหอมมะลิ มาผัดกับกุ้งขาว ใส่ไชโป้ว กุ้งแห้ง และแครอท ผัดเครื่องทุกอย่างให้เข้ากันแบบร่วนๆ กินข้าวผัดข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มลิ้นไม่แฉะปาก รสชาติกลมกล่อมลงตัว มีมะนาวให้บีบเพิ่มรสชาติความเปรี้ยวตามชอบ และมีแตงกวากับต้นหอมให้กินแกล้มกัน
ส่งท้ายแนะนำเมนูซดน้ำซุปร้อนๆ ต้มจืดทรงเสวย (200 บาท) เป็นแกงจืดกะหล่ำปลีที่เอาแต่ใบกะหล่ำปลีมาห่อกับหมูสับปรุงรส มัดด้วยต้นหอมให้มีขนาดพอดีคำ ต้มกับน้ำซุปกระดุกหมู ใส่แครอท และเห็ดหอม เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมหวานกลมกล่อมคล่องคอ กะหล่ำปลีห่อหมูสับรสชาติเยี่ยมถูกปากดีนักแล
แต่ก็ใช่ว่าทางร้านจะมีเมนูจานเด่นเพียงเท่านี้ เพราะในเมนูยังมีอาหารจานเด็ดอีกหลายอย่างที่ชวนชิม อาทิ แกงป่าปลาคัง (150 บาท) ทอดมันปลากราย (150 บาท) กุ้งพริกเกลือ (300 บาท) กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา (80 บาท) และอีกสารพัดเมนูอาหารไทยรสเลิศ ที่เรียกได้ว่า “ตระเวนกิน” คงจะต้องได้แวะมาฝากท้องอิ่มที่ร้าน “ครัวลับแล” แห่งนี้กันอีกหลายครั้งเป็นแน่ เพราะนอกจากอาหารรสชาติดีที่ถูกปากแล้ว การบริการจากเจ้าของร้านก็มีอัธยาศัยไมตรีที่น่ารัก ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกคน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ครัวลับแล” ตั้งอยู่ที่ 3/4 หมู่ 3 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี การเดินทางจากสะพานพระราม5 วิ่งไปตามถนนนครอินทร์ จนก่อนถึงสะพานข้ามแยกบางกรวย-ไทรน้อย จะเห็นห้างโลตัสสาขานครอินทร์อยู่ทางซ้ายมือ ให้ชิดซ้ายเข้าถนนคู่ขนาน เจอแยกไฟแดงให้ชิดขวา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย วิ่งตรงต่อไปประมาณ 2.2 กม. เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแปดหมื่นสามัคคี ปากซอยจะมีป้ายครัวลับแลให้เห็นชัดเจน (จะมีป้ายบอกทางไปร้านครัวลับแลตลอดเส้นทาง) วิ่งตรงไปจนเจอป้ายเลี้ยวขวา ให้เลี้ยวขวาจนเจอป้ายหมู่บ้านภิรมย์ การ์เด้นโฮม เจอป้ายหมู่บ้านแล้วให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไปจนเจอป้ายให้เลี้ยวขวา เลี้ยวขวาแล้ววิ่งตรงต่อไป จะเห็นร้านครัวลับแลอยู่ขวามือ มีที่จอดรถให้บริการ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 9.00 ครัวปิดเวลา 20.30 น. ถ้ามากินอาหารวันศุกร์ - อาทิตย์ ควรโทร. มาจองโต๊ะนั่งล่วงหน้า ทางร้านมีบริการจัดเลี้ยงทั้งภายในร้านควรโทร. จองล่วงหน้าก่อน และมีบริการจัดงานเลี้ยงต่างๆ นอกสถานที่ด้วย โทร. 08-9884-7590, 08-9771-7190 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ครัวลับแล
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager