xs
xsm
sm
md
lg

เยือนสุคิริน ถิ่น “ภูเขาทอง” อดีตเหมืองทอง ล่องแม่น้ำสายบุรี

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
ล่องแก่งภูเขาทอง ต้นน้ำสายบุรี
“สุคิริน” เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัด“นราธิวาส” ที่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือมาเลเซีย ซึ่งที่นี่มีชุมชนท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจไม่น้อย นั่นก็คือที่ ตำบล “ภูเขาทอง”

ตำบลภูเขาทองมีประวัติความเป็นมาบันทึกเอาไว้ว่า ในอดีต(จนถึงปัจจุบัน)ดินแดนแห่งนี้มีแร่ทองคำมาก ช่วงก่อนปี พ.ศ. 2474 ชาวฝรั่งเศสได้เข้ามารับสัมปทานทำเหมืองแร่ทองคำบริเวณภูเขาโต๊ะโมะในปัจจุบัน (เดิมเรียกภูเขาลีซอ) จึงมีราษฎรจากพื้นที่ต่างๆอพยพเข้ามาทำเหมืองเป็นจำนวนมาก ทางการจึงได้จัดตั้งกิ่งอำเภอปาโจขึ้นในปี พ.ศ. 2474 ที่บริเวณบ้านโต๊ะโมะในปัจจุบัน
จุดท่องเที่ยวในตำบลภูเขาทอง
ต่อมาได้เกิดสงครามเอเชียมหาบูรพาขึ้น ชาวฝรั่งเศสจึงอพยพสงครามกลับประเทศ รัฐบาลจึงได้ดำเนินการทำเหมืองต่ออีกประมาณปีกว่าๆก็เกิดเหตุการณ์ ฉ้อราษฎร์บังหลวง ปล้นสะดมทองคำ และเหตุการณ์ความไม่สงบ ทางการจึงได้ล้มเลิกกิจการเหมืองทองคำ ราษฎรที่อพยพมาจึงได้อพยพกลับถิ่นฐานเดิม ภายหลังจึงได้ยุบกิ่งอำเภอปาโจลง ในปี พ.ศ. 2484 จากนั้นในปี พ.ศ. 2506 รัฐบาลได้จัดตั้ง นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้จังหวัดนราธิวาสขึ้น เพื่ออพยพราษฎรที่มีฐานะยากจน ไม่มีที่ดินทำกินจากถิ่นต่างๆ เข้ามาอยู่อาศัย

เดิมพื้นที่ตำบลภูเขาทอง(ในปัจจุบัน) ขึ้นอยู่กับตำบลมาโมง อำเภอแว้ง แต่เมื่อมีการจัดตั้งตำบลมาโมงเป็นกิ่งอำเภอสุคิริน ก็ได้จัดตั้งตำบลภูเขาทองขึ้นในปี พ.ศ. 2523

ปัจจุบันตำบลภูเขาทอง (มี 8 หมู่บ้าน) เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอสุคิริน ประชากรชาวตำบลภูเขาทอง นอกจากชาวนราธิวาส ชาวใต้แล้ว ก็ยังมีราษฎรที่อพยพมาจากที่อื่นๆ โดยเฉพาะจากภาคอีสาน ซึ่งได้นำประเพณีวัฒนธรรมติดตัวมาด้วยโดยเฉพาะประเพณีบุญบั้งไฟที่มีการจัดขึ้นเพียงหนึ่งเดียวในภาคใต้ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส (จัดขึ้นประมาณวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมิถุนายน ของทุกปี)
การร่อนทองยังเป็นอาชีพเสริมของชาวบ้าน
สำหรับในปัจจุบันนี้ ตำบลภูเขาทองเปิดให้เป็นชุมชนท่องเที่ยว โดยมีชาวบ้านในชุมชนเป็นผู้นำเที่ยว มีกิจกรรมมากมายให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองร่อนทอง ล่องแก่งต้นน้ำสายบุรี ชมต้นกะพงยักษ์ ชิมเมนูอาหารท้องถิ่น แล้วก็ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้ให้บริการด้วย

ตำบลภูเขาทองได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นของทองคำ อย่างที่มาของชื่อหมู่บ้านภูเขาทองก็มาจากตอนที่ชาวบ้านได้มาขุดหลุมวางเสาที่พักชั่วคราว แล้วเจอทองคำจึงได้ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านภูเขาทอง ซึ่งครั้งหนึ่งชาวฝรั่งเศสได้เข้ามาสัมปทานทำเหมืองแร่ทองคำตามที่กล่าวมาข้างต้น
เครื่องมือการร่อนทอง
แร่ทองคำที่ร่อนได้
ปัจจุบันบ้านภูเขาทองแม้จะยกเลิกสัมปทานไปแต่ความอุดมสมบูรณ์ของแร่ทองคำยังคงอยู่ ทุกวันนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งของที่นี่ยังคงไว้ซึ่งการร่อนแร่ทองคำในลำน้ำตามวิถีแห่งภูมิปัญญาพื้นบ้าน

การ “ร่อนทอง” ที่บ้านภูเขาทอง หลักๆ ก็จะเหมือนกับที่อื่นๆ คือจะมีการนำอุปกรณ์ร่อนทองที่ชาวบ้านที่นี่เรียกกันว่า “ชะเลียง” หรือ “เลียง” อุปกรณ์ร่อนทองรูปร่างคล้ายกระทะทำจากไม้หลุมพอ ไปยืนในตำแหน่งน้ำไหลที่น่าจะมีแร่ทองคำลงไปร่อนแร่ แล้วร่อนไปเป็นรอบๆ ไม่นานก็ได้ทองคำขึ้นมาให้รวบรวมนำไปขายได้แล้ว

สำหรับทองคำที่นี่เป็นทองคำบริสุทธิ์ เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตที่ทำเป็นอาชีพเสริม โดยเมื่อเสร็จจากอาชีพหลักก็จะลงไปร่อนแร่หาทองคำกันในลำคลอง สนนราคาขายกันกรัมละพันกว่าบาท บางคนหาขายทองได้หลักร้อย หลักหลายร้อยต่อวัน บางคนโชคดีก็ขายได้วันละเป็นพัน นับเป็นรายได้เสริมที่รายได้ดีทีเดียว
อุโมงค์ลำเลียง
จุดลงล่องแก่ง
ส่วนร่องรอยเหมืองทองที่ยังคงอยู่ที่ภูเขาทอง ก็ยังหลงเหลืออยู่ให้ชม โดยมี “เหมืองทองคำโต๊ะโมะ” ที่ยังคงสภาพใกล้เคียงของเดิม (ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้เข้าชม) และ “อุโมงค์ลำเลียง” ที่เป็นอุโมงค์ใต้ภูเขา ใช้สำหรับขนส่งแร่และเครื่องมือต่างๆ เมื่อสมัยยังเปิดเหมืองทองคำ

อีกกิจกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือ “ล่องแก่งภูเขาทอง” ซึ่งจะเป็นการล่องแก่งด้วยเรือคายักไปตามต้นน้ำสายบุรี ที่แวดล้อมไปด้วยภาพของวิถีชีวิตและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
ล่องแก่งภูเขาทอง
กิจกรรมล่องแก่งภูเขาทองมีระยะทางประมาณ 7 กม. ใช้เวลาล่องแกงที่มีความแรงของสายน้ำในระดับ 1-2 ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือหากใครมีเวลาน้อยกว่านี้ ก็สามารถแจ้งล่วงหน้า ให้เลือกเส้นทางที่สั้นกว่านี้ได้ โดยฤดูกาลที่เหมาะกับการล่องแก่งก็คือช่วงเดือนกันยายน-มกราคม

เมื่อล่องแก่งมาขึ้นบนฝั่งยังจุดหมายแล้ว ต่อจากนั้นก็จะให้นักท่องเที่ยวได้ไปดูวิถีการร่อนทองของชาวบ้าน ที่ในเส้นทางช่วงท้ายๆ ของการล่องแก่งจะเป็นแหล่งร่อนแร่หาทองของชาวบ้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถไปร่วมทดลองร่อนหาทองกับชาวบ้านได้
ทางเข้าชมต้นกะพงษ์ยักษ์
อีกไฮไลต์ของตำบลภูเขาทองก็คือ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา” ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของภาคใต้ ที่ถือเป็นแหล่งนกเงือกที่สำคัญที่สุดของเมืองไทย โดยพบนกเงือกที่นี่ถึง 10 ชนิด จากจำนวน 13 ชนิดที่สำรวจพบในเมืองไทย

สำหรับผืนป่าบาลา-ฮาลา ใน ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส นอกจากจะมีความอุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีไฮไลท์สำคัญคือ “ต้นกะพงษ์ยักษ์” หรือ “ต้นสมพง” ขนาดใหญ่มาก อายุนับร้อยปี ที่มีขนาดลำต้นช่วงพูพอนใหญ่ถึงประมาณ 29-30 คนโอบ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าใหญ่อันอุดมสมบูรณ์
ต้นกะพงษ์ยักษ์
หากมาเที่ยวที่ตำบลภูเขาทองแล้วอยากเข้าไปสัมผัสผืนป่าฮาลา-บาลา อย่างใกล้ชิด ก็มีการจัดเส้นทางเดินป่า 2 วัน 1 คืน และ 2 วัน 3 คืน โดยให้แจ้งทางชุมชนล่วงหน้า ทางชุมชนจะประสานงานเจ้าหน้าที่ และนำทางให้

จุดท่องเที่ยวในตำบลภูเขาทองยังไม่ได้หมดแค่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายแห่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่ ศาลเจ้าแม่โต๊ะโมะ สำนักสงฆ์พระธาตุภูเขาทอง จุดแสนไลค์ วัดโต๊ะโม และจุดชมวิวทะเลหมอก
จุดชมวิวทะเลหมอก (ภาพจากเฟสบุค ชุมชนท่องเที่ยวภูเขาทอง)
ชิมเมนูท้องถิ่น
ถ้าจะเที่ยวให้เข้าถึงชุมชนอย่างลึกซึ้ง แนะนำให้มาพักโฮมสเตย์ของที่นี่ โดยหนึ่งคืนสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 120 คน มีบ้านหลายหลังกระจายตัวกันอยู่ในชุมชน มานอกนพักในบรรยากาศธรรมชาติที่สดชื่น ชิมเมนูพื้นถิ่นอร่อยๆ ที่ได้วัตถุดิบสดๆ จากในพื้นที่มาปรุงเป็นเมนูอร่อย และหากใครมาเที่ยวในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ ต้องได้ชิมผลไม้อร่อยๆ สดๆ จากต้น โดยเฉพาะทุเรียนบ้าน ที่ออกผลผลิตมาพร้อมๆ กัน คอทุเรียนห้ามพลาด
ทุเรียนบ้านสดๆ จากต้น
* * * * * * * * * * * * * * * * *

ติดต่อ ศูนย์ประสานการท่องเที่ยวตำบลภูเขาทอง โทร. 0-7370-9726 Facebook : ชุมชน ท่องเที่ยวภูเขาทอง

สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวในจังหวัดนราธิวาสได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส (ดูแลพื้นที่ นราธิวาส ยะลา และ ปัตตานี) โทร. 0-7354-2345, 0-7354-2346 Facebook : TAT Narathiwat ททท.สำนักงานนราธิวาส
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น