xs
xsm
sm
md
lg

“มาเรียม-แม่คน-แม่ส้ม”...แม่-ลูกต่างสายพันธุ์ อัศจรรย์แห่งความรัก/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
มาเรียมในอ้อมกอดของแม่คน (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
เรื่องราวสายใยความรักระหว่าง “แม่-ลูก” ไม่ได้มีเฉพาะระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ หรือ สัตว์ประเภทเดียวกันเท่านั้น หากแต่ยังมีความรักของแม่-ลูกต่างสายพันธุ์ ข้ามสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจแก่ผู้รับรู้

สำหรับหนึ่งในเรื่องราวความผูกพันแห่งสายใยรักอันโด่งดังของแม่-ลูกต่างสายพันธุ์ที่ปรากฏในช่วงกว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมาและยังดำเนินอยู่ต่อไปก็คือ ปรากฏการณ์แม่ลูกผูกพันระหว่าง พะยูนน้อย น้อง “มาเรียม” กับบรรดาเหล่าแม่ ๆ ต่าง ๆ ของน้อง ไม่ว่าจะเป็น “แม่คน” หรือ “แม่ส้ม” ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นและผู้รับรู้ในเรื่องราว ชนิดที่บางแม้จิตใจปลื้มปริ่มแต่ก็น้ำตาซึมคลอหน่วยอยู่ในที

ซุปตาร์มาเรียม
ภาพน้องมาเรียมเมื่อครั้งมาเกยตื้นที่อ่าวทึง (ภาพ : อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา- หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่)
เรื่องราวของน้องมาเรียมที่วันนี้กลายเป็นซุปตาร์สัตว์โลกผู้น่ารักขวัญใจชาวเน็ตนั้น ถือกำเนิดขึ้นดังฟ้าขิลิต เริ่มจาก
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 62 ได้มีการพบเจอลูกพะยูนน้อย มาเกยตื้นตัวเดี่ยวโดด ๆ ที่อ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทราบทราบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย อายุประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งตอนแรกชาวบ้านที่กระบี่ได้นำลูกพะยูนน้อยตัวนี้ไปปล่อยคืนสู่ทะเล แต่ปรากฏว่ามันได้ว่ายเวียนกลับมาป้วนเปี้ยนยังที่เดิม ๆ อีก พวกเขาจึงคาดว่ามันคงพลัดหลงจากอกแม่มาว่ายป้วนเปี้ยนรอคอยแม่อยู่ที่บริเวณทะเลแถบนี้

เรื่องนี้จากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เห็นว่าหากปล่อยมันไปตามธรรมชาติคงจะไม่รอดแน่ ทางเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำลูกพะยูนน้อยจากกระบี่ ย้ายไปทำการอนุบาลที่บริเวณบ้านแหลมจูโหย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นแหล่งหญ้าทะเลอาหารของพะยูน และเป็นแหล่งอยู่อาศัยของพะยูนมากที่สุดในเมืองไทย
เกยตื้น หิวนม ดูดครีบ ลักษณะเด่นของน้องมาเรียม
เมื่อย้ายสำมะโนครัวเจ้าพะยูนน้อยตัวนี้ไปยังที่อยู่แห่งใหม่ ในทะเลตรังแล้ว ก็ได้มีการตั้งชื่อให้ลูกพะยูนตัวนี้ว่า “มาเรียม” ซึ่งแปลว่า “หญิงสาวที่มีความสง่างามแห่งท้องทะเล

หลังจากนั้นเรื่องราวความน่ารักของน้องมาเรียมก็ได้ปรากฏผ่านสื่อ ผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นที่รับรู้ของคนในวงกว้างเกิดเป็นกระแส “มาเรียมฟีเวอร์” ซึ่งวันนี้คนจำนวนมากที่เป็น FC ของลูกพะยูนน้อยตัวนี้ ต่างเอาใจช่วยให้น้องมาเรียมอยู่รอดปลอดภัย และสามารถแหวกว่ายกลับคืนสู่ทะเลใหญ่ได้ในเร็ววัน

มาเรียมกับแม่ ๆ
เจ้าหน้าที่ผู้เสียสละผู้ทำหน้าที่แม่คอยป้อนนมน้องมาเรียม (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
เรื่องราวของน้องมาเรียมนอกจากจะเผยให้เห็นถึงสิ่งดี ๆ ของการอนุรักษ์สัตว์และทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งแง่งามนั่นก็คือ เรื่องราวสายใยความรักต่างสายพันธุ์ฉันท์แม่-ลูก ระหว่างพะยูนกับคน ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้เนื่องจากในการอนุบาลน้องมาเรียมก่อนปล่อยคืนสู่ทะเลใหญ่นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ลูกพะยูนตัวนี้จะต้องมีคนมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชม. คอยป้อนนมทุกวัน (1-2 ลิตร/วัน) พร้อมพาฝึกว่ายน้ำออกกำลังกาย รวมถึงต้องช่วยนำน้องกลับลงน้ำยามเมื่อว่ายน้ำมาเกยตื้นที่ชายหาด (น้องชอบว่ายน้ำมาเกยตื้นที่ชายหาด เนื่องจากไม่มีแม่ว่ายนำทาง)
เหล่าแม่ ๆ คน ช่วยกันดูแลยามน้องมาเรียมเจ็บป่วย (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
นั่นจึงทำให้มีคนกลุ่มหนึ่งต้องเสียสละตัว (อย่างมาก) เพื่อมาคอยดูแลน้องมาเรียม ไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ฯลิบง สัตวแพทย์ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกลุ่มพิทักษ์ดุหยง รวมถึงอาสาสมัครต่าง ๆ ต่างพากันอุทิศตนมาเป็น “แม่” ของน้องมาเรียม ทั้งแม่นม แม่บุญธรรม และ พี่เลี้ยง นับเป็นลูกพะยูนตัวแรกในเมืองไทย ที่มีแม่เป็นคนคอยดูแลเลี้ยงจริงในทะเล ซึ่งต้องขอคารวะในหัวใจของเหล่าบรรดาผู้เสียสละเหล่านี้

แม่ส้ม

นอกจากแม่ที่เป็นมนุษย์แล้ว น้องมาเรียมยังต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวใจ ที่ก็มีทั้ง แม่ส้ม แม่หิน แม่ไม้ ซึ่งคุณหมอ “นันทริกา ชันซื่อ” ได้โพสต์เรื่องราวของแม่ สิ่งยึดเหนี่ยวของน้องมาเรียมเอาไว้ได้อย่างน่าสะทกสะท้อนใจ จนทำให้หลายคนอ่านแล้วถึงกับน้ำตาคลอหน่อย

โดย รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุคของตัวเองในชื่อ Nantarika Chansue ว่า

...รักษาสัตว์มา 30 ปี เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย มามากพอควร.... แต่เรื่องราวของเจ้าพะยูนกำพร้า "มาเรียม" สามารถทำให้ทำให้เราสะท้อนใจได้

มาเรียมอายุเพียง 4-5 เดือน เมื่อสำรวจฟันก็เพิ่งเริ่มขึ้นไม่กี่ซี่ ยังไม่พ้นเหงือกพอที่จะกินหญ้าถนัด จึงต้องกินนมเป็นหลัก ใช้สูตรของนมพะยูนจากต่างประเทศโดยใช้นมผงที่มาจากแพะและผสมวิตามินกับสารอาหารที่จำเป็น กินวันละประมาณ 2 ลิตร ทุก 1-2 ชั่วโมง เป็นงานที่เหนื่อยพอควรสำหรับคนดูแล

สิ่งยึดเหนี่ยวของมาเรียมที่รูปร่างใกล้เคียงแม่ที่สุด คือ เรือแคนูสีส้ม พวกเราเรียกว่า "แม่ส้ม"ทุกครั้งที่เธอต้องการความรักความอบอุ่น เธอจะว่ายไปอยู่ใต้เรือ นอนหงายเอาแขนกอดเรือบ้าง ว่ายตามไปข้างๆเหมือนว่ายไปกับแม่บ้าง หรือเอาตัวว่ายถูไปมาเหมือนจะบอกว่า "แม่จ๋า... หนูคิดถึงแม่"

ตอนหมอป้อนนม ท่าที่มาเรียมชอบมากที่สุดคือเอามือโอบที่ครีบหน้าข้างหนึ่งไว้กับตัวเรา เหมือนเวลาที่แม่โอบเขาเวลากินนม ... ดูดนมแล้วเพลินหลับเหมือนเด็กๆ ...

ที่น่าสงสารมากคือตอนกลางคืนที่เธอต้องอยู่คนเดียวมืดๆ เธอก็มักไปซุกหินบ้าง (หินแม่) ท่อนไม้ (ไม้แม่)บ้าง ถ้าเผลอน้ำลงก็เกยตื้น เพราะไม่มีแม่มาพาไปยังที่น้ำลึกพอ... โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังอยู่ 24 ชม จึงช่วยได้ทัน

อยากจะบอกมาเรียมว่า... คงไม่มีโอกาสได้เจอแม่อีกแล้ว ไม่รู้ว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่แค่พลัดหลงกันหรือแม่ติดเครื่องมือประมงเหมือนพะยูนอีกหลายตัวที่เสียชีวิตไป หรือเจ็บป่วยล้มตายไป ในทะเลกระบี่ แต่ทุกคนที่ตรังกำลังพยายามเต็มที่ที่จะทำให้เธออยู่รอด สามารถเติบโตต่อไปในโลกนี้ได้.....
มาเรียมว่ายซุกใต้ท้องแม่ส้ม (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
จากข้อความในโพสต์ของคุณหมอนันทริกา ถือเป็นการเปิดโลกให้คนรู้จักกับแม่ส้ม และทำให้ผู้คนจำนวนมากต้องทึ่งกับสายใยความรักระหว่างแม่-ลูกคู่นี้ที่ถือเป็นอีกหนึ่งการฉีกปรากฏการณ์ความรักแห่งบรรณพิภพ เพราะนี่เป็นความรักฉันแม่-ลูกที่เกิดขึ้นระหว่าง “สิ่งมีชีวิต” กับ “สิ่งไม่มีชีวิต”

ภาพน้องมาเรียมว่ายน้ำไปคลอเคล้าใต้ท้อง (เรือ) แม่ส้ม ไปซุกนอนหลับ ไปแอบ ไปเล่น ด้วยเข้าใจว่านี่คือแม่ของตนเองนั้น คือภาพความประทับใจที่เรียกน้ำตาให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก เพราะนี่คือภาพที่น้องมาเรียมแสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ (สิ่งที่คิดว่าเป็นแม่) ได้อย่างบริสุทธิ์งดงามกระไรปานนั้น
มาเรียมว่ายคลอเคลียไปกับแม่ส้ม (ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
สำหรับสถานการณ์วันนี้ น้องมาเรียมป่วยไข้ ต้องดำเนินการรักษาอย่างเร่งด่วน ภาระที่ตกหนักคนหนีไม่พ้นบรรดาแม่คนทั้งหลายของน้องมาเรียมที่ต้องดูแลรักษา และเฝ้าระวังลูกพะยูนน้อยตัวนี้อย่างใกล้ชิด

เราขอส่งกำลังใจให้มาเรียมสู้ ๆ เข้มแข็งไว้ หายป่วยโดยไว แล้วกลับมาว่ายน้ำคลอเคล้าแม่ส้ม นอนดูดครีบ หลับขี้เซา เรียกความประทับใจให้กับพวกเราอีกครั้ง

และขอเป็นกำลังใจให้กับเหล่าบรรดาพี่เลี้ยง ผู้ดูแล ที่เป็น“แม่คน” ทั้งหลายของน้องมาเรียม ที่ต่างทุ่มเทสุดหัวใจเพื่อลูกพะยูนน้อยตัวนี้ พวกท่านคือผู้ปิดทองหลังพระผู้มีความเสียสละอันยิ่งใหญ่

เพราะสำหรับมาเรียมแล้ว เธอไม่ใช่แค่ลูกพะยูน หากแต่เป็นตัวแทนของการอนุรักษ์ เป็นแง่งามแห่งความรัก ที่แม้จะมีความแตกต่างในสายพันธุ์ แต่นั่นก็หาเป็นอุปสรรคใด ๆ ต่อสิ่งยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “รัก” ไม่
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น