Facebook :Travel @ Manager
“อาหารปักษ์ใต้” เป็นหนึ่งในอาหารที่ “ผ่านมาแวะกิน” ชื่นชอบมากที่สุด เพราะรสชาติที่จัดจ้านของเครื่องแกงและส่วนผสมต่าง ผักสดที่กินแกล้มกัน รวมถึงอาหารทะเลสดๆ ที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารแต่ละจานนั้นทำให้อาหารที่ออกมารสชาติเข้มข้น อร่อยถูกลิ้น
ซึ่งหากว่าใครอยากจะลองชิมอาหารปักษ์ใต้โดยไม่ต้องเดินทางลงใต้ ก็ขอแนะนำความอร่อยที่ร้าน “แก้วแกงใต้” ที่ตั้งอยู่ในโครงการมาร์เก็ตเพลส ถนนนางลิ้นจี่ ซอย 3
สำหรับที่ร้านนี้จะมีอาหารใต้ให้ลองชิมหลากหลายที่เป็นไฮไลต์ของแต่ละจังหวัด นำมาประยุกต์เป็นสูตรของทางร้าน เน้นที่วัตถุดิบสดใหม่ ถึงเครื่องพริกแกง บางเมนูเป็นแบบโฮมเมด โขลกเครื่องแกงเองสดๆ บางอย่างก็เลือกสั่งมาเป็นพิเศษจากนครศรีธรรมราช โดยมีให้เลือกชิมกว่า 30 เมนู แล้วก็ยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอีกเรื่อยๆ
ความเข้มข้นจัดจ้านของแก้วแกงใต้ ต้องเริ่มที่ แกงส้มปลากะพงสับปะรด (280 บาท++) ซึ่งสั่งเครื่องแกงพิเศษส่งตรงมาจากนครศรีธรรมราช ผสมกับเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง น้ำซุปที่ใช้ก็เป็นน้ำซุปปลากะพง ปรุงกับเครื่องแกงเคี่ยวให้งวดแบบค้างคืน ทำให้น้ำแกงกลมกล่อมเข้าเนื้อ เลือกใช้ปลากะพงที่แล่เอาแต่เนื้อแบบไม่มีก้าง ใส่สับปะรดภูเก็ตเนื้อแน่นไม่ฉ่ำน้ำจนเกินไป ปรุงกันถ้วยต่อถ้วย ชิมน้ำแกงส้มเข้มข้นหอมเครื่องแกงมากๆ รสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดจัดจนเกินไป
ส่วนเมนูนี้ หมูผัดกะปิยำสับปะรด (190 บาท++) เป็นสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นเอง ตัวกะปิใช้กะปิระนองนำมาเผาไฟให้หอมก่อนจะผัดกับเครื่องรากผักชี กระเทียม หอมแดง และสมุนไพรไทย ทำเป็นซอสกะปิ ใช้หมูสามชั้นหั่นเป็นลูกเต๋าแต่ไม่เอาหนัง ผสมกับหมูส่วนสันคอ นำไปรวนให้สุกแล้วผัดกับซอสกะปิ กินเคียงกับยำสับปะรดภูเก็ตที่เป็นน้ำยำสูตรเฉพาะ หมูผัดกะปิออกรสเค็มๆ หอมกลิ่นกะปิแท้ๆ เข้ากันกับยำสับปะรดที่ออกรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ
อีกหนึ่งแกงใต้ที่พลาดไม่ได้ก็คือ แกงปูใบชะพลู (480 บาท++) ทางร้านเลือกใช้เครื่องแกงโขลกเองสดๆ ตามสูตรเฉพาะ ใช้เนื้อปูก้อนสดสั่งตรงจากระยอง ใช้กะทิสด ใส่ใบชะพลู แกงปูรสชาติเข้มข้น หอมกะทิ เนื้อปูแน่นๆ เต็มปากเต็มคำ กินคู่กับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อย
ต่อกันด้วย ผัดเขียวหวานแห้งลูกชิ้นปลากราย (220 บาท++) ใช้เนื้อปลากรายสดๆ นำมาตีเป็นลูกชิ้นปลากรายแบบแบนๆ นำไปผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานที่ทางร้านโขลกเองใหม่ๆ ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ กลิ่นหอมเครื่องสมุนไพร เนื้อปลากรายเหนียวนุ่มหนึบ
มาลองชิมยำแบบเบาๆ ยำส้มโอมะพร้าวกรอบ (170 บาท++) ทางร้านเลือกใช้ส้มโอขาวจากอัมพวา ปรุงรสชาติยำแบบไทยๆ ใส่หอมเจียวที่เจียวเองใหม่ๆ ทีเด็ดคือใส่มะพร้าวกรอบอบน้ำผึ้ง เวลาเคี้ยวจะได้เนื้อสัมผัสของมะพร้าวอบกรอบที่หอมมัน และความหวานอมเปรี้ยวจากส้มโอ
ส่วนใครชอบสมุนไพรหอมๆ ต้องมาลอง ข้าวยำสมุนไพร (230 บาท++) ใส่มาเต็มทั้งมะม่วง ถั่วฝักยาว แครอท กุ้งแห้งป่น มะพร้าวคั่ว กะหล่ำปลี กะหล่ำม่วง ไข่ต้ม หอมแดง ตะไคร้ซอย พริกสด ถั่วงอก ส้มโอ ใบมะกรูด ใบชะพลู มาคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ไฮไลต์อยู่ที่น้ำยำสมุนไพรที่ทำเลียนแบบน้ำบูดู ปรุงมาจากกะปิถั่วเหลือง เป็นกะปิที่คนกินเจหรือมังสวิรัติกินได้ด้วย เวลากินต้องคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน ชิมแล้วหอมสมุนไพรหลากหลายอย่าง กินอร่อย ได้ประโยชน์มากๆ
เมนูอาหารใต้แบบไม่เผ็ดก็มีให้ชิม อย่างถ้วยนี้ ใบเหลียงต้มกะทิกุ้ง (220 บาท++) เน้นที่เครื่องแกงหอม ใช้กะปิระนองตำกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย และหอมแดง ใส่น้ำกะทิ กุ้งสด และใบเหลียงคัดเฉพาะยอดอ่อนจากสุราษฎร์ธานี ใบเหลียงต้มกะทิรสหอมมัน ได้กลิ่นกะปิและเครื่องแกงหอมๆ ใบเหลียงอ่อนๆ เคี้ยวมัน
แกงอีกชนิดที่เข้มข้นมากๆ ก็คือ แกงไตปลา (220 บาท++) เป็นสูตรแบบนครศรีธรรมชาติ ไม่ใส่กะทิ เลือกเนื้อปลาโอนำมาต้มและย่างจนได้ที่ แกงกับเครื่องพริกแกงจากนครผสมกับเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง ใส่มันหวานลงไปต้มด้วย โรยด้านบนด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และลูกมะกรูด กินเคียงกับขนมจีนผักสดหลากหลายชนิด
อีกจานที่ชวนชิมสุดๆ ก็คือ กุ้งผัดเผ็ดสะตอ (240 บาท++) ที่เลือกใช้สะตอข้าวอ่อนๆ จากสุราษฎร์ธานี ส่วนเครื่องแกงทางร้านโขลกเอง ใส่กะปิ นำไปผัดกับกุ้ง ผัดให้มีน้ำขลุกขลิก ผัดออกมาร้อนๆ หอมกลิ่นกะปิอย่างดี สะตอเคี้ยวมัน ไม่ขม กุ้งเนื้อแน่นเด้ง กินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยมากๆ
หลากหลายเมนูอาหารใต้ที่ลองชิมกันไปแล้ว ยังมีอีกหลายจานที่ชวนมาลิ้มลอง อาทิ ใบเหลี้ยงผัดไข่ (170 บาท++) หมูฮ้อง (280 บาท++) น้ำพริกกุ้งเสียบ (220 บาท++) ผัดสามใต้ (190 บาท++) เป็นต้น ใครที่กินแกงใต้เผ็ดๆ ไปแล้ว อยากคลายความเผ็ด ที่ร้านก็ยังมีขนมหวาน และเครื่องดื่มสนุนไพรเย็นชื่นใจให้ตบท้ายกันด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “แก้วแกงใต้” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โซน Open Mall โครงการมาร์เก็ตเพลส ถนนนางลิ้นจี่ ซอย 3 ยานนาวา กทม. ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.30 น. (ครัวปิด 21.30 น.) โทร. 08-3235-3914 Line : @kaewkangtai Facebook : kaewkangtai IG : @kaewkangtai และช่วงเดือนตุลาคม 2562 กำลังจะเปิดสาขา 2 ที่เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 5
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“อาหารปักษ์ใต้” เป็นหนึ่งในอาหารที่ “ผ่านมาแวะกิน” ชื่นชอบมากที่สุด เพราะรสชาติที่จัดจ้านของเครื่องแกงและส่วนผสมต่าง ผักสดที่กินแกล้มกัน รวมถึงอาหารทะเลสดๆ ที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารแต่ละจานนั้นทำให้อาหารที่ออกมารสชาติเข้มข้น อร่อยถูกลิ้น
ซึ่งหากว่าใครอยากจะลองชิมอาหารปักษ์ใต้โดยไม่ต้องเดินทางลงใต้ ก็ขอแนะนำความอร่อยที่ร้าน “แก้วแกงใต้” ที่ตั้งอยู่ในโครงการมาร์เก็ตเพลส ถนนนางลิ้นจี่ ซอย 3
สำหรับที่ร้านนี้จะมีอาหารใต้ให้ลองชิมหลากหลายที่เป็นไฮไลต์ของแต่ละจังหวัด นำมาประยุกต์เป็นสูตรของทางร้าน เน้นที่วัตถุดิบสดใหม่ ถึงเครื่องพริกแกง บางเมนูเป็นแบบโฮมเมด โขลกเครื่องแกงเองสดๆ บางอย่างก็เลือกสั่งมาเป็นพิเศษจากนครศรีธรรมราช โดยมีให้เลือกชิมกว่า 30 เมนู แล้วก็ยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอีกเรื่อยๆ
ความเข้มข้นจัดจ้านของแก้วแกงใต้ ต้องเริ่มที่ แกงส้มปลากะพงสับปะรด (280 บาท++) ซึ่งสั่งเครื่องแกงพิเศษส่งตรงมาจากนครศรีธรรมราช ผสมกับเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง น้ำซุปที่ใช้ก็เป็นน้ำซุปปลากะพง ปรุงกับเครื่องแกงเคี่ยวให้งวดแบบค้างคืน ทำให้น้ำแกงกลมกล่อมเข้าเนื้อ เลือกใช้ปลากะพงที่แล่เอาแต่เนื้อแบบไม่มีก้าง ใส่สับปะรดภูเก็ตเนื้อแน่นไม่ฉ่ำน้ำจนเกินไป ปรุงกันถ้วยต่อถ้วย ชิมน้ำแกงส้มเข้มข้นหอมเครื่องแกงมากๆ รสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดจัดจนเกินไป
ส่วนเมนูนี้ หมูผัดกะปิยำสับปะรด (190 บาท++) เป็นสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นเอง ตัวกะปิใช้กะปิระนองนำมาเผาไฟให้หอมก่อนจะผัดกับเครื่องรากผักชี กระเทียม หอมแดง และสมุนไพรไทย ทำเป็นซอสกะปิ ใช้หมูสามชั้นหั่นเป็นลูกเต๋าแต่ไม่เอาหนัง ผสมกับหมูส่วนสันคอ นำไปรวนให้สุกแล้วผัดกับซอสกะปิ กินเคียงกับยำสับปะรดภูเก็ตที่เป็นน้ำยำสูตรเฉพาะ หมูผัดกะปิออกรสเค็มๆ หอมกลิ่นกะปิแท้ๆ เข้ากันกับยำสับปะรดที่ออกรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ
อีกหนึ่งแกงใต้ที่พลาดไม่ได้ก็คือ แกงปูใบชะพลู (480 บาท++) ทางร้านเลือกใช้เครื่องแกงโขลกเองสดๆ ตามสูตรเฉพาะ ใช้เนื้อปูก้อนสดสั่งตรงจากระยอง ใช้กะทิสด ใส่ใบชะพลู แกงปูรสชาติเข้มข้น หอมกะทิ เนื้อปูแน่นๆ เต็มปากเต็มคำ กินคู่กับข้าวสวยหรือขนมจีนก็อร่อย
ต่อกันด้วย ผัดเขียวหวานแห้งลูกชิ้นปลากราย (220 บาท++) ใช้เนื้อปลากรายสดๆ นำมาตีเป็นลูกชิ้นปลากรายแบบแบนๆ นำไปผัดกับเครื่องแกงเขียวหวานที่ทางร้านโขลกเองใหม่ๆ ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ กลิ่นหอมเครื่องสมุนไพร เนื้อปลากรายเหนียวนุ่มหนึบ
มาลองชิมยำแบบเบาๆ ยำส้มโอมะพร้าวกรอบ (170 บาท++) ทางร้านเลือกใช้ส้มโอขาวจากอัมพวา ปรุงรสชาติยำแบบไทยๆ ใส่หอมเจียวที่เจียวเองใหม่ๆ ทีเด็ดคือใส่มะพร้าวกรอบอบน้ำผึ้ง เวลาเคี้ยวจะได้เนื้อสัมผัสของมะพร้าวอบกรอบที่หอมมัน และความหวานอมเปรี้ยวจากส้มโอ
ส่วนใครชอบสมุนไพรหอมๆ ต้องมาลอง ข้าวยำสมุนไพร (230 บาท++) ใส่มาเต็มทั้งมะม่วง ถั่วฝักยาว แครอท กุ้งแห้งป่น มะพร้าวคั่ว กะหล่ำปลี กะหล่ำม่วง ไข่ต้ม หอมแดง ตะไคร้ซอย พริกสด ถั่วงอก ส้มโอ ใบมะกรูด ใบชะพลู มาคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ไฮไลต์อยู่ที่น้ำยำสมุนไพรที่ทำเลียนแบบน้ำบูดู ปรุงมาจากกะปิถั่วเหลือง เป็นกะปิที่คนกินเจหรือมังสวิรัติกินได้ด้วย เวลากินต้องคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน ชิมแล้วหอมสมุนไพรหลากหลายอย่าง กินอร่อย ได้ประโยชน์มากๆ
เมนูอาหารใต้แบบไม่เผ็ดก็มีให้ชิม อย่างถ้วยนี้ ใบเหลียงต้มกะทิกุ้ง (220 บาท++) เน้นที่เครื่องแกงหอม ใช้กะปิระนองตำกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย และหอมแดง ใส่น้ำกะทิ กุ้งสด และใบเหลียงคัดเฉพาะยอดอ่อนจากสุราษฎร์ธานี ใบเหลียงต้มกะทิรสหอมมัน ได้กลิ่นกะปิและเครื่องแกงหอมๆ ใบเหลียงอ่อนๆ เคี้ยวมัน
แกงอีกชนิดที่เข้มข้นมากๆ ก็คือ แกงไตปลา (220 บาท++) เป็นสูตรแบบนครศรีธรรมชาติ ไม่ใส่กะทิ เลือกเนื้อปลาโอนำมาต้มและย่างจนได้ที่ แกงกับเครื่องพริกแกงจากนครผสมกับเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเอง ใส่มันหวานลงไปต้มด้วย โรยด้านบนด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และลูกมะกรูด กินเคียงกับขนมจีนผักสดหลากหลายชนิด
อีกจานที่ชวนชิมสุดๆ ก็คือ กุ้งผัดเผ็ดสะตอ (240 บาท++) ที่เลือกใช้สะตอข้าวอ่อนๆ จากสุราษฎร์ธานี ส่วนเครื่องแกงทางร้านโขลกเอง ใส่กะปิ นำไปผัดกับกุ้ง ผัดให้มีน้ำขลุกขลิก ผัดออกมาร้อนๆ หอมกลิ่นกะปิอย่างดี สะตอเคี้ยวมัน ไม่ขม กุ้งเนื้อแน่นเด้ง กินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยมากๆ
หลากหลายเมนูอาหารใต้ที่ลองชิมกันไปแล้ว ยังมีอีกหลายจานที่ชวนมาลิ้มลอง อาทิ ใบเหลี้ยงผัดไข่ (170 บาท++) หมูฮ้อง (280 บาท++) น้ำพริกกุ้งเสียบ (220 บาท++) ผัดสามใต้ (190 บาท++) เป็นต้น ใครที่กินแกงใต้เผ็ดๆ ไปแล้ว อยากคลายความเผ็ด ที่ร้านก็ยังมีขนมหวาน และเครื่องดื่มสนุนไพรเย็นชื่นใจให้ตบท้ายกันด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “แก้วแกงใต้” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โซน Open Mall โครงการมาร์เก็ตเพลส ถนนนางลิ้นจี่ ซอย 3 ยานนาวา กทม. ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.30-22.30 น. (ครัวปิด 21.30 น.) โทร. 08-3235-3914 Line : @kaewkangtai Facebook : kaewkangtai IG : @kaewkangtai และช่วงเดือนตุลาคม 2562 กำลังจะเปิดสาขา 2 ที่เซ็นทรัลพระราม 3 ชั้น 5
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager