Facebook :Travel @ Manager
หากมีเวลาในวันว่างหรือวันหยุด “ตระเวนกิน” มักชอบที่จะขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวพักผ่อนและหาของกินอร่อยๆ ใกล้กรุงแบบไปเช้าเย็นกลับ อย่างที่ในครั้งนี้เราเลือกที่จะมาเที่ยว “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” เมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองมรดกโลก” มีโบราณสถาน และวัดวาอารามเก่าแก่ให้ได้เที่ยวชมอย่างสนุกสนาน
แล้วแน่นอนว่าหลังจากเที่ยวจนอิ่มใจ ก็ต้องขออิ่มท้องกันด้วย ซึ่งที่อยุธยามีร้านอาหารเลิศรสวิวงามๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เลือกมาอิ่มเอมกันตามชอบใจ อย่างที่ในมื้อนี้เราเลือกที่จะมาฝากท้องอิ่มแบบสำราญกายและใจกันที่ร้าน “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” เป็นร้านอาหาร 2 ร้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน
โดยในส่วนของร้าน “Grand Chaopraya” เป็นบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งกินข้าวแบบสบายๆ มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งกินอาหารในหลายโซน ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่านั่งกินข้าวชิลๆ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ อย่างใกล้ชิด สัมผัสสายลมธรรมชาติเย็นกายสบายใจ แล้วยังมีวงดนตรีมาขับกล่อมบทเพลงไพเราะ ให้ได้ฟังอย่างเพลิดเพลินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.30 - 22.00 น.
ส่วนร้าน “The Wine Ayudhya” เป็นร้านอาหารที่มีสถาปัตยกรรมการดีไซน์ที่เก๋ไก๋สวยงามแปลกตา ลักษณะเป็นเหมือนกล่องไม้ขนาดใหญ่ ภายในร้านเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ ตามชอบใจ โดดเด่นตรงที่มีบันไดเหล็กวนให้เดินขึ้นไปสู่โต๊ะนั่งชั้นบน และยังมีเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทล ม็อกเทล ไวน์จากทั่วโลกให้ดื่มคู่กับอาหารไทย
สำหรับอาหารของที่ “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” บริการอาหารเหมือนกัน คือ นำเสนออาหารไทย และมีอาหารไทยแบบโบราณที่หากินได้ยากให้ลองลิ้ม ซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่มีความสดใหม่มาปรุงแต่งเป็นเมนูเด็ดสูตรเฉพาะของทางร้านสไตล์โฮมเมด รวมถึงยังมีเบเกอรี่หลากหลาย
อาหารไทยของที่นี่มีหลายเมนูที่ชวนลองลิ้ม แล้วแน่นอนว่ามาถึงอยุธยาก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งต้องกุ้งแม่น้ำมากินกันให้ได้ กุ้งแม่น้ำเผาถ่าน (ขนาด 3 ตัว 1 กก. 1,800 บาท+) เมนูนี้ทางร้านคัดสรรกุ้งแม่น้ำอยุธยาแท้ๆ ขนาดตัวโตกำลังดี นำมาย่างกับเตาถ่านให้มีกลิ่นหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่ทางร้านปรุงเองใช้พริกขี้หนูและมะนาวสด ลิ้มรสกุ้งเผาหอมๆ มันกุ้งเยิ้มๆ กินอร่อยมันปาก เนื้อกุ้งเคี้ยวนุ่มแน่นเด้งสดหวานโดนใจปากมากๆ
เอาใจคนชอบกินกุ้งกันต่อ นำเสนอ กุ้งน้ำมะขาม (580 บาท+) ทางร้านนำกุ้งแม่น้ำมาทอด แล้วราดด้วยซอสน้ำมะขามสูตรเฉพาะของทางร้าน กินกุ้งเนื้อแน่นฉ่ำซอสน้ำมะขามรสเข้มข้นเปรี้ยวอมหวานถูกลิ้นดีจริง
ตามติดมาด้วยเมนูนี้ ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน (210 บาท+) เป็นต้มยำแบบน้ำใส ใส่กุ้งแม่น้ำอยุธยาตัวโตกำลังดี และโดนเด่นตรงที่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนและเนื้อมะพร้าวอ่อนมาด้วย ซดน้ำต้มยำร้อนๆ ชุ่มชื่นคล่องคอ รสชาติจัดจ้านเปรี้ยว เผ็ดเด็ดโดนใจ ส่วนกุ้งเนื้อแน่นหวานสด และเคี้ยวมันปากกับเนื้อมะพร้าวอ่อน
ถัดมาชวนลิ้มรส แกงขาว (260 บาท+) เป็นเมนูแกงไทยโบราณประจำท้องถิ่นที่หากินได้ยาก ทางร้านโขลกพริกแกงเอง แกงกับกะทิคั้นสด ใส่พริกไทยขาว หน่อไม้เปรี้ยว และใส่เนื้อหมูแดดเดียว พร้อมกับมีปลาสลิดแดดเดียวเสิร์ฟมาให้กินเคียงกัน ชิมแกงขาวรสชาติถูกปากดี น้ำแกงรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่มลิ้น กินแนมกับปลาสลิดทอดกรอบเข้ากันอย่างลงตัว
ถ้าใครชอบกินปลาแม่น้ำ แนะนำเมนูนี้ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (420 บาท+) ทางร้านเลือกเฟ้นปลาเนื้ออ่อนสดๆ จากธรรมชาติ ที่หาได้จากอยุธยา นำมาทอดจนปลาสุกได้ที่ แล้วก็ราดด้วยเครื่องพริกแกงฉู่ฉี่ที่ทางร้านทำเองตามสูตรเด็ดพิเศษ ชิมฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนแล้วโดนใจปากมาก ตรงที่เนื้อปลามีความสดหวาน ชุ่มพริกเครื่องแกงฉู่ฉี่รสชาติจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่องแกงมาก กินกับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดสะระตี่
ทางร้านยังมีของกินล้างปากอย่าง มะม่วงน้ำปลาหวาน (80 บาท+) ที่ชวนกินเสียเหลือเกิน ในจานมีมะม่วงที่ทางร้านจะคัดมะม่วงที่มีตามฤดูกาลฝานมาเป็นชิ้นๆ มาพร้อมกับน้ำปลาหวานที่ทางร้านใช้น้ำตาลโตนดมาปรุงเคี่ยวตามสูตร ใส่กุ้งแห้งและปลาป่น กินมะม่วงน้ำปลาหวานแล้วโดนใจ ตรงที่มะม่วงรสชาติมันกำลังดี กินเข้ากันดีกับน้ำปลาหวานรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมลิ้น กินเพลินปากกันไป
ถ้าใครอยากกินเบเกอรี่ชวนลิ้มรส เค้กมะพร้าว (135 บาท+) เป็นเค้กมะพร้าวที่ใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนเป็นส่วนผสม กินแล้วเนื้อเค้กนุ่มเนียนรสชาติไม่หวานมาก หอมกลิ่นมะพร้าวอ่อนกินแล้วดีต่อใจ
แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มชวนสั่งมาดื่มคู่กับอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Passion Queen (80 บาท+) มีส่วนผสมของน้ำเสาวรสสด น้ำลิ้นจี่ และน้ำผึ้ง ดื่มแล้วได้รสเปรี้ยวเสาวรสอมหวานน้ำผึ้งชื่นใจดีแท้
Strawberry Sai-Mai (80 บาท+) หน้าตาน่าดื่ม มีน้ำสับปะรดและน้ำมะนาวผสมรวมกัน ใส่สายไหมของอยุธยาสีชมพูสวยๆ มาด้วย เวลาดื่มให้คนสายไหมลงไปในแก้ว จะสัมผัสได้ถึงรสชาติของน้ำที่ดื่มแล้วออกรสเปรี้ยวนิดๆ ได้รสชาติความหวานของสายไหม
อีกหนึ่งแก้วที่ชวนดื่ม คือ Caramel Sai-Mai (80 บาท+) แก้วนี้มีส่วนผสมของน้ำลิ้นจี่และน้ำมะนาว ใส่สายไหมมาด้วยเช่นกัน ดื่มแก้วนี้แล้วหอมกลิ่นลิ้นจี่เปรี้ยวหวานสดชื่นใจดี
แต่อยากจะบอกว่าเมนูอาหารไทยรสเด็ดของที่นี่ยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลองลิ้ม อาทิ น้ำพริกกะปิ (260 บาท+) ผัดฉ่าปลาคัง (200 บาท+) ทอดมันปลากราย (200 บาท+) ยำถั่วพู (170 บาท+) ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครได้มาเที่ยวอยุธยา แล้วอยากหาร้านอาหารที่ชวนนั่งชิลๆ ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา อิ่มเอมกับอาหารไทยนานาเมนูรสเลิศ ร้าน “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” สามารถตอบสนองความอิ่มหนำได้แบบสำราญใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” ตั้งอยู่ที่ 42/1 หมู่ 4 ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. ถ้ามากินวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-1942-1666 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Grandchaopraya และ ww.facebook.com/Thewineayudhya
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
หากมีเวลาในวันว่างหรือวันหยุด “ตระเวนกิน” มักชอบที่จะขับรถออกจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวพักผ่อนและหาของกินอร่อยๆ ใกล้กรุงแบบไปเช้าเย็นกลับ อย่างที่ในครั้งนี้เราเลือกที่จะมาเที่ยว “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” เมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองมรดกโลก” มีโบราณสถาน และวัดวาอารามเก่าแก่ให้ได้เที่ยวชมอย่างสนุกสนาน
แล้วแน่นอนว่าหลังจากเที่ยวจนอิ่มใจ ก็ต้องขออิ่มท้องกันด้วย ซึ่งที่อยุธยามีร้านอาหารเลิศรสวิวงามๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เลือกมาอิ่มเอมกันตามชอบใจ อย่างที่ในมื้อนี้เราเลือกที่จะมาฝากท้องอิ่มแบบสำราญกายและใจกันที่ร้าน “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” เป็นร้านอาหาร 2 ร้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน
โดยในส่วนของร้าน “Grand Chaopraya” เป็นบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งกินข้าวแบบสบายๆ มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งกินอาหารในหลายโซน ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่านั่งกินข้าวชิลๆ ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยๆ อย่างใกล้ชิด สัมผัสสายลมธรรมชาติเย็นกายสบายใจ แล้วยังมีวงดนตรีมาขับกล่อมบทเพลงไพเราะ ให้ได้ฟังอย่างเพลิดเพลินทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.30 - 22.00 น.
ส่วนร้าน “The Wine Ayudhya” เป็นร้านอาหารที่มีสถาปัตยกรรมการดีไซน์ที่เก๋ไก๋สวยงามแปลกตา ลักษณะเป็นเหมือนกล่องไม้ขนาดใหญ่ ภายในร้านเป็นห้องแอร์ มีโต๊ะนั่งให้เลือกนั่งในมุมสบายๆ ตามชอบใจ โดดเด่นตรงที่มีบันไดเหล็กวนให้เดินขึ้นไปสู่โต๊ะนั่งชั้นบน และยังมีเคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ค็อกเทล ม็อกเทล ไวน์จากทั่วโลกให้ดื่มคู่กับอาหารไทย
สำหรับอาหารของที่ “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” บริการอาหารเหมือนกัน คือ นำเสนออาหารไทย และมีอาหารไทยแบบโบราณที่หากินได้ยากให้ลองลิ้ม ซึ่งทางร้านคัดสรรวัตถุดิบจากท้องถิ่น ที่มีความสดใหม่มาปรุงแต่งเป็นเมนูเด็ดสูตรเฉพาะของทางร้านสไตล์โฮมเมด รวมถึงยังมีเบเกอรี่หลากหลาย
อาหารไทยของที่นี่มีหลายเมนูที่ชวนลองลิ้ม แล้วแน่นอนว่ามาถึงอยุธยาก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งต้องกุ้งแม่น้ำมากินกันให้ได้ กุ้งแม่น้ำเผาถ่าน (ขนาด 3 ตัว 1 กก. 1,800 บาท+) เมนูนี้ทางร้านคัดสรรกุ้งแม่น้ำอยุธยาแท้ๆ ขนาดตัวโตกำลังดี นำมาย่างกับเตาถ่านให้มีกลิ่นหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่ทางร้านปรุงเองใช้พริกขี้หนูและมะนาวสด ลิ้มรสกุ้งเผาหอมๆ มันกุ้งเยิ้มๆ กินอร่อยมันปาก เนื้อกุ้งเคี้ยวนุ่มแน่นเด้งสดหวานโดนใจปากมากๆ
เอาใจคนชอบกินกุ้งกันต่อ นำเสนอ กุ้งน้ำมะขาม (580 บาท+) ทางร้านนำกุ้งแม่น้ำมาทอด แล้วราดด้วยซอสน้ำมะขามสูตรเฉพาะของทางร้าน กินกุ้งเนื้อแน่นฉ่ำซอสน้ำมะขามรสเข้มข้นเปรี้ยวอมหวานถูกลิ้นดีจริง
ตามติดมาด้วยเมนูนี้ ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน (210 บาท+) เป็นต้มยำแบบน้ำใส ใส่กุ้งแม่น้ำอยุธยาตัวโตกำลังดี และโดนเด่นตรงที่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนและเนื้อมะพร้าวอ่อนมาด้วย ซดน้ำต้มยำร้อนๆ ชุ่มชื่นคล่องคอ รสชาติจัดจ้านเปรี้ยว เผ็ดเด็ดโดนใจ ส่วนกุ้งเนื้อแน่นหวานสด และเคี้ยวมันปากกับเนื้อมะพร้าวอ่อน
ถัดมาชวนลิ้มรส แกงขาว (260 บาท+) เป็นเมนูแกงไทยโบราณประจำท้องถิ่นที่หากินได้ยาก ทางร้านโขลกพริกแกงเอง แกงกับกะทิคั้นสด ใส่พริกไทยขาว หน่อไม้เปรี้ยว และใส่เนื้อหมูแดดเดียว พร้อมกับมีปลาสลิดแดดเดียวเสิร์ฟมาให้กินเคียงกัน ชิมแกงขาวรสชาติถูกปากดี น้ำแกงรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม เนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่มลิ้น กินแนมกับปลาสลิดทอดกรอบเข้ากันอย่างลงตัว
ถ้าใครชอบกินปลาแม่น้ำ แนะนำเมนูนี้ ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน (420 บาท+) ทางร้านเลือกเฟ้นปลาเนื้ออ่อนสดๆ จากธรรมชาติ ที่หาได้จากอยุธยา นำมาทอดจนปลาสุกได้ที่ แล้วก็ราดด้วยเครื่องพริกแกงฉู่ฉี่ที่ทางร้านทำเองตามสูตรเด็ดพิเศษ ชิมฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนแล้วโดนใจปากมาก ตรงที่เนื้อปลามีความสดหวาน ชุ่มพริกเครื่องแกงฉู่ฉี่รสชาติจัดจ้านถึงพริกถึงเครื่องแกงมาก กินกับข้าวสวยร้อนๆ เด็ดสะระตี่
ทางร้านยังมีของกินล้างปากอย่าง มะม่วงน้ำปลาหวาน (80 บาท+) ที่ชวนกินเสียเหลือเกิน ในจานมีมะม่วงที่ทางร้านจะคัดมะม่วงที่มีตามฤดูกาลฝานมาเป็นชิ้นๆ มาพร้อมกับน้ำปลาหวานที่ทางร้านใช้น้ำตาลโตนดมาปรุงเคี่ยวตามสูตร ใส่กุ้งแห้งและปลาป่น กินมะม่วงน้ำปลาหวานแล้วโดนใจ ตรงที่มะม่วงรสชาติมันกำลังดี กินเข้ากันดีกับน้ำปลาหวานรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมลิ้น กินเพลินปากกันไป
ถ้าใครอยากกินเบเกอรี่ชวนลิ้มรส เค้กมะพร้าว (135 บาท+) เป็นเค้กมะพร้าวที่ใช้เนื้อมะพร้าวอ่อนเป็นส่วนผสม กินแล้วเนื้อเค้กนุ่มเนียนรสชาติไม่หวานมาก หอมกลิ่นมะพร้าวอ่อนกินแล้วดีต่อใจ
แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มชวนสั่งมาดื่มคู่กับอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Passion Queen (80 บาท+) มีส่วนผสมของน้ำเสาวรสสด น้ำลิ้นจี่ และน้ำผึ้ง ดื่มแล้วได้รสเปรี้ยวเสาวรสอมหวานน้ำผึ้งชื่นใจดีแท้
Strawberry Sai-Mai (80 บาท+) หน้าตาน่าดื่ม มีน้ำสับปะรดและน้ำมะนาวผสมรวมกัน ใส่สายไหมของอยุธยาสีชมพูสวยๆ มาด้วย เวลาดื่มให้คนสายไหมลงไปในแก้ว จะสัมผัสได้ถึงรสชาติของน้ำที่ดื่มแล้วออกรสเปรี้ยวนิดๆ ได้รสชาติความหวานของสายไหม
อีกหนึ่งแก้วที่ชวนดื่ม คือ Caramel Sai-Mai (80 บาท+) แก้วนี้มีส่วนผสมของน้ำลิ้นจี่และน้ำมะนาว ใส่สายไหมมาด้วยเช่นกัน ดื่มแก้วนี้แล้วหอมกลิ่นลิ้นจี่เปรี้ยวหวานสดชื่นใจดี
แต่อยากจะบอกว่าเมนูอาหารไทยรสเด็ดของที่นี่ยังมีอีกหลายเมนูที่น่าลองลิ้ม อาทิ น้ำพริกกะปิ (260 บาท+) ผัดฉ่าปลาคัง (200 บาท+) ทอดมันปลากราย (200 บาท+) ยำถั่วพู (170 บาท+) ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครได้มาเที่ยวอยุธยา แล้วอยากหาร้านอาหารที่ชวนนั่งชิลๆ ชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา อิ่มเอมกับอาหารไทยนานาเมนูรสเลิศ ร้าน “Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” สามารถตอบสนองความอิ่มหนำได้แบบสำราญใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“Grand Chaopraya & The Wine Ayudhya” ตั้งอยู่ที่ 42/1 หมู่ 4 ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. ถ้ามากินวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ แนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-1942-1666 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Grandchaopraya และ ww.facebook.com/Thewineayudhya
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
