Facebook :Travel @ Manager
อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตสำหรับคนที่ไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ นอกจากจะขึ้นดอย เข้าวัด ไปไหว้พระทำบุญ หลายคนเลือกที่จะมานั่งผ่อนคลายกันที่คาเฟ่สวยๆ มีขนมอร่อยๆ มีอาหารถูกปาก มีมุมให้ถ่ายรูปอัพเดตลงโซเชียลกัน
หนึ่งในคาเฟ่ชวนนั่งที่อยากแนะนำก็คือ “ลามูร์ คาเฟ่” (Lamour Cafe) ที่พัฒนาต่อยอดมาจากร้านทำผม ขยายมาเปิดเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร สำหรับให้คนที่มาทำผมไม่ต้องนั่งรอนานๆ จนเบื่อ ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้มาชิมของอร่อยๆ กันด้วย
หากเดินเข้ามาภายในร้าน ที่เห็นโดดเด่นที่สุดก็คือ บ้านสีเหลืองหลังใหญ่ สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่นนั่งสบาย มีมุมให้เลือกนั่งทั้งด้านนอกรับลมธรรมชาติ แต่ถ้าใครกลัวร้อนก็มีโซนในห้องแอร์ทั้งชั้นล่างของบ้านสีเหลือง และในเรือนกระจกสีขาวโปร่งโล่ง ส่วนด้านบนของบ้านสีเหลืองจะให้บริการทำผมทุกรูปแบบ
ส่วนเรื่องอาหารภายในร้าน ใครมาหิวๆ อยากสั่งมื้อหนัก ที่นี่ก็มีบริการอาหารไทยรสจัดจ้านครบทุกภาค และเน้นให้แต่ละจานมีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน มักจะเสิร์ฟเคียงกับผักสดที่ปลูกในท้องถิ่น ผักย่าง และไข่ดาวน้ำ แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ น้ำผลไม้ มีของหวานเป็นเบเกอรี่และไอศกรีม
เปิดประเดิมมื้ออร่อยที่ ลามูร์ ออเดิร์ฟ (250 บาท) เป็นออเดิร์ฟสไตล์เหนือกินง่ายๆ มาพร้อมกันทั้งแหนม หมูยอทอด ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ผักต่างๆ และแกงฮังเลสูตรเฉพาะของทางร้าน น้ำแกงฮังเลอาจจะใสกว่าที่อื่น แต่รสชาติยังเข้มข้นแบบดั้งเดิม
แล้วมาเติมวิตามินให้กับร่างการด้วยผักสดๆ ใน ซีซาร์ สลัด (200 บาท) ที่ใช้ผักสดปลอดสาร เสิร์ฟแยกมากับขนมปังกรอบ เบคอนทอด ไข่ดาวน้ำ พริกไทย และน้ำสลัด โดยพนักงานจะมาคลุกสลัดสดๆ ให้ที่โต๊ะ พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยผิวเลมอนลงไปด้วย
ต่อด้วย ข้าวหมูสามชั้นผัดพริกเกลือ (150 บาท) ทางร้านใช้หมูสามชั้นที่ตัดหนังออกนำมาหมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ ทอดหมูด้วยน้ำมันร้อนๆ ก่อนจะผัดคลุกเคล้ากับเครื่องพริกเกลือให้ได้รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวน้ำ ผัก และผลไม้
ถ้าชอบความจัดจ้านต้องลอง กุ้งพริกขี้หนู (250 บาท) ใช้กุ้งสดที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง นำมาผัดกับเครื่องปรุงพริกขี้หนูสวน กระเทียมสด เน้นรสชาติจัดจ้าน หอมพริกขี้หนู มาคู่กับยำมะม่วงให้กินเคียงกัน
แล้วมาแก้เผ็ดด้วย พะโล้โบราณ (150 บาท) เป็นพะโล้ที่ใช้เครื่องพะโล้แบบโบราณ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เครื่องเทศ แล้วต้มน้ำพะโล้กับหมูจนนุ่ม ไข่ที่ใช้ก็เป็นไข่เป็ดที่ต้มมาแบบพอดี กินคู่กับคะน้าลวก และมีน้ำจิ้มรสจัดจ้านมาให้เพิ่มรสชาติ
ส่วนจานเส้นต้องลองชิม สปาเก็ตตี้ทะเลพริกแห้ง (200 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้ลวกสุกกำลังดี นำไปผัดกับเครื่องพริกแห้ง ใส่กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ กินคู่กับสลัดผัก
ชิมอาหารคาวมาหลายจาน อย่าลืมเผื่อพื้นที่ให้ของหวานกันด้วย ชวนชิม ซูเฟล่ผลไม้ (300 บาท) ที่พิถีพิถันในการทำ ตีแป้งตามสูตรพิเศษของทางร้าน ย่างด้วยความร้อนจากไอน้ำให้สุกแบบพอดี เนื้อขนมจะนุ่มละลายในปาก หอมกลิ่นไข่ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม วิปครีม และผลไม้สดต่างๆ
มีของหวานไทยๆ อย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง (150 บาท) ให้ลองชิมด้วย ใช้มะม่วงสุกพันธุ์ดี หั่นเป็นชิ้นสวย เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวเหนียวมูนเนื้อนุ่มหอมหวานมัน น้ำกะทิ ถั่วทอง และไอศกรีม
พวกเค้กโฮมเมดก็มีให้เลือกชิมวันละหลายอย่าง อย่างเช่น เค้กมะพร้าว (100 บาท) เนื้อนุ่มเนียน เป็นชั้นเนื้อเค้กสลับกับครีมที่สอดไส้เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปด้วย ตัวเค้กไม่หวานเกินไป กินไปได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยน
เครื่องดื่มต่างๆ ก็มีให้เลือกชิมหลากหลาย อาทิ First Love (120 บาท) มีส่วนผสมของพีชและไอศกรีมเชอเบทมะม่วง ได้ความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ Ice Peach Tea Twining (150 บาท) เป็นชาเย็นที่หอมหวานจากลูกพีช Ice Mocha (100 บาท) กาแฟสดชงผสมกับช็อกโกแลต รสชาติหวานมันกำลังดี
ชิมเมนูอร่อยจนอื่มท้องแล้ว ที่ร้านก็มีมุมน่ารักๆ ให้แวะถ่ายรูปกับหลายมุม หรือใครอยากทำผมก็มีให้บริการทุกรูปแบบ เรียกว่ามาที่เดียวทั้งได้ผมสวยๆ กลับบ้าน อิ่มท้อง แล้วก็ยังมีรูปสวยๆ ไว้อวดเพื่อนด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ลามูร์ คาเฟ่” ตั้งอยู่ที่ถนนซอยวัดอุโมงค์-วัดร่ำเปิง (ติดกับโครงการบ้านข้างวัด) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) เวลา 10.00-19.30 น. โทร.08-1818-5707 www.facebook.com/LamourCafeChiangmai
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตสำหรับคนที่ไปเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ นอกจากจะขึ้นดอย เข้าวัด ไปไหว้พระทำบุญ หลายคนเลือกที่จะมานั่งผ่อนคลายกันที่คาเฟ่สวยๆ มีขนมอร่อยๆ มีอาหารถูกปาก มีมุมให้ถ่ายรูปอัพเดตลงโซเชียลกัน
หนึ่งในคาเฟ่ชวนนั่งที่อยากแนะนำก็คือ “ลามูร์ คาเฟ่” (Lamour Cafe) ที่พัฒนาต่อยอดมาจากร้านทำผม ขยายมาเปิดเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร สำหรับให้คนที่มาทำผมไม่ต้องนั่งรอนานๆ จนเบื่อ ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้มาชิมของอร่อยๆ กันด้วย
หากเดินเข้ามาภายในร้าน ที่เห็นโดดเด่นที่สุดก็คือ บ้านสีเหลืองหลังใหญ่ สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่นนั่งสบาย มีมุมให้เลือกนั่งทั้งด้านนอกรับลมธรรมชาติ แต่ถ้าใครกลัวร้อนก็มีโซนในห้องแอร์ทั้งชั้นล่างของบ้านสีเหลือง และในเรือนกระจกสีขาวโปร่งโล่ง ส่วนด้านบนของบ้านสีเหลืองจะให้บริการทำผมทุกรูปแบบ
ส่วนเรื่องอาหารภายในร้าน ใครมาหิวๆ อยากสั่งมื้อหนัก ที่นี่ก็มีบริการอาหารไทยรสจัดจ้านครบทุกภาค และเน้นให้แต่ละจานมีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน มักจะเสิร์ฟเคียงกับผักสดที่ปลูกในท้องถิ่น ผักย่าง และไข่ดาวน้ำ แล้วก็ยังมีเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ น้ำผลไม้ มีของหวานเป็นเบเกอรี่และไอศกรีม
เปิดประเดิมมื้ออร่อยที่ ลามูร์ ออเดิร์ฟ (250 บาท) เป็นออเดิร์ฟสไตล์เหนือกินง่ายๆ มาพร้อมกันทั้งแหนม หมูยอทอด ไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม ผักต่างๆ และแกงฮังเลสูตรเฉพาะของทางร้าน น้ำแกงฮังเลอาจจะใสกว่าที่อื่น แต่รสชาติยังเข้มข้นแบบดั้งเดิม
แล้วมาเติมวิตามินให้กับร่างการด้วยผักสดๆ ใน ซีซาร์ สลัด (200 บาท) ที่ใช้ผักสดปลอดสาร เสิร์ฟแยกมากับขนมปังกรอบ เบคอนทอด ไข่ดาวน้ำ พริกไทย และน้ำสลัด โดยพนักงานจะมาคลุกสลัดสดๆ ให้ที่โต๊ะ พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยผิวเลมอนลงไปด้วย
ต่อด้วย ข้าวหมูสามชั้นผัดพริกเกลือ (150 บาท) ทางร้านใช้หมูสามชั้นที่ตัดหนังออกนำมาหมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะ ทอดหมูด้วยน้ำมันร้อนๆ ก่อนจะผัดคลุกเคล้ากับเครื่องพริกเกลือให้ได้รสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวน้ำ ผัก และผลไม้
ถ้าชอบความจัดจ้านต้องลอง กุ้งพริกขี้หนู (250 บาท) ใช้กุ้งสดที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง นำมาผัดกับเครื่องปรุงพริกขี้หนูสวน กระเทียมสด เน้นรสชาติจัดจ้าน หอมพริกขี้หนู มาคู่กับยำมะม่วงให้กินเคียงกัน
แล้วมาแก้เผ็ดด้วย พะโล้โบราณ (150 บาท) เป็นพะโล้ที่ใช้เครื่องพะโล้แบบโบราณ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เครื่องเทศ แล้วต้มน้ำพะโล้กับหมูจนนุ่ม ไข่ที่ใช้ก็เป็นไข่เป็ดที่ต้มมาแบบพอดี กินคู่กับคะน้าลวก และมีน้ำจิ้มรสจัดจ้านมาให้เพิ่มรสชาติ
ส่วนจานเส้นต้องลองชิม สปาเก็ตตี้ทะเลพริกแห้ง (200 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้ลวกสุกกำลังดี นำไปผัดกับเครื่องพริกแห้ง ใส่กุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ กินคู่กับสลัดผัก
ชิมอาหารคาวมาหลายจาน อย่าลืมเผื่อพื้นที่ให้ของหวานกันด้วย ชวนชิม ซูเฟล่ผลไม้ (300 บาท) ที่พิถีพิถันในการทำ ตีแป้งตามสูตรพิเศษของทางร้าน ย่างด้วยความร้อนจากไอน้ำให้สุกแบบพอดี เนื้อขนมจะนุ่มละลายในปาก หอมกลิ่นไข่ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม วิปครีม และผลไม้สดต่างๆ
มีของหวานไทยๆ อย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง (150 บาท) ให้ลองชิมด้วย ใช้มะม่วงสุกพันธุ์ดี หั่นเป็นชิ้นสวย เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวเหนียวมูนเนื้อนุ่มหอมหวานมัน น้ำกะทิ ถั่วทอง และไอศกรีม
พวกเค้กโฮมเมดก็มีให้เลือกชิมวันละหลายอย่าง อย่างเช่น เค้กมะพร้าว (100 บาท) เนื้อนุ่มเนียน เป็นชั้นเนื้อเค้กสลับกับครีมที่สอดไส้เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปด้วย ตัวเค้กไม่หวานเกินไป กินไปได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยน
เครื่องดื่มต่างๆ ก็มีให้เลือกชิมหลากหลาย อาทิ First Love (120 บาท) มีส่วนผสมของพีชและไอศกรีมเชอเบทมะม่วง ได้ความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ Ice Peach Tea Twining (150 บาท) เป็นชาเย็นที่หอมหวานจากลูกพีช Ice Mocha (100 บาท) กาแฟสดชงผสมกับช็อกโกแลต รสชาติหวานมันกำลังดี
ชิมเมนูอร่อยจนอื่มท้องแล้ว ที่ร้านก็มีมุมน่ารักๆ ให้แวะถ่ายรูปกับหลายมุม หรือใครอยากทำผมก็มีให้บริการทุกรูปแบบ เรียกว่ามาที่เดียวทั้งได้ผมสวยๆ กลับบ้าน อิ่มท้อง แล้วก็ยังมีรูปสวยๆ ไว้อวดเพื่อนด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ลามูร์ คาเฟ่” ตั้งอยู่ที่ถนนซอยวัดอุโมงค์-วัดร่ำเปิง (ติดกับโครงการบ้านข้างวัด) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร (หยุดวันพุธ) เวลา 10.00-19.30 น. โทร.08-1818-5707 www.facebook.com/LamourCafeChiangmai
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
