ถ้าพูดถึงของดีย่านเมืองนนท์ หลายคนคงจะนึกถึงทุเรียนก้านยาว ราคาหลักหมื่น แต่เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ทั้งที่อยู่ใกล้กรุงเทพ เดินทางได้สะดวก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร จึงร่วมกับ ชมรมยลยินศิลป์สยาม และ พร้อมพันธมิตรชุมชนท่องเที่ยวย่าน ชุมชนปลายบาง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จึงร่วมกันจัดกิจกรรม เที่ยวท่องส่องวิถี..ยลของดีย่าน ”เมืองนนท์”(มิได้มีดีแค่ทุเรียน) เพื่อพานักท่องเที่ยวไปชมโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่ซุกซ่อนอยู่ในสวนผลไม้ ประกอบกับรับฟังเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ จากผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์
มาเริ่มต้นกันที่วัดยางป่าซึ่งมีเจ้าอาวาสคือ พระอาจารย์อำนวย อาภากโร ท่านมาเล่าเรื่องราวประวัติของการบูรณะองค์พระประธาน “หลวงพ่อเหลือ” ซึ่งถูกพบในปี พ.ศ. 2553 และเป็นปีเดียวกันที่ “หลวงพ่อเหลือ” และพระพุทธรูปใต้ฐานพระประธานได้รับการบูรณะ นักโบราณคดีหลายท่านที่เคยมาตรวจสอบกล่าวว่า น่าจะถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และการบูรณะยังคงลักษณะแบบโบราณดั้งเดิมเอาไว้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาได้สักการะและร่วมกุศลเป็นมงคลชีวิต วัดยางป่านี้เป็นวัดโบราณสมัยอยุธยาที่ได้รับการบูรณะ ปรากฏหลักฐานจากซากกระเบื้องหลังคาของพระอุโบสถหลังเก่า บรรยากาศสงบ ศักดิ์สิทธิ มีอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินประทับอยู่ด้านในบริเวณวัด เพราะที่นี่เคยเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเจ้าตากสินเคยมาตั้งทัพอยู่ และได้รับชัยชนะในเวลาต่อมา
สถานที่ต่อมา เป็นโบราณสถานสำคัญ และตั้งอยู่ไกลกันไม่มากคือ วัดมะนาว(ร้าง) ในปัจจุบันกรมศาสนา มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้พื้นที่ในบริเวณวัดมะนาว(ร้าง) เป็นที่ตั้งของสถานีตำรวจภูธร อำเภอบางกรวย ดูแลทำนุบำรุงโบราณสถาน แห่งนี้ตลอดมา สถานที่ของวัดซึ่งเป็นโบสถ์โบราณที่เหลืออยู่ จึงอยู่ในพื้นที่ของสถานีตำรวจ กลายเป็นเรื่องแปลกที่พบได้ไม่บ่อยนัก และอาจเป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในโรงพัก รอให้นักเดินทางแวะผ่านไปเที่ยวชมกัน
วัดโบราณอีกแห่งที่มีความงดงามไม่แพ้กัน และมีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันคือวัดสักใหญ่ โดยวัดสักใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อสุโขทัย พระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 700 ปี ซึ่งได้อัญเชิญมาจากอุโบสถวัดยางป่าสมัยที่ยังเป็นวัดร้างโบราณ และยังเป็นที่เก็บรักษาใบเสมาโบราณของวัดเพลง (ร้าง) ที่เป็นใบเสมาโบราณ ทำจากหินทรายแดง และยังคงความสมบูรณ์สวยงามเอาไว้ จำนวน 8 คู่ (16 ใบ) โดยวางไว้ติดกับใบเสมาของวัดสักใหญ่
จากวัดสักใหญ่ ต้องเดินเท้าผ่านสวนผลไม้ที่เขียวชอุ่มร่มรื่น สู่วัดเพลง (ร้าง) ที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไป วัดเพลงร้างเป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ริมคลองวัดสักใหญ่ มีบรรยากาศร่มรื่นวังเวง สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา ครั้งหนึ่งเคยเป็นวัดหลวงที่มีความสำคัญมาก อารามกลางสวนสร้างแบบสถาปัตยกรรมโบราณ เป็นกำแพงหนา ตามขอบประตูมีลวดลายปูนปั้นประดับอยู่อย่างสวยงาม ภายในอาคารประดิษฐานพระพุทธรูป (หลวงพ่อโต) อันศักดิ์สิทธิ์ มีหอระฆัง ตั้งอยู่ทางด้านขวาของอุโบสถ เป็นหอระฆังก่ออิฐถือปูนสองชั้น ส่วนยอดพังทลายลงบริเวณซุ้มชั้นล่าง ก่อเป็นวงโค้งกลีบบัว ตามอิทธิพลศิลปะตะวันตก
การเดินทางครั้งนี้ เราแวะชิมอาหารมื้อเที่ยงแบบชาวบ้าน ๆ กันที่ สวนทุเรียนคุณปู เป็นอาหารตำหรับท้องถิ่นอย่าง แกงกระท้อน ปลาทอดกรอบ ไข่เจียวสมุนไพร คลอเพลงดนตรีไทยแสนไพเราะจาก อาจารย์ภูมิใจ รื่นเริง วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีไทยและดนตรี พร้อมทำความ รู้จักกับ พันธุ์ทุเรียนโบราณและวิถีชีวิตชาวสวนย่านนนทบุรี ฟังคุณปูเจ้าของสวน อธิบายถึงวิธีการปลูกทุเรียนลูกละหมื่น พร้อมพาไปชมถึงต้น เผยเคล็ดลับการปลูกแบบปลอดสารเคมี ใช้เพียงปุ๋ยหมักจากใบทองหลางเท่านั้น
เมื่ออิ่มอร่อยกัน ก็พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวชมต่อที่ วัดบางอ้อยช้างสักการะพระพุทธรูปศิลปกรรมสมัยอยุธยาในพระอุโบสถ ชมภาพจิตรกรรม ฝาผนังที่งดงาม เรื่องพุทธประวัติที่สอดแทรกเรื่องราวปริศนาธรรมจากความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล พุทธทำนายไว้อย่างแยบยล
ภายในบริเวณวัด ยังมีพิพิธภัณฑ์วัดบางอ้อยช้าง ภายในพิพิธภัณฑ์ทั้ง 3 ชั้นได้รวบรวมมรดก ของเก่าล้ำค่าไว้มากมายเช่นตาลปัตรของรัชกาลที่ 5 และตู้เก็บพระไตรปิฎกที่มีความสัมพันธ์กับพระราชประวัติของรัชการที่ 3 รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวสวนเมืองนนท์ อาทิ หม้อไว้เพาะทุเรียน โอ่ง ไห เครื่องมือเก็บผลไม้และเครื่องมือที่แสดงถึงภูมิปัญญาชาวสวนเมืองนนทบุรี โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมคือ อาจารย์จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา และอาจารย์เรืองยศ โอสถานนท์ เป็นผู้ให้ความรู้ตลอดการเดินทาง ทำให้ของเก่าๆในพิพิธภัณฑ์ กลายเป็นสิ่งน่าสนใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้รู้เรื่องราวของแต่ละสิ่ง นอกจากนี้ ที่ศาลาการเปรียญ ยังมีพระพุทธบาทลอยฟ้า เป็นลวดลายบนฝ้าเพดานทำจากทองสำริดให้ได้รับชมกันอีก
ทำบุญกันพอประมาณแล้ว จ.นนทบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสไตล์ไทย ๆ อีกมากมายและอยู่บริเวณใกล้ๆกัน คือ บ้านไม้สักตระกูลช่าง 100 ปี แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนปลายบาง ชมรมท่องเที่ยวของชาวจ.นนทบุรี ตื่นตากับเรือนไม้อายุร้อยกว่าปี ที่มีลวดลายการแกะสลักไม้อย่างสวยงามแฝงศิลปะทางเชิงช่างลงไปในผลงานไม้ได้อย่างสวยงามหาชมได้ยาก รับชมของเก่าสวยงามทั้งเครื่องเคลือบลวดลายต่างๆ ตะเกียงรถไฟโบราณ ตะเกียงทองเหลือง โต๊ะเครื่องแป้งไม้สลัก ตู้กับข้าวแบบเก่าที่ทำมาจากไม้ไผ่ เป็นต้น
สถานที่สุดท้ายคือ สวนเกษตรลัดดาวัลย์ แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ วิถีชีวิตชาวสวน รื่นรมย์กับขนมเลิศรส สาคูไส้หมูนุ่มหอมเครื่องเต็มๆคำและเครื่องดื่มผสมน้ำผึ้งชันโรงอันเป็นเอกลักษณ์ จากการเลี้ยงผึ้งชันโรงเอง ผึ่้งชันโรงนี้เป็นผึ้งที่ไม่มีเหล็กในไม่ต้องการนางพญาในการเลี้ยง ไม่เป็นอันตรายตัวน้ำผึ้งชันโรงนี้นอกจากรสชาติหอมอร่อยแล้วยังมีสรรพคุณทางยา ที่แพทย์แผนไทยโบราณทั้งหลายนิยมนำไปใช้ ซึ่งทางสวนได้มีการจัดจำหน่ายของฝากที่ทำมาจากน้ำผึ่งชันโรงมากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกสรรติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้าน บรรยากาศในตัวสวนเย็นสบายร่มรื่น เหมาะสำหรับการเที่ยวหลบร้อน เดินเพลินๆชมแมกไม้นานาพรรณในบริเวณสวน ทั้งไม้ดอกและไม้ผลอาทิ ต้นมัลเบอร์รี่ ดอกหน้าวัวสีสันสดใส กล้วยน้ำไท กระท้อน ละมุด มะเฟือง ฯลฯ การเพาะเลี้ยงชันโรงและช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรก่อนออกเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมนำร่องที่ ททท. สำนักงานกรุงเทพมหานคร ได้จัดทำขึ้นเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัส มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดนนทบุรี และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนให้สามารถบริหารจัดการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวท่านใดสนใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพื่อเข้าท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ซึ่งมีทั้งเส้นทางท่องเที่ยววัฒนธรรมทางบก เส้นทางท่องเที่ยววัฒนธรรมทางน้ำ เส้นทางท่องเที่ยวจักรยาน (ขอความร่วมมือแจ้งล่วงหน้า และสามารถให้จัดบริการนำเที่ยวได้โดยเฉพาะกลุ่มโดยมีค่าใช้จ่าย จำนวนคนประมาณ 8-10 คน) ทั้งนี้ ติดต่อได้ที่ศูนย์บริการท่องเที่ยวท่าเรือกำนันเชาว์ เบอร์ 095-851-3483 หรือผู้ใหญ่บ้านสมเกียรติ สุขแป้น เบอร์ 081-836-9501