ถ้าพูดถึงอินโดนีเซีย สิ่งแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงอาจจะเป็นความชิลของบาหลี ความขลังของบุโรพุทโธ หรือความสนุกของการเล่นเซิร์ฟแถวหาด Kuta หรือ Dubble Six แต่อินโดนีเซียยังมีของดีอีกหลากหลายให้สัมผัสกัน
หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องวัฒนธรรมด้านอาหารการกิน ทางการท่องเที่ยวอินโดนีเซียจึงได้หยิบยกจุดเด่นด้านนี้มานำเสนอ ภายใต้ชื่อ FOOD HEAVEN!! ด้วยการพาไปสัมผัสกับอาหารท้องถิ่นอันโดดเด่นใน 3 เมืองที่มีจุดเด่นในด้านอาหารการกิน ได้แก่
เมืองเซอมารัง (Semarang)
เมืองใหญ่อันดับที่ 5 ของอินโดนีเซีย ถือเป็นเมืองหลวงของชวาตอนกลาง เมืองนี้มีอาคารเก่าที่มีกลิ่นอายของชวาและยุโรปในยุคอาณานิคมให้เดินชมมากมาย เพราะเซอมารังเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญในยุคที่อินโดนีเซียถูกปกครองโดยฮอลแลนด์ แต่ถึงแม้เซอมารังจะเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์เข้มข้นแค่ไหน ความชิคในเมืองนี้ก็ยังมีให้นักท่องเที่ยวไปชม ไปชิมอยู่ไม่น้อย ทั้งร้านอาหารเก๋ๆ คาเฟ่ชิค ๆ ให้ได้ลองกันเพลิน
-Spiegel Bar & Bistro : ตั้งอยู่ในย่าน Gombel ซึ่งถือเป็นถนนสำหรับสาย café hopper เพราะย่านนี้ถือเป็นแหล่งสุดชิลเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบสำรวจเมืองแบบเดินเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก และ Spiegel Bar & Bistro ก็เป็นร้านไฮไลต์ที่ใครมาย่านนี้ต้องห้ามพลาด ร้านนี้เน้นอาหารสไตล์ตะวันตกและเด่นเรื่อง Mocktail สายสุขภาพ ถ้าคุณได้จิบ Berry Smash หรือ Lychee Iced Tea ก็ได้ความสดชื่นไม่แพ้กัน
- Inn Café & Resto Rinjani : เป็นอีกร้านที่เด่นทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ไฮไลต์อยู่ที่วิวเมืองเซอมารังที่สามารถมองเห็นได้จากยอดตึก เพราะร้าน Inn Café & Resto Rinjani เป็นสไตล์ Roof top Bar & Café ที่เหมาะกับการ hang out แบบเพื่อนฝูง หรือทานอาหารแบบครอบครัวก็ได้ ใครอยากมาลองชิมมื้อกลางวันหรือเย็นที่นี่ เชิญได้ตามสะดวกเลยจ้า
เมืองยอร์กยาร์กาตา (Yogyakarta)
เมืองนี้มีชื่อเล่นที่คนท้องถิ่นนิยมเรียกกันว่า “ยอกยา” (Jogja) ถือเป็นเมืองศูนย์กลางการศึกษา เพราะเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยจำนวนมาก รวมทั้งเป็นเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมสไตล์ชวา มีทั้งผ้าบาติก ดนตรี บทกวี และการแสดงหนังตะลุง
นอกจากนี้ยอกยายังมีบุโรพุทโธ ซึ่งถือเป็นมหาเจดีย์ของศาสนาพุทธขนาดใหญ่ ถือเป็นหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของอินโดนีเซีย อีกทั้งยอกยายังเป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมอาหารชวาให้นักท่องเที่ยวได้มาลองเปิดโลกกันอย่างสนุกเพลิดเพลินเลยทีเดียว
-Omah Kecebong : คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมห้ามพลาด Omah Kecebong มีบริการทั้งห้องพักและกิจกรรมท้องถิ่นสุดพิเศษพร้อมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส ทั้งลองทำผ้าบาติกอินโด เล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้าน และได้ลองแต่งชุดท้องถิ่นเคบาย่า (Kebaya)
ไฮไลต์พิเศษของที่นี่คือ เซทอาหารสไตล์อินโดชวาแท้ๆ แท้ขนาดให้เราได้ลองใช้มือทานกันอย่างจริงจัง แต่ถ้าใครไม่สะดวก ทางร้านก็มีช้อนส้อมเตรียมไว้ให้เช่นกัน เมนูห้ามพลาด คือ Gurame Baker หรือปลาหมักสมุนไพรทอด Tempe goring Tepung หรือเต้าหู้หมักทอด และ Gudangan หรือผักรวมทอด เสิร์ฟกับน้ำพริกเรียกว่า Sambal มาที่นี่ที่เดียว ก็จะได้รู้จักกับอินโดชวามากขึ้นเป็นกอง
-Abhayagiri Restaurant : จุดขายของที่นี่คือบุฟเฟ่ต์อาหารท้องถิ่นทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่มที่มีให้เลือกแบบละลานตา แต่สำหรับใครที่อยากทานแบบ East meets West ที่นี่ก็มีมุมอาหารนานาชาติให้ด้วยเช่นกัน และนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้อิ่มท้องกับอาหารบุฟเฟ่ต์แล้ว ยังได้อิ่มใจกับวิวพาโนราม่าของยอร์กยาร์กาตาแบบธรรมชาติสุดลูกหูลูกตาที่มีภูเขา Merapi และวัด Prambanan เป็นไฮไลต์อีกด้วย
เมืองสุราการ์ตา (Surakarta)
เมืองสุราการ์ตา หรือที่คนท้องถิ่นมักเรียกด้วยชื่อเล่นว่า “Solo” (ชื่อเดิม) ถือเป็นเมืองต้นตำรับอุตสาหกรรมผ้าบาติคของอินโดนิเซีย ส่วนเรื่องอาหาร โซโลเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองแห่งอาหารท้องถิ่นโดยเฉพาะแนว street food ที่มีให้เลือกเดินกันหลายตลาด หลากบรรยากาศ และแล้วแต่ความหิวได้เลย
-ย่าน Wedangan Pak Di : ที่นี่ผู้มาเยือนจะได้เปิดโลกอาหารท้องถิ่นอินโดที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับตลาด Pasar Legi สำหรับอาหารเช้า นำโดยโจ๊กที่ดูคล้ายเมนูของไทยแต่ที่นี่เป็นโจ๊กไก่เครื่องแน่น เรียกว่า Bubur Ayam หรือจะเป็นข้าวแกงอินโด Nasi Liwet เมนูข้าวหุงด้วยน้ำซุปและกะทิเสิร์ฟกับไก่หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ พร้อมมีไข่ น้ำพริกและเครื่องเคียงตามชอบ
ส่วนใครนิยมขนม ต้องลองขนมครกอินโด Serabi ความเก๋อยู่ที่คนที่นี่นิยมแต่งรสด้วยชีส ช้อคโกแลตและกล้วย หรือจะเอาไปเป็นขนมราดน้ำกะทิน้ำตาลมะพร้าวก็ได้เช่นกัน
-ย่าน Pasar Gede : ถือเป็นสวรรค์สำหรับสายชิมกินเล่นจุกจิก เพราะที่นี่มีของว่างให้เลือกลองลิ้มชิมรสกันมากมาย โดยสิ่งแรกที่ไม่ควรพลาดก็คือ Sate Kerang หรือ Sate Usus เป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่นกกระทา หอยแครง และอีกมากมายนำมาปิ้งหรือต้ม กินกับน้ำจิ้มซอสถั่วและเครื่องเคียง ถือเป็นเมนูยอดนิยมของชาวชวา หรือจะเป็นสละอินโดที่คนไทยหลายคนคุ้นเคย
จากนั้นอาจตบด้วย Es Dawet ขนมหวานเย็นน้ำกะทิหอมน้ำตาลมะพร้าว หน้าตาอาจคล้ายลอดช่องที่เมืองไทย แต่รายละเอียดนั้นต้องลองดูสักครั้ง
สำหรับอินโดนีเซียไม่ได้มีดีแค่บาหลี แต่ประเทศนี้ยังมีมุมใหม่ ๆ ให้คนหา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็น feel like FOOD HEAVEN!! ที่น่าเที่ยวไปกินไปไม่น้อยเลย
....................................................................................................
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก ปชส. การท่องเที่ยวอินโดนีเซีย
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager