xs
xsm
sm
md
lg

แอ่วเหนือวันธรรมดา ต้องมนต์ล้านนาที่ “เชียงราย-พะเยา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย จุดชมทะเลหมอกเลื่องชื่อของไทย
เชียงราย” ดินแดนเหนือสุดแห่งสยามเมืองงามชายแดน วันนี้นอกจากจะเป็นเมืองรองมาแรงแล้ว ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญแห่งดินแดนล้านนา

ขณะที่ “พะเยา” จังหวัดเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันทางตอนล่าง (ทิศใต้) นั้น ก็ถือเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยว และมีของดีซ่อนกายอยู่มากมาย

นั่นจึงทำให้เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดทั้งสองไม่เคยร้างรานักท่องเที่ยว หากมีแต่ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยววงรอบ “เชียงราย-พะเยา-เชียงราย” นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อไปสัมผัสกับความงามของจังหวัดทั้งสองกันเป็นจำนวนมาก
กว๊านพะเยา เส้นเลือดหลักของเมืองพะเยา
สำหรับใครที่อยากจะซึมซับกับมนต์เสน่ห์แห่งล้านนาในดินแดนเชียงราย-พะเยา อย่างลึกซึ้ง “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้ลองคว้ากล้อง เก็บกระเป๋าขึ้นเหนือไปเที่ยวใน “วันธรรมดา” ดู แล้วก็จะได้พบกับบรรยากาศทางการท่องเที่ยวที่แตกต่างชนิดที่ใครได้ลองแล้วจะติดใจ

เพราะข้อดีการเที่ยววันธรรมดา มันสามารถหลีกเลี่ยงปริมาณความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่นิยมไปเที่ยวกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี ร้านค้าร้านอาหารก็ไม่ต้องรอคิวนาน นอกจากนี้ราคาที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบินในช่วงวันธรรมดานั้นก็ถูกกว่าช่วงวันหยุดเป็นไหน ๆ

ดังนั้น “ตะลอนเที่ยว” จึงไม่รีรอหาวันว่างในช่วงวันธรรมดา ออกเดินทางไปสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งล้านนาในเส้นทางเชียงราย-พะเยาในทันที

อลังการภูผา ทะเลหมอก
วิวทิวทัศน์ฝั่งลาวมีแม่น้ำโขงไหลผ่าน เมื่อมองจากจุดชมวิวดอยผาตั้ง
ทริปนี้เราเริ่มต้นกันด้วยการขึ้นดอยขึ้นภูไปดูวิวทิวทัศน์อลังการ 2 ฝั่งไทย-ลาว และทะเลหมอกแสนงามกันที่ “ดอยผาตั้ง” และ “ภูชี้ฟ้า

จากตัวเมืองเชียงรายออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ “ดอยผาตั้ง” ภูเขากั้นพรมแดนไทย-ลาว ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

ดอยผาตั้ง มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร บนยอดดอยเป็นจุดชมวิว 2 แผ่นดินไทย-ลาว อันสวยงามอลังการ โดยเฉพาะที่ “เนิน 102” และ “เนิน 103” ซึ่ง เมื่อมองไปทางฝั่งสปป.ลาว (ตอ.) จะเห็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาผืนป่า และลำน้ำโขงที่ไหลเลาะแบ่งเขตแดนของ 2 ประเทศ ส่วนถ้ามองย้อนกับมาฝั่งไทย (ตต.) จะเห็นแนวขุนเขาน้อย-ใหญ่ และเส้นถนนคดโค้งสอดรับกับภูมิประเทศดูสวยงามน่ายล
บรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน เมื่อมองจากยอดดอยผาตั้ง
นอกจากนี้บริเวณผาตั้งยังมีจุดน่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ผาบ่อง, ช่องเขาขาด, ป่าหินยูนนาน, ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่,พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ และกิจกรรม “นั่งม้าชมดอย” ที่น่าสนุกตื่นเต้นไม่น้อย

หลังเฝ้ารอชมดวงตะวันค่อย ๆ ลาลับเหลี่ยมเขาจากบนจุดชมวิวยอดดอยผาตั้งและแสงสุดท้ายในช่วงเย็นย่ำค่ำของวันแรกแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้น “ตะลอนเที่ยว” ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเดินทางออกจากที่พักเชิงดอยใน อ.เทิง มุ่งหน้าสู่ “ภูชี้ฟ้า” หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของทริปนี้
ทะเลหมอกภูชี้ฟ้า
ภูชี้ฟ้า มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย อ.เทิง จ.เชียงราย อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กม.

ภูชี้ฟ้าถูกยกให้เป็นหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกหน้าหนาวที่มีความสวยงามจัดอยู่ในลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย วันไหนที่ท้องฟ้าอากาศเป็นใจ บนยอดสูงสุดของภูชี้ฟ้าเมื่อมองไปทางฝั่งสปป.ลาว จะเห็นทะเลหมอกหนาแน่นทึบลอยอ้อยอิ่งไปตามร่องเขา มียอดเขาบางลูกแซมทะลุหมอกขึ้นมาทำให้ดูมีมิติและเพิ่มความงดงามยิ่งขึ้น
ภูชี้ฟ้ากับวิวของหน้าผายอดภูที่ชี้เด่นขึ้นสู่ท้องฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ภูชี้ฟ้ายังมีจุดชมวิวต้องห้ามพลาดอยู่บริเวณข้าง ๆ ทางเดินขึ้น-ลงยอดดอย กับมุมมองยามเช้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้นที่เป็นดังซิกเนเจอร์ของภูแห่งนี้ ซึ่งเมื่อมองไปทางหน้าผายอดภู จะเห็นดวงตะวันค่อย ๆ ลอยโผล่พ้นทะเลหมอกขาวโพลน ส่องแสงสาดกระทบม่านหมอกและหน้าผาของภูแห่งนี้ที่มีลักษณะเด่นเป็นเหลี่ยมแหลมชี้ขึ้นไปบนฟ้าอันเป็นที่มาของชื่อ “ภูชี้ฟ้า” อันลือลั่น

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวภูชี้ฟ้า-ดอยผาตั้ง หากยังไม่จุใจ ลองไปเที่ยวชม 2 ภูน้องใหม่มาแรงที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันนั่นก็คือ “ภูชี้ดาว” และ “ภูชี้เดือน” ที่ตั้งอยู่ใน อ.เวียงแก่น (ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 กม.) ทั้ง 2 ภู เป็นจุดชมวิวและจุดชมทะเลหมอกอันงดงาม ซึ่งหากไปเที่ยวช่วงวันธรรมดาที่มีคนไม่มาก เราสามารถเที่ยวเก็บ “ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน” ขึ้นไปชมวิวชมทะเลหมอกในช่วงครึ่งวันเช้าได้อย่างสบาย ๆ

อะเมซิ่งพะเยา
น้ำตกภูซาง น้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในไทย
จาก 3 ภูตระกูลชี้ เราล่องลงมาทางตอนใต้ของเชียงรายข้ามเขตจังหวัดสู่ อ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อสัมผัสกับความอะเมซิ่งของ “น้ำตกภูซาง” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

น้ำตกภูซาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูซาง เป็นน้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในเมืองไทย มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส

ตัวน้ำตกมีชั้นเดียว สูง 20 กว่าเมตร ไหลเป็นสายฟูฟ่องลงมาสู่ธารน้ำเบื้องล่าง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและแมกไม้อันร่มรื่น ชวนให้ไปสัมผัสกับสายน้ำตกอุ่น ๆ แห่งนี้เป็นยิ่งนัก

จากน้ำตกอุ่น เราไปดูอีกหนึ่งสิ่งชวนอะเมซิ่งของพะเยากันที่ “วัดพระเจ้านั่งดิน” ต.เวียง อ.เชียงคำ (ห่างจากตัวอำเภอเชียงคำ 4 กม.)
พระเจ้านั่งดิน พระพุทธรูปที่แตกต่างจากทั่ว ๆ ไป
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้านั่งดิน” องค์พระประธานที่ไม่เหมือนที่ไหน ๆ เพราะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ประดิษฐานอยู่บนพื้น ไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่น ๆ นับเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปของบ้านเราที่ชวนทึ่งไม่น้อย

สำหรับความเป็นมาของพระเจ้านั่งดินนั้น มีเรื่องเล่าขานว่า ในอดีตเมื่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้เสร็จได้วางท่านไว้บนพื้นราบ ครั้นต่อมามีชาวบ้านพยายามสร้างฐานชุกชีให้อัญเชิญท่านขึ้นตั้งอยู่บนนั้น แต่ปรากฏว่าพยายามเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น ชาวบ้านจึงเรียกสืบต่อกันมาว่า “พระเจ้านั่งดิน

ในอำเภอเชียงคำไม่ไกลจากวัดพระเจ้านั่งดินเท่าไหร่ ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของอำเภอแห่งนี้นั่นก็คือ “วัดนันตาราม” ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในจังหวัดพะเยา
วัดนันตาราม ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่สวยที่สุดในพะเยา
วัดนันตาราม ตั้งอยู่ที่บ้านดอนไชย ในเขตสุขาภิบาลเมืองเชียงคำ เป็นวัดที่โดดเด่นไปด้วยงานศิลปกรรมแบบไทใหญ่ ตัววิหารสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง หลังคามุงด้วยแป้นเกล็ดซ้อนหลายชั้น ทั่ววิหารประดับประดาด้วยลวดลายไม้ฉลุฝีมือประณีตงดงาม

ส่วนภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญหลากหลาย อาทิ องค์พระประธานทรงเครื่องแบบไทใหญ่, พระเจ้าแสนแส้, พระพุทธรูปเกสรดอกไม้ และ พระพุทธรูปหยกขาว เป็นต้น ขณะที่บนเพดานวิหารประดับกระจกสีลวดลายวิจิตร

ใครที่มาแอ่วเชียงคำแล้ว ไม่ควรพลาดการไปเที่ยวชมความงามของวัดนันตารามด้วยประการทั้งปวง
 
แอ่วเมืองพะเยากับไฮไลท์ห้ามพลาด
พระเจ้าตนหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองพะเยา
จากเชียงคำดินแดนไทลื้อ เรามุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองพะเยาเพื่อไปสักการะ “พระเจ้าตนหลวง” ที่ประดิษฐานอยู่ที่ “วัดศรีโคมคำ” หรือ “วัดพระเจ้าตนหลวง

พระเจ้าตนหลวง เป็นพระพุทธรูปศิลปะเชียงแสนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในล้านนา หน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 17 เมตร
พระเจ้าตนหลวงเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองพะเยา ซึ่งว่ากันว่าใครมาเยือนพะเยาแล้วไม่ได้ไปกราบสักการะพระเจ้าตนหลวงนั้นเหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงพะเยาโดยสมบูรณ์

นอกจากพระเจ้าตนหลวงแล้ว พะเยายังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์คู่เมืองนั่นก็คือ “กว๊านพะเยา” คำว่า“กว๊าน”นั้น หมายถึง หนองน้ำหรือบึงน้ำขนาดใหญ่ เป็นภาษาท้องถิ่นล้านนาที่ใช้เฉพาะที่พะเยาเท่านั้น
กว๊านพะเยา หนึ่งในสถานที่ไฮไล์ของจังหวัดพะเยา
กว๊านพะเยาเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่นอกจากจะเป็นดังเส้นเลือดหลักของเมืองพะเยาแล้ว ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของทัศนียภาพอันงดงาม รวมไปถึงวัดสำคัญกลางน้ำอย่าง “วัดติโลกอาราม

วัดติโลกอาราม ตั้งอยู่กลางกว๊านพะเยา เป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อศิลา” หนึ่งในพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองพะเยา

หลวงพ่อศิลา หรือ “พระเจ้ากว๊าน” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่เคยจมอยู่ใต้น้ำเมื่อครั้งสร้างทำนบกักเก็บน้ำ ก่อนที่ในปี พ.ศ. 2526 จะมีการขุดค้นพบท่าน ซึ่งภายหลังในปี 2550 ทางจังหวัดพะเยาได้อัญเชิญหลวงพ่อศิลาให้มาประดิษฐานเป็นองค์พระประธานของวัดติโลกการามหลังการบูรณะใหม่
หลวงพ่อศิลาพญานาคคู่” แลนด์มาร์คสำคัญของกว๊านพะเยา
ผู้ที่มาแอ่วกว๊านพะเยาสามารถนั่งเรือแจวพื้นบ้านจากฝั่งท่าเรือวัดติโลกอาราม เพื่อไปไปสักการะองค์หลวงพ่อศิลา ท่ามกลางบรรยากาศสุดฟินของสายน้ำขุนเขาอันงดงาม นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เราไม่เคยพลาดเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนกว๊านพะเยา

ขณะที่สิ่งน่าสนใจอื่น ๆ บริเวณกว๊านพะเยานั้นก็มี“อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง” กษัตริย์องค์สำคัญแห่งอาณาจักรภูกามยาว (เมืองพะเยาในสมัยโบราณ) ให้เราได้เคารพสักการะกัน ส่วนฝั่งตรงข้ามอนุสาวรีย์เป็นที่ตั้งของรูปปั้น “พญานาคคู่” แลนด์มาร์คสำคัญของกว๊านพะเยา
พญานาคคู่ แลนด์มาร์คสำคัญของกว๊านพะเยา
พญานาคคู่นี้อ้างอิงมาจากตำนานพญานาคแห่งกว๊านพะเยา ซึ่งในช่วงยามเย็นที่สวนริมกว๊านจะดูคึกคักมากไปด้วยสีสัน ทั้งจากผู้ที่มาท่องเที่ยว พักผ่อน ออกกำลังกาย ชมวิว และมาเฝ้าชมพระอาทิตย์ตกดินที่ถือเป็นช่วงเวลาไฮไลท์ของที่นี่

นอกจากองค์พระเจ้าตนหลวงและกว๊านพะเยาแล้ว ในเขตเมืองพะเยายังมีสิ่งน่าสนใจชวนเที่ยวชม อย่างเช่น “หอวัฒนธรรมนิทัศน์” สถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุสำคัญของพะเยาและล้านนาในรูปแบบพิพิธภัณฑ์, “วัดพระธาตุจอมทอง” สถานที่ประดิษฐาน “พระธาตุจอมทอง” พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพะเยา และ “วัดศรีอุโมงค์คำ” หรือ “วัดสูง” อันเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่องามเมืองเรืองฤทธิ์” พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่ามีพุทธลักษณะที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งแห่งดินแดนล้านนา
หลวงพ่องามเมืองเรืองฤทธิ์
และนี่ก็เป็นมนต์เสน่ห์บางส่วนของพะเยา จังหวัดเล็ก ๆ ที่สงบ สวยงาม น่ารัก ซึ่งจัดอยู่ในประเภท “จิ๋วแต่แจ๋ว” หรือ “Small is Beautiful” ที่แฝงเร้นไปด้วยสิ่งน่าสนใจมากมายชวนให้ค้นหา

2 วัดงามสุดวิจิตร

จากพะเยาเรามาปิดท้ายทริปกันที่จังหวัดเชียงรายอีกครั้ง ดังที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่าทริปนี้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเชียงราย-พะเยา แบบวงรอบ

สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวส่งท้ายในจังหวัดเชียงราย เราเลือกปิดทริปกันด้วยความเป็นสิริมงคลกับ 2 วัดดังที่สร้างอย่างสุดวิจิตรอลังการ เริ่มกันที่วัดแรก “วัดร่องขุ่น” ที่ตั้งอยู่ที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ
วัดร่องขุ่น
วัดแห่งนี้สร้างวัดขึ้นด้วยคติจักรวาล มีสระน้ำเปรียบดังมหานทีสีทันดร สร้างล้อมรอบพระอุโบสถสีขาวประดับกระจกแวววับ เปรียบดังพระบริสุทธิคุณและพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล

จากวัดร่องขุ่นเราไปปิดท้ายทริปกันที่ “วัดร่องเสือเต้น” ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือของ “นายพุทธา กาบแก้ว” หรือ “สล่านก” ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งท่านเป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของ อ.เฉลิมชัย
วัดร่องเสือเต้น
วัดร่องเสือเต้นเป็นวัดที่เน้นการใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก โดยสีน้ำเงินของพระวิหารนั้นผู้สร้างเปรียบดังธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เผยแผ่ขจรขจายไปทั่วโลก

ส่วนภายในตัววิหารประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ” องค์พระประธานสิงห์หนึ่งสีขาวมุกขนาดใหญ่ พระพักตร์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มดูอิ่มบุญ อิ่มใจ สบายตา
พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ
นับเป็นการปิดท้ายด้วยความเป็นสิริมงคลกับเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงเชียงราย-พะเยา ซึ่งนอกจากจะมากไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลากหลายแล้ว ยังเปี่ยมไปด้วยมนต์ตราวิถีแห่งล้านนาอันทรงเสน่ห์

ยิ่งถ้าหากใครเลือกเที่ยวในวันธรรมดาด้วยแล้ว มันก็ยิ่งจะทำให้เราได้สัมผัส ซึมซับกับบรรยากาศของการท่องเที่ยวในทริปนั้น ๆ ได้อย่างเต็มเปี่ยม

นับเป็นมนต์เสน่ห์ของ “วันธรรมดาน่าเที่ยว” ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
วิวทิวทัศน์ทะเลหมอก-พระอาทิตย์ขึ้น เมื่อมองจากภูชี้ฟ้า
....................................................................................................

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดพะเยาและเชียงรายเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ เชียงราย,พะเยา) โทร.0-5371-7433,0-5374-4674-5
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น