xs
xsm
sm
md
lg

ชมภาพเก่าเล่าอดีตบนถนนย่านธุรกิจ "สุขุมวิท แกลเลอรี่" กรุงเทพฯ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
ย้อนความทรงจำกับถนนสุขุมวิทในอดีต
ถนนสุขุมวิท เป็นถนนสายการค้าทำเลทองของกรุงเทพฯ ที่มีการผสมผสานระหว่างที่พักอาศัย ศูนย์ธุรกิจ ศูนย์การค้า และแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการคมคมนาคมที่สมบูรณ์ ถือเป็นแหล่งดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาทำการพัฒนา สร้างโอกาสทางธุรกิจได้หลากหลาย นอกจากเป็นถนนสายสำคัญแล้วยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมากมาย
สุขุมวิท แกลเลอรี่
จากถนนสายธุรกิจการค้าที่มีชื่อเสียง หากย้อนวันวานกลับไปถึงภาพทรงจำในอดีต หลายคนคงนึกภาพไม่ออกว่าถนนสายสำคัญนี้เป็นอย่างไร ให้เข้าไปชมภาพประทับใจที่เล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายให้ได้ชมกัน ที่ชั้น 4 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เป็นแกลเลอรี่ที่รวบรวมภาพถ่ายในสมัยก่อนที่เกี่ยวข้องกับประวัติของถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 45 ภาพ จัดแสดงถาวรโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
นายพิชัย รัตตกุล ประธานเปิด สุขุมวิท แกลเลอรี่
นายพิชัย รัตตกุล ประธานเปิด สุขุมวิท แกลเลอรี่ เล่าถึงความเป็นมาของถนนสุขุมวิทในอดีตให้ฟังว่า ในอดีตถนนสุขุมวิทไม่ได้เรียกว่าสุขุมวิทเหมือนปัจจุบัน เดิมเรียกว่า บางกะปิ เป็นท้องทุ่งนา ทุ่งหญ้า บริเวณกว้าง มีอากาศปลอดโปร่งโล่ง และเงียบสงบ อีกทั้งยังเป็นสวรรค์ของคนที่หลงรักการเล่นว่าวอีกด้วย ผู้คนจะนำว่าวมาล่องลอยโต้ลมกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเว่าที่ได้รับการนิยมนั้นจะเล่นว่าวจุฬาและว่าวปักเป้า

"ผมจำได้ว่าบ้านหลังแรกๆ ของถนนแห่งนี้นั้นเป็นของนายเล็ก นานา จะตั้งอยู่บริเวณต้นๆ ของถนน หน้าบ้านมีรถยนต์ยี่ห้อโฟล์คสวาเกนจอดอยู่ตลอด นอกจากนายเล็กแล้ว ยังมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายท่านก็อาศัยอยู่ในแถบนี้เช่นกัน นอกจากทุ่งบางกะปิเป็นสถานที่ยอดนิยมในการเล่นว่าวแล้ว ยังเป็นสถานที่พักผ่อนของคู่รักและครอบครัวด้วย"
การจราจรหนาแน่นบนท้องถนน
ในช่วงปลายรัชกาลที่ ๖ เมืองกรุงเทพฯ เริ่มขยายตัวไปทางทิศตะวันออก เมีการสร้างโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยที่ริมคลองบางกะปิใน พ.ศ.2464 จึงเกิดถนนใหม่ซึ่งตัดจากถนนเพลินจิตมายังโรงเรียนดังกล่าว โดยการเรี่ยไรที่ดินและค่าก่อสร้างจากเจ้าของที่ดินรายใหญ่ ๆ เป็นถนนยาว 1.5 กิโลเมตร ทุ่งบางกะปิจึงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นย่านพักอาศัย

ผศ.ดร.พีรศรี โพวาทอง อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิทตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของพระนคร ในสมัยรัชกาลที่ ๖ พื้นที่ดังกล่าวมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีการสร้างโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย รวมถึงตัดถนนสายสั้นๆ นั่นคือถนนเพลินจิตในปัจจุบัน
ผศ.ดร.พีรศรี โพวาทอง อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (กลาง)
ต่อมาในรัชกาลที่ ๗ รัฐบาลมีดำริขยายโครงข่ายการคมนาคม เชื่อม เมืองกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการ ใน พ.ศ. 2470 กระทรวงมหาดไทยจึงวางแผนตัดถนนต่อออกไป รวมเป็นระยะทาง 18.8 กิโลเมตร โดยมีพระพิศาลสุขุมวิท (ประสบ สุขุม) อธิบดีกรมทางหลวง เป็นผู้กำกับ ดูแล การก่อสร้างถนนสายนี้แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2479 โดยมีชื่อถนนว่า ถนนกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ
ชมภาพประทับใจที่หาดูได้ยาก
ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ผู้มีฐานะในพระนครอพยพหนีภัยการโจมตีทางอากาศในพื้นที่เมือง กรุงเทพฯ ชั้นในออกมาที่ย่านบางกะปิ ซึ่งกลายเป็นย่านพักอาศัยชานเมืองที่ทันสมัยในยุคหลังสงคราม เกิดการจัดสรรที่ดิน โดยเฉพาะของเจ้าของที่ดินชาวมุสลิมดั้งเดิม ตัดซอยแยกจากแนวถนนหลัก ไปจรดแนวคลองบางกะปิ (คลองแสนแสบ) ทางทิศเหนือ และแนวถนนพระรามที่ 4 ทางทิศใต้
บรรยากาภายในสุขุมวิทแกลเลอรี่
ต่อมาใน พ.ศ. 2490 รัฐบาลมีนโยบายสร้างทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งกำหนดให้ถนนกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ เป็นเส้นทางหลักจากกรุงเทพฯ ไปสู่ภาคตะวันออก มีการสร้างทางหลวงต่อจากเมืองสมุทรปราการ ผ่านอู่ตะเภา ชลบุรี ระยอง ไปจนถึงชายแดนที่จังหวัดตราด แล้วเสร็จใน พ.ศ. 2493 นับเป็นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3 โดยได้รับชื่อว่า ถนนสุขุมวิท เพื่อเป็นเกียรติแก่พระพิศาลสุขุมวิท ผู้กำกับดูแลการก่อสร้างเส้นทางสายนี้
รถประจำทางในอดีต
เมื่อถึงสมัยในรัชกาลที่ ๙ ย่านถนนสุขุมวิทมีการสร้างอาคารพาณิชย์สองฟากถนน การสร้างโรงแรม อาคารสำนักงาน โรงภาพยนตร์ และห้างสรรพสินค้า เพื่อรองรับกิจกรรมของชีวิตเมืองสมัยใหม่ สำหรับทั้งผู้มีฐานะชาวไทย ชาวต่างประเทศ และนักท่องเที่ยว ถนนสุขุมวิทตอนต้นกลายเป็นย่านธุรกิจ ที่ดินราคาสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการสร้างอาคารสูงในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ การจราจรที่คับคั่งยังให้เกิดการสร้างระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญบนถนนสุขุมวิท คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส (แล้วเสร็จ พ.ศ. 2542) ซึ่งตัดกับเส้นทางรถไฟฟ้ามหานคร (MRT แล้วเสร็จ พ.ศ. 2547) ที่ถนนอโศกมนตรี (ซอยสุขุมวิท 21)
ภาพถ่ายเล่าเรื่องวันวาน
ย่านสุขุมวิททุกวันนี้จึงมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นทั้งย่านธุรกิจการค้าและย่านพักอาศัยที่สำคัญของกรุงเทพฯ เป็นศูนย์รวมของชีวิตเมืองที่หลากหลาย ทันสมัย ผสมผสานอดีตกับปัจจุบันได้อย่างมีชีวิตชีวา มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความเป็นเมืองกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ภาพเก่าชวนนึกถึงความทรงจำ
มีให้ชมหลากหลาย
นอกจากนั้นที่บริเวณ สุขุมวิท แกลเลอรี่ ยังเสิร์ฟอาฟเตอร์นูนที ออกแบบธีมโดย สกุล อินทกุล ศิลปินนักจัดดอกไม้ระดับนานาชาติ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหนึ่งในภาพของ สุขุมวิท แกลเลอรี่ นั่นคือภาพจองสะพานลอยเอกมัย ตั้งอยู่ที่แยกซอยเอกมัย เป็นสะพานลอยที่มีรูปแบบล้ำสมัยในยุคนั้น เป็นที่จำจดได้ของหลายคน
ถนนสุขุมวิทในปัจจุบัน
"สุขุมวิท แกลเลอรี่" เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยไม่มีค่าเข้าชม เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.30 น. และสุขุมวิท อาฟเตอร์นูนที เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น. ราคา 950++ บาท/เซต สำหรับรับประทาน 2 คน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร.0-2098-1234
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

กำลังโหลดความคิดเห็น