Facebook :Travel @ Manager
ถือเป็นข่าวน่ายินดีในแวดวงสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ในบ้านเรา เมื่อ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ เผยแพร่ "พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562" โดยประกาศเพิ่มบัญชีให้ วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และฉลามวาฬ เป็นสัตว์สงวนชนิดใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา อ่าน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฉบับเต็มได้ที่นี่
เรื่องนี้สร้างความยินดีให้กับนักอนุรักษ์ ผู้รักธรรมชาติ และประชาชนทั่วไปที่ร่วมผลักดันเสนอชื่อสัตว์ทั้ง 4 ชนิดให้เป็นสัตว์ป่าสงวนตั้งแต่ปี 2558 ในวันนี้จึงถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการอนุรักษ์ดูแลสัตว์ทะเลหายากให้อยู่รอดปลอดภัยในธรรมชาติ
สำหรับสัตว์ทะเลทั้ง 4 ชนิด ได้แก่วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ ฉลามวาฬ และเต่ามะเฟือง มีลักษณะดังนี้
"วาฬบรูด้า" วาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเล ลักษณะรูปร่างเหมือนปลา คนจึงมักเรียกติดปากว่า “ปลาวาฬ” ในประเทศไทยสำรวจพบวาฬทั้งหมด 25 ชนิด พบทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน และสำหรับ “วาฬบรูด้า” ถือเป็นวาฬชนิดที่ไม่มีฟัน แต่จะมีซี่กรอง (Baleen Plates) สำหรับกรองอาหาร อีกทั้งยังเป็นวาฬกลุ่มที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง มีขนาดใหญ่
วาฬบรูด้าสามารถพบเห็นได้ในอ่าวไทยหรืออ่าวตัว ก. คืออ่าวไทยตอนบน กินพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรีไปถึงชลบุรี โดยในช่วงหน้าฝนประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคม น้ำจืดจากแม่น้ำจะนำเอาธาตุอาหารต่างๆ ไหลลงทะเลและตกตะกอนเป็นหาดเลน แล้วพวกฝูงปลากะตักและปลาทู รวมถึงปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมากก็จะเข้ามากินแพลงก์ตอนที่อ่าวไทยใกล้ชายฝั่ง และวาฬบรูด้าก็จะตามมากินปลาเหล่านี้อีกที ทำให้ในช่วงนี้เราจึงพบวาฬบรูด้าใกล้อยู่ชายฝั่ง บางทีห่างจากฝั่งไปแค่ 1-2 ก.ม.
"วาฬโอมูระ" เป็นวาฬสายพันธุ์หายากที่มีความใกล้เคียงกับวาฬบรูด้า มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ เมื่อมองจากด้านบน เห็นส่วนหัวรูปสามเหลี่ยม ครีบข้างเรียวปลายแหลมตั้งตรงออกจากลำตัว มีพฤติกรรมว่ายน้ำเร็ว ชอบรวมกลุ่มเป็นฝูงใหญ่
วาฬโอมูระถูกค้นพบครั้งแรกจากซากของมันในปี ค.ศ. 2003 และเมื่อพิจารณาจากซากแล้วจึงพบว่ามีความต่างจากวาฬบรูด้าคือวาฬโอมูระนั้นมีขนาดเล็กกว่า ตัวผู้ที่โตเต็มวัยยาวเพียง 10 เมตร ตัวเมียยาวเพียง 11.5 เมตร รอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือ 80-90 รอยจีบ และมีครีบหลังที่สูงกว่าและมีความโค้งน้อยกว่าของวาฬบรูด้า
"ปลาฉลามวาฬ" เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 เมตร ฉลามวาฬตัวใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกมีความยาวถึง 20 เมตร หนักถึง 42 ตันพบที่ไต้หวัน โดยปลาฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีช่วงอายุยืนยาวถึงกว่า 70 ปี และแม้จะมีขนาดใหญ่ยักษ์ แต่ฉลามวาฬหากินด้วยการกรองแพลงตอน และสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ เป็นอาหาร
"เต่ามะเฟือง" เป็นเต่าทะเล และเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวโตเต็มที่อาจมีขนาดถึง 2 เมตรกว่า กระดองของมันจะเป็นสันมีลักษณะคล้ายผลมะเฟือง จึงเป็นที่มาของชื่อเต่ามะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บตั้งแต่ออกจากไข่ เต่ามะเฟืองเพศเมียจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาดครั้งละ ประมาณ 66-104 ฟอง ใช้เวลาฟักเป็นตัวราว 60 วัน เมื่อลูกเต่าเกิดมันจะรีบคลานลงสู่ท้องทะเลในทันที และจะใช้ชีวิตในทะเลลึกเกือบตลอดชีวิต ยกเว้นเพียงช่วงที่ต้องสืบพันธุ์จึงจะกลับเข้ามาตามชายฝั่ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ถือเป็นข่าวน่ายินดีในแวดวงสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ในบ้านเรา เมื่อ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้ เผยแพร่ "พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562" โดยประกาศเพิ่มบัญชีให้ วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ เต่ามะเฟือง และฉลามวาฬ เป็นสัตว์สงวนชนิดใหม่อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา อ่าน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฉบับเต็มได้ที่นี่
เรื่องนี้สร้างความยินดีให้กับนักอนุรักษ์ ผู้รักธรรมชาติ และประชาชนทั่วไปที่ร่วมผลักดันเสนอชื่อสัตว์ทั้ง 4 ชนิดให้เป็นสัตว์ป่าสงวนตั้งแต่ปี 2558 ในวันนี้จึงถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการอนุรักษ์ดูแลสัตว์ทะเลหายากให้อยู่รอดปลอดภัยในธรรมชาติ
สำหรับสัตว์ทะเลทั้ง 4 ชนิด ได้แก่วาฬบรูด้า วาฬโอมูระ ฉลามวาฬ และเต่ามะเฟือง มีลักษณะดังนี้
"วาฬบรูด้า" วาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเล ลักษณะรูปร่างเหมือนปลา คนจึงมักเรียกติดปากว่า “ปลาวาฬ” ในประเทศไทยสำรวจพบวาฬทั้งหมด 25 ชนิด พบทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน และสำหรับ “วาฬบรูด้า” ถือเป็นวาฬชนิดที่ไม่มีฟัน แต่จะมีซี่กรอง (Baleen Plates) สำหรับกรองอาหาร อีกทั้งยังเป็นวาฬกลุ่มที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง มีขนาดใหญ่
วาฬบรูด้าสามารถพบเห็นได้ในอ่าวไทยหรืออ่าวตัว ก. คืออ่าวไทยตอนบน กินพื้นที่ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรีไปถึงชลบุรี โดยในช่วงหน้าฝนประมาณเดือนสิงหาคม-ตุลาคม น้ำจืดจากแม่น้ำจะนำเอาธาตุอาหารต่างๆ ไหลลงทะเลและตกตะกอนเป็นหาดเลน แล้วพวกฝูงปลากะตักและปลาทู รวมถึงปลาเล็กปลาน้อยจำนวนมากก็จะเข้ามากินแพลงก์ตอนที่อ่าวไทยใกล้ชายฝั่ง และวาฬบรูด้าก็จะตามมากินปลาเหล่านี้อีกที ทำให้ในช่วงนี้เราจึงพบวาฬบรูด้าใกล้อยู่ชายฝั่ง บางทีห่างจากฝั่งไปแค่ 1-2 ก.ม.
"วาฬโอมูระ" เป็นวาฬสายพันธุ์หายากที่มีความใกล้เคียงกับวาฬบรูด้า มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ เมื่อมองจากด้านบน เห็นส่วนหัวรูปสามเหลี่ยม ครีบข้างเรียวปลายแหลมตั้งตรงออกจากลำตัว มีพฤติกรรมว่ายน้ำเร็ว ชอบรวมกลุ่มเป็นฝูงใหญ่
วาฬโอมูระถูกค้นพบครั้งแรกจากซากของมันในปี ค.ศ. 2003 และเมื่อพิจารณาจากซากแล้วจึงพบว่ามีความต่างจากวาฬบรูด้าคือวาฬโอมูระนั้นมีขนาดเล็กกว่า ตัวผู้ที่โตเต็มวัยยาวเพียง 10 เมตร ตัวเมียยาวเพียง 11.5 เมตร รอยจีบใต้ลำคอมีจำนวนมากกว่า คือ 80-90 รอยจีบ และมีครีบหลังที่สูงกว่าและมีความโค้งน้อยกว่าของวาฬบรูด้า
"ปลาฉลามวาฬ" เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 เมตร ฉลามวาฬตัวใหญ่ที่สุดที่เคยมีการบันทึกมีความยาวถึง 20 เมตร หนักถึง 42 ตันพบที่ไต้หวัน โดยปลาฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีช่วงอายุยืนยาวถึงกว่า 70 ปี และแม้จะมีขนาดใหญ่ยักษ์ แต่ฉลามวาฬหากินด้วยการกรองแพลงตอน และสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ เป็นอาหาร
"เต่ามะเฟือง" เป็นเต่าทะเล และเป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวโตเต็มที่อาจมีขนาดถึง 2 เมตรกว่า กระดองของมันจะเป็นสันมีลักษณะคล้ายผลมะเฟือง จึงเป็นที่มาของชื่อเต่ามะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บตั้งแต่ออกจากไข่ เต่ามะเฟืองเพศเมียจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาดครั้งละ ประมาณ 66-104 ฟอง ใช้เวลาฟักเป็นตัวราว 60 วัน เมื่อลูกเต่าเกิดมันจะรีบคลานลงสู่ท้องทะเลในทันที และจะใช้ชีวิตในทะเลลึกเกือบตลอดชีวิต ยกเว้นเพียงช่วงที่ต้องสืบพันธุ์จึงจะกลับเข้ามาตามชายฝั่ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager