xs
xsm
sm
md
lg

เยือนป้อมพระจุลฯ ชม "เรือหลวงแม่กลอง" เรือรบเก่าแก่ที่สุดของไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
เรือรบแม่กลอง ความภาคภูมิใจของกองทัพเรือไทย
ใกล้ถึงวันหยุดทีไร ใจฉันก็อยากจะออกไปหาสถานที่ใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาว่างอยู่กับครอบครัว โดยจุดหมายปลายทางครั้งนี้ขอชวนมาที่ "ป้อมพระจุลจอมเกล้า" ป้อมปราการทางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ อีกหนึ่งแหล่งเรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

"ป้อมพระจุลจอมเกล้า" หรือเรียกสั้น ๆ ติดปากว่า "ป้อมพระจุล" สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2427 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เพื่อป้องกันการรุกรานจากอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชัยภูมิเหมาะสม หากมีเรือรบของข้าศึกบุกเข้ามาทางปากน้ำ ป้อมแห่งนี้สร้างเป็นป้อมปืนใหญ่แบบตะวันตก และได้ติดตั้งปืนหลุมหรือปืนเสือหมอบ จำนวน 7 กระบอก เข้าประจำการโดยเป็นปืนที่มีสมรรถนะสูง ถือเป็นปืนใหญ่บรรจุท้ายรุ่นแรกที่มีการใช้ในกองทัพเรือ จึงทำให้ป้อมปืนแห่งนี้มีความทันสมัยที่สุดในขณะนั้น
ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5
หากย้อนไปในอดีตในตอนเย็นก่อนพลบค่ำของวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2436 (ร.ศ.112) ขณะนั้นน้ำขึ้นสูงสุด เมื่อเรือรบฝรั่งเศส จำนวน 2 ลำ ได้ล่วงล้ำเข้าปากแม่น้ำเจ้าพระยา การสู้รบระหว่างฝรั่งเศสกับฝ่ายไทยซึ่งมีป้อมพระจุลจอมเกล้า พร้อมเรือรบอีก 5 ลำจึงเริ่มต้นขึ้น ผลการสู้รบในครั้งนั้นทำให้ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บ 3 นาย ส่วนทหารไทยเสียชีวิต 8 นาย บาดเจ็บ 41 นาย และสูญหาย 1 นาย แต่ไม่มีทหารของปืนป้อมพระจุลจอมเกล้าบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
ป้อมปืนใหญ่แบบตะวันตก 
ปืนหลุมหรือปืนเสือหมอบ
แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น และก่อความเสียหายในด้านชีวิตและทรัพย์สินไม่มากนัก แต่ก็มีผลหลายประการต่อปัญหาต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้น โดยเป็นเหตุให้ฝรั่งเศสยุติการสู้รบขู่เข็ญในกรณีพิพากษาเรื่องเขตแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ซึ่งได้โต้เถียงกันเป็นเวลานานกว่า 10 ปี อีกทั้งเป็นเหตุให้ไทยต้องเสียดินแดน 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมดให้ฝรั่งเศสไป เพื่อรักษาแผ่นดินส่วนใหญ่และเอกราชไว้
ป้อมปืนแห่งนี้มีความทันสมัยที่สุดในขณะนั้น
เรือรบเก่าแก่ที่สุดของไทย
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของป้อมพระจุลที่พลาดไม่ได้ก็คือ "เรือหลวงแม่กลอง" เรือรบประเภทเรือสลุป ต่อที่อู่เรืออุระงะ เมืองโยะโกะซุกะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อ พ.ศ. 2479 ขึ้นระวางประจำการเมื่อ พ.ศ. 2480 และปลดระวางประจำการเมื่อ พ.ศ. 2539 รวมระยะเวลาประจำการ 59 ปี นับว่าเป็นเรือรบที่ประจำการยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพเรือไทย และเป็นเรือรบที่มีความเก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก ได้ผ่านการใช้งานในหน้าที่สำคัญหลายครั้ง เช่น เคยใช้เป็นเรือพระที่นั่งในรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ร่วมรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา และใช้เป็นเรือฝึกของทหารเรือ ปัจจุบันกองทัพเรือได้ดำเนินการอนุรักษ์และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เรือรบไทยด้วย
เรือรบแม่กลอง
นอกจากนี้บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า ได้ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อพ.ศ. 2536 เพื่อเป็นราชานุสรณ์และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และกองทัพเรือได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์เปิดให้ประชาชนเข้าชมด้วย
อีกมุมหนึ่งของเรือรบแม่กลอง
บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ทหารเรือ
ใกล้กันนั้นจะมี ศาลพระนเรศ-นารายณ์ หรืออีกนามหนึ่งคือ พระวิษณุถือเป็นเทพทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่ฝ่ายปราบปรามมีการเป็นสีดอกตะแบก มี 4 กรถืออาวุธต่างๆ กัน คือ ตรี คทา จักร สังข์ ทรงมงกุฎชัย ใช้ครุฑเป็นพาหนะ ศาลนี้คาดว่าสร้างคู่มากับการสร้างป้อมพระจุลจอมเกล้า เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำป้อมพระจุลจอมเกล้า
จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์
จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์
ส่วนฝั่งตรงข้ามป้อมพระจุลได้มีอุทยานประวัติศาสตร์ทหารเรือที่จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมทั้งส่วนประกอบต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทหารเรือ  อาทิ กลุ่มปืนและอาวุธในสมัยรัชกาลที่ 5 และกลุ่มอาวุธของเรือหลวงพระร่วงและการจัดหาเรือหลวงพระร่วงของรัชกาลที่ 6 รวมทั้งยุทโธปกรณ์อื่นๆ และกลุ่มปืนและอาวุธในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้น
จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์
จัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์
หากวันหยุดนี้ใครยังไม่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวที่ไหน ก็ขอชักชวนมาชมประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ "ป้อมพระจุลจอมเกล้า" ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น