xs
xsm
sm
md
lg

“TRAIL and TAIL” แหล่งแฮงค์เอ้าท์ใหม่ของคนเมืองและสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์ทุกความต้องการแห่งแรกในไทย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
สระว่ายน้ำน้องหมา
อากาศร้อนๆ แบบนี้การที่จะพาสัตว์เลี้ยงแสนรักออกไปเดินเล่น ท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุขนาดนี้อาจจะไม่เหมาะสมนัก เราจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับโครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” คอมมูนิตี้รูปแบบใหม่สำหรับคนและสัตว์เลี้ยงครบวงจรที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนเมษยนที่ผ่านมา
ภายในโครงการ TRAIL and TAIL
โครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” (เทรล แอนด์ เทล เพ็ท-เฟรนด์ลี่ คอมมูนิตี้) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 มีพื้นที่ 4 ไร่ โดยในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นบ้านเก่าของครอบครัวและเครือญาติของ ชาณา เหตระกูล กรรมการบริหาร บริษัท ทรี ๓ แซงชัวรี่ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปบ้านนี้ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงได้มีการตัดสินใจทำโครงการนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์แต่ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าของ
Dog Park
สำหรับภายในโครงการ “TRAIL and TAIL” จะประกอบไปด้วยสามส่วนหลักๆ ด้วยกัน เริ่มที่ “Dog Park” เป็นสนามหญ้ากว้างๆ ขนาด 500 ตารางเมตร ที่นอกจากน้องหมาจะได้สนุกและรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังได้เข้าสังคมกับเพื่อน น้องหมาตัวอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีมุมที่เป็น Sensory Park ที่เป็นสวนสมุนไพรมีกลิ่น อาทิ ตะไคร้ ใบเตย ผักชีลาว ฯลฯ เพื่อให้น้องหมาฝึกสมองโดยการดมกลิ่น ที่ไม่เป็นอันตรายกับน้องหมา โดยเจ้าของสามารถนั่งดูน้องหมาวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจ
Indoor Play
ส่วนถ้าน้องหมาตัวไหนเป็นน้องหมาหน้าสั้น ขี้ร้อน ก็มีห้อง “Indoor Play” ที่เป็นสนามวิ่งเล่นในร่ม ที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย ซึ่งตอบโจทย์กับอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้มาก หรือแม้ว่าในวันที่ฝนตก น้องหมาก็ยังสามารถมาวิ่งเล่นได้เช่นกัน
การลงเล่นน้ำจะมีพี่เลี้ยงดูแล
รวมถึงมี “Swimming Pool” สระว่ายน้ำระบบเกลือในร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขนาดสระ 4x10 เมตร ความลึก 1 เมตร สระว่ายน้ำที่นี่ได้มีการออกแบบให้เหมาะที่จะเป็นสระว่ายน้ำของน้องหมาโดยเฉพาะ เพราะพื้นที่โดยรอบสระจะปูด้วยทรายล้างกันลื่น และมีระบบน้ำวนเพื่อให้น้ำในสระสะอาดอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีพี่เลี้ยงคอยดูแล ฝึกสอน เตรียมความพร้อมให้น้องหมาก่อนลงสระ และมีชูชีพให้สำหรับน้องหมาที่เพิ่งมาว่ายเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยเจ้าของสามารถลงว่ายน้ำกับน้องหมาได้ เรียกว่าได้ใช้เวลาสนุกร่วมกันจริงๆ
ห้องขนาด L
ต่อที่ “Dog Hotel” โรงแรมสำหรับน้องหมา ที่มีการออกแบบในโทนสีพาสเทลเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย มีเพดานสูง โปร่งโล่ง สะอาด ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน มีพี่เลี้ยงประจำคอยดูแล 24 ชม. มีคุณหมอจาก HATO Pet Wellness Center เข้ามาช่วยเช็คสุขภาพ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง พร้อมพาน้องหมาออกมาขับถ่าย วิ่งเล่นตามตารางเวลาที่กำหนด
ห้องขนาด S
โดยห้องพัก มี 3 ขนาด คือ S (0.8x0.8 ม.) ซึ่งห้องขนาดนี้สามารถนำแผ่นกั้นระหว่างห้องออก กลายเป็นห้อง 2S ได้, M (0.8x1.6 ม.) และ L (1.2x1.4 ม.) รวมถึงมีห้องรวมสำหรับน้องหมาที่ไม่ชอบอยู่ในกรง ซึ่งห้องแบบนี้น้องหมาที่จะอยู่ได้จะต้องเป็นน้องหมาที่เป็นมิตร สามารถอยู่รวมกับน้องหมาตัวอื่นได้ โดยห้องทั้งหมดจะมีทั้งแบบค้างคืน และแบบรายวัน
โรงแรมแมว
สำหรับน้องแมวที่นี่ก็มี “Kofuku Cat Hotel” โรงแรมสำหรับน้องแมวเช่นกัน ซึ่งคำว่า “Kofuku” (โคฟูกุ) ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง “ความสุข” ภายในมีการตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ได้มู้ดแอนด์โทนที่ดูอบอุ่น ให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน มีอุณหภูมิที่เย็นสบาย ด้วยเครื่องปรับอากาศตลอด 24 ชั่วโมง โดยน้องแมวที่จะเข้าพัก จะต้องมีสมุดประจำตัวที่มีรายการจดบันทึกประวัติส่วนตัว และบันทึกการฉีดวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง
ห้องแบบแคปซูล
โดยมีห้องทั้งหมด 19 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ห้องแคปซูล อยู่ได้ 1 ตัว, ห้องดีลักซ์ อยู่ได้สูงสุด 3 ตัว, ห้องสวีท อยู่ได้สูงสุด 6 ตัว และห้องเพ้นท์เฮ้าส์ อยู่ได้สูงสุด 8 ตัว ซึ่งทุกห้องในโรงแรมหมาและโรงแรมแมวจะมีกล้องวงจรปิดเพื่อให้เจ้าของได้ดูน้องหมาน้องแมวขณะนำมาฝากได้
บริการตัดขนใน HATO Pet Wellness Center
รวมถึงที่นี่ยังมี “HATO Pet Wellness Center” ศูนย์ยกระดับคุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยงครบวงจร ซึ่งเป็นคลินิกสัตว์เลี้ยงแห่งแรกในไทยที่ให้คำปรึกษาเเละดูเเลสัตว์เลี้ยงแบบองค์รวม โดยมีสัตว์เเพทย์ดูเเลทุกขั้นตอน มีบริการอาบน้ำตัดขนโดยช่างตัดขนสุนัขเเละแมวประสบการณ์ 15 ปี มีสปาสำหรับสัตว์เลี้ยง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ organic และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
Moggie Doggie Pet Shop
และมี “Moggie Doggie Pet Shop” ที่มาพร้อมกับสโลแกน “Everyday is Happy” เป็นร้านจำหน่ายสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับน้องหมา-น้องแมว อาทิ อาหาร ขนม ของเล่น เสื้อผ้า และมีสินค้ามีความแปลกใหม่จาก Local Designer ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเพื่อสุนัขและแมวที่ปัจจุบันเปรียบเสมือนคนในครอบครัว
งานศิลปะจากกลุ่มศิลปินผู้รักสัตว์
นอกจากนี้ที่ชั้นสองของโครงการยังมีการจัดแสดงงานศิลปะจากกลุ่มศิลปินผู้รักสัตว์ที่ได้ถ่ายทอดผลงานออกมาในรูปแบบของการสร้างงานศิลปะที่หลากหลาย อาทิ จิตรกรรม ประติมากรรมนูนต่ำ ภาพพิมพ์ เป็นรูปสัตว์เลี้ยงในลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สื่อถึงบุคลิก ขี้อ้อน บ้าพลัง หรือหน้าตาตลก และพฤติกรรมที่ชวนหัวเราะอยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดี โดยนิทรรศการนี้จะเปิดให้ชมความน่ารักจนถึงเดือนมิถุนายนเลยทีเดียว และจะมีการหมุนเวียนเป็นนิทรรศการอื่น
Tea Factory and More
ส่วนที่สองของโครงการคือ “Tea Factory and More” ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่สามารถพาน้องหมาและน้องแมวเข้าไปนั่งทานอาหารด้วยกันได้ โดยเป็นร้านอาหารที่มีกลิ่นอายของโรงงานชาที่ศรีลังกา ผสมผสานการใช้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้แบบยุโรป มีเมนูซุป สลัด พาสต้า เบอร์เกอร์ สไตล์โฮมเมดด้วยวัตถุดิบที่เลือกสรรอย่างมีคุณภาพ ในส่วนของเครื่องดื่มเน้นชาเป็นหลัก โดยคัดสรรและนำเข้าชาที่หากยากจาก 8 ประเทศ มีรสชาติอร่อยและมีบุคลิกเฉพาะตัว
ภายใน Tea Factory and More
อาหารสำหรับน้องหมาจากร้าน Holi & Co
และในส่วนสุดท้ายที่เตรียมจะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในช่วงกลางปีนี้ จะเป็นส่วนของ “Dogkery Cafe” คาเฟ่สำหรับน้องหมาโดยเฉพาะที่มีบริการขนมและอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้ง Fitness และ Beauty Clinic ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำให้ “TRAIL and TAIL” กลายเป็นคอมมูนิตี้ที่เติมเต็มความสุขให้กับคนเมืองและคู่ซี้สี่ขาได้ทุกวันอย่างแท้จริง

************************************
โครงการ “TRAIL and TAIL Pet-Friendly Community” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 - 19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 09-9352-2564 หรือที่ Facebook: www.facebook.com/trailandtailbkk
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น