xs
xsm
sm
md
lg

“พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปสำคัญคู่วันสงกรานต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

พระพุทธสิหิงค์ กรุงเทพฯ 1 ใน 3 พระพุทธสิหิงค์สำคัญของเมืองไทย
ทุก ๆ ปี เมื่อถึงวันสงกรานต์คราใด กิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งที่จัดขึ้นเป็นประจำก็คือ การอัญเชิญ “พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองใน 3 พื้นที่ออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำ สักการบูชา และขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกัน

สำหรับพระพุทธสิหิงค์นั้น หลายๆคนคงเคยได้สักการบูชา หรืออาจจะเคยได้มีโอกาสสรงน้ำท่าน แต่อาจไม่ทราบถึงความเป็นมาของท่านมาก่อน ซึ่งมีคำกล่าวกันว่า นอกจากพระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลกแล้ว จะหาพระพุทธรูปโบราณที่มีอยู่ในประเทศไทยที่มีความงดงามเทียบกับพระพุทธสิหิงค์นั้นไม่มีเลย

แสดงให้เห็นว่าพระพุทธรูปองค์นี้ย่อมต้องมีความงดงามเป็นอันมาก และความเป็นมาของท่านนั้นก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่ 1 ใน 3 พระพุทธสิหิงค์สำคัญของเมืองไทย
อนึ่งตามตำนานของพระพุทธสิหิงค์ มีผู้เรียบเรียงไว้หลายคน เช่น พระโพธิรังษี ปราชญ์เชียงใหม่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ และหลวงวิจิตรวาทการ โดยได้เล่าประวัติไว้ว่า

...พระพุทธสิหิงค์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 700 โดยพระมหากษัตริย์ลังกา 3 พระองค์ พร้อมกับพระอรหันต์ในเกาะลังกา

เล่ากันว่า ในการสร้างนั้น ผู้สร้างตั้งใจจะให้พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปที่เหมือนองค์พระพุทธเจ้าจริงๆ จึงให้พญานาคที่เคยเห็นพระพุทธองค์แปลงกายมาเป็นแบบให้

ทว่าในขณะหล่อนั้น ช่างหล่อคนหนึ่งทำไม่ถูกพระทัยเจ้าองค์หนึ่ง จึงถูกหวดด้วยไม้ถูกนิ้วของช่างบาดเจ็บ ครั้นพอหล่อพระพุทธสิหิงค์เสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่านิ้วของพระพุทธสิหิงค์มีรอยชำรุดไปนิ้วหนึ่งเช่นกัน
พระพุทธสิหิงค์ นครศรีธรรมราช 1 ใน 3 พระพุทธสิหิงค์สำคัญของเมืองไทย
พระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ที่กรุงลังกาเป็นเวลาถึง 1,150 ปี และเมื่อถึงสมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงได้ทราบถึงลักษณะที่งดงามของพระพุทธสิหิงค์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยานครศรีธรรมราชแต่งทูตเชิญพระราชสาสน์ไปขอประทานมาจากพระเจ้ากรุงลังกา พระพุทธสิหิงค์จึงได้มาประดิษฐานที่กรุงสุโขทัยเป็นเวลา 70 ปี

หลังจากนั้นพระพุทธสิหิงค์ก็ได้ย้ายไปประดิษฐานตามที่ต่างๆ ในอาณาจักรไทย ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองพิษณุโลก กรุงศรีอยุธยา เมืองกำแพงเพชร เมืองเชียงราย เมืองเชียงใหม่ จนเมื่อสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระพุทธสิหิงค์ได้มาประดิษฐานยังกรุงเทพเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2338 และได้ประดิษฐานอยู่ที่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์มาจนทุกวันนี้

หากจะนับเวลาตั้งแต่เมื่อครั้งที่อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์จากกรุงลงกามายังสุโขทัย จนมาประดิษฐานอยู่ในกรุงเทพปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลาถึงกว่า 700 ปี ทีเดียว
พระพุทธสิหิงค์ กรุงเทพฯ ประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งพระพุทไธสวรรค์
ในประเทศไทย มีพระพุทธรูปที่มีนามว่าพระพุทธสิหิงค์อยู่หลายองค์ในหลายพื้นที่ แต่มีพระพุทธสิหิงค์สำคัญอยู่ 3 องค์ คือ

พระพุทธสิหิงค์ กรุงเทพฯ” ประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งพระพุทไธสวรรค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ ซึ่งก็คือองค์ที่กล่าวถึงข้างต้น

ทุก ๆ ปี ในช่วงสงกรานต์ กทม. จะอัญเชิญองค์พระพุทธสิหิงค์ (จำลอง) ไปให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลกัน โดยปีนี้ (2562) กทม.ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ไปประดิษฐานบนมณฑปสวนลุมพินี เพื่อให้ประชาชนสรงน้ำพระช่วงสงกรานต์ ในระหว่างวันที่ 11-14 เม.ย.
พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่ ประดิษฐานอยู่ในวิหารลายคำ  วัดพระสิงห์
พระพุทธสิหิงค์ จ. เชียงใหม่” ประดิษฐานอยู่ในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ พระพุทธสิหิงค์องค์นี้ หลาย ๆ คนนิยมเรียกกันว่า “พระสิงห์” ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่

สำหรับวัดพระสิงห์ เดิมชื่อว่าวัดลีเชียงพระ แต่หลังจาก พ.ศ.1943 เมื่อกษัตริย์เชียงรายได้อัญเชิญพระสิงห์มาจากกำแพงเพชร และนำมาถวายพญาแสนเมืองมากษัตริย์เชียงใหม่ พระองค์ได้อัญเชิญพระสิงห์ประดิษฐานไว้ที่วัดลีเชียงพระ ต่อมาคนเชียงใหม่จึงเรียกวัดนี้ว่าวัดพระสิงห์นับแต่นั้นมา
ขบวนแห่อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ให้ประชาชนได้สรงน้ำพระ ที่ จ.เชียงใหม่
พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หล่อด้วยสัมฤทธิ์ลงรักปิดทอง เป็นศิลปะเชียงแสนยุคแรก ที่มีพุทธลักษณะงดงามเปี่ยมศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางจังหวัดเชียงใหม่จะมีการอัญเชิญพระสิงห์ขึ้นบนบุษบกแห่รอบเมืองเชียงใหม่ให้ประชาชนสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลเป็นประจำทุกปี

พระพุทธสิหิงค์ จ. นครศรีธรรมราช” ประดิษฐานอยู่ที่หอพระประจำเมืองนครศรีธรรมราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร มีพระพักตร์กลม อมยิ้มเล็กน้อย หล่อด้วยสัมฤทธิ์
ขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จ.นครศรีธรรมราช
ทุก ๆ ปี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดนครศรีธรรมราชถูกอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ออกมาประดิษฐานบนบุษบกออกแห่แหนไปรอบเมือง ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สักการะ และสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่บริเวณบุษบกสนามหน้าเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

สำหรับธรรมเนียมปฏิบัติที่มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำบริเวณท้องสนามหลวงนั้น ได้เริ่มมีขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2477 ในสมัยที่พระยาพหลพลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี และธรรมเนียมประเพณีนั้นก็ได้ปฏิบัติกันต่อมาจนถึงทุกวันนี้
ขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ กรุงเทพฯ ให้ประชาชนได้สรงน้ำ
พระโพธิรังษี ปราชญ์เชียงใหม่ ได้กล่าวไว้ว่า “พระพุทธสิหิงค์เสด็จประทับอยู่ในที่ใดๆ ย่อมทรงทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองดังดวงประทีป เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่”

ส่วนหลวงวิจิตรวาทการกล่าวไว้ว่า “อานุภาพแห่งพระพุทธสิหิงค์สามารถบำบัดความทุกข์ร้อนในใจให้เหือดหาย ผู้ที่หมดมานะ ท้อถอย เมื่อได้มาสักการะ ดวงจิตที่เหี่ยวแห้งก็จะกลับสดชื่นและมีความเข้มแข็งขึ้น จิตที่หวาดกลัวก็กลับกล้าหาญ ดวงจิตที่เกียจคร้านก็จะมีวิริยะ ผู้หมดหวังก็จะมีกำลังใจขึ้นใหม่”

และนี่ก็คือเรื่องราวแห่งศรัทธาของพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสำคัญแห่งเทศกาลสงกรานต์ของบ้านเรา
พระพุทธสิหิงค์ กทม.
ประชาชนสรงน้ำ พระพุทธสิหิงค์ กทม.
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น