Facebook :Travel @ Manager
ยุคสมัยนี้ การกินอาหารเพื่อสุขภาพมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งวัตถุดิบที่จะนำมาปรุง รวมถึงร้านอาหารเพื่อสุขภาพก็มีให้เลือกอยู่มากมาย และแนวทางอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็มีให้เลือกกันหลายแบบให้ถูกสไตล์ของตัวเอง ซึ่งอีกแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ “Ketogenic Diet“ (คีโตเจนิค ไดเอท)
ซึ่งก็มีร้านอาหารที่เปิดขายเมนูอร่อยแนวคีโตเจนิคให้มาเลือกอิ่มอร่อยเพื่อสุขภาพกันได้ที่ร้าน “Club No Sugar” ในย่านพระราม 3 โดยที่ร้านนั้นมีทั้งอาหารคาว-หวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งมีให้เลือกทั้งเมนูคีโตเจนิค เมนูอาหารทั่วไป แต่ก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน มีทั้งเมนูอาหารไทยและนานาชาติให้เลือกชิมมากมาย สำหรับเมนูคีโตเจนิคและเมนูธรรมดานั้นจะแยกครัวกันปรุง เนื่องจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงมีความแตกต่างกัน โดยในเมนูก็จะมีข้อมูลสารอาหารบอกไว้ เพื่อให้สามารถคำนวนปริมาณพลังงานจากอาหารได้เอง
ภายในร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนห้องแอร์ มีที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย โซนเอาท์ดอร์รับลมธรรมชาติในบรรยากาศสวน โซนคาเฟ่นั่งสบาย มีให้บริการทั้งเบเกอรี่และเครื่องดื่ม ทั้งแบบคีโตเจนิคและแบบปกติ และโซนซูเปอร์มาร์เก็ต ที่จำหน่ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารคีโตเจนิคและอาหารเพื่อสุขภาพ
สำหรับวิถีการกินแบบ “Ketogenic Diet“ หรือที่เรียกกันว่าการกินแบบคีโต เป็นวิธีการกินอาหารโดยเน้นไขมันในสัดส่วนที่เยอะ แต่ให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนักและการรักษาสุขภาพ โดยสัดส่วนการกินแบบคีโต คือ คาร์โบไฮเดรต 5 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 20 เปอร์เซ็นต์ และไขมัน 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไขมันที่เลือกกินนั้นจะเป็นไขมันดี และยังเป็นเมนูไม่มีส่วนผสมของแป้ง (ยกเว้นแป้งอัลมอนด์และแป้งมะพร้าว) ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แต่ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติมาแทน โดยทั้งหมดนี้จะช่วยปรับให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันออกมาใช้ จึงเห็นผลในเรื่องการลดน้ำหนัก และยังดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลและผู้ป่วยเบาหวานด้วย
เมนูอร่อยแบบคีโตเจนิคจะมีรสชาติแตกต่างจากเมนูปกติน้อยมาก แตกต่างแค่วัตถุดิบที่เลือกใช้ ซึ่งหากว่ามาที่ร้านก็จะได้ลองชิมเมนูคีโตแบบหลากหลาย อย่างเช่นจานนี้ สลัดกุ้งกรอบ (180 บาท) ที่จัดเต็มมาในจานด้วยผักสลัดออร์แกนิกจากเขาใหญ่ กุ้งกรอบก็จะใช้กุ้งชุบแป้งอัลมอนด์ผสมแป้งมะพร้าวแล้วนำมาทอดให้กรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดคีโตรสชาติดี หอมมันเข้มข้น
ต่อกันด้วยเมนูหน้าตาดี สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (220 บาท) สปาเก็ตตี้ที่ใช้ทำมาจากเส้นบุก นำมาลวกให้สุก แล้วผัดกับซอสคาโบนาร่า ใส่เบคอนแบบคีโตลงไปด้วย รสชาติคาโบนาร่าเข้มข้นหอมมันกลมกล่อม เส้นบุกเด้งๆ หนึบๆ เบคอนคีโตก็เค็มกำลังดี
มาถึงเมนูไทยๆ แกงเขียวหวานพริกขี้หนูสดเนื้อวัว (150 บาท) รสชาติเข้มข้นแบบอาหารไทย ใช้พริกแกงเขียวหวานแบบปกติ นำมาแกงกับเนื้อวัวติดเอ็นที่ตุ๋นมาแล้วหลายชั่วโมงเพื่อให้เปื่อยนุ่ม ใส่กะทิ ใส่มะเขือเปราะและมะเขือพวง ปรุงรสด้วยเกลือและสารให้ความหวาน แกงเขียวหวานถ้วยนี้รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน หอมเครื่องแกง
อีกเมนูคือ แกงป่าหอยลาย (220 บาท) ใช้เครื่องแกงเผ็ดแบบปกติ ใส่ผักหลากหลายชนิด แล้วก็ใส่หอยลายสด ปรุงรสด้วยเกลือสีชมพู แกงเผ็ดรสจัดจ้าน ใส่หอยลายมาแบบเน้นๆ ใครที่กินแบบคีโตก็มีข้าวดอกกะหล่ำให้เลือกสั่งมากินคู่กัน หรือถ้าจะสั่งเป็นข้าวสวย ที่นี่ก็มีข้าวสวยพันธุ์ กข43 เป็นข้าวขาวน้ำตาลต่ำเพื่อสุขภาพ
ถ้าใครที่ไม่ได้กินเมนูคีโต ที่ร้านนี้ก็ยังมีเมนูอาหารทั่วไปให้ได้เลือกชิมกัน แต่ก็ยังเป็นอาหารอร่อยเพื่อสุขภาพ อย่างการเปลี่ยนน้ำตาลมาใช้สารให้ความหวานแทน มาลองชิมเมนู เป็ดล่อน (380 บาท) จานนี้ใช้เป็ดนำมาตุ๋นพะโล้ทั้งตัวจนนุ่มและเข้าเนื้อ ก่อนจะนำไปทอดกรอบทั้งตัวเช่นกัน แล้วเสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วดำ เนื้อเป็นเปื่อยล่อนออกจากกระดูก ทอดมาแบบแห้งๆ ไม่มีน้ำมัน รสชาติออกเค็มนิดๆ หอมเครื่องพะโล้
ส่วนเมนูของหวาน ที่นี่ก็มีของหวานแบบคีโตให้เลือกชิมหลากหลาย เริ่มจาก Japanese Cheesecake (185 บาท) ที่ใช้แป้งอัลมอนด์ผสมไข่ไก่ วิปปิ้งครีม และชีสแบบคีโต เสิร์ฟพร้อมซอสสตรอว์เบอร์รี่รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ที่ตัดกับความหวานหอมนุ่มของเค้ก หรือจะเป็น Lime Cheese Pie (155 บาท) ฐานด้านล่างเป็นแป้งอัลมอนด์ผสมน้ำตาลหล่อฮังก้วย ด้านบนเป็นชีสเค้กมะนาวแบบคีโต รสชาติหอมมันอมเปรี้ยวนิดๆ
ของหวานแบบไทยๆ ก็มี เม็ดขนุน (195 บาท) ไส้ด้านในเป็นอัลมอนด์บดผสมมะพร้าวกวนแล้วนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอม ชิมแล้วเม็ดขนุนไม่หวานมาก หอมมันมะพร้าว กินคู่กับ ชา Jasmine Greentea (120 บาท) เข้ากันมากๆ
ใครเป็นคอกาแฟขอแนะนำ Espresso Cookie&Cream (180 บาท) ด้านล่างเป็นคุกกี้คีโตบด ใส่เอสเปรสโซชอต วิปครีม ราดด้วยคาราเมลและอัลมอนด์อบ เวลากินจะคนให้เข้ากันก่อนหรือตักเป็นชั้นๆ ก็ได้
นอกจากที่ชิมไปแล้ว ที่ร้าน “Club No Sugar” ก็ยังมีเมนูคีโตและเมนูอาหารทั่วไปให้ได้ลองชิมกันอีกหลายอย่าง ใครจะชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์กัน ที่นี่ก็มีพื้นที่ใช้ใช้สอย เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวก็อิ่มอร่อยครบวงจร ทั้งมาชิมเมนูหลากหลาย อิ่มอร่อยทั้งคาว-หวาน มานั่งจิบกาแฟชิลๆ เสร็จแล้วก็ยังหาซื้อวัตถุดิบกลับไปทำเมนูสุขภาพกันต่อที่บ้านได้ด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Club No Sugar” ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 3 บางโพงพาง ยานนาวา กทม. การเดินทางจากสะพานกรุงเทพ ตรงมาทางถนนพระราม 3 ตรงมาเรื่อยๆ จนเลยพระราม 3 ซอย 33 มาประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ติดถนน มีที่จอดรถด้านในร้าน มีบริการเดลิเวอรี่ (Line Man) ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-22.00 น. โทร. 06-3146-8224 www.facebook.com/clubnosugar
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ยุคสมัยนี้ การกินอาหารเพื่อสุขภาพมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งวัตถุดิบที่จะนำมาปรุง รวมถึงร้านอาหารเพื่อสุขภาพก็มีให้เลือกอยู่มากมาย และแนวทางอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็มีให้เลือกกันหลายแบบให้ถูกสไตล์ของตัวเอง ซึ่งอีกแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ “Ketogenic Diet“ (คีโตเจนิค ไดเอท)
ซึ่งก็มีร้านอาหารที่เปิดขายเมนูอร่อยแนวคีโตเจนิคให้มาเลือกอิ่มอร่อยเพื่อสุขภาพกันได้ที่ร้าน “Club No Sugar” ในย่านพระราม 3 โดยที่ร้านนั้นมีทั้งอาหารคาว-หวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งมีให้เลือกทั้งเมนูคีโตเจนิค เมนูอาหารทั่วไป แต่ก็เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นกัน มีทั้งเมนูอาหารไทยและนานาชาติให้เลือกชิมมากมาย สำหรับเมนูคีโตเจนิคและเมนูธรรมดานั้นจะแยกครัวกันปรุง เนื่องจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงมีความแตกต่างกัน โดยในเมนูก็จะมีข้อมูลสารอาหารบอกไว้ เพื่อให้สามารถคำนวนปริมาณพลังงานจากอาหารได้เอง
ภายในร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนห้องแอร์ มีที่นั่งกว้างขวางสะดวกสบาย โซนเอาท์ดอร์รับลมธรรมชาติในบรรยากาศสวน โซนคาเฟ่นั่งสบาย มีให้บริการทั้งเบเกอรี่และเครื่องดื่ม ทั้งแบบคีโตเจนิคและแบบปกติ และโซนซูเปอร์มาร์เก็ต ที่จำหน่ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารคีโตเจนิคและอาหารเพื่อสุขภาพ
สำหรับวิถีการกินแบบ “Ketogenic Diet“ หรือที่เรียกกันว่าการกินแบบคีโต เป็นวิธีการกินอาหารโดยเน้นไขมันในสัดส่วนที่เยอะ แต่ให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนักและการรักษาสุขภาพ โดยสัดส่วนการกินแบบคีโต คือ คาร์โบไฮเดรต 5 เปอร์เซ็นต์ โปรตีน 20 เปอร์เซ็นต์ และไขมัน 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไขมันที่เลือกกินนั้นจะเป็นไขมันดี และยังเป็นเมนูไม่มีส่วนผสมของแป้ง (ยกเว้นแป้งอัลมอนด์และแป้งมะพร้าว) ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แต่ใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติมาแทน โดยทั้งหมดนี้จะช่วยปรับให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันออกมาใช้ จึงเห็นผลในเรื่องการลดน้ำหนัก และยังดีต่อผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลและผู้ป่วยเบาหวานด้วย
เมนูอร่อยแบบคีโตเจนิคจะมีรสชาติแตกต่างจากเมนูปกติน้อยมาก แตกต่างแค่วัตถุดิบที่เลือกใช้ ซึ่งหากว่ามาที่ร้านก็จะได้ลองชิมเมนูคีโตแบบหลากหลาย อย่างเช่นจานนี้ สลัดกุ้งกรอบ (180 บาท) ที่จัดเต็มมาในจานด้วยผักสลัดออร์แกนิกจากเขาใหญ่ กุ้งกรอบก็จะใช้กุ้งชุบแป้งอัลมอนด์ผสมแป้งมะพร้าวแล้วนำมาทอดให้กรอบ เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดคีโตรสชาติดี หอมมันเข้มข้น
ต่อกันด้วยเมนูหน้าตาดี สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (220 บาท) สปาเก็ตตี้ที่ใช้ทำมาจากเส้นบุก นำมาลวกให้สุก แล้วผัดกับซอสคาโบนาร่า ใส่เบคอนแบบคีโตลงไปด้วย รสชาติคาโบนาร่าเข้มข้นหอมมันกลมกล่อม เส้นบุกเด้งๆ หนึบๆ เบคอนคีโตก็เค็มกำลังดี
มาถึงเมนูไทยๆ แกงเขียวหวานพริกขี้หนูสดเนื้อวัว (150 บาท) รสชาติเข้มข้นแบบอาหารไทย ใช้พริกแกงเขียวหวานแบบปกติ นำมาแกงกับเนื้อวัวติดเอ็นที่ตุ๋นมาแล้วหลายชั่วโมงเพื่อให้เปื่อยนุ่ม ใส่กะทิ ใส่มะเขือเปราะและมะเขือพวง ปรุงรสด้วยเกลือและสารให้ความหวาน แกงเขียวหวานถ้วยนี้รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน หอมเครื่องแกง
อีกเมนูคือ แกงป่าหอยลาย (220 บาท) ใช้เครื่องแกงเผ็ดแบบปกติ ใส่ผักหลากหลายชนิด แล้วก็ใส่หอยลายสด ปรุงรสด้วยเกลือสีชมพู แกงเผ็ดรสจัดจ้าน ใส่หอยลายมาแบบเน้นๆ ใครที่กินแบบคีโตก็มีข้าวดอกกะหล่ำให้เลือกสั่งมากินคู่กัน หรือถ้าจะสั่งเป็นข้าวสวย ที่นี่ก็มีข้าวสวยพันธุ์ กข43 เป็นข้าวขาวน้ำตาลต่ำเพื่อสุขภาพ
ถ้าใครที่ไม่ได้กินเมนูคีโต ที่ร้านนี้ก็ยังมีเมนูอาหารทั่วไปให้ได้เลือกชิมกัน แต่ก็ยังเป็นอาหารอร่อยเพื่อสุขภาพ อย่างการเปลี่ยนน้ำตาลมาใช้สารให้ความหวานแทน มาลองชิมเมนู เป็ดล่อน (380 บาท) จานนี้ใช้เป็ดนำมาตุ๋นพะโล้ทั้งตัวจนนุ่มและเข้าเนื้อ ก่อนจะนำไปทอดกรอบทั้งตัวเช่นกัน แล้วเสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วดำ เนื้อเป็นเปื่อยล่อนออกจากกระดูก ทอดมาแบบแห้งๆ ไม่มีน้ำมัน รสชาติออกเค็มนิดๆ หอมเครื่องพะโล้
ส่วนเมนูของหวาน ที่นี่ก็มีของหวานแบบคีโตให้เลือกชิมหลากหลาย เริ่มจาก Japanese Cheesecake (185 บาท) ที่ใช้แป้งอัลมอนด์ผสมไข่ไก่ วิปปิ้งครีม และชีสแบบคีโต เสิร์ฟพร้อมซอสสตรอว์เบอร์รี่รสเปรี้ยวๆ หวานๆ ที่ตัดกับความหวานหอมนุ่มของเค้ก หรือจะเป็น Lime Cheese Pie (155 บาท) ฐานด้านล่างเป็นแป้งอัลมอนด์ผสมน้ำตาลหล่อฮังก้วย ด้านบนเป็นชีสเค้กมะนาวแบบคีโต รสชาติหอมมันอมเปรี้ยวนิดๆ
ของหวานแบบไทยๆ ก็มี เม็ดขนุน (195 บาท) ไส้ด้านในเป็นอัลมอนด์บดผสมมะพร้าวกวนแล้วนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอม ชิมแล้วเม็ดขนุนไม่หวานมาก หอมมันมะพร้าว กินคู่กับ ชา Jasmine Greentea (120 บาท) เข้ากันมากๆ
ใครเป็นคอกาแฟขอแนะนำ Espresso Cookie&Cream (180 บาท) ด้านล่างเป็นคุกกี้คีโตบด ใส่เอสเปรสโซชอต วิปครีม ราดด้วยคาราเมลและอัลมอนด์อบ เวลากินจะคนให้เข้ากันก่อนหรือตักเป็นชั้นๆ ก็ได้
นอกจากที่ชิมไปแล้ว ที่ร้าน “Club No Sugar” ก็ยังมีเมนูคีโตและเมนูอาหารทั่วไปให้ได้ลองชิมกันอีกหลายอย่าง ใครจะชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์กัน ที่นี่ก็มีพื้นที่ใช้ใช้สอย เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียวก็อิ่มอร่อยครบวงจร ทั้งมาชิมเมนูหลากหลาย อิ่มอร่อยทั้งคาว-หวาน มานั่งจิบกาแฟชิลๆ เสร็จแล้วก็ยังหาซื้อวัตถุดิบกลับไปทำเมนูสุขภาพกันต่อที่บ้านได้ด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “Club No Sugar” ตั้งอยู่ที่ถนนพระราม 3 บางโพงพาง ยานนาวา กทม. การเดินทางจากสะพานกรุงเทพ ตรงมาทางถนนพระราม 3 ตรงมาเรื่อยๆ จนเลยพระราม 3 ซอย 33 มาประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านตั้งอยู่ติดถนน มีที่จอดรถด้านในร้าน มีบริการเดลิเวอรี่ (Line Man) ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-22.00 น. โทร. 06-3146-8224 www.facebook.com/clubnosugar
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
