Facebook :Travel @ Manager

“จันทบุรี” ดินแดนแห่งทะเลฝั่งตะวันออกของไทย นอกจากจะมีชายทะเลน้ำใสทรายสวยแล้ว ยังเป็นแหล่งค้าอัญมณีงดงามขนาดใหญ่อีกด้วย ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะชวนไปสัมผัสบรรยากาศของชุมชนบ้านเรือนเก่าแก่อันแสนสงบ ชมโบสถ์คริสต์ที่เป็นอันซีน สนุกสนานกับสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ ดูปลาหลากชนิด และมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
เมืองจันท์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง อย่างที่ โบสถ์คริสต์ หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ได้ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่ และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ภายในยังคงรักษาของเก่าเอาไว้ได้อย่างดี

โบสถ์คริสต์ หรือ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” เป็นโบสถ์คาทอลิก ตั้งอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี ประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว 300 ปีก่อน เมื่อชาวคาทอลิกที่ลี้ภัยมาจากเวียดนามทางเรือ ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองจันท์ และได้ร่วมมือกับทัพพระเจ้าตากสินในการกู้ชาติกู้แผ่นดินเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง ชาวญวนที่นับถือศาสนาคริสต์นี้ได้สร้างชุมชนของตนขึ้น โดยได้สร้างอาสนวิหารหลังแรกขึ้นเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเมื่อปี พ.ศ.2253 ใช้ชื่อว่าวัดน้อย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี

ปัจจุบันภายในอาสนวิหารฯ ยังคงสภาพของเก่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของตัวโบสถ์ กระจกสี ที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นรูปภาพนักบุญต่างๆ ในคริสต์ศาสนา รูปปั้นต่างๆ และกระเบื้องที่ปูพื้นโบสถ์ก็คงเป็นกระเบื้องเก่าดั้งเดิมที่ส่งลงเรือมาจากประเทศฝรั่งเศส รวมถึงระฆังก็เป็นของเก่าด้วยเช่นกัน

ถัดออกมาจากโบสถ์คริสต์ เดินข้ามสะพานนิรมลมายังอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำด้านตรงข้ามกับโบสถ์ จะพบกับชุมชนเก่าแก่ เรียกกันว่า “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” โดยชุมชนแห่งนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ทรงย้ายเมืองจันทบูรจากบ้านหัววังมายังบ้านลุ่ม และชุมชนริมน้ำแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบ้านลุ่ม มีพื้นที่ครอบคลุมบริเวณฝั่งแม่น้ำจันทบุรีตั้งแต่ท่าสิงห์ ท่าหลวง(ตลาดเหนือ) ตลาดกลาง และตลาดใต้ โดยมีถนนสุขาภิบาล ซึ่งเป็นถนนสายแรกของเมืองจันทบุรีและแม่น้ำจันทบุรีเป็นทางสัญจรหลัก

เมื่อมาถึงชุมชนริมน้ำฯ สิ่งหนึ่งที่จะสังเกตเห็นคือ บ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เรียงรายตลอดสองข้างทาง ให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ทรงหลังคาปั้นหยา เรือนไม้สองชั้น เรือนขนมปังขิง ตึกฝรั่งแบบปีนังและสิงคโปร์ หรือตึกแบบยุโรป ที่ล้วนแล้วแต่มีความเก่าแก่คลาสสิกแตกต่างกันไป จนถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และก็ถ่ายโฆษณาหลายครั้ง


สิ่งสำคัญของชุมชนนี้ก็คือ ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงรักษาบ้านเรือนเอาไว้ให้คงสภาพเดิม บ้านไหนมีการทรุดโทรมก็มีการซ่อมแซมขึ้นใหม่ โดยรักษารูปแบบและเค้าโครงเดิมเอาไว้อีกด้วย และนอกจากบ้านเรือนไม้เก่าแก่แล้ว ที่ชุมชนแห่งนี้ยังมีบางบ้านเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตกแต่งให้น่านั่ง


อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของชุมชนแห่งนี้คือ “ท่าน้ำผ่องศรี” หรือ “ท่าน้ำแม่ผ่อง” ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขาภิบาลตอนกลาง ตัดกับถนนขวาง ห่างจากท่าประชานิยมประมาณ 200 เมตร ท่าน้ำแห่งนี้มีประชาชนบริเวณใกล้เคียงมาใช้บริการ อย่างเนืองแน่น และเป็นท่าน้ำที่เด็กๆ มาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แต่ที่สำคัญคือเป็นท่าเรือแจวรับส่งคนข้ามฟากแม่น้ำ โดยชื่อของท่าน้ำนี้เป็นชื่อของยายผ่อง ชาวบ้านที่ตั้งร้านค้าขายขนมนั่นเอง

หากใครที่ชื่นชอบดื่มด่ำความเป็นธรรมชาติ ขอแนะนำให้มาชม “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญในภาคตะวันออก ที่ช่วยพลิกฟื้นป่าชายเลนอันเสื่อมโทรม ให้กลับกลายมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประมงและการเกษตรที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ภายในมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เป็นทางเดินสะพานไม้ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ระหว่างทางจะมีศาลาและป้ายสื่อความหมายให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ ของพืชและสัตว์ในป่าชายเลน เป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง นักท่องเที่ยวจะได้รับรู้ถึงระบบนิเวศของป่าชายเลนอันหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ทั้งต้นโกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ต้นฝาด ต้นฝาดแดง แสมขาว แสมดำ ลำพู ลำแพน ตะบูน ประสัก ฯลฯ รวมไปถึงสัตว์น้ำ อาทิ ปลาตีน ปูก้ามดาบ และนกนานาชนิด

และเมื่อมาชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้วก็ไม่ควรพลาดแวะชม “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กๆ เพราะสามารถมีกิจกรรมเกี่ยวกับการชมความสวยงามของปลานานาชนิด รวมถึงยังมีอุโมงค์ใต้น้ำที่ทำให้เห็นปลาขนาดใหญ่ได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ที่นี่ถือเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ในอ่าวคุ้งกระเบน และบริเวณใกล้เคียง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่สำคัญคือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม


อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 600 ตารางเมตร จัดแสดงตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ 36 ตู้ ทั้งตู้ขนาดสี่เหลี่ยม และตู้หลอดทรงกระบอกที่มองเห็นได้รอบด้าน โดยจัดแสดงสัตว์น้ำ และปลาหลากหลายชนิด เป็นปลาที่พบได้ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ทะเลเจ้าหลาว และแหลมเสด็จ ปลาที่นำมาจัดแสดงล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจ เช่น ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามครีบดำ ปลากระพงขาว ปลากะพงแดง ปลากะรัง ปลาสินสมุทร ปลาการ์ตูน(ปลานีโม) ปลาสีเสียด ปลาสิงโต ปลาค้างคาว ปลากระรอกลายแดง ปลาโฉมงาม ปลาปักเป้า และปลาอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละตู้ปลามีป้ายชื่อและคำอธิบายลักษณะนิสัยของปลาแต่ละชนิดให้เป็นความรู้ด้วย


จุดไฮไลต์ที่สร้างความสนใจให้กับผู้ที่มาเที่ยวสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มากที่สุด คือส่วนที่เป็นอุโมงค์ตู้ปลา ทำด้วยอะคริลิคใส หนา 60 มิลลิเมตร โค้งเป็นอุโมงค์ทางเดินสั้นๆ ประมาณ 10 เมตร มีแสงธรรมชาติส่องผ่านจากด้านบน บริเวณนี้จะได้เห็นปลาต่างๆ ว่ายวนเวียนอยู่อย่างใกล้ชิด รวมถึงด้านบนเหนือหัวเรา ให้ความรู้สึกใกล้ชิดเหมือนกับได้ลงไปอยู่ใต้น้ำ โดยส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดใหญ่ และปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาเก๋าตัง ปลาหมอทะเล ปลากระเบน ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามกบ

และก่อนที่จะปิดท้ายทริปนี้ ขอชวนสักการะ “ศาลหลักเมือง” เป็นศาลคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดจันทบุรี ที่ชาวจันทบุรีเคารพนับถือ โดยตั้งอยู่ริมถนนท่าหลวง ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ติดกันกับ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หากแวะที่เดียว ก็สามารถสักการะได้ทั้งสองจุดก่อนเดินทางกลับ



สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“จันทบุรี” ดินแดนแห่งทะเลฝั่งตะวันออกของไทย นอกจากจะมีชายทะเลน้ำใสทรายสวยแล้ว ยังเป็นแหล่งค้าอัญมณีงดงามขนาดใหญ่อีกด้วย ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะชวนไปสัมผัสบรรยากาศของชุมชนบ้านเรือนเก่าแก่อันแสนสงบ ชมโบสถ์คริสต์ที่เป็นอันซีน สนุกสนานกับสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ ดูปลาหลากชนิด และมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
เมืองจันท์มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง อย่างที่ โบสถ์คริสต์ หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ได้ถูกยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ เนื่องจากโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ที่มีความเก่าแก่ และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ภายในยังคงรักษาของเก่าเอาไว้ได้อย่างดี
โบสถ์คริสต์ หรือ “อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล” เป็นโบสถ์คาทอลิก ตั้งอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี ประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อราว 300 ปีก่อน เมื่อชาวคาทอลิกที่ลี้ภัยมาจากเวียดนามทางเรือ ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองจันท์ และได้ร่วมมือกับทัพพระเจ้าตากสินในการกู้ชาติกู้แผ่นดินเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง ชาวญวนที่นับถือศาสนาคริสต์นี้ได้สร้างชุมชนของตนขึ้น โดยได้สร้างอาสนวิหารหลังแรกขึ้นเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเมื่อปี พ.ศ.2253 ใช้ชื่อว่าวัดน้อย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี
ปัจจุบันภายในอาสนวิหารฯ ยังคงสภาพของเก่าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของตัวโบสถ์ กระจกสี ที่เรียกว่า สเตนกลาส เป็นรูปภาพนักบุญต่างๆ ในคริสต์ศาสนา รูปปั้นต่างๆ และกระเบื้องที่ปูพื้นโบสถ์ก็คงเป็นกระเบื้องเก่าดั้งเดิมที่ส่งลงเรือมาจากประเทศฝรั่งเศส รวมถึงระฆังก็เป็นของเก่าด้วยเช่นกัน
ถัดออกมาจากโบสถ์คริสต์ เดินข้ามสะพานนิรมลมายังอีกฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำด้านตรงข้ามกับโบสถ์ จะพบกับชุมชนเก่าแก่ เรียกกันว่า “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” โดยชุมชนแห่งนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่ทรงย้ายเมืองจันทบูรจากบ้านหัววังมายังบ้านลุ่ม และชุมชนริมน้ำแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของบ้านลุ่ม มีพื้นที่ครอบคลุมบริเวณฝั่งแม่น้ำจันทบุรีตั้งแต่ท่าสิงห์ ท่าหลวง(ตลาดเหนือ) ตลาดกลาง และตลาดใต้ โดยมีถนนสุขาภิบาล ซึ่งเป็นถนนสายแรกของเมืองจันทบุรีและแม่น้ำจันทบุรีเป็นทางสัญจรหลัก
เมื่อมาถึงชุมชนริมน้ำฯ สิ่งหนึ่งที่จะสังเกตเห็นคือ บ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เรียงรายตลอดสองข้างทาง ให้ได้ชมกันอย่างเพลิดเพลินทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ทรงหลังคาปั้นหยา เรือนไม้สองชั้น เรือนขนมปังขิง ตึกฝรั่งแบบปีนังและสิงคโปร์ หรือตึกแบบยุโรป ที่ล้วนแล้วแต่มีความเก่าแก่คลาสสิกแตกต่างกันไป จนถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และก็ถ่ายโฆษณาหลายครั้ง
สิ่งสำคัญของชุมชนนี้ก็คือ ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงรักษาบ้านเรือนเอาไว้ให้คงสภาพเดิม บ้านไหนมีการทรุดโทรมก็มีการซ่อมแซมขึ้นใหม่ โดยรักษารูปแบบและเค้าโครงเดิมเอาไว้อีกด้วย และนอกจากบ้านเรือนไม้เก่าแก่แล้ว ที่ชุมชนแห่งนี้ยังมีบางบ้านเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตกแต่งให้น่านั่ง
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของชุมชนแห่งนี้คือ “ท่าน้ำผ่องศรี” หรือ “ท่าน้ำแม่ผ่อง” ตั้งอยู่บริเวณถนนสุขาภิบาลตอนกลาง ตัดกับถนนขวาง ห่างจากท่าประชานิยมประมาณ 200 เมตร ท่าน้ำแห่งนี้มีประชาชนบริเวณใกล้เคียงมาใช้บริการ อย่างเนืองแน่น และเป็นท่าน้ำที่เด็กๆ มาเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน แต่ที่สำคัญคือเป็นท่าเรือแจวรับส่งคนข้ามฟากแม่น้ำ โดยชื่อของท่าน้ำนี้เป็นชื่อของยายผ่อง ชาวบ้านที่ตั้งร้านค้าขายขนมนั่นเอง
หากใครที่ชื่นชอบดื่มด่ำความเป็นธรรมชาติ ขอแนะนำให้มาชม “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ถือเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญในภาคตะวันออก ที่ช่วยพลิกฟื้นป่าชายเลนอันเสื่อมโทรม ให้กลับกลายมาเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประมงและการเกษตรที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ภายในมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน เป็นทางเดินสะพานไม้ระยะทางประมาณ 1,600 เมตร ระหว่างทางจะมีศาลาและป้ายสื่อความหมายให้ความรู้ในเรื่องราวต่างๆ ของพืชและสัตว์ในป่าชายเลน เป็นระยะๆ ตลอดเส้นทาง นักท่องเที่ยวจะได้รับรู้ถึงระบบนิเวศของป่าชายเลนอันหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน ทั้งต้นโกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ต้นฝาด ต้นฝาดแดง แสมขาว แสมดำ ลำพู ลำแพน ตะบูน ประสัก ฯลฯ รวมไปถึงสัตว์น้ำ อาทิ ปลาตีน ปูก้ามดาบ และนกนานาชนิด
และเมื่อมาชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติแล้วก็ไม่ควรพลาดแวะชม “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กๆ เพราะสามารถมีกิจกรรมเกี่ยวกับการชมความสวยงามของปลานานาชนิด รวมถึงยังมีอุโมงค์ใต้น้ำที่ทำให้เห็นปลาขนาดใหญ่ได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย ที่นี่ถือเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ในอ่าวคุ้งกระเบน และบริเวณใกล้เคียง เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่สำคัญคือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
อาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 600 ตารางเมตร จัดแสดงตู้แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ 36 ตู้ ทั้งตู้ขนาดสี่เหลี่ยม และตู้หลอดทรงกระบอกที่มองเห็นได้รอบด้าน โดยจัดแสดงสัตว์น้ำ และปลาหลากหลายชนิด เป็นปลาที่พบได้ในบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ทะเลเจ้าหลาว และแหลมเสด็จ ปลาที่นำมาจัดแสดงล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจ เช่น ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามครีบดำ ปลากระพงขาว ปลากะพงแดง ปลากะรัง ปลาสินสมุทร ปลาการ์ตูน(ปลานีโม) ปลาสีเสียด ปลาสิงโต ปลาค้างคาว ปลากระรอกลายแดง ปลาโฉมงาม ปลาปักเป้า และปลาอื่นๆ อีกมากมาย แต่ละตู้ปลามีป้ายชื่อและคำอธิบายลักษณะนิสัยของปลาแต่ละชนิดให้เป็นความรู้ด้วย
จุดไฮไลต์ที่สร้างความสนใจให้กับผู้ที่มาเที่ยวสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มากที่สุด คือส่วนที่เป็นอุโมงค์ตู้ปลา ทำด้วยอะคริลิคใส หนา 60 มิลลิเมตร โค้งเป็นอุโมงค์ทางเดินสั้นๆ ประมาณ 10 เมตร มีแสงธรรมชาติส่องผ่านจากด้านบน บริเวณนี้จะได้เห็นปลาต่างๆ ว่ายวนเวียนอยู่อย่างใกล้ชิด รวมถึงด้านบนเหนือหัวเรา ให้ความรู้สึกใกล้ชิดเหมือนกับได้ลงไปอยู่ใต้น้ำ โดยส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดใหญ่ และปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาเก๋าตัง ปลาหมอทะเล ปลากระเบน ปลาฉลามเสือดาว ปลาฉลามกบ
และก่อนที่จะปิดท้ายทริปนี้ ขอชวนสักการะ “ศาลหลักเมือง” เป็นศาลคู่บ้านคู่เมือง และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดจันทบุรี ที่ชาวจันทบุรีเคารพนับถือ โดยตั้งอยู่ริมถนนท่าหลวง ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ติดกันกับ “ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” หากแวะที่เดียว ก็สามารถสักการะได้ทั้งสองจุดก่อนเดินทางกลับ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager