Facebook :Travel @ Manager
ช่วงนี้หลายๆ คนกำลังลุ้นกับผลการเลือกตั้งที่ยังคงไม่สรุปอย่างเป็นทางการ รวมทั้งลุ้นว่าขั้วไหนพรรคไหนจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล และใครหนอจะได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ระหว่างที่กำลังรอลุ้นนายกฯ อยู่นี้ "ตะลอนเที่ยว" ขอพามาเที่ยวต่อแบบไม่ต้องรอแล้วนะที่ "นครนายก" เสียเลย พาหลีกหนีเรื่องวุ่นวายมาหาที่เที่ยวไหว้พระขอพรให้จิตใจสงบ นั่งรถรางชมภูมิทัศน์ตามจุดสถานที่ท่องเที่ยวและกินขนมพื้นบ้านไทยพวนที่ “ชุมชนบ้านบุ่งเข้” ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายกแห่งนี้
ย้อนไปเมื่อประมาณ160 กว่าปีที่แล้วบรรพบุรุษของชุมชนบ้านบุ่งเข้เป็นชาวไทยพวน ที่อพยพมาจากเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่าเดิมทีหมู่บ้านนี้มีชื่อว่าบ้านดงตั้งอยู่บนหุบเขามอยาวบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หลังจากที่พื้นที่นี้ได้กั้นเป็นเขตป่าสงวนชาวบ้านได้ย้ายลงมาตามทางน้ำของหุบเขามาตั้งถิ่นฐานบริเวณหนองน้ำลักษณะเป็นบุ่ง(บึง) น้ำวนมาบรรจบกันและมีจระเข้อาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ชาวบ้านจึงได้เปลี่ยนมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านบุ่ง(บึง)เข้ หลังจากที่หมู่บ้านขยับขยายผู้คนอาศัยอยู่มากขึ้นได้ถมที่ถมเพื่อสร้างบ้านบริเวณหนองน้ำนี้จระเข้ที่เคยอาศัยอยู่ก็ได้หายไป ปัจจุบันนี้ก็คือ ชุมชนบ้านบุ่งเข้ ที่เป็นชุมชนยึดหลักการดำเนินชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตร ทำไร่ ทำสวน ปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ไว้กินกันเอง และได้เปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เรียนรู้วัฒนธรรมเสน่ห์ไทยพวน
สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบุ่งเข้ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องมาลิ้มรสอาหารพื้นบ้านไทยพวนหากินยากและมีที่ชุมชนบ้านบุ่งเข้ เริ่มจากจานแรกที่เราได้ลิ้มลองนั่นก็คือหมาน้อยหรือหมอน้อย ด้วยสภาพพื้นที่บริเวณหมู่บ้านบุ่งเข้เป็นพื้นที่ราบสูงมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ชาวบ้านได้นำใบหมาน้อยที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้นมาคั้นให้ได้น้ำและกรองให้สะอาด ปรุงกับเครื่องลาบหอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง และใส่น้ำปลาร้าสุกเพื่อให้โดนเค็มหลังจากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้จับตัวเป็นวุ้น รสชาติจานนี้รวมๆแล้วมีรสจัดถึงเครื่องเหมือนกินลาบที่เป็นวุ้นและยิ่งกินคู่กับผักลวกก็เข้ากันดีมาก
ต่อไปเป็นขนมคาบหมูหรือแคบหมู ขนมโบราณของไทยพวนหากินยากและหากินได้ที่ชุมชนบ้านบุ่งเข้ หลายๆคนคงสงสัยว่าหมูเรามักจะทำเป็นของคาวแล้วทำไมถึงมาเป็นขนมได้ ด้วยสูตรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษชุมชนบ้านบุ่งเข้ ในขนมนี้มีส่วนผสมของหมูสับที่ถูกเคี่ยวให้เหลืองจากนั้นตามด้วยใส่แป้งข้าวจ้าวและน้ำกะทิเติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำตาลปี๊บกวนให้เข้ากันจนแห้งและใส่ถั่วลิสงลงไปหลังจากนั้นตักขึ้นใส่ห่อใบตองโรยหน้าด้วยหอมเจียวทิ้งไว้สักพักให้แห้งหลังจากนั้นก็กินได้เลย รสชาติหวานมันเหมือนขนมหม้อแกงไทยได้กินแล้วจะติดใจจนขอใส่ห่อกลับบ้านแน่นอน
หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นบ้านไทยพวนกันจนอิ่มท้องแล้วก็พร้อมย่อยด้วยการทำกิจกรรมนั่งรถรางชมวิถีชีวิตการเกษตรของชาวบ้านชุมชนบ้านบุ่งเข้ พักผ่อนหย่อนใจชมภูมิทัศน์ที่ “โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีเสียดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรในหมู่บ้านบุ่งเข้ใช้ทำการเพาะปลูกและเป็นน้ำกินน้ำใช้ บรรยากาศโดยรอบๆของที่นี่มองไปเห็นทิวเขาล้อมอ่างน้ำทำให้รู้สึกว่าใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นและยังเป็นมุมถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ได้อีกด้วย
ถัดไปไม่ไกลมากนักแวะพักจิตใจให้สงบที่ “วัดป่าศรีถาวรนิมิต” ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมแห่งแรกของจังหวัดนครนายก มีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่มีต้นไม้ยืนต้นมากมายบรรยากาศดีเงียบสงบ ร่มรื่นชวนเดินจงกลมยุบหนอพองหนอ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจในบริเวณวัดนั่นก็คือ เจดีย์หลวงบรมธรรม มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกันสามารถเข้ามาสักการะขอพรแต่ละชั้นได้ดังนี้ ชั้นที่1 ประดิษฐานพระพุทธมั่นมงคลวนาสมัย ชั้นที่2 พระแก้วมรกตจำลองและพระพุทธเจ้าหลวงใหญ่ดำ ชั้นที่3 พระบรมสารีริกธาตุ และบริเวณรอบวัดก็ยังมีมณฑปศิลปะไทยล้านนาสูง 3 ชั้นและสวนพุทธคยา ให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวสักการะและเดินชมอีกด้วย
หลังจากที่ได้พักใจกันพอสมควรแล้วเราก็ได้นั่งรถรางไปเช็คอินเก็บภาพสวยๆที่ “สะพานไม้ไผ่ดอนยายแมะ” สะพานนี้สร้างจากความคิดของคนในชุมชนของตำบลหนองแสงเพื่อแสดงถึงวิถีชีวิตการทำนาปีละครั้งของชาวบ้านในชุมชน ได้สัมผัสบรรยากาศโอบล้อมภูเขาและป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากได้มาเยือนในฤดูที่ชาวบ้านทำนากันก็จะเป็นผืนนาเขียวขจีชวนถ่ายรูปถูกใจสายโซเชียลแน่นอน
ชุมชนบ้านบุ่งเข้ จังหวัดนครนายก ยังรอให้ทุกคนตามมาสัมผัสและเรียนรู้เสน่ห์วิถีชีวิตไทยพวนด้วยกิจกรรมอีกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานเส้นทางท่องเที่ยว เยี่ยมชมฟาร์มเห็ด ตักบาตรตอนเช้า เป็นต้น หากใครต้องการพักผ่อนยาวๆ ที่นี่ก็มีกลุ่มโฮมสเตย์บ้านบุ่งเข้คอยให้บริการและรองรับอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวชุมชนบ้านบุ่งเข้ได้ที่โทร.08 0792 1122 หรือสอบถามรายละเอียดที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดนครนายกเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทร. 0 3731 2282
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ช่วงนี้หลายๆ คนกำลังลุ้นกับผลการเลือกตั้งที่ยังคงไม่สรุปอย่างเป็นทางการ รวมทั้งลุ้นว่าขั้วไหนพรรคไหนจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล และใครหนอจะได้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
ระหว่างที่กำลังรอลุ้นนายกฯ อยู่นี้ "ตะลอนเที่ยว" ขอพามาเที่ยวต่อแบบไม่ต้องรอแล้วนะที่ "นครนายก" เสียเลย พาหลีกหนีเรื่องวุ่นวายมาหาที่เที่ยวไหว้พระขอพรให้จิตใจสงบ นั่งรถรางชมภูมิทัศน์ตามจุดสถานที่ท่องเที่ยวและกินขนมพื้นบ้านไทยพวนที่ “ชุมชนบ้านบุ่งเข้” ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายกแห่งนี้
ย้อนไปเมื่อประมาณ160 กว่าปีที่แล้วบรรพบุรุษของชุมชนบ้านบุ่งเข้เป็นชาวไทยพวน ที่อพยพมาจากเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าเล่าต่อกันมาว่าเดิมทีหมู่บ้านนี้มีชื่อว่าบ้านดงตั้งอยู่บนหุบเขามอยาวบริเวณเขาใหญ่ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่นี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หลังจากที่พื้นที่นี้ได้กั้นเป็นเขตป่าสงวนชาวบ้านได้ย้ายลงมาตามทางน้ำของหุบเขามาตั้งถิ่นฐานบริเวณหนองน้ำลักษณะเป็นบุ่ง(บึง) น้ำวนมาบรรจบกันและมีจระเข้อาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ชาวบ้านจึงได้เปลี่ยนมาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านบุ่ง(บึง)เข้ หลังจากที่หมู่บ้านขยับขยายผู้คนอาศัยอยู่มากขึ้นได้ถมที่ถมเพื่อสร้างบ้านบริเวณหนองน้ำนี้จระเข้ที่เคยอาศัยอยู่ก็ได้หายไป ปัจจุบันนี้ก็คือ ชุมชนบ้านบุ่งเข้ ที่เป็นชุมชนยึดหลักการดำเนินชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตร ทำไร่ ทำสวน ปลูกพืชผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์ไว้กินกันเอง และได้เปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เรียนรู้วัฒนธรรมเสน่ห์ไทยพวน
สำหรับกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบุ่งเข้ก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องมาลิ้มรสอาหารพื้นบ้านไทยพวนหากินยากและมีที่ชุมชนบ้านบุ่งเข้ เริ่มจากจานแรกที่เราได้ลิ้มลองนั่นก็คือหมาน้อยหรือหมอน้อย ด้วยสภาพพื้นที่บริเวณหมู่บ้านบุ่งเข้เป็นพื้นที่ราบสูงมีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ชาวบ้านได้นำใบหมาน้อยที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้นมาคั้นให้ได้น้ำและกรองให้สะอาด ปรุงกับเครื่องลาบหอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง และใส่น้ำปลาร้าสุกเพื่อให้โดนเค็มหลังจากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้จับตัวเป็นวุ้น รสชาติจานนี้รวมๆแล้วมีรสจัดถึงเครื่องเหมือนกินลาบที่เป็นวุ้นและยิ่งกินคู่กับผักลวกก็เข้ากันดีมาก
ต่อไปเป็นขนมคาบหมูหรือแคบหมู ขนมโบราณของไทยพวนหากินยากและหากินได้ที่ชุมชนบ้านบุ่งเข้ หลายๆคนคงสงสัยว่าหมูเรามักจะทำเป็นของคาวแล้วทำไมถึงมาเป็นขนมได้ ด้วยสูตรที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษชุมชนบ้านบุ่งเข้ ในขนมนี้มีส่วนผสมของหมูสับที่ถูกเคี่ยวให้เหลืองจากนั้นตามด้วยใส่แป้งข้าวจ้าวและน้ำกะทิเติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำตาลปี๊บกวนให้เข้ากันจนแห้งและใส่ถั่วลิสงลงไปหลังจากนั้นตักขึ้นใส่ห่อใบตองโรยหน้าด้วยหอมเจียวทิ้งไว้สักพักให้แห้งหลังจากนั้นก็กินได้เลย รสชาติหวานมันเหมือนขนมหม้อแกงไทยได้กินแล้วจะติดใจจนขอใส่ห่อกลับบ้านแน่นอน
หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นบ้านไทยพวนกันจนอิ่มท้องแล้วก็พร้อมย่อยด้วยการทำกิจกรรมนั่งรถรางชมวิถีชีวิตการเกษตรของชาวบ้านชุมชนบ้านบุ่งเข้ พักผ่อนหย่อนใจชมภูมิทัศน์ที่ “โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีเสียดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ให้เกษตรกรในหมู่บ้านบุ่งเข้ใช้ทำการเพาะปลูกและเป็นน้ำกินน้ำใช้ บรรยากาศโดยรอบๆของที่นี่มองไปเห็นทิวเขาล้อมอ่างน้ำทำให้รู้สึกว่าใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นและยังเป็นมุมถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ได้อีกด้วย
ถัดไปไม่ไกลมากนักแวะพักจิตใจให้สงบที่ “วัดป่าศรีถาวรนิมิต” ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมแห่งแรกของจังหวัดนครนายก มีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่มีต้นไม้ยืนต้นมากมายบรรยากาศดีเงียบสงบ ร่มรื่นชวนเดินจงกลมยุบหนอพองหนอ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจในบริเวณวัดนั่นก็คือ เจดีย์หลวงบรมธรรม มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกันสามารถเข้ามาสักการะขอพรแต่ละชั้นได้ดังนี้ ชั้นที่1 ประดิษฐานพระพุทธมั่นมงคลวนาสมัย ชั้นที่2 พระแก้วมรกตจำลองและพระพุทธเจ้าหลวงใหญ่ดำ ชั้นที่3 พระบรมสารีริกธาตุ และบริเวณรอบวัดก็ยังมีมณฑปศิลปะไทยล้านนาสูง 3 ชั้นและสวนพุทธคยา ให้ผู้ที่มาปฏิบัติธรรม นักท่องเที่ยวสักการะและเดินชมอีกด้วย
หลังจากที่ได้พักใจกันพอสมควรแล้วเราก็ได้นั่งรถรางไปเช็คอินเก็บภาพสวยๆที่ “สะพานไม้ไผ่ดอนยายแมะ” สะพานนี้สร้างจากความคิดของคนในชุมชนของตำบลหนองแสงเพื่อแสดงถึงวิถีชีวิตการทำนาปีละครั้งของชาวบ้านในชุมชน ได้สัมผัสบรรยากาศโอบล้อมภูเขาและป่าของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากได้มาเยือนในฤดูที่ชาวบ้านทำนากันก็จะเป็นผืนนาเขียวขจีชวนถ่ายรูปถูกใจสายโซเชียลแน่นอน
ชุมชนบ้านบุ่งเข้ จังหวัดนครนายก ยังรอให้ทุกคนตามมาสัมผัสและเรียนรู้เสน่ห์วิถีชีวิตไทยพวนด้วยกิจกรรมอีกมากมาย เช่น ปั่นจักรยานเส้นทางท่องเที่ยว เยี่ยมชมฟาร์มเห็ด ตักบาตรตอนเช้า เป็นต้น หากใครต้องการพักผ่อนยาวๆ ที่นี่ก็มีกลุ่มโฮมสเตย์บ้านบุ่งเข้คอยให้บริการและรองรับอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวชุมชนบ้านบุ่งเข้ได้ที่โทร.08 0792 1122 หรือสอบถามรายละเอียดที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดนครนายกเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทร. 0 3731 2282
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
