xs
xsm
sm
md
lg

ยลเสน่ห์เบตงรอบนอก ที่ “ตาเนาะแมเราะ” เที่ยวเกษตรถึงถิ่น ไก่เบตง-ส้มโชกุน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
บรรยากาศตัวเมืองเบตงมุมสูง

“เบตง ใต้สุดแดนสยาม” คือสมญานามของอำเภอที่อยู่ใต้สุดในไทย ซึ่งมีพื้นที่สวนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี คล้ายกับทางภาคเหนือของประเทศ


นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเบตงมักนิยมเที่ยวเฉพาะในเมืองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในย่านกลางเมืองบริเวณหอนาฬิกา ถ่ายภาพกับตู้ไปรษณีย์ยักษ์ ถ่ายรูปเล่นกับภาพสตรีทอาร์ทเมืองเบตง หรือจะออกนอกเมืองไปหน่อยก็คือการไปเที่ยวชมทะเลหมอกแดนใต้เช่นที่อัยเยอร์เวง หรือไต้ต๋ง

ตู้ไปรษณีย์ยักษ์ จุดถ่ายรูปยอดนิยมในตัวเมืองเบตง
แต่แท้จริงแล้วเบตงยังมีแหล่งท่องเที่ยวในย่านนอกเมืองอีกหลากหลาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพราะที่นี่มีพื้นที่เกษตรกรรมและผลผลิตทางการเกษตรหลายอย่างที่น่าสนใจและสามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนคู่ควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี

เพื่อเป็นการผลักดันให้เบตงพัฒนาไปสู่เมืองท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จึงเข้าไปร่วมวิจัยและพัฒนากับคนในหลายๆ ชุมชนของอำเภอเบตง โดยช่วยกันค้นหาพื้นที่ที่น่าพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ใน “โครงการวิจัยเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองเบตงให้เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” อันเป็นส่วนหนึ่งของชุดโครงการวิจัยเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ “เมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยการสนับสนุนของหน่วยบูรณาการวิจัยและความร่วมมือเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ (ABC) สกว. ที่ต้องการใช้เรื่องท่องเที่ยวมาช่วยเสริมสร้างรายได้ให้กับคนเบตง
สตรีทอาร์ตน่ารักๆ ในตัวเมืองเบตง
ผลจากงานวิจัยในโครงการที่กล่าวมานี้ ทำให้หลายชุมชนค้นพบแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ดูแล้วมีศักยภาพน่าส่งเสริม โดยเฉพาะที่ตำบลตาเนาะแมเราะซึ่งมีวิถีชีวิตเกษตรน่าสนใจที่ทำให้เราได้ไปถึงแหล่งที่มาของอาหารขึ้นชื่อของเบตง ไม่ว่าจะเป็นไก่เบตง ส้มโชกุน ปลาจีน ผักน้ำ รวมเข้ากับสถานที่ท่องเที่ยวเดิมของตำบลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ออกมาเป็น “เส้นทางท่องเที่ยวตำบลตาเนาะแมเราะ” ที่น่าไปเยี่ยมเยือน
สวนดอกไม้เมืองหนาว แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเบตง และตำบลตาเนาะแมเราะ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วในตำบลตาเนาะแมเราะ และเป็นที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนเมื่อมาเบตงก็ได้แก่ “สวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการไม้ดอกเมืองหนาวตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากเบตงมีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี สามารถปลูกไม้ดอกเมืองหนาวได้ทั้งเบญจมาศ กุหลาบ เยอบีรา หน้าวัว ไฮเดรนเยีย ฯลฯ โดยภายในสวนจัดตกแต่งด้วยต้นไม้และไม้ดอกงดงาม มีหลายมุมให้เดินเล่นและถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลิน
มุมถ่ายรูปสวยๆ ภายในสวนดอกไม้เมืองหนาว
น้ำพุร้อนเบตง
“บ่อน้ำพุร้อน” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญของเบตง เดิมเป็นแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาและตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงามและสร้างเป็นสระน้ำร้อนสาธารณะ ในบ่อหลักมีอุณหภูมิประมาณ 80 องศาเซลเซียส สามารถลวกไข่ให้สุกได้ใน 7 นาที (สามารถซื้อไข่จากร้านค้ามาลวกได้) พร้อมทั้งมีการสร้างสระย่อยที่ลดทอนความร้อนของน้ำลงมาสำหรับลงแช่ตัวและแช่เท้าได้แบบชิลชิล ถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
บ่อแช่น้ำร้อนที่ใครๆ ก็มาแช่ได้
ทางเข้าอุโมงค์ปิยะมิตร
“อุโมงค์ปิยะมิตร” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งสำคัญของเบตงที่บอกเล่าเรื่องราวการสู้รบของคอมมิวนิสต์มาลายา อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นในราว พ.ศ. 2520 ตั้งอยู่บนเนินเขาปกคลุมด้วยป่าทึบบริเวณตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ใช้เป็นฐานปฏิบัติการเพื่อหลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง ความน่าสนใจอยู่ที่การขุดเจาะที่ใช้แรงงานคนเพียง 50 คน ขุดเจาะด้วยจอบ-เสียมลึกเข้าไปในพื้นดินทำเป็นช่องทางเดินกว้างประมาณ 5-6 ฟุต ยาวประมาณ 1 ก.ม. เราสามารถเข้าไปชมภายในได้ รวมถึงยังมีห้องนิทรรศการความเป็นมาเกี่ยวกับคอมมิวนิสต์มาลายาและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในยุคนั้น อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังมีสิ่งน่าสนใจอีกมากมาย
ภายในอุโมงค์ที่ขุดเจาะด้วยแรงงานคน
วิวสวยๆ ของสวนส้มโชกุน
ทั้ง 3 แห่งที่กล่าวมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่แล้ว และภายหลังได้มีการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในตำบลตาเนาะแมเราเพิ่มเติมขึ้นอีกเพื่อเชื่อมโยงระหว่างแหล่งท่องเที่ยวหลัก โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีชีวิตเชิงเกษตร เริ่มจากมาชม “สวนส้มโชกุน” ที่สวนส้มโชกุนช้างบ่อน้ำร้อนเบตง ซึ่งเป็นสวนส้มขนาดใหญ่กว่า 200 ไร่ โดยส้มโชกุนถือเป็นผลไม้ใต้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับอำเภอเบตง เกิดจากการผสมสายพันธุ์ระหว่างส้มบางมดกับส้มจีนบิทก้า เดิมแหล่งกำเนิดอยู่ที่ยะลา แต่เมื่อนำมาปลูกที่เบตงกลับมีรสชาติดีที่สุด อีกทั้งทัศนียภาพของสวนส้มแห่งนี้ก็ยังมีความสวยงามอีกด้วย
ส้มโชกุน ของดีเมืองเบตง
ไก่เบตงขนสีทองสวย ตัวโต ปีกสั้นหางสั้น
ไก่เบตงเป็นอีกหนึ่งของเด็ดแห่งเบตงที่ใครมาเยือนก็ต้องร้องหาอยากชิม แต่ก่อนที่จะไปชิม ขอชวนมาชม “ฟาร์มไก่เบตง” ที่อยู่ไม่ไกลจากสวนส้มโชกุนกันก่อน คนเบตงต่างก็เลี้ยงไก่เบตงเพื่อบริโภคเองบ้าง เพื่อขายบ้าง โดยไก่เบตงที่เลี้ยงกันที่นี่มีเชื้อสายมาจากไก่สายพันธุ์เหลียงซานจากประเทศจีน ตัวค่อนข้างใหญ่ ขนสีทองสวยสง่า หางสั้น มีราคาสูงถึงราวกิโลกรัมละ 200 บาท มักนำมาทำเป็นไก่ต้มราดด้วยซีอิ้วดำปรุงรส มีเนื้อนุ่ม หนังเด้งกรอบ อร่อยผิดไปจากไก่พันธุ์อื่นๆ ดังนั้นหากมาเที่ยวเบตงต้องได้ทั้งชมและชิมไก่เบตงให้ครบ
ไก่เบตงตอนเด็กจะไม่มีขน เมื่อโตขึ้นขนก็จะเริ่มขึ้น ไม่ใช่ไก่ขนร่วงหรือเป็นโรคแต่อย่างใด
ผักน้ำ หรือวอเตอร์เครส ปลูกกันแพร่หลายในเบตง
อีกหนึ่งเมนูเด็ดของเบตงก็คือ “ผักน้ำ” หรือวอเตอร์เครส (Watercress) ผักที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสแล้วนำมาปลูกในประเทศจีน ต่อมาแพร่หลายมาทางมาเลเซียและเข้ามาในประเทศไทยแถบจังหวัดยะลา จนกลายมาเป็นพืชที่ปลูกกันมากที่อำเภอเบตงมาเป็นเวลานานแล้ว นำมาทำเป็นผัดผักน้ำ หรือใส่ในน้ำซุปก็อร่อย ในเส้นทางท่องเที่ยวนี้เราได้มาชม “ฟาร์มผักน้ำ” ทำให้ได้เห็นว่าเจ้าผักน้ำนี้ชอบขึ้นในที่อากาศเย็น อุณหภูมิไม่เกิน 25 องศา และชอบขึ้นในน้ำไหลใสสะอาด แหล่งปลูกผักน้ำจึงมักทำบนเขา ทำเป็นฟาร์มผักน้ำขันบันไดให้น้ำจากภูเขาไหลลงมาทีละชั้นๆ
ฟาร์มผักน้ำปลูกแบบขั้นบันได
หมู่บ้านปลาในสายน้ำไหล ทำบ่อปลาแบบขั้นบันไดเช่นเดียวกัน
ด้วยสภาพพื้นที่ของเบตงที่เป็นเขาสูงเสียส่วนใหญ่ การทำเกษตรต่างๆ บางครั้งจึงต้องทำแบบขั้นบันได โดยนอกจากฟาร์มผักน้ำขั้นบันไดแล้ว ก็ยังมีการเลี้ยงปลาแบบขั้นบันไดที่ “หมู่บ้านปลาในสายน้ำไหล” โดยใช้แหล่งน้ำธรรมชาติจากภูเขามาเลี้ยงปลานิลในบ่อแบบขั้นบันได โดยมีน้ำไหลผ่านต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง อุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยไม่เกิน 24 องศาตลอดทั้งปี ทำให้ปลานิลที่นี่ไม่คาวไม่เหม็นกลิ่นดินโคลนเนื้อแน่นอร่อย อีกทั้งยังมีปลาอื่นๆ เช่น ปลาพลวงชมพูด้วย

เช่นเดียวกับ “ฟาร์มปลาจีนในสายน้ำไหล” ที่มีรูปแบบคล้ายกัน แต่ปลาจีนนั้นเป็นปลาที่นิยมกินกันมากในเบตง โดยเฉพาะในงานมงคลต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานเลี้ยงทำบุญ ปลาจีนเป็นชื่อที่ใช้เรียกปลา 3 ชนิดคือปลาเฉาหรือเฉาฮื้อหรือปลากินหญ้าปลาลิ่นหรือปลาลิ้นฮื้อหรือปลาเกร็ดเงินและปลาส้มหรือปลาซ่งฮื้อหรือปลาหัวโตมาทั้ง 3 ชนิดนำเข้ามาจากประเทศจีนเมื่อนำมาเลี้ยงในไทยพบว่าเจริญเติบโตได้ดี ตัวมีขนาดใหญ่มาก ต้องเลี้ยงกันนานเป็นปี
ปลานิลตัวโตๆ ในบ่อ ไม่มีกลิ่นดินโคลนเพราะเป็นน้ำไหล
ปิดท้ายอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวในตำบลตาเนาะแมเราะที่ “วัดบ่อน้ำร้อน” มากราบหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตรสูง 7.5 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ถือได้ว่าเป็นรูปหล่อหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในสามจังหวัดชายแดนใต้

* * * * * * * * * * * *

ผู้ที่สนใจเที่ยวชมในเส้นทางท่องเที่ยวตำบลตาเนาะแมเราะ สามารถสอบถามได้ที่โทร.08 3397 5828 โดยมีบริการคนและรถนำเที่ยวในเส้นทางดังกล่าว หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ตามแต่ตกลงกัน ดำเนินการโดยคนในตำบลตาเนาะแมเราะ หรือสามารถแวะสอบถามได้ที่บริเวณศูนย์สาธิตการตลาดของตำบลตาเนาะแมเราะ ซึ่งอยู่บริเวณริมถนนติดกับบ่อน้ำพุร้อนเบตง โดยที่ศูนย์ฯ จะมีเสื้อยืดและสินค้าที่ระลึกขาย รวมถึงมีกิจกรรมสกรีนเสื้อยืดเป็นลวดลายโอเคเบตงสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้มาเยี่ยมชมอีกด้วย








สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager





กำลังโหลดความคิดเห็น