โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการแช่ “ออนเซ็น” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัย
ออนเซ็น หรือ “อนเซ็น”(Onsen) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินมีกระจายตัวอยู่ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น บ่อน้ำพุร้อนส่วนใหญ่ผุดมาจากภูเขาไฟ เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟอยู่มากมาย และภูเขาไฟหลายลูกยังไม่ดับ
บ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ทั้งช่วยบรรเทารักษาโรค รวมทั้งมีคุณประโยชน์ในด้านการเสริมความงามแก่ผิวพรรณ อีกยั้งยังช่วยผ่อนคลายกายใจในยามลงแช่

ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมการแช่ออนเซ็นมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตพวกเขาไปแล้ว
ปัจจุบันทั่วประเทศญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยการเปิดให้บริการแบบเรียวคังที่มีออนเซ็นให้บริการอยู่ทั่วไปในทุกภูมิภาค
ดังนั้นออนเซ็นของญี่ปุ่นนอกจากจะหมายถึงบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแล้ว ยังหมายรวมถึงสถานที่ที่เปิดให้บริการน้ำพุร้อนต่าง ๆ ที่มีอยู่หลายประเภท(ส่วนใหญ่เป็นบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ) ที่มีทั้งออนเซ็นในร่มและกลางแจ้ง แต่ละที่เล็กใหญ่ต่างกันไป

ออนเซ็นกลางแจ้งบางแห่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขา หุบเขา หรือเลียบฝั่งแม่น้ำ มีทั้งบ่อรวม บ่อแบ่งชายหญิง รวมถึง“อะชิยุ”ที่เป็นบ่อน้ำร้อนตื้น ๆ สำหรับแช่เท้า พบได้ตามทางเดินในบางเมือง ตามสปารีสอร์ทน้ำพุร้อน โดยสามารถแช่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ก็ยังมีออนเซ็น ประเภทอื่น ๆ อีก อาทิ บ่อทราย ซึ่งผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บ่อโคลน และห้องอบไอน้ำ เป็นต้น
และด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังระบือไกลของออนเซ็นญี่ปุ่น ทาง“องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO) จึงได้คัดสรร “5 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกชั้นดีสำหรับผู้ที่ต้องการไปแช่ออนเซ็นในญี่ปุ่น

สำหรับ 5 อันดับออนเซ็นยอดนิยมนี้ นำมาจาก “100 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นการจัดอันดับออนเซ็นความนิยมของจากในบรรดาออนเซ็นจำนวนมากทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยหนังสือพิมพ์คังโคเคไซชิมบุน (Kanko Keizai Shimbun) ซึ่งจัดปีละครั้งเป็นประจำทุกปี
โดยปี พ.ศ.2561(ค.ศ. 2018) ที่ผ่านมา มีการประกาศผลการจัดอันดับออนเซ็นยอดนิยม ซึ่งเป็นผลจากการลงคะแนนเสียงของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ประมาณ 8,000 คนรวมถึงพนักงานบริษัทท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งมีเกณฑ์การลงคะแนนจาก บรรยากาศ ไฮไลต์ที่ควรชมและประสบการณ์ที่ได้รับ คุณสมบัติของน้ำร้อน(องค์ประกอบด้านแร่ธาตุ) อาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่น
สำหรับ 5 อันดับแรกของ ออนเซ็นยอดนิยมประจำปี 2561 ในญี่ปุ่น มีดังนี้
อันดับ 5 : โดโกะออนเซ็น(Dogo Onsen), จ.เอะฮิเมะ(Ehime)

“โดโกะออนเซ็น”(Dogo Onsen) เป็นออนเซ็นในรูปแบบโรงอาบน้ำสาธารณะที่เปิดกิจการมายาวนานที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โดโกะออนเซ็นฮงคัง (Dogo Onsen Honkan)” นั้นได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมของชาติเลยทีเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเปิดให้บริการเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะอยู่ (แต่ล่าสุดมีกำหนดเปิดให้บริการเพียงบางส่วนเป็นเวลาประมาณ 7 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อทำการบูรณะซ่อมแซม)

โดโกะออนเซ็น เป็นออนเซ็นสุดคลาสสิกที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ ผู้ที่ต้องการสัมผัสโดโกะออนเซ็นอย่างลึกซึ้งแนะนำให้เข้าพักในโรงแรมที่มีมากกว่า 30 แห่งรอบ ๆ บริเวณของออนเซ็นแห่งนี้
สำหรับน้ำแร่ที่นี่ให้สัมผัสเบาใสและเรียบลื่น ซึ่งหลังอาบน้ำเสร็จเราจะได้เข้าไปพักผ่อนในห้องที่ตกแต่งไว้อย่างมีสไตล์ หากมีโอกาสมาเยือนโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) แนะนำว่าควรจะต้องมาถ่ายรูปคู่กับตัวอาคารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมของที่นี่ให้ได้
อันดับ 4 : อิบุสุกิออนเซ็น (Ibusuki Onsen), จ.คะโงะชิมะ (Kagoshima)

“อิบุสุกิออนเซ็น” เป็นออนเซ็นอบทรายร้อนตามธรรมชาติที่หาได้ยากและน่าลองสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง ออนเซ็นแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลเลียบชายฝั่งในเมืองอิบุสุกิ (Ibusuki City) จังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima)
สำหรับออนเซ็นทรายร้อน(Sand Bath)อันโด่งดังของที่นี่ เป็นการอบร่างกายโดยใช้ความร้อนและไอน้ำที่เกิดจากการแหล่งน้ำพุร้อนประมาณ 80 - 90 องศาเซลเซียสมาประสานกับน้ำทะเลที่ลึกลงไปใต้ผืนทรายริมหาดราว 5 เมตร

ขณะที่วิธีการอบทรายร้อนนั้นก็ไม่ยุ่งยากอะไร โดยเราจะต้องนอนลงบนผืนทราย จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยโกยทรายขึ้นมากลบทั่วตัวเรา พอผ่านไปสัก 10 นาที เหงื่อก็จะไหลออกมา ซึ่งการอบทรายร้อน ๆ นี้จะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี
นอกจากผู้มาอบทรายร้อนจะได้นอนฟังเสียงคลื่นอย่างสบายอารมณ์แล้ว ที่นี่ก็ยังมีโรงแรมที่พักมากมายที่ให้บริการทั้งออนเซ็นแบบแช่น้ำพุร้อนปกติ และแบบอบทรายร้อนให้ได้เพลิดเพลินกันทั้งสองแบบ
อันดับ 3 : เกะโระออนเซ็น (Gero Onsen), จ.กิฟุ (Gifu)

“เกะโระออนเซ็น”(Gero Onsen) จังหวัดกิฟุ ได้รับคะแนนสูงเป็นพิเศษในเรื่องของคุณสมบัติน้ำร้อน และเป็นออนเซ็นที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากมาตั้งแต่สมัย 100 ปีก่อนแล้ว
เกะโระออนเซ็น เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกิฟุ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาฮิดะ โดยมีเมืองบ่อน้ำร้อนตั้งอยู่บนแม่น้ำฮิดะ กลมกลืนกับหมู่บ้านในหุบเขาได้อย่างลงตัว

สำหรับน้ำพุร้อนที่เกโระนั้น มีชื่อเสียงเรื่องช่วยทำให้ผิวเนียนสวย จนถูกกล่าวขวัญว่าเป็น “น้ำพุร้อนสาวงาม” เนื่องจากแร่ธาตุในน้ำร้อนของเกะโระนั้นคุณสมบัติของน้ำมีฤทธิ์เป็นด่าง น้ำร้อนของที่นี่จึงให้สัมผัสเรียบลื่น และเนื่องจากมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบไอน้ำร้อนจึงมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ผู้มาเยือนเกโระออนเซ็น ไม่ว่าจะพักในย่านบันเทิงที่กระจายตัวอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหรือจะพักในโรงแรมอนเซ็นบรรยากาศดีท่ามกลางทิวทัศน์ชนบทก็ล้วนแต่มีเสน่ห์น่าสนใจไม่แพ้กัน
อันดับ 2 : เบปปุฮัตโตออนเซ็น(Beppu Hatto Onsen), จ. โออิตะ (Oita)

ในแถบคิวชู (Kyushu) ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งน้ำพุร้อนหรือออนเซ็นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเอ่ยถึงออนเซ็นยอดนิยมตัวแทนของคิวชูแล้วก็ต้องเป็น “เบปปุฮัตโตออนเซ็น” (Beppu Hatto Onsen) อันเลื่องชื่อ
ในการจัดอันดับออนเซ็นยอดนิยมครั้งล่าสุดนี้ เบปปุฮัตโตออนเซ็น ได้เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 จากที่อยู่ในอันดับที่ 3 ในปี พ.ศ. 2560(ค.ศ. 2017)
สำหรับเมืองเบปปุ (Beppu City) จังหวัดโออิตะ มีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่มากมายรวมประมาณ 2,300 แห่ง ตามจุดต่างๆ ในเมืองจะเห็นไอร้อนสีขาวพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของแหล่งน้ำพุร้อนทั่วประเทศญี่ปุ่นอยู่ในเบปปุนั่นเอง

ในส่วน เบปปุฮัตโต (Beppu Hatto)นั้น เป็นชื่อเรียกรวมของบ่อออนเซ็น 8 แห่งที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ในเมืองเบปปุ โดยบ่อที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึงราว 1,300 ปีเลยทีเดียว
ออนเซ็นที่เบปปุได้รับคะแนนสูงเป็นพิเศษในเรื่องของ คุณสมบัติน้ำร้อน และ ไฮไลต์ที่ควรสัมผัสและประสบการณ์ที่ได้รับ หากไปถึงที่แล้วแนะนำให้ทดลองลงแช่หลายๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบสรรพคุณกันดู
อันดับ 1 : คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen), จ.กุนมะ (Gunma)

“คุซัทสึออนเซ็น”(Kusatsu Onsen) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับที่ 1 ของออนเซ็นทั่วญี่ปุ่นทั้งในด้านของบรรยากาศ ไฮไลต์ที่ควรชม และประสบการณ์ที่ได้รับและในด้านคุณสมบัติของน้ำร้อน ของปี 2561
นับได้ว่าคุซัทสึออนเซ็น เป็นราชาแห่งออนเซ็นตัวจริงเพราะสามารถรักษาแชมป์คะแนนรวมอันดับ 1 มาเป็นเวลา 16 ปีติดต่อกันแล้ว
ออนเซ็นแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกุนมะ (Gunma) เป็นออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำร้อนผุดขึ้นมาตามธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น คุณสมบัติของน้ำร้อนมีความเป็นกรดสูง หลังลงแช่แล้วผิวจะเนียนเรียบ

สำหรับที่ “ยุบะตะเคะ (Yubatake)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนั้น ผู้มาเยือนสามารถชมการพวยพุ่งของน้ำร้อนปริมาณ 4000 ลิตรต่อนาทีได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ทั่วทุกมุมเมืองยังเต็มไปด้วยโรงอาบน้ำสาธารณะและโซะโตะยุ (Sotoyu) คือบ่ออนเซ็นที่ลงแช่ได้ฟรีให้ได้ทดลองใช้และเปรียบเทียบกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว
และนี่ก็คือ 5 อันดับ ออนเซ็นยอดนิยมของญี่ปุ่น(ประจำปี 2561) จาก“100 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” ซึ่งแต่ละแห่งนั้นการันตีในชื่อเสียงและคุณภาพ
อย่างไรก็ดีสำหรับคนไทยที่ไปเยือนญี่ปุ่น แม้ว่าการลงแช่ออนเซ็นในบ่อทั่วไป(ที่ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของโรงแรม) จะต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด เปลือยกายล่อนจ้อน แต่นี่ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การอาบน้ำพุร้อนชั้นดีสำหรับผู้มาเยือนญี่ปุ่น ซึ่งน่าลองสักครั้ง(หรือหลาย ๆ ครั้ง)ในชีวิต
....................................................................................................
หมายเหตุ : บทความนี้อ้างอิงข้อมูลจาก "องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น(JNTO)"
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการแช่ “ออนเซ็น” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมไม่ควรพลาดสำหรับผู้มาเยือนดินแดนอาทิตย์อุทัย
ออนเซ็น หรือ “อนเซ็น”(Onsen) เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินมีกระจายตัวอยู่ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น บ่อน้ำพุร้อนส่วนใหญ่ผุดมาจากภูเขาไฟ เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภูเขาไฟอยู่มากมาย และภูเขาไฟหลายลูกยังไม่ดับ
บ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ทั้งช่วยบรรเทารักษาโรค รวมทั้งมีคุณประโยชน์ในด้านการเสริมความงามแก่ผิวพรรณ อีกยั้งยังช่วยผ่อนคลายกายใจในยามลงแช่
ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมการแช่ออนเซ็นมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตพวกเขาไปแล้ว
ปัจจุบันทั่วประเทศญี่ปุ่นได้มีการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเพื่อสร้างความเจริญให้กับท้องถิ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ โดยการเปิดให้บริการแบบเรียวคังที่มีออนเซ็นให้บริการอยู่ทั่วไปในทุกภูมิภาค
ดังนั้นออนเซ็นของญี่ปุ่นนอกจากจะหมายถึงบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแล้ว ยังหมายรวมถึงสถานที่ที่เปิดให้บริการน้ำพุร้อนต่าง ๆ ที่มีอยู่หลายประเภท(ส่วนใหญ่เป็นบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ) ที่มีทั้งออนเซ็นในร่มและกลางแจ้ง แต่ละที่เล็กใหญ่ต่างกันไป
ออนเซ็นกลางแจ้งบางแห่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขา หุบเขา หรือเลียบฝั่งแม่น้ำ มีทั้งบ่อรวม บ่อแบ่งชายหญิง รวมถึง“อะชิยุ”ที่เป็นบ่อน้ำร้อนตื้น ๆ สำหรับแช่เท้า พบได้ตามทางเดินในบางเมือง ตามสปารีสอร์ทน้ำพุร้อน โดยสามารถแช่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ก็ยังมีออนเซ็น ประเภทอื่น ๆ อีก อาทิ บ่อทราย ซึ่งผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บ่อโคลน และห้องอบไอน้ำ เป็นต้น
และด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังระบือไกลของออนเซ็นญี่ปุ่น ทาง“องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น”(JNTO) จึงได้คัดสรร “5 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” มานำเสนอเพื่อเป็นทางเลือกชั้นดีสำหรับผู้ที่ต้องการไปแช่ออนเซ็นในญี่ปุ่น
สำหรับ 5 อันดับออนเซ็นยอดนิยมนี้ นำมาจาก “100 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นการจัดอันดับออนเซ็นความนิยมของจากในบรรดาออนเซ็นจำนวนมากทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยหนังสือพิมพ์คังโคเคไซชิมบุน (Kanko Keizai Shimbun) ซึ่งจัดปีละครั้งเป็นประจำทุกปี
โดยปี พ.ศ.2561(ค.ศ. 2018) ที่ผ่านมา มีการประกาศผลการจัดอันดับออนเซ็นยอดนิยม ซึ่งเป็นผลจากการลงคะแนนเสียงของผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยว ประมาณ 8,000 คนรวมถึงพนักงานบริษัทท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งมีเกณฑ์การลงคะแนนจาก บรรยากาศ ไฮไลต์ที่ควรชมและประสบการณ์ที่ได้รับ คุณสมบัติของน้ำร้อน(องค์ประกอบด้านแร่ธาตุ) อาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่น
สำหรับ 5 อันดับแรกของ ออนเซ็นยอดนิยมประจำปี 2561 ในญี่ปุ่น มีดังนี้
อันดับ 5 : โดโกะออนเซ็น(Dogo Onsen), จ.เอะฮิเมะ(Ehime)
“โดโกะออนเซ็น”(Dogo Onsen) เป็นออนเซ็นในรูปแบบโรงอาบน้ำสาธารณะที่เปิดกิจการมายาวนานที่สุดในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “โดโกะออนเซ็นฮงคัง (Dogo Onsen Honkan)” นั้นได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมของชาติเลยทีเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเปิดให้บริการเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะอยู่ (แต่ล่าสุดมีกำหนดเปิดให้บริการเพียงบางส่วนเป็นเวลาประมาณ 7 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อทำการบูรณะซ่อมแซม)
โดโกะออนเซ็น เป็นออนเซ็นสุดคลาสสิกที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ ผู้ที่ต้องการสัมผัสโดโกะออนเซ็นอย่างลึกซึ้งแนะนำให้เข้าพักในโรงแรมที่มีมากกว่า 30 แห่งรอบ ๆ บริเวณของออนเซ็นแห่งนี้
สำหรับน้ำแร่ที่นี่ให้สัมผัสเบาใสและเรียบลื่น ซึ่งหลังอาบน้ำเสร็จเราจะได้เข้าไปพักผ่อนในห้องที่ตกแต่งไว้อย่างมีสไตล์ หากมีโอกาสมาเยือนโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) แนะนำว่าควรจะต้องมาถ่ายรูปคู่กับตัวอาคารแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมของที่นี่ให้ได้
อันดับ 4 : อิบุสุกิออนเซ็น (Ibusuki Onsen), จ.คะโงะชิมะ (Kagoshima)
“อิบุสุกิออนเซ็น” เป็นออนเซ็นอบทรายร้อนตามธรรมชาติที่หาได้ยากและน่าลองสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง ออนเซ็นแห่งนี้ตั้งอยู่ริมทะเลเลียบชายฝั่งในเมืองอิบุสุกิ (Ibusuki City) จังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima)
สำหรับออนเซ็นทรายร้อน(Sand Bath)อันโด่งดังของที่นี่ เป็นการอบร่างกายโดยใช้ความร้อนและไอน้ำที่เกิดจากการแหล่งน้ำพุร้อนประมาณ 80 - 90 องศาเซลเซียสมาประสานกับน้ำทะเลที่ลึกลงไปใต้ผืนทรายริมหาดราว 5 เมตร
ขณะที่วิธีการอบทรายร้อนนั้นก็ไม่ยุ่งยากอะไร โดยเราจะต้องนอนลงบนผืนทราย จากนั้นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยโกยทรายขึ้นมากลบทั่วตัวเรา พอผ่านไปสัก 10 นาที เหงื่อก็จะไหลออกมา ซึ่งการอบทรายร้อน ๆ นี้จะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี
นอกจากผู้มาอบทรายร้อนจะได้นอนฟังเสียงคลื่นอย่างสบายอารมณ์แล้ว ที่นี่ก็ยังมีโรงแรมที่พักมากมายที่ให้บริการทั้งออนเซ็นแบบแช่น้ำพุร้อนปกติ และแบบอบทรายร้อนให้ได้เพลิดเพลินกันทั้งสองแบบ
อันดับ 3 : เกะโระออนเซ็น (Gero Onsen), จ.กิฟุ (Gifu)
“เกะโระออนเซ็น”(Gero Onsen) จังหวัดกิฟุ ได้รับคะแนนสูงเป็นพิเศษในเรื่องของคุณสมบัติน้ำร้อน และเป็นออนเซ็นที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากมาตั้งแต่สมัย 100 ปีก่อนแล้ว
เกะโระออนเซ็น เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกิฟุ ท่ามกลางบรรยากาศที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาฮิดะ โดยมีเมืองบ่อน้ำร้อนตั้งอยู่บนแม่น้ำฮิดะ กลมกลืนกับหมู่บ้านในหุบเขาได้อย่างลงตัว
สำหรับน้ำพุร้อนที่เกโระนั้น มีชื่อเสียงเรื่องช่วยทำให้ผิวเนียนสวย จนถูกกล่าวขวัญว่าเป็น “น้ำพุร้อนสาวงาม” เนื่องจากแร่ธาตุในน้ำร้อนของเกะโระนั้นคุณสมบัติของน้ำมีฤทธิ์เป็นด่าง น้ำร้อนของที่นี่จึงให้สัมผัสเรียบลื่น และเนื่องจากมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบไอน้ำร้อนจึงมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ทั้งนี้ผู้มาเยือนเกโระออนเซ็น ไม่ว่าจะพักในย่านบันเทิงที่กระจายตัวอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหรือจะพักในโรงแรมอนเซ็นบรรยากาศดีท่ามกลางทิวทัศน์ชนบทก็ล้วนแต่มีเสน่ห์น่าสนใจไม่แพ้กัน
อันดับ 2 : เบปปุฮัตโตออนเซ็น(Beppu Hatto Onsen), จ. โออิตะ (Oita)
ในแถบคิวชู (Kyushu) ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งน้ำพุร้อนหรือออนเซ็นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเอ่ยถึงออนเซ็นยอดนิยมตัวแทนของคิวชูแล้วก็ต้องเป็น “เบปปุฮัตโตออนเซ็น” (Beppu Hatto Onsen) อันเลื่องชื่อ
ในการจัดอันดับออนเซ็นยอดนิยมครั้งล่าสุดนี้ เบปปุฮัตโตออนเซ็น ได้เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 จากที่อยู่ในอันดับที่ 3 ในปี พ.ศ. 2560(ค.ศ. 2017)
สำหรับเมืองเบปปุ (Beppu City) จังหวัดโออิตะ มีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่มากมายรวมประมาณ 2,300 แห่ง ตามจุดต่างๆ ในเมืองจะเห็นไอร้อนสีขาวพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของแหล่งน้ำพุร้อนทั่วประเทศญี่ปุ่นอยู่ในเบปปุนั่นเอง
ในส่วน เบปปุฮัตโต (Beppu Hatto)นั้น เป็นชื่อเรียกรวมของบ่อออนเซ็น 8 แห่งที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ในเมืองเบปปุ โดยบ่อที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึงราว 1,300 ปีเลยทีเดียว
ออนเซ็นที่เบปปุได้รับคะแนนสูงเป็นพิเศษในเรื่องของ คุณสมบัติน้ำร้อน และ ไฮไลต์ที่ควรสัมผัสและประสบการณ์ที่ได้รับ หากไปถึงที่แล้วแนะนำให้ทดลองลงแช่หลายๆ แห่งเพื่อเปรียบเทียบสรรพคุณกันดู
อันดับ 1 : คุซัทสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen), จ.กุนมะ (Gunma)
“คุซัทสึออนเซ็น”(Kusatsu Onsen) ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับที่ 1 ของออนเซ็นทั่วญี่ปุ่นทั้งในด้านของบรรยากาศ ไฮไลต์ที่ควรชม และประสบการณ์ที่ได้รับและในด้านคุณสมบัติของน้ำร้อน ของปี 2561
นับได้ว่าคุซัทสึออนเซ็น เป็นราชาแห่งออนเซ็นตัวจริงเพราะสามารถรักษาแชมป์คะแนนรวมอันดับ 1 มาเป็นเวลา 16 ปีติดต่อกันแล้ว
ออนเซ็นแห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกุนมะ (Gunma) เป็นออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำร้อนผุดขึ้นมาตามธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น คุณสมบัติของน้ำร้อนมีความเป็นกรดสูง หลังลงแช่แล้วผิวจะเนียนเรียบ
สำหรับที่ “ยุบะตะเคะ (Yubatake)” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนั้น ผู้มาเยือนสามารถชมการพวยพุ่งของน้ำร้อนปริมาณ 4000 ลิตรต่อนาทีได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ทั่วทุกมุมเมืองยังเต็มไปด้วยโรงอาบน้ำสาธารณะและโซะโตะยุ (Sotoyu) คือบ่ออนเซ็นที่ลงแช่ได้ฟรีให้ได้ทดลองใช้และเปรียบเทียบกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว
และนี่ก็คือ 5 อันดับ ออนเซ็นยอดนิยมของญี่ปุ่น(ประจำปี 2561) จาก“100 อันดับออนเซ็นยอดนิยมในญี่ปุ่น” ซึ่งแต่ละแห่งนั้นการันตีในชื่อเสียงและคุณภาพ
อย่างไรก็ดีสำหรับคนไทยที่ไปเยือนญี่ปุ่น แม้ว่าการลงแช่ออนเซ็นในบ่อทั่วไป(ที่ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของโรงแรม) จะต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมด เปลือยกายล่อนจ้อน แต่นี่ถือเป็นการเปิดประสบการณ์การอาบน้ำพุร้อนชั้นดีสำหรับผู้มาเยือนญี่ปุ่น ซึ่งน่าลองสักครั้ง(หรือหลาย ๆ ครั้ง)ในชีวิต
....................................................................................................
หมายเหตุ : บทความนี้อ้างอิงข้อมูลจาก "องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น(JNTO)"
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager