xs
xsm
sm
md
lg

ครั้งแรกในไทย“เที่ยวไป วิ่งไป” สโลว์ไลฟ์เมืองพะเยา สัมผัสชุมชนน่ารัก-น้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในไทย/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local ครั้งแรกในไทยกับการวิ่งแบบไม่จับเวลา
ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา การ“วิ่ง”ในบ้านเราบูมอย่างต่อเนื่อง มีการจัดกิจกรรมวิ่งขึ้นในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันวิ่งระยะไกล ระยะใกล้ การจัดกิจกรรมวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ วิ่งการกุศล วิ่งเทรลผจญภัยไปตามสถานที่ต่าง ๆ

และล่าสุดกับการวิ่งรูปแบบใหม่ที่มีการผนวกเรื่องการท่องเที่ยวเข้าไปอย่างเด่นชัด กับกิจกรรม “เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local” ที่ทาง เวเคลิสต้าร์-ไทยรัน และ“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)” ได้จับมือกับชุมชน และพันธมิตรในหลากหลายภาคส่วนจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น

เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local

เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local ถือเป็นมิติใหม่ของกิจกรรมวิ่งในเมืองไทย เพราะนี่เป็นครั้งกับการวิ่งไปเที่ยวไปแบบไม่จำกัดเวลา ไม่มีถ้วยรางวัล หากแต่มุ่งเน้นให้ผู้ร่วมงานได้วิ่ง-เดิน ออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวสัมผัสกับวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิด
เที่ยวไปวิ่งไป สัมผัสวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิด
กิจกรรมเที่ยวไปวิ่งไป Like a Local จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่อำเภอภูซางจังหวัดพะเยา ในช่วงวันที่ 16-18 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรม 2 รูปแบบให้เลือกสรร คือ

แบบที่ 1 เที่ยวไปวิ่งไป 3 วัน 2 คืน เป็นแพ็กเกจพาเที่ยวชมสถานที่สำคัญในอำเภอเชียงคำและภูซาง ราคา 6,850 บาทต่อคน(รวมค่าที่พัก อาหารทุกมื้อพร้อมชมการแสดง ค่าเดินทางและประกันการเดินทาง ค่าวิ่ง เสื้อวิ่ง และผ้าพันคอฝ้ายทอมือ)

แบบที่ 2 เที่ยวไปวิ่งไป 1 วัน ราคา 900 บาทต่อคน(รวมค่าวิ่ง เสื้อวิ่ง ผ้าพันคอฝ้ายทอมือ อาหาร 3 มื้อพร้อมชมการแสดง และประกันอุบัติเหตุ)

โดยกิจกรรมเที่ยวไปวิ่งไป Like a Local ในครั้งแรกที่จังหวัดพะเยานี้ รับจำนวนจำกัดแค่ 300 คน เท่านั้น ซึ่งก็มีนักวิ่งมาจากหลากหลายที่ทั่วไทย รวมถึงมีนักวิ่งในพื้นที่ด้วย
เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local กิจกรรมที่ผสานด้านกีฬากับการท่องเที่ยวเขาไว้ด้วยกัน
นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า โครงการ เที่ยวไปวิ่งไป Like a Local มีแนวคิดที่ต่างจากงานวิ่งทั่ว ๆ ไป คือเป็นการผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายกับการท่องเที่ยว โดยเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้วิ่งหรือเดินเข้าไปสัมผัสกับวิถีชุมชน ทักทายพูดคุยกับชาวบ้าน อย่างใกล้ชิด

ผอ. ภูมิภาค ภาคเหนือ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้ยังเปลี่ยนจากการจัดงานในเมืองหลัก มาเป็นการจัดงานในเมืองรอง ส่วนเหตุที่เลือกพะเยานั้น เพราะเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพและมีความน่าสนใจ และทางผู้จัดงานยังอยากกระจายนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่ เชียงราย มาสู่พะเยา ซึ่งถือเป็นการเปิดโลกเมืองพะเยาให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
เที่ยวไปวิ่งไป สัมผัสวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิด
ส่วน นางสาว“อัยย์ ฐณัณญาญ์ ไอยราถิรศักดิ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวเคลิสต้าร์ จำกัด อดีตนักร้องสาวอินดี้ชื่อดัง หัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการจัดงานครั้งนี้ เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ เป็นผู้ออกแบบเส้นทางเที่ยวไปวิ่งไปโดยมองเห็นความงดงามในพื้นที่เมืองรองของแต่ละภาคในประเทศไทย ที่งดงามทั้งภูมิทัศน์ ศิลปกรรม ประเพณีวัฒนธรรม และน้ำใจของผู้คนในชุมชน

“กิจกรรมนี้มีแนวคิดหลักคือ Sustainable Tourism ชุมชนมีส่วนร่วมคิดร่วมวางแผนในทุกมิติ ใช้ทรัพยากรในท้องที่อย่างมีคุณค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด เน้นผลประโยชน์ชุมชน คุณค่าสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ทำให้เกิดมลพิษและขยะให้น้อยที่สุด คำนึงถึงความสามารถและขีดจำกัดในการรองรับของทรัพยากรและชุมชน” อัยย์ กล่าว
อาหารท้องถิ่นที่นำมาจัดเลี้ยงต้อนรับนักวิ่ง ที่จุดต้อนรับน้ำตกภูซาง
ด้าน นาย“วิรุฬห์ สิทธิวงศ์” นายอำเภอ อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เจ้าของพื้นที่ ได้เปิดเผยในภาพรวมของอำเภอภูซางว่า ทางพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว นักวิ่ง โดยมีการประชุมกับทางหมู่บ้าน ทางทีมสาธารณสุข ทางโรงพยาบาล ทางตำรวจ เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยทั้งหมดมาร่วมวิ่งด้วยกับนักท่องเที่ยว เรื่องความปลอดภัยไม่น่าห่วง

นายอำเภอภูซาง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทางชุมชนถือมีความตื่นตัวในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยทางชาวบ้าน ได้เตรียมความพร้อม ในเรื่องอาหารการกิน การแสดงต่าง ๆ และพิธีการต้อนรับต่าง ๆ เอาไว้อย่างเต็มที่เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจ

ต่อนยอนพะเยา วิ่งไปเที่ยวไป สัมผัสวิถีชุมชน
อบอุ่นร่างกายก่อนออกวิ่ง
สำหรับงานเที่ยวไปวิ่งไป Like a Local นั้นมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่กิจกรรมการวิ่งสัมผัสวิถีชุมชนในพื้นที่อำเภอภูซางในช่วงครึ่งวันเช้าของวันที่ 17 ก.พ. 62 เริ่มกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดกับการลงทะเบียนวิ่ง ที่ “เฮินไทลื้อ” อ.ภูซาง ซึ่งทางชุมชนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อได้เตรียมอาหารว่าง เครื่องดื่ม ของกินท้องถิ่น ไว้ต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ก่อนจะมีคนมานำเต้นแอโรบิกอบอุ่นร่างกาย
ปล่อยตัว ณ จุดสตาร์ท
จากนั้นก็เป็นการออกสตาร์ทของเหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีการแบ่งนักวิ่ง(และเดิน)ออกเป็นกลุ่ม ๆ โดยมีระยะทางในการวิ่งทั้งหมดประมาณ 11 กม. ซึ่งในระหว่างทาง จะมีชาวบ้านออกมาพูดคุยทักทาย เตรียมน้ำท่าไว้บริการไปตลอดทาง หลายบ้านมีขนม ผลไม้ ของกินพื้นบ้านมาให้นักท่องเที่ยวชิมกันฟรี ๆ

ในส่วนของผู้เข้าร่วมงานนั้น หากใครเหนื่อยจากการวิ่งก็สามารถเปลี่ยนมาเดิน หรือใครที่เห็นว่าวิวตรงไหนสวย มุมไหนแจ่ม ก็แวะถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลิน

อย่างไรก็ดีกิจกรรมเที่ยวไปวิ่งไปในครั้งนี้ มีจุดสำคัญอยู่ 5 จุดหลักด้วยกัน คือ ป่าชุมชน,สวนมีสุข, กลางทุ่งนา, บ้านหมุน และจุดสิ้นสุดที่น้ำตกภูซาง
แวะเที่ยว ชม ชิม ที่สวนมีสุข
สำหรับจุดพักเด่น ๆ ในเส้นทางวิ่งนั้นก็อย่างเช่น “สวนมีสุข” สวนปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ที่เดินตามรอยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ซึ่งทางเจ้าของสวนคือ นาย“นิคม วงใหญ่” ได้จัดเตรียมสลัดโรล สดใหม่ อร่อยเด็ด และน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพรสเยี่ยม มาให้การต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมเปิดให้ชมสวน ถ่ายรูปพูดคุยสอบถามเรื่องการปลูกพืชผักกันได้แบบไม่มีกั๊ก
บ้านหมุน อันซีนพะเยา หมุนรับลมได้รอบทิศ
ส่วนจุดพัก“บ้านหมุน” ของ นาย“ศิวกร ผาแก้ว” หรือ “ลุงทา” นั้นก็เป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์อันน่าประทับใจกับการต้อนรับด้วย ของว่าง เครื่องดื่ม ชากาแฟ

ที่สำคัญคือลุงทาได้พาขึ้นไปเยี่ยมชมบ้าน ที่เป็นนวัตกรรมสุดล้ำกับบ้านหมุน 2 ชั้น หนึ่งเดียวในเมืองไทย

บ้านหมุน ภูซาง แม้จะดูเหมือนบ้าน 2 ชั้นทั่ว ๆ ไป แต่นี่เป็นบ้านที่ติดตั้งด้วยระบบไฮโดรลิก ตัวบ้านสามารถหมุนได้รอบทิศ 360 องศา ซี่งเจ้าของบ้านจะหมุนบ้านปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เพื่อหลบแสงแดดที่รุนแรง หมุนไปรับลมให้บ้านเย็นสบาย ถือเป็นหนึ่งในอันซีนพะเยาที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
น้ำตกภูซาง น้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในเมืองไทย
ขณะที่ “น้ำตกภูซาง” (ในอุทยานแห่งชาติภูซาง) ที่เป็นจุดสิ้นสุดหรือเส้นชัยนั้นก็ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพะเยา เนื่องจากน้ำตกภูซางถือเป็น น้ำตกที่มีความแปลกพิศวงเพราะเป็นน้ำตกอุ่นหนึ่งเดียวในไทยจนได้รับการยกย่องให้เป็น “อันซีนไทยแลนด์
จุดจัดเลี้ยงอาหารกลางวันนักท่องเที่ยว บริเวณหน้าน้ำตกภูซาง
น้ำตกภูซาง มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส เป็นน้ำตกหินปูนอันสวยงาม มีชั้นเดียว สูง 20 กว่าเมตร ไหลเป็นสายฟูฟ่องลงมาสู่ธารน้ำเบื้องล่าง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและแมกไม้อันร่มรื่น ภายใต้กันจัดตกแต่งภูมิทัศน์อย่างเป็นระเบียบ น่าพักผ่อนหย่อนใจของอุทยานฯ ใครที่ขับรถผ่านก็จะสามารถมองเห็นน้ำตกจากริมถนนได้เลย
บริการนวดฟรีหลังหารวิ่ง สำหรับนักวิ่งผู้ปวดเมื่อย
และที่บริเวณน้ำตกภูซางแห่งนี้ เมื่อนักท่องเที่ยววิ่ง-เดินมาถึงเส้นชัย ทางชาวบ้านในพื้นที่อำเภอภูซางและเชียงคำ ได้เตรียมอาหารท้องถิ่นรสเด็ดหลากหลาย ไว้จัดเลี้ยงนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีบริการ“นวด”เพื่อสุขภาพฟรี ไว้บริการสำหรับผู้ที่ปวดเมื่อยอีกด้วย
พิธีบายศรีสู่ขวัญของชาวไทลื้อ รับขวัญนักท่องเที่ยว
ขณะที่ในตอนเย็นนั้นก็ยังมีพิธี“บายศรีสู่ขวัญ” ผูกข้อมูล เรียกขวัญ ให้ศีลให้พรตามวิถีอันงดงามทรงเสน่ห์ของชาวไทลื้อ ก่อนจะปิดท้ายกันด้วยการร่วมรับประทานอาหารค่ำแบบขันโตก ควบคู่ไปกับการชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมของชาวไทลื้อ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้ไม่น้อยเลย
ผูกข้อมือรับขวัญนักท่องเที่ยว
ประทับใจในชุมชนน่ารัก

หลังจบจากกิจกรรมการวิ่ง ผู้เข้าร่วมส่วนหนึ่งได้มาถ่ายทอดความรู้สึกให้ฟัง ดังนี้

ประเสริฐ หน่อคำหล้า” นักวิ่งเจ้าถิ่นจากโรงพยาบาลเชียงคำ ผู้เคยผ่านสนามการวิ่งจากที่อื่น ๆ มาก่อน เล่าว่า การวิ่งครั้งนี้แตกต่างจากการวิ่งในที่อื่น ๆ มาก เป็นการวิ่งที่บรรยากาศดี ชุมชนน่ารักเป็นกันเอง ชวนให้ประทับใจมาก การวิ่งที่อื่นจะเน้นแข่งขัน แต่การวิ่งที่นี่เน้นท่องเที่ยว และอาหารการกินก็อร่อย
กิจกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ กับการวิ่งไป เที่ยวไป
วิทวัส ภิญโญทรัพย์” ผู้มาไกลจากนครพนม เล่าว่า กิจกรรมการวิ่งในครั้งนี้ แตกต่างไปจากการวิ่งที่อื่น ๆ เพราะเป็นการสิ่งเพื่อท่องเที่ยว ไม่มีการจับเวลา มีบรรยากาศดี ชุมชนน่ารักให้ความร่วมมือดีมาก เวลาวิ่งไปที่ไหน มีน้ำท่าคอยบริการ ชาวบ้านส่งยิ้มทักทาย มีอาหาร ขนมให้กิน ซึ่งการทั่วไปไม่มีบรรยากาศแบบนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ที่ทำให้เขารู้ตื่นเต้นไม่น้อย
แวะถ่ายรูปวิวที่ชอบ มุมที่ใช่
ยุทธพงษ์ ชัชวาลวรรณ” หรือ “เดอะกุ่ย” หนึ่งในเซเลบกีฬาคนดัง ที่ชื่นชอบทั้งการวิ่งและการปั่นจักรยาน ผู้ผ่านการวิ่งมาหลากหลายสนาม เล่าให้ฟังว่า นี่เป็นกิจกรรมวิ่งครั้งแรกในเมืองไทยที่ไม่มีการจับเวลา และไม่มีถ้วยรางวัล มันทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน ผู้เข้าวิ่งไม่กดดัน ใครที่อยากวิ่งออกกำลังกายก็วิ่งนำไปในกลุ่มหน้า ส่วนใครไม่อยากเสียแรงก็ค่อยๆเดินไป อยากแวะถ่ายรูป แวะเที่ยวตรงไหนก็แวะได้ เพราะไม่มีการจับเวลา แต่จะมีสตาฟฟ์คอยดูแลในตลอดเส้นทาง
วิ่ง เดิน สัมผัสวิถีชุมชนอย่างใกล้ชิด
“ผมว่ากิจกรรมครั้งนี้มันเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่ให้เราได้เข้าไปสัมผัสชุมชนอย่างใกล้ชิดด้วยสองเท้าของเรา คือสามารถเลือกได้ทั้งวิ่งและเดิน” เดอะกุ่ยกล่าว

ในส่วนของเดอะกุ่ยนั้นแรกเริ่มเดิมที เขาตั้งใจที่จะมาวิ่งเกาะไปกับกลุ่มนำ แต่เมื่อได้เจอกับบรรยากาศอันน่ารักของชุมชนที่อวลไปด้วยรอยยิ้มน้ำมิตรไมตรี ก็เปลี่ยนใจเลือกที่จะวิ่งไปเดินไป พร้อมแวะเข้าบ้านโน้น บ้านนี้ตามคำเชิญชวน
วิ่งไป อุ้มไป
“ตอนแรกผมก็ตั้งใจมาวิ่งกับกลุ่มนำ แต่พอวิ่งไปเจอความน่ารักของชุมชน ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาทักทายกันไปตลอดในเส้นทางที่เราผ่าน ที่สำคัญคือในหลายๆ บ้าน ต่างก็มีน้ำดื่ม กล้วย ส้ม ผลไม้ ขนม ของกินพื้นถิ่น ซึ่งเป็นน้ำใจไมตรีของบ้านนั้นๆ มาคอยต้อนรับนักวิ่ง สิ่งเหล่านี้มันคือความประทับใจที่ผมยังไม่เคยพบเจอในกิจกรรมวิ่งที่ไหนมาก่อน” เดอะกุ่ยเล่าให้ฟัง
นายวิศรุต อินแหยม ผอ. ภูมิภาค ภาคเหนือ ททท.
ด้าน นายวิศรุต อินแหยม ผอ. ภูมิภาคภาคเหนือ ททท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกิจกรรมวิ่งครั้งนี้ประการสำคัญ คือเราได้มิตรใหม่ ทั้งจากเพื่อนนักวิ่งด้วยกันและชาวบ้านในชุมชน นอกจากนี้ ส่วนผู้วิ่งที่เป็นนักท่องเที่ยวยังได้เรียนรู้ ได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ได้เห็นวิถีชีวิตพอเพียง อีกทั้งสามารถกระจายรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย

“การวิ่งผสมผสานการท่องเที่ยวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้นที่จังหวัดพะเยา และจะเป็นต้นแบบให้กับการจัดในจังหวัดอื่น ๆ ในครั้งต่อ ๆ ไป” นายวิศรุตกล่าวทิ้งท้าย
....................................................................................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น