โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน

กุมภาพันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นเดือนแห่งความรัก
เพราะเดือนนี้มี “วันแห่งความรัก” 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ เป็นวันสำคัญ
เมื่อพูดถึงเรื่องราวแห่งความรักแล้ว “ญี่ปุ่น”เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความเชื่อในเรื่องการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานขอพรเรื่องความรักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนไทย โดยที่ญี่ปุ่นนั้นคำว่า “เอ็นมุซุบิ (En-musubi)” หมายถึงความรักที่ดำเนินไปได้ด้วยดี

สำหรับในดินแดนอาทิตย์อุทัยนั้น มีศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าให้โชคในเรื่องของความรัก หรือ “เอ็นมุซุบิ (En-musubi)” นี้อยู่หลายแห่งด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาทาง “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น”(Japan National Tourism Organization : JNTO) ได้นำเสนอ 5 ไฮไลท์ สถานที่(ศาลเจ้า) ไหว้พระ ขอพร เสริมดวง เสริมโชคชะตาด้านความรัก ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าจะช่วยนำพาให้ได้พบพานกับความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี และมีความสุขสมหวังในเรื่องของความรัก
และนี่ก็คือ 5 ศาลเจ้าขอพรด้านความรักอันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบรรดาคนโสดที่ยังไร้คู่ทั้งหลาย
1.ศาลเจ้าคุมะโนะ (Kumano Shrine), ยะมะงะตะ (Yamagata)

ศาลเจ้าคุมะโนะ (Kumano Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) สถานที่แห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่สักการะเทพเจ้าชายและหญิงที่ได้ผูกสัมพันธ์รักต่อกันเป็นคู่แรกในเทพปกรณัมญี่ปุ่น
ด้านหลังอาคารหลักจะมีกระต่ายแกะสลักซ่อนอยู่ 3 ตัว เชื่อกันว่าหากใครสามารถหากระต่ายดังกล่าวได้ครบทั้ง 3 ตัว สิ่งที่อธิษฐานไว้ก็จะประสบผลสำเร็จดังตั้งใจซึ่งรวมถึงเรื่องความรักด้วย

อย่างไรก็ดีมีข้อพึงระวังคือ ในขณะที่มองหากระต่ายตัวสุดท้ายนั้นหากมีการถามหรือบอกที่ซ่อนให้ผู้อื่นรู้ ว่ากันว่าโชคดังกล่าวก็จะถูกขโมยหายไปในทันที
นอกจากนี้ในทุกเดือนจะมีการจัดงาน “ทสึกิมุซุบิ (Tsuki-musubi)” ชื่อที่รวมมาจาก ดวงจันทร์, กระต่ายและการแต่งงาน โดยคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าดวงจันทร์นั้นมีกระต่าย (กระต่ายนั้นแสดงถึงการสมหวังในความรักและความสุข) ในวันที่พระจันทร์เต็มดวงจะมีการจัดงานเพื่อสวดมนต์ขอพรให้สมหวังในความรักตามแสงจันทร์และกระต่ายในคืนพระจันทร์เต็มดวง ผู้เข้าร่วมงานนี้จะได้รับ “ทะมะยุระ มะโมะริ (Tamayura Mamori)” เครื่องรางที่แจกให้เฉพาะในงานนี้เท่านั้นด้วย
2.ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine), ไซตะมะ (Saitama)

ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตะมะ (Saitama) ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะสถานที่สถิตของ “เทพเจ้าแห่งความรัก” ซึ่งเชื่อกันว่าหากได้มาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ให้โชคในเรื่องของความรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องของการงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงอีกด้วย
สำหรับสิ่งที่แนะนำคือหินเครื่องราง (Enmusubi-dama) ของที่นี่นั้นจะมีมิโกะ (Miko) หรือหญิงสาวที่ช่วยงานที่ศาลเจ้าจะนำก้อนกรวดสีขาวๆ จากนั้นนำมาห่อด้วยตาข่ายที่ทำจากสายป่าน ซึ่งคนที่ได้ไปแล้วและเมื่อพบเจอกับคนที่ใช่ก็ให้กลับมาไหว้ที่ศาลเจ้าที่นี้แล้วนำหินเครื่องรางมาคืนพร้อมกันทั้งสองคน จากนั้นจะได้รับเครื่องรางพิเศษเพื่อให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นมั่นคงและยืนยาวยิ่งขึ้น โดยหินเครื่องราง (Enmusubi-dama) จะมีการแจกฟรีให้กับ 20 คนแรกที่มาถึงศาลเจ้าในช่วงเวลา 8.00 น.

นอกจากนี้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีการจัดงาน “กระดิ่งลมแห่งความรัก (Kawagoe Hikawa Shrine Wind Chime Festival)” ในช่วงวันที่ 7 กรกฎาคม - 9 กันยายน โดยจะมีกระดิ่งหลากสีสันกว่า 2,000 ชิ้นแขวนประดับไว้ ส่งเสียงกังวานไปทั่วบริเวณ ตอนกลางวันก็จะได้เพลิดเพลินกับความงามของท้องฟ้าใสและอากาศบริสุทธิ์ ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟไลท์อัพส่องประกายระยิบระยับดูลึกลับงดงาม
3.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine), เกียวโต (Kyoto)

ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) หรือศาลประจำเมืองเกียวโต ถูกสร้างขึ้นราว 1350 ปีก่อน ตัวอาคารต่างๆมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยเฉพาะบริเวณอาคารหลักจะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟเป็นร้อยๆอันแขวนอยู่อย่างเด่นชัด
ศาลเจ้ายาซากะ เป็นศาลเจ้าที่ให้โชคในหลายๆ ด้าน เช่นให้การค้าเจริญรุ่งเรือง ปัดเป่าเคราะห์ร้าย และให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน

อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรักและเป็นแหล่งเสริมดวงชะตาด้านความรักอีกด้วย ที่สำนักงานของศาลเจ้ามักเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่มาเสี่ยงเซียมซีทำนายรัก หรือที่เรียกว่า “โคอิมิคุจิ (Koi Mikuji)” รวมถึงยังสามารถเขียนคำอธิษฐานลงไปบนแผ่นไม้รูปหัวใจสุดน่ารักที่เรียกว่า “เอะมะ (Ema)” แล้วนำไปแขวนไว้ในบริเวณศาลเจ้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ศาลเจ้ายาซากะยังมีชื่อเสียงอย่างมากในการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองกิองมัทซุริ (Gion Matsuri) ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกๆ ปี
4.ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Grand Shrine), ชิมะเนะ (Shimane)

ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Grand Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมะเนะ (Shimane) เป็นศาลเจ้าที่สถิตของเทพเจ้า “โอคุนินุชิ โนะ โอคะมิ (Okuninushi no Okami)” ที่ไม่ได้ให้โชคในเรื่องของความรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเทพเจ้าที่ให้โชคลาภในเรื่องของความสัมพันธ์ต่างๆ อีกหลายแง่มุมด้วย

ผู้มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ควรจะอธิษฐานขอพรตามรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าอิซุโมะไทชะแห่งนี้ โดยการโค้งคำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 4 ครั้ง แล้วจบด้วยโค้งคำนับอีก 1 ครั้ง ณ บริเวณด้านหน้า “ไฮเด็น (Haiden)” ซึ่งเป็นอาคารสำหรับประกอบพิธีทางศาสนา
ทั้งนี้ในญี่ปุ่นนั้นเชื่อกันว่า “ด้ายสีแดง” เป็นด้ายศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังลึกลับให้โชคด้านความรัก และ “ด้ายแห่งความรัก” เครื่องรางสีแดงสลับขาวของที่นี่ก็เป็นที่ขึ้นชื่อว่าสามารถช่วยให้สมหวังในความรักได้เป็นอย่างดี และหลังจากสักการะเรียบร้อยแล้ว ก็ยังสามารถเดินช้อปปิ้งของที่ระลึกเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ที่ถนนด้านหน้าศาลเจ้าอีกด้วย
5.ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine), ฟุคุโอกะ (Fukuoka)

ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka) เป็นศาลเจ้าที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะเป็นที่สักการะเทพเจ้าแห่งความรัก “โคอิโนะมิโคโตะ (Koi-no-Mikoto)” ซึ่งเป็นที่นับถือกันอย่างมากโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ในฐานะของเทพเจ้าแห่งความรักอันสุขสมหวังและเทพเจ้าแห่งความสุข ทางเดินไปสู่ตัวศาลเจ้าที่เรียกว่า “ทางเดินแห่งรัก” ก็ปูด้วยแผ่นกระเบื้องรูปหัวใจ

นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นตราประจำวิหาร เครื่องราง แผ่นเซียมซี หรือแผ่นเอะมะ (Ema) ที่มีไว้สำหรับเขียนคำอธิษฐานล้วนออกแบบเป็นรูปหัวใจ จนทั่วทั้งบริเวณศาลเจ้าเต็มไปหมดรูปหัวใจ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่ถ่ายรูปออกมาสวยน่ารักจนอยากจะเก็บภาพสวยๆ ไว้ในกล้องขึ้นมาเลยทีเดียว
สำหรับในส่วนเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าแห่งนี้ ได้แก่
-Good Match Accomplishment Festivals : 3 มีนาคม และ 3 พฤศจิกายน
-Good Match Festival : 7 กรกฎาคม
-Shrine Festivals : 5, 15, 25 ของทุกเดือน
และนี่ก็คือ 5 ศาลเจ้าขอพรด้านความรักอันโด่งดังของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นอันซีนญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่นอกจะได้ท่องเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจแล้ว ยังได้ลุ้นกับไปกับเรื่องราวความรัก ที่จะทำให้เราหัวใจพองโต โดยเฉพาะคนไร้คู่ที่ค่อนข้างจะอาภัพรักทั้งหลาย
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
กุมภาพันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นเดือนแห่งความรัก
เพราะเดือนนี้มี “วันแห่งความรัก” 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ เป็นวันสำคัญ
เมื่อพูดถึงเรื่องราวแห่งความรักแล้ว “ญี่ปุ่น”เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความเชื่อในเรื่องการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานขอพรเรื่องความรักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนไทย โดยที่ญี่ปุ่นนั้นคำว่า “เอ็นมุซุบิ (En-musubi)” หมายถึงความรักที่ดำเนินไปได้ด้วยดี
สำหรับในดินแดนอาทิตย์อุทัยนั้น มีศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าให้โชคในเรื่องของความรัก หรือ “เอ็นมุซุบิ (En-musubi)” นี้อยู่หลายแห่งด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาทาง “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น”(Japan National Tourism Organization : JNTO) ได้นำเสนอ 5 ไฮไลท์ สถานที่(ศาลเจ้า) ไหว้พระ ขอพร เสริมดวง เสริมโชคชะตาด้านความรัก ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าจะช่วยนำพาให้ได้พบพานกับความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี และมีความสุขสมหวังในเรื่องของความรัก
และนี่ก็คือ 5 ศาลเจ้าขอพรด้านความรักอันขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะบรรดาคนโสดที่ยังไร้คู่ทั้งหลาย
1.ศาลเจ้าคุมะโนะ (Kumano Shrine), ยะมะงะตะ (Yamagata)
ศาลเจ้าคุมะโนะ (Kumano Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดยะมะงะตะ (Yamagata) สถานที่แห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่สักการะเทพเจ้าชายและหญิงที่ได้ผูกสัมพันธ์รักต่อกันเป็นคู่แรกในเทพปกรณัมญี่ปุ่น
ด้านหลังอาคารหลักจะมีกระต่ายแกะสลักซ่อนอยู่ 3 ตัว เชื่อกันว่าหากใครสามารถหากระต่ายดังกล่าวได้ครบทั้ง 3 ตัว สิ่งที่อธิษฐานไว้ก็จะประสบผลสำเร็จดังตั้งใจซึ่งรวมถึงเรื่องความรักด้วย
อย่างไรก็ดีมีข้อพึงระวังคือ ในขณะที่มองหากระต่ายตัวสุดท้ายนั้นหากมีการถามหรือบอกที่ซ่อนให้ผู้อื่นรู้ ว่ากันว่าโชคดังกล่าวก็จะถูกขโมยหายไปในทันที
นอกจากนี้ในทุกเดือนจะมีการจัดงาน “ทสึกิมุซุบิ (Tsuki-musubi)” ชื่อที่รวมมาจาก ดวงจันทร์, กระต่ายและการแต่งงาน โดยคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าดวงจันทร์นั้นมีกระต่าย (กระต่ายนั้นแสดงถึงการสมหวังในความรักและความสุข) ในวันที่พระจันทร์เต็มดวงจะมีการจัดงานเพื่อสวดมนต์ขอพรให้สมหวังในความรักตามแสงจันทร์และกระต่ายในคืนพระจันทร์เต็มดวง ผู้เข้าร่วมงานนี้จะได้รับ “ทะมะยุระ มะโมะริ (Tamayura Mamori)” เครื่องรางที่แจกให้เฉพาะในงานนี้เท่านั้นด้วย
2.ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine), ไซตะมะ (Saitama)
ศาลเจ้าคาวาโกเอะฮิคาวะ (Kawagoe Hikawa Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดไซตะมะ (Saitama) ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะสถานที่สถิตของ “เทพเจ้าแห่งความรัก” ซึ่งเชื่อกันว่าหากได้มาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ให้โชคในเรื่องของความรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องของการงานและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงอีกด้วย
สำหรับสิ่งที่แนะนำคือหินเครื่องราง (Enmusubi-dama) ของที่นี่นั้นจะมีมิโกะ (Miko) หรือหญิงสาวที่ช่วยงานที่ศาลเจ้าจะนำก้อนกรวดสีขาวๆ จากนั้นนำมาห่อด้วยตาข่ายที่ทำจากสายป่าน ซึ่งคนที่ได้ไปแล้วและเมื่อพบเจอกับคนที่ใช่ก็ให้กลับมาไหว้ที่ศาลเจ้าที่นี้แล้วนำหินเครื่องรางมาคืนพร้อมกันทั้งสองคน จากนั้นจะได้รับเครื่องรางพิเศษเพื่อให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นมั่นคงและยืนยาวยิ่งขึ้น โดยหินเครื่องราง (Enmusubi-dama) จะมีการแจกฟรีให้กับ 20 คนแรกที่มาถึงศาลเจ้าในช่วงเวลา 8.00 น.
นอกจากนี้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีการจัดงาน “กระดิ่งลมแห่งความรัก (Kawagoe Hikawa Shrine Wind Chime Festival)” ในช่วงวันที่ 7 กรกฎาคม - 9 กันยายน โดยจะมีกระดิ่งหลากสีสันกว่า 2,000 ชิ้นแขวนประดับไว้ ส่งเสียงกังวานไปทั่วบริเวณ ตอนกลางวันก็จะได้เพลิดเพลินกับความงามของท้องฟ้าใสและอากาศบริสุทธิ์ ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟไลท์อัพส่องประกายระยิบระยับดูลึกลับงดงาม
3.ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine), เกียวโต (Kyoto)
ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Shrine) หรือศาลประจำเมืองเกียวโต ถูกสร้างขึ้นราว 1350 ปีก่อน ตัวอาคารต่างๆมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยเฉพาะบริเวณอาคารหลักจะมีการประดับประดาด้วยโคมไฟเป็นร้อยๆอันแขวนอยู่อย่างเด่นชัด
ศาลเจ้ายาซากะ เป็นศาลเจ้าที่ให้โชคในหลายๆ ด้าน เช่นให้การค้าเจริญรุ่งเรือง ปัดเป่าเคราะห์ร้าย และให้ประสบความสำเร็จในด้านการเรียน
อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่สถิตของเทพเจ้าแห่งความรักและเป็นแหล่งเสริมดวงชะตาด้านความรักอีกด้วย ที่สำนักงานของศาลเจ้ามักเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากที่มาเสี่ยงเซียมซีทำนายรัก หรือที่เรียกว่า “โคอิมิคุจิ (Koi Mikuji)” รวมถึงยังสามารถเขียนคำอธิษฐานลงไปบนแผ่นไม้รูปหัวใจสุดน่ารักที่เรียกว่า “เอะมะ (Ema)” แล้วนำไปแขวนไว้ในบริเวณศาลเจ้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ศาลเจ้ายาซากะยังมีชื่อเสียงอย่างมากในการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองกิองมัทซุริ (Gion Matsuri) ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกๆ ปี
4.ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Grand Shrine), ชิมะเนะ (Shimane)
ศาลเจ้าอิซุโมะไทชะ (Izumo Taisha Grand Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดชิมะเนะ (Shimane) เป็นศาลเจ้าที่สถิตของเทพเจ้า “โอคุนินุชิ โนะ โอคะมิ (Okuninushi no Okami)” ที่ไม่ได้ให้โชคในเรื่องของความรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเทพเจ้าที่ให้โชคลาภในเรื่องของความสัมพันธ์ต่างๆ อีกหลายแง่มุมด้วย
ผู้มาเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ควรจะอธิษฐานขอพรตามรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศาลเจ้าอิซุโมะไทชะแห่งนี้ โดยการโค้งคำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 4 ครั้ง แล้วจบด้วยโค้งคำนับอีก 1 ครั้ง ณ บริเวณด้านหน้า “ไฮเด็น (Haiden)” ซึ่งเป็นอาคารสำหรับประกอบพิธีทางศาสนา
ทั้งนี้ในญี่ปุ่นนั้นเชื่อกันว่า “ด้ายสีแดง” เป็นด้ายศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังลึกลับให้โชคด้านความรัก และ “ด้ายแห่งความรัก” เครื่องรางสีแดงสลับขาวของที่นี่ก็เป็นที่ขึ้นชื่อว่าสามารถช่วยให้สมหวังในความรักได้เป็นอย่างดี และหลังจากสักการะเรียบร้อยแล้ว ก็ยังสามารถเดินช้อปปิ้งของที่ระลึกเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ที่ถนนด้านหน้าศาลเจ้าอีกด้วย
5.ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine), ฟุคุโอกะ (Fukuoka)
ศาลเจ้าโคอิโนะคิ (Koinoki Shrine) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka) เป็นศาลเจ้าที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เพราะเป็นที่สักการะเทพเจ้าแห่งความรัก “โคอิโนะมิโคโตะ (Koi-no-Mikoto)” ซึ่งเป็นที่นับถือกันอย่างมากโดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ในฐานะของเทพเจ้าแห่งความรักอันสุขสมหวังและเทพเจ้าแห่งความสุข ทางเดินไปสู่ตัวศาลเจ้าที่เรียกว่า “ทางเดินแห่งรัก” ก็ปูด้วยแผ่นกระเบื้องรูปหัวใจ
นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นตราประจำวิหาร เครื่องราง แผ่นเซียมซี หรือแผ่นเอะมะ (Ema) ที่มีไว้สำหรับเขียนคำอธิษฐานล้วนออกแบบเป็นรูปหัวใจ จนทั่วทั้งบริเวณศาลเจ้าเต็มไปหมดรูปหัวใจ ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าที่ถ่ายรูปออกมาสวยน่ารักจนอยากจะเก็บภาพสวยๆ ไว้ในกล้องขึ้นมาเลยทีเดียว
สำหรับในส่วนเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าแห่งนี้ ได้แก่
-Good Match Accomplishment Festivals : 3 มีนาคม และ 3 พฤศจิกายน
-Good Match Festival : 7 กรกฎาคม
-Shrine Festivals : 5, 15, 25 ของทุกเดือน
และนี่ก็คือ 5 ศาลเจ้าขอพรด้านความรักอันโด่งดังของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นอันซีนญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่นอกจะได้ท่องเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจแล้ว ยังได้ลุ้นกับไปกับเรื่องราวความรัก ที่จะทำให้เราหัวใจพองโต โดยเฉพาะคนไร้คู่ที่ค่อนข้างจะอาภัพรักทั้งหลาย
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager