xs
xsm
sm
md
lg

เดินเล่น “วังหลัง” ช้อปชิมชิลสารพัดร้านค้า...มาเมื่อไรไม่มีเบื่อ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
มองจากฝั่งท่าพระจันทร์ก็จะเห็นท่าเรือข้ามฟากวังหลัง
พูดถึง "วังหลัง" หลายคนก็นึกออกทันทีว่าที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตในย่านฝั่งธน อยู่ติดกับท่าเรือวังหลัง (พรานนก) และโรงพยาบาลศิริราช "ตลาดวังหลัง" ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งซื้อหาสินค้าแฟชั่นมือสอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า แบบสวยๆ สภาพดีคัดมาแล้ว ส่วนของใหม่มือหนึ่งที่ทันสมัยตามกระแสแฟชั่นก็มีหมด ไม่เพียงเท่านั้นแต่ยังมีของกินของใช้ มีอาหารอร่อยให้ลิ้มลองอีกเพียบ ดังนั้นในแต่ละวันที่ตลาดวังหลังจึงมีผู้คนผ่านมาแวะเวียนเป็นหลักพันหลักหมื่น
ท่าเรือวังหลัง
เดินเล่นช้อปของต่างๆที่ซอยกลางตลาดวังหลัง
หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า “วังหลัง” นั้น ดั้งเดิมแล้วบริเวณที่ตั้งคือพระราชวังของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข หรือตำแหน่งวังหลังในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และถัดจากวังหลังลงไปทางวัดระฆังฯ เป็นตำบลสวนมังคุด ซึ่งมีวังที่ประทับเดิมของสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากรมพระยาเทพสุดาวดี ส่วนพื้นที่ที่เรียกว่าวังหลังในปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลศิริราช และส่วนหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสตรีแห่งแรกของประเทศ ชื่อว่าโรงเรียนกุลสตรีวังหลัง ต่อมาย้ายไปอยู่ที่ซอยวัฒนา ถนนสุขุมวิท และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยในปัจจุบัน


เชื่อว่าคงยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เคยมาเดินเที่ยวซื้อของที่ตลาดวังหลัง วันนี้จึงจะขอพามาเดินชมไปพร้อมๆ กัน "ตลาดวังหลัง" ตั้งอยู่ข้างโรงพยาบาลศิริราช มีเป็นลักษณะซอยยาวขนานกับโรงพยาบาล และมีตรอกเล็กๆ แยกออกไป ซึ่งสองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านค้าสารพัดหลากหลาย จุดเด่นของตลาดนี้ที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือสินค้าแฟชั่นทันสมัย รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า ราคาถูก และสินค้ามือสองหายาก มีสไตล์ไม่ซ้ำใครมากมายให้เลือกสรร แถมราคาน่าคบหาอีกด้วย
เลือกซื้อร้านเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีสุดอินเทรนด์
ทางเข้าตลาดเวิ้งประตูเขียวตลาดนัดขวัญใจเด็กแนวแหล่งรวมสินค้ามือสอง
สำหรับวัยรุ่นที่ชื่นชอบการเลือกซื้อเสื้อผ้ามือสองราคาถูก ก็จะต้องสนุกไปกับการเดินตลาดวังหลังในโซน “ตลาดเวิ้งประตูเขียว” ซึ่งมีสินค้าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หมวกแฟชั่นต่างๆ โดยส่วนมากแต่ละร้านจะรับมาจากตลาดโรงเกลือที่สระแก้ว ร้านค้าในบริเวณนี้ถือว่าเป็นขุมทรัพท์ของวัยรุ่นที่นิยมแต่งตัวแนวๆ วินเทจ สไตล์ไม่ซ้ำใคร สามารถมาสนุกสนานกับการจับกลุ่มขยุ้มกองเสื้อผ้าหาของดี ของแปลกใหม่ไปแมทช์กับการแต่งตัว เลือกลองใส่ได้ตามสบาย


แน่นอนว่าตลาดวังหลังนี้ไม่ได้มีแค่สินค้าวินเทจหรือเสื้อผ้ามือสองอย่างเดียว เดินออกจากตลาดเวิ้งประตูเขียวมาตลอดสองข้างทางก็จะเต็มไปด้วยร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นสุดฮิตอินเทรนด์ตามกระแส หลากหลายแนว ของเหล่านักเรียน วัยรุ่น ไปจนถึงวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลี ญี่ปุ่น ไปจนถึงแนวผ้าฝ้ายฝ้าไทยก็มีให้เลือกแล้วแต่ความชอบ
เลือกซื้อเสื้อยืดมัดย้อมสีสันสดใสโดนใจคนแนวๆ
อีกหนึ่งตรอกนี้ก็มีให้เลือกซื้อเสื้อผ้าสินค้าแฟชั่นสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น
หากใครกำลังหาไอเท็มแปลกใหม่ แว่นตาแฟชั่นราคาถูก ที่หน้าร้านมีป้ายชวนขำสะดุดตา ก็ถูกจัดโชว์โดดเด่นอยู่บริเวณหน้าร้านเพื่อรอขาช้อปให้ไปจับจองเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังมีร้านสินค้าที่ขายข้าวของเครื่องใช้น้องใหม่ “ร้านเซย์ ไฮ” เริ่มต้น 20 บาท ราคาไม่แพงโดนใจ สินค้าน่าใช้ ในคอนเซปต์สไตล์ญี่ปุ่น คาวาอิ ทันสมัยเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
ร้านแว่นตาราคาย่อมเยาและป้ายชวนขำ
ได้กลิ่นหอมจากร้านขนมปังวังหลังเบเกอรี่
นอกจากจะมาช้อปกันเพลินๆ แล้ว วังหลังยังเป็นย่านที่ทั้งขายอาหารหลากชนิด ที่ขอนำมาเสนอให้ไปลองชิมกันบางร้าน เช่น “วังหลัง เบเกอรี่” ของฝากท่าน้ำวังหลัง มีขนมปังเนื้อนุ่ม ไส้เน้นๆ มีไส้ให้เลือกมากกว่า 22 ไส้ หรือจะไปชิมหอยทอดที่ร้าน “ตี๋ใหญ่ ชวนชิม” ข้างโลตัส เอ็กซ์เพรส ก็เมนูแนะนำลือชื่อคือหอยแมลงภู่ทอด และหอยนางรมทอด เป็นร้านดั้งเดิมที่เปิดมานานกว่า 40 ปี

เดินออกมาต่อบริเวณริมถนนข้างโรงพยาบาลศิริราชจะเจอร้านอาหารริมทางมากมาย ได้กลิ่นหอมของ “ขนมครกคุณภา” ขนมครกไทยแป้งบางกรอบ กะทิหวานมัน มีให้เลือกหลายหน้ากันทีเดียว ถัดไปร้านข้างๆ “ป้าติ๋ม ขนมถังทอง ศิริราช” หรือถังแตกเจ้าเด็ดดัง อยู่หน้าธนาคารกสิกร ทำแบบสดๆ ร้อนๆ ทุกชิ้น จุดเด่นของร้านคือการใช้แป้งหมักสูตรพิเศษ และไส้ครีมที่ทำจากน้ำตาลมะพร้าวแท้ หากใครยังไม่อิ่มก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการเลือกกินเล่นตามร้านอาหารข้างทางได้ อีกมากมาย แต่ถ้าใครกำลังลดความอ้วนอยู่วันนี้ก็อาจจะต้องหักห้ามใจกันยากนิดหนึ่ง
ป้าติ๋มขนมถังทองสารพัดไส้หน้าธนาคารกสิกร
จัดหนักกันทั้งของคาวและของหวานแล้วหลายๆคนก็คงจะอยากมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านไปฝากคนในครอบครัว เดินเข้ามาในซอย 5 ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็น "ร้านหมูทอดชาววัง" อยู่ทางด้านซ้ายมือ หมูทอดชาววังสาขาต้นตำรับหมูหมักทอดฉ่ำๆ สูตรเข้มข้น กินกับข้าวสวยหรือจะเป็นข้าวเหนียวร้อนๆ ก็ได้ เดินขึ้นมาอีกไม่ไกลก็ถึงร้าน “อรทัย ซูชิวังหลัง” ร้านซูชิชื่อดังที่ย้ายมาเปิดในซอยหลักของตลาดวังหลัง ปรับเปลี่ยนใหม่เป็นอาคาร 2 ชั้นตอบโจทย์ในการรองรับลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม แถมยังมีอีกหนึ่งสาขาอยู่ใกล้กับท่าเรือวังหลังอีกด้วยให้เลือกกินได้ตามสะดวก
ร้านสวงอยู่ที่วังหลัง ตึกโบราณ บริเวณลานโพธิ์
หลังจากที่เราเดินชม ชิม ช้อป กันมาพอสมควรอาจจะเหนื่อยอยากหาที่นั่งพักกินน้ำ กินขนม เรามีร้านแนะนำ เดินมาที่บริเวณลานต้นโพธิ์ จะเจอตรอกอาคารโบราณอยู่ติดกันกับลานต้นโพธิ์ จะสะดุดตากับร้าน “สวง อยู่ที่วังหลัง” (สวง อ่านว่า สะ-หวง) เป็นคาเฟ่ 2 ชั้น มีเครื่องดื่มและขนมมากมายให้เลือกสรร เราจะพบว่าร้านนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ในการตกแต่งร้านดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ของสะสม ให้ความรู้สึกแนวเรโทร หรือย้อนยุค เป็นร้านที่ถูกตกแต่งไปด้วยของเก่า ของสะสม ตุ๊กตา และของเล่นเก่าๆ เป็นของต่างๆที่เราเคยเห็นสมัย 20-30 ปีที่แล้วแต่ปัจจุบันนี้หาชมได้ยาก อบอุ่นตั้งแต่ก้าวเข้าร้านก็มีแมวเจ้าถิ่น เจ้ามีมี่ นอนต้อนรับอยู่หน้าร้านอีกด้วย ใครที่ชอบถ่ายรูปก็คงอดใจไม่ได้ที่จะต้องเข้าร้านนี้เพื่อไปถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลกันเลยทีเดียว
ภายในร้านสวงวังหลัง
สถาปัตยกรรมที่สวยงามของอุโบสถวัดระฆัง
นั่งพักนั่งกินจนอิ่มหนำสำราญใจกันแล้ว ก่อนที่เราจะแยกย้ายกลับ ขอแนะนำให้ไปรับพลังบุญที่ “วัดระฆังโฆสิตารามวรวิหาร” จากตลาดวัดหลังสามารถเดินลัดเลาะในซอยมายังวัดได้เลย วัดระฆังฯเป็นวัดเก่าแก่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดบางหว้าใหญ่ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีการขุดพบระฆังโบราณในเขตวัด ซึ่งเป็นระฆังที่มีเสียงไพเราะมาก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกจึงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยทรงพระราชทานระฆังแทนให้ 5 ใบ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดระฆังโฆสิตาราม" วัดนี้ยังเป็นวัดที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เคยเป็นเจ้าอาวาส โดยบทสวดคาถาชินบัญชรของท่านถือเป็นคาถาที่มีผู้รู้จักและนิยมสวดมาจนปัจจุบัน
ภายในอุโบสถมีพระประธานยิ้มรับฟ้าให้สักการะกราบไหว้
เข้ามากราบพระประธานภายในอุโบสถ พระพุทธรูปประธานองค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก มีเรื่องเล่าขานสืบมาว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า "ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆังฯ พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที"

คนที่มีทำบุญที่วัดระฆังนอกจากจะได้มากราบพระ มารำลึกถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีแล้ว บ้างก็เชื่อว่าเป็นเคล็ด จะได้มีชื่อเสียงโด่งดัง ขจรไกล มาสักการะพระประธานยิ้มรับฟ้า ก็จะทำให้ให้ชีวิตมีแต่ความสุขและรอยยิ้้ม หมดทุกข์โศก เป็นต้น
พระปรางค์องค์ใหญ่มีทรวดทรงงดงามสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ยุคต้น
การเดินทางมาที่ท่าวังหลังนั้นไม่ยากสามารถมาได้ตามดังนี้ รถประจำทาง ได้แก่ สาย 19, 28, 40, 56, 57, 81, 89, 97, 146, 149, 165, ปอ.30 และ ปอ.157 หรือถ้าใครสะดวกมารถไฟฟ้า BTS ให้นั่งมาลงสถานีสะพานตากสิน แล้วมาต่อเรือด่วนเจ้าพระยาธงส้ม ธงเหลือง ที่ท่าเรือตากสิน (สาทร) มาลงที่ท่าเรือวังหลัง นอกจากนั้นยังสามารถนั่งเรือข้ามฟากจากท่าพระจันทร์ ท่ามหาราช และท่าช้าง มาที่ท่าเรือวังหลังได้เช่นกัน

บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น