xs
xsm
sm
md
lg

นั่งอีแต๊กลุยลำห้วยที่ "คีรีวงกต" จิบกาแฟหอมกรุ่นและสนุกกับซิปไลน์ที่ "นายูง"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
นั่งรถอีแต๊กผ่านสวนยางพาราที่บ้านคีรีวงกต
หลายคนอาจรู้จักอำเภอนายูงผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “วัดป่าภูก้อน” ซึ่งเป็นวัดสวยงามที่ตั้งอยู่บนภูเขา ที่หลายๆ คนอาจเคยเดินทางไปกราบ “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” พระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวที่วัดนี้มาแล้ว

วันนี้จะขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในอำเภอนายูงที่มีความหลากหลายและน่าเที่ยวอีกหลายแห่งให้ลองเดินทางไปเยือนกันบ้าง เริ่มจากแห่งแรกที่ “คีรีวงกต” เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในตำบลนาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ท่ามกลางพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ เลย หนองคาย อุดรธานี ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 140 กิโลเมตร ที่นี่เป็นชุมชนท่องเที่ยวโฮมสเตย์ที่เปิดดำเนินการมานาน แต่ยังคงวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย และมีกลุ่มท่องเที่ยวหลายกลุ่มที่มีกิจกรรมแตกต่างกัน
รถอีแต๊กพาล่องลงน้ำในห้วยน้ำฮวย
ในวันนี้เราได้มาที่กลุ่มท่องเที่ยวคีรีวงกต กลุ่ม 1 ของผู้ใหญ่นรินทร์ อนันทวรรณ์ กิจกรรมเด่นของคีรีวงกตนั้นก็คือ “ล่องแก่ง ดูเขา กินข้าวป่า” เราเริ่มต้นกิจกรรมกันที่ที่ทำการของกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดขึ้นรถอีแต๊ก สำหรับรถอีแต๊กนั้นก็เป็นรถที่ไว้ใช้ในการเกษตรกรรม ทำนาเข้าป่าทำไร่ แต่ชุมชนหลายๆ แห่งก็ได้นำรถอีแต๊กมาให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ทำให้ได้บรรยากาศของท้องถิ่นมากขึ้น

ที่หมู่บ้านคีรีวงกตนี้ก็เช่นกัน เราขึ้นรถอีแต๊กกันที่บริเวณที่ทำการ คันหนึ่งจะนั่งได้ 5-7 คน ใครจะนั่งชมวิวด้านหน้ารถก็ได้ หรือจะนั่งชิลๆ ข้างหลังก็ได้ รถอีแต๊กพาเราวิ่งไปตามถนนในหมู่บ้าน มองเห็นบ้านเรือนเงียบสงบของคนในชุมชน และผ่านเข้าไปในสวนของชาวบ้าน ก่อนที่จะหักเลี้ยวลงสู่ลำธารเล็กๆ ที่มีน้ำไหลริน ตามคอนเส็ปต์ “ล่องแก่ง” นั่นเอง
สบายๆ ท้ายรถอีแต๊ก
การล่องแก่งที่ว่านี้หลายคนอาจจะนึกไปถึงการล่องแก่งแพยางที่ต้องช่วยกันพายฝ่าคลื่น แต่จริงๆ แล้วการล่องแก่งของที่นี่ก็คือการนั่งรถอีแต๊กล่องไปตามลำน้ำใน “ห้วยน้ำฮวย” ซึ่งเป็นลำห้วยเล็กๆ ที่มีต้นน้ำอยู่ที่ภูเขา น้ำในลำห้วยช่วงนี้ตื้นแค่ข้อเท้าเท่านั้น มองเห็นก้อนหินก้อนกลมๆ ในท้องน้ำ มีปลาตัวเล็กๆ ว่ายไปมา โดยน้ำในห้วยน้ำฮวยจะไหลผ่านหมู่บ้านไปลงแม่น้ำโขงที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย

รถอีแต๊กพาเราวิ่งโขยกเขยกไปกลางลำห้วยน้ำฮวย ฝ่าสายน้ำไปอย่างช้าๆ ช่วงที่รถวิ่งผ่านใต้ร่มไม้ใหญ่คนขับก็จอดรถให้เราได้เดินเล่นลุยน้ำและลงถ่ายรูปเล่นกลางลำห้วยกันอย่างสนุกสนาน ตรงไหนมีวิวภูเขาสวยๆ คนขับก็จอดรถให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
น้ำตกช้างพลาย น้ำตกเล็กๆ ชุ่มฉ่ำ
ชิมอาหารป่า ด้วยวัสดุจากธรรมชาติ
จากนั้นรถอีแต๊กวิ่งพาเราลุยลำห้วยมาต่ออีกพักใหญ่ จากนั้นก็บุกมาตามทางดินกลางสวนยางพาราของชาวบ้าน ท่ามกลางต้นยางที่กำลังผลัดใบเป็นสีส้มสีเหลือง แล้วก็มาหยุดที่ “น้ำตกช้างพลาย” น้ำตกเล็กๆ กลางป่าที่จะเป็นจุดพักกินข้าวกลางวันของเรา

ที่นี่เราได้กิน “ข้าวป่า” ซึ่งเป็นเมนูง่ายๆ อย่างไก่ย่าง ส้มตำ ปลาเผา แกงส้ม ที่เรียกว่าเป็นข้าวป่าก็เพราะที่นี่ใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นทั้งภาชนะประกอบอาหารแทบทุกขั้นตอน รวมถึงภาชนะที่ใช้กินด้วย อย่างข้าวเหนียวก็หุงในกระบอกไม้ไผ่คล้ายข้าวหลาม แกงส้มเสิร์ฟมาในรางกระบอกไม้ไผ่ ช้อนและแก้วน้ำทำจากไม้ไผ่ จานชามไม่ต้องใช้เพราะวางเสิร์ฟมาในใบตอง เรียกว่าเป็นการกินข้าวในป่าและใช้วัสดุจากป่า เข้ากับการลดใช้พลาสติกและโฟมในช่วงลดโลกร้อนนี้จริงๆ
กิจกรรมแปรรูปกล้วย
กินกันจนอิ่มท้อง ชมวิวน้ำตกช้างพลายกันเรียบร้อย รถอีแต๊กก็พาเรากลับเข้าสู่หมู่บ้านอีกครั้ง แต่คราวนี้วิ่งไปตามทางดินเข้าสู่หมู่บ้านเพื่อมาชมการแปรรูปกล้วย และการทำไม้กวาด ซึ่งเป็นอาชีพของคนในชุมชน ก่อนจะพามาส่งที่ศูนย์บริการอีกครั้ง รวมการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเส้นทางนี้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ด้วยกัน

ถ้าหากใครอยากมา “ล่องแก่ง ดูเขา กินข้าวป่า” แบบนี้บ้างมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300 บาท/คน รวมค่ารถและค่าอาหาร และกิจกรรมในชุมชน ซึ่งสามารถโทรมาสอบถามก่อนได้ว่าทางชุมชนมีกิจกรรมอะไรบ้าง ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความสนใจ สอบถามได้ที่ ผู้ใหญ่นรินทร์ 08 3147 9004
กล้วยทอดเบรกแตก
พี่วิลัย จันจิต ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกาแฟนายูงแบบครบวงจร
จากนั้นเราเดินทางต่อมาที่ “วิลัยกาแฟ” เป็นศูนย์การเรียนรู้กาแฟครบวงจรของตำบลนาแค อำเภอนายูง ที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ให้ความรู้โดย “วิลัย จันจิต” ผู้ที่เริ่มปลูกกาแฟที่อำเภอนายูงนี้มากว่า 18 ปี ก่อนจะขยายจากผู้ปลูกอย่างเดียวมาเป็นทั้งผู้จำหน่าย ผู้ขายเมล็ดกาแฟ คนชงกาแฟ และสุดท้ายคือผู้ให้ความรู้เรื่องกาแฟแบบครบวงจรโดยไม่หวงวิชาเลย

ที่ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้เราได้รู้เรื่องของกาแฟและได้ลงมือทำเองตั้งแต่คั่วเมล็ดกาแฟไปจนถึงได้ชิมกาแฟออกมาเป็นแก้วๆ โดยพี่วิลัยจะสอนตั้งแต่วิธีคั่วกาแฟจากหม้อดินที่จะให้รสชาตินุ่มนวลดี คั่วในหม้อดินเล็กๆ ใช้เมล็ดกาแฟประมาณ 100 กรัม คั่วมือโดยใช้ไม้กวนเมล็ดกาแฟติดต่อกันนาน 15 นาที จนหอมกลิ่นกาแฟคั่วพร้อมนำมาชง เสร็จแล้วนำมาบดด้วยเครื่องบดมือ แล้วนำมาดริปจนได้กาแฟหนึ่งแก้วจนหอมหวนชวนให้ชิม ถือว่าดีมากๆ สำหรับคนที่กินกาแฟตามร้านอย่างเดียว มาที่นี่จะได้รู้เรื่องราวของกาแฟนายูงและยังได้ลงมือชงเองตั้งแต่ต้นจนจบ
กาแฟออกดอกสีขาวน่ารัก
คั่วเอง บดเอง ดริปเอง ดื่มเอง
แต่ถ้าใครอยากรู้ลึกรู้จริงในเรื่องของกาแฟ สามารถเลือกแบบทริปสั้นๆ ที่นำโดยพี่วิลัยได้ ได้โดยมี “ทริปมินิ” ที่จะได้ไปชมไร่กาแฟ ชมผึ้งป่า ชมหมูป่า และชิมผลไม้ตามฤดูกาล เป็นแบบวันเดย์ทริป และมีทริปยาวแบบพักค้าง โดยนอกจากจะมีกิจกรรมการไปชมไร่กาแฟแล้ว ก็จะมีที่พัก อาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วย ใครสนใจสามารถสอบถามได้ที่ 08 3547 3121
เล่นซิปไลน์ที่นายูง
มาปิดท้ายการท่องเที่ยวที่นายูงกันด้วยกิจกรรมวัยรุ่นๆ อย่างการเล่นซิปไลน์ที่ "ชุมชนท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถีบ้านนายูง" หมู่ 1 และ 9 ตำบลนายูง อำเภอนายูง ที่เพิ่งเปิดให้บริการมาได้ไม่นานนัก แต่ก็น่าจะถูกใจวัยรุ่นไม่น้อย โดยกิจกรรมซิปไลน์นี้ เป็นการโรยตัวจากฝั่งหนึ่งของอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรางข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่ง สร้างความน่าตื่นเต้นไม่น้อยเพราะอ่างเก็บน้ำก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่ถ้าใครไม่กล้าเล่นซิปไลน์ก็สามารถนั่งเรือยางข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ เพราะที่ฝั่งตรงข้ามจะมีคอกแพะซึ่งเป็นแพะที่เลี้ยงไว้ในหมู่บ้าน สามารถเข้าไปเล่นและให้อาหารเจ้าแพะเหล่านี้ได้

นอกจากนั้น ในบริเวณนี้ซึ่งเต็มไปด้วยสวนยางพารา ทางชุมชนจึงคิดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลองมาจับมีดกรีดยางด้วยตัวเอง โดยจะมีคนมาให้ความรู้และให้คำแนะนำในการกรีดยาง ได้ลองเล่นบทบาทชาวสวนยางก็วันนี้เอง ซึ่งในช่วงนี้ต้นยางพารากำลังอยู่ระหว่างผลัดใบ จึงเห็นเป็นสีส้มสวยไปทั่วบริเวณ
กิจกรรมที่วัยรุ่นน่าจะชอบ
บรรยากาศของโฮมสเตย์ริมอ่างเก็บน้ำห้วยราง
และหากมาในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ก็จะได้พายเรือชมความงามของดอกบัวหลวงที่ขึ้นอยู่กลางอ่างเก็บน้ำห้วยรางอีกด้วย นอกจากนั้นหากใครอยากมาพักค้างคืนชมบรรยากาศที่นี่ก็มีบ้านพักโฮมสเตย์คอยให้บริการ 3 หลังด้วยกัน พักรวมได้มากถึง 10-15 คน คิดราคาคนละ 500 บาท หรือหากมากันจำนวนไม่มาก จะเลือกพักเป็นหลังก็มีให้เลือกราคา 500-800 บาท ส่วนราคาซิปไลน์นั้นอยู่ที่ นักเรียน/นักศึกษา คนละ 50 บาท ผู้ใหญ่ 70 บาท โดยมีเวลาทำการอยู่ที่ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-18.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08 1712 8004
ให้นมลูกแพะ
ใบยางพารากำลังเปลี่ยนสีเตรียมผลัดใบ
เรียนรู้การกรีดยางจากชาวสวนยาง
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอำเภอนายูง รวมไปถึงการท่องเที่ยว ที่พัก ที่กินในจังหวัดอุดรธานีได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี (รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ) โทร. 0 4232 5406-7

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น