Facebook :Travel @ Manager

อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นอีกหนึ่งอำเภอเล็กๆ เงียบสงบริมแม่น้ำโขงที่มีทิวทัศน์อันงดงามของสายน้ำและวิวภูเขาทางฝั่งลาวให้ชม ไม่เพียงเท่านั้น อำเภอสังคมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายที่ใครๆ ต่างต้องแวะเวียนมาชมเมื่อมาเยือนหนองคาย อาทิ “วัดผาตากเสื้อ” ที่นอกจากจะเป็นสถานปฏิบัติธรรมอันงดงามน่าเลื่อมใสแล้วก็ยังมีจุดชมวิว “สกาย วอล์ค” ทื่พื้นเป็นกระจกใส ชมวิวแม่น้ำโขงได้งดงามยิ่งนัก และยังมี “ถ้ำดินเพียง” ถ้ำใต้ดินที่มีความเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค ทางเดินในถ้ำสร้างความตื่นเต้นตื่นตากับผู้ไปเยือนได้ไม่น้อยเลย
แต่หากอยากหาจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ พร้อมทั้งมองเห็นวิวแม่น้ำโขง ต้องมาที่ “ภูห้วยอีสัน” อีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของอำเภอสังคม


“ภูห้วยอีสัน” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวบนเขาที่เดินทางได้ง่าย และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้าเหนือภูเขาและเกาะแก่งของลำน้ำโขงที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ในวันที่เรามาเยือนอำเภอสังคมในครั้งนี้จึงถือโอกาสมาชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูห้วยอีสันสักครั้งหนึ่ง โดยการเดินทางขึ้นไปยังภูห้วยอีสันนั้น นักท่องเที่ยวสามารถขับรถส่วนตัวมาจอดไว้ที่ลานจอดรถวัดแก้วเสด็จชัยมงคล ซึ่งบริเวณนี้จะมีรถอีแต๊กของชาวบ้านมาจอดคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ตั้งแต่เช้ามืด ผู้ที่ต้องการขึ้นไปยังภูห้วยอีสันสามารถซื้อตั๋วรถอีแต๊กได้ที่นี่ ราคา 60 บาทต่อคน (ราคารวมไป/กลับ) จากนั้นก็ขึ้นนั่งหาที่เหมาะๆ กันได้เลย โดยรถอีแต๊กหนึ่งคันจะจุคนนั่งได้ 5-7 คน


ในช่วงแรกรถอีแต๊กจะพาวิ่งไปบนถนนเรียบๆ ก่อนจะเลี้ยวขวาขึ้นเขาไปตามทางดิน ผ่านสวนยางพาราของชาวบ้านไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นทางดินสภาพเส้นทางจึงไม่เรียบนัก อีกทั้งบางช่วงยังเป็นเนินหักเลี้ยวแคบๆ จึงขอแนะนำให้หาที่เกาะบนรถให้มั่น แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนัก ราวๆ 20 นาที รถอีแต๊กก็พาเราขึ้นมาถึงด้านบนภูห้วยอีสันกันแล้ว
ด้านบนภูห้วยอีสันได้มีการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับชมวิว โดยได้จัดทำพื้นที่บนเนินเขาเป็นชั้นๆ ไล่ระดับความสูงขึ้นไป ดังนั้นแม้นักท่องเที่ยวจะมากเพียงใดก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์กันได้แบบไม่ต้องเบียดเสียดบังวิวหรือแย่งที่กางขาตั้งกล้องกันแต่อย่างใด


นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวให้เลือกกันถึงสองจุด จุดแรกคือจุดที่รถอีแต๊กมาจอดส่งเรา ที่ทำจุดชมวิวเป็นชั้นๆ ไล่ระดับ ส่วนจุดที่สองจะต้องเดินต่อไปอีกนิดหนึ่งราวๆ ไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งจะเป็นมุมที่สูงขึ้นและเห็นโค้งน้ำโขงได้สวยกว่า ใครพอใจจุดไหนก็ปักหลักชมวิวกันได้ตามใจชอบ
เมื่อใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะเผยโฉม ท้องฟ้าที่มืดมิดก็ค่อยๆ คลายความเข้มข้นลง บรรยากาศโดยรอบค่อยๆ เผยให้เห็นในสายตาตามแสงสว่างที่เรืองรอง จากนั้นเราจึงสามารถมองเห็นวิวเบื้องล่างได้อย่างชัดเจนขึ้น โดยมองเห็นเกาะแก่งมากมายกลางแม่น้ำโขง รวมถึงภูเขาที่ทอดยาวทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งลาว มองเห็นหมู่บ้านที่ซุกตัวอยู่อย่างสงบตรงตีนเขา เห็นควันจากครัวไฟที่ลอยกรุ่น ผสมกับสายหมอกบางๆ ที่ปกคลุมเหนือหลังคาบ้าน


อากาศในวันนี้เย็นกำลังสบายแต่ไม่ถึงกับหนาว เรารอคอยอยู่ไม่นานนักพระอาทิตย์ก็เริ่มอวดโฉมขึ้นมาด้านหลังภูเขาทีละนิดๆ จนเต็มดวงดูเหมือนไข่แดงลอยกลางท้องฟ้า พร้อมกันนั้นพระอาทิตย์ก็สาดแสงอ่อนๆ จนทำให้สายหมอกบางที่อวลอยู่โดยรอบกลายเป็นสีทองสวยงามยิ่งนัก
แสงอาทิตย์ยังส่องทะลุลงมายังผืนน้ำโขงเบื้องล่างจนกลายเป็นสีทองสว่างเช่นกัน ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นสวยงามจนเราไม่เสียดายที่ไม่ได้เห็นทะเลหมอกหนาเป็นปุยอย่างที่คนอื่นๆ ได้เห็น ซึ่งใครจะได้เห็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเดินทางมาชมในช่วงเวลาไหน สภาพอากาศเป็นอย่างไร และฤดูกาลไหน ดังนั้นหากอยากเห็นวิวที่ต่างไปก็ต้องมาอีกหลายๆ ครั้งในหลายๆ ฤดู


และนอกจากจะได้เห็นบรรยากาศรอบๆ อาบด้วยสีทองแล้ว เมื่อมองไปยังเบื้องล่างก็ยิ่งตื่นตา เมื่อเห็นสวนยางพาราบนภูเขาที่กำลังผลัดใบ จากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล และสีแดง ซึ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็ยิ่งเพิ่มสีสันให้ชัดเจนขึ้น กลายเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่หาชมได้ไม่ไกล ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศ นับเป็นความงามคูณสองที่ภูห้วยอีสันที่เราได้ชมกันในวันนี้ (ใบต้นยางพาราจะเปลี่ยนสีและผลัดใบในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม)
เรียกได้ว่า “ภูห้วยอีสัน” เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เดินทางมาได้ง่าย แถมยังมีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้ที่ไหน ถ้าใครมีโอกาสผ่านมาที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ก็ขอบอกว่าไม่ควรพลาดที่จะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า รวมไปถึงวิวสวยๆ ของแม่น้ำโขงที่นี่กันให้ได้สักครั้งหนึ่ง

“ภูห้วยอีสัน” ตั้งอยู่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย สามารถนำรถส่วนตัวไปจอดที่ลานจอดรถวัดแก้วเสด็จชัยมงคล แล้วขึ้นรถอีแต๊กได้ที่นั่น โดยมีค่ารถคนละ 60 บาท (ไปกลับ) ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นไปชมคือในช่วงฤดูหนาว หรือปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เวลา 05.30-08.00 น. ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว หรือที่กิน ที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี (รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ) โทร. 0 4232 5406-7
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นอีกหนึ่งอำเภอเล็กๆ เงียบสงบริมแม่น้ำโขงที่มีทิวทัศน์อันงดงามของสายน้ำและวิวภูเขาทางฝั่งลาวให้ชม ไม่เพียงเท่านั้น อำเภอสังคมยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายที่ใครๆ ต่างต้องแวะเวียนมาชมเมื่อมาเยือนหนองคาย อาทิ “วัดผาตากเสื้อ” ที่นอกจากจะเป็นสถานปฏิบัติธรรมอันงดงามน่าเลื่อมใสแล้วก็ยังมีจุดชมวิว “สกาย วอล์ค” ทื่พื้นเป็นกระจกใส ชมวิวแม่น้ำโขงได้งดงามยิ่งนัก และยังมี “ถ้ำดินเพียง” ถ้ำใต้ดินที่มีความเชื่อว่าเป็นถ้ำพญานาค ทางเดินในถ้ำสร้างความตื่นเต้นตื่นตากับผู้ไปเยือนได้ไม่น้อยเลย
แต่หากอยากหาจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ พร้อมทั้งมองเห็นวิวแม่น้ำโขง ต้องมาที่ “ภูห้วยอีสัน” อีกหนึ่งไฮไลท์ทางการท่องเที่ยวของอำเภอสังคม
“ภูห้วยอีสัน” ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวบนเขาที่เดินทางได้ง่าย และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกยามเช้าเหนือภูเขาและเกาะแก่งของลำน้ำโขงที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ในวันที่เรามาเยือนอำเภอสังคมในครั้งนี้จึงถือโอกาสมาชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูห้วยอีสันสักครั้งหนึ่ง โดยการเดินทางขึ้นไปยังภูห้วยอีสันนั้น นักท่องเที่ยวสามารถขับรถส่วนตัวมาจอดไว้ที่ลานจอดรถวัดแก้วเสด็จชัยมงคล ซึ่งบริเวณนี้จะมีรถอีแต๊กของชาวบ้านมาจอดคอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ตั้งแต่เช้ามืด ผู้ที่ต้องการขึ้นไปยังภูห้วยอีสันสามารถซื้อตั๋วรถอีแต๊กได้ที่นี่ ราคา 60 บาทต่อคน (ราคารวมไป/กลับ) จากนั้นก็ขึ้นนั่งหาที่เหมาะๆ กันได้เลย โดยรถอีแต๊กหนึ่งคันจะจุคนนั่งได้ 5-7 คน
ในช่วงแรกรถอีแต๊กจะพาวิ่งไปบนถนนเรียบๆ ก่อนจะเลี้ยวขวาขึ้นเขาไปตามทางดิน ผ่านสวนยางพาราของชาวบ้านไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นทางดินสภาพเส้นทางจึงไม่เรียบนัก อีกทั้งบางช่วงยังเป็นเนินหักเลี้ยวแคบๆ จึงขอแนะนำให้หาที่เกาะบนรถให้มั่น แต่ก็ใช้เวลาไม่นานนัก ราวๆ 20 นาที รถอีแต๊กก็พาเราขึ้นมาถึงด้านบนภูห้วยอีสันกันแล้ว
ด้านบนภูห้วยอีสันได้มีการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับชมวิว โดยได้จัดทำพื้นที่บนเนินเขาเป็นชั้นๆ ไล่ระดับความสูงขึ้นไป ดังนั้นแม้นักท่องเที่ยวจะมากเพียงใดก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์กันได้แบบไม่ต้องเบียดเสียดบังวิวหรือแย่งที่กางขาตั้งกล้องกันแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวให้เลือกกันถึงสองจุด จุดแรกคือจุดที่รถอีแต๊กมาจอดส่งเรา ที่ทำจุดชมวิวเป็นชั้นๆ ไล่ระดับ ส่วนจุดที่สองจะต้องเดินต่อไปอีกนิดหนึ่งราวๆ ไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งจะเป็นมุมที่สูงขึ้นและเห็นโค้งน้ำโขงได้สวยกว่า ใครพอใจจุดไหนก็ปักหลักชมวิวกันได้ตามใจชอบ
เมื่อใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะเผยโฉม ท้องฟ้าที่มืดมิดก็ค่อยๆ คลายความเข้มข้นลง บรรยากาศโดยรอบค่อยๆ เผยให้เห็นในสายตาตามแสงสว่างที่เรืองรอง จากนั้นเราจึงสามารถมองเห็นวิวเบื้องล่างได้อย่างชัดเจนขึ้น โดยมองเห็นเกาะแก่งมากมายกลางแม่น้ำโขง รวมถึงภูเขาที่ทอดยาวทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งลาว มองเห็นหมู่บ้านที่ซุกตัวอยู่อย่างสงบตรงตีนเขา เห็นควันจากครัวไฟที่ลอยกรุ่น ผสมกับสายหมอกบางๆ ที่ปกคลุมเหนือหลังคาบ้าน
อากาศในวันนี้เย็นกำลังสบายแต่ไม่ถึงกับหนาว เรารอคอยอยู่ไม่นานนักพระอาทิตย์ก็เริ่มอวดโฉมขึ้นมาด้านหลังภูเขาทีละนิดๆ จนเต็มดวงดูเหมือนไข่แดงลอยกลางท้องฟ้า พร้อมกันนั้นพระอาทิตย์ก็สาดแสงอ่อนๆ จนทำให้สายหมอกบางที่อวลอยู่โดยรอบกลายเป็นสีทองสวยงามยิ่งนัก
แสงอาทิตย์ยังส่องทะลุลงมายังผืนน้ำโขงเบื้องล่างจนกลายเป็นสีทองสว่างเช่นกัน ภาพที่เห็นตรงหน้านั้นสวยงามจนเราไม่เสียดายที่ไม่ได้เห็นทะเลหมอกหนาเป็นปุยอย่างที่คนอื่นๆ ได้เห็น ซึ่งใครจะได้เห็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับว่าเดินทางมาชมในช่วงเวลาไหน สภาพอากาศเป็นอย่างไร และฤดูกาลไหน ดังนั้นหากอยากเห็นวิวที่ต่างไปก็ต้องมาอีกหลายๆ ครั้งในหลายๆ ฤดู
และนอกจากจะได้เห็นบรรยากาศรอบๆ อาบด้วยสีทองแล้ว เมื่อมองไปยังเบื้องล่างก็ยิ่งตื่นตา เมื่อเห็นสวนยางพาราบนภูเขาที่กำลังผลัดใบ จากสีเขียวกลายเป็นสีน้ำตาล และสีแดง ซึ่งเมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็ยิ่งเพิ่มสีสันให้ชัดเจนขึ้น กลายเป็นใบไม้เปลี่ยนสีที่หาชมได้ไม่ไกล ไม่ต้องไปถึงต่างประเทศ นับเป็นความงามคูณสองที่ภูห้วยอีสันที่เราได้ชมกันในวันนี้ (ใบต้นยางพาราจะเปลี่ยนสีและผลัดใบในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม)
เรียกได้ว่า “ภูห้วยอีสัน” เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เดินทางมาได้ง่าย แถมยังมีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้ที่ไหน ถ้าใครมีโอกาสผ่านมาที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ก็ขอบอกว่าไม่ควรพลาดที่จะมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า รวมไปถึงวิวสวยๆ ของแม่น้ำโขงที่นี่กันให้ได้สักครั้งหนึ่ง
“ภูห้วยอีสัน” ตั้งอยู่ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย สามารถนำรถส่วนตัวไปจอดที่ลานจอดรถวัดแก้วเสด็จชัยมงคล แล้วขึ้นรถอีแต๊กได้ที่นั่น โดยมีค่ารถคนละ 60 บาท (ไปกลับ) ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นไปชมคือในช่วงฤดูหนาว หรือปลายฝนต้นหนาว ตั้งแต่เวลา 05.30-08.00 น. ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยว หรือที่กิน ที่พักได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี (รับผิดชอบพื้นที่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ) โทร. 0 4232 5406-7
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager