Facebook :Travel @ Manager
ในความรู้สึกของ “ตระเวนกิน” อาหารไทยของเรานั้นเป็นอาหารที่มีรสชาติถึงรสถึงเครื่องแบบครบครัน คือมีทั้งรสหวานเปรี้ยว เค็ม เผ็ด มัน เรียกว่าทุกครั้งที่ได้ลิ้มรสอาหารไทยจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ และต้องถือว่า “อาหารไทย” นั้นเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยอันมีเสน่ห์ เรียกได้ว่าไม่ว่าคนชาติใดก็ตามหากได้ลองลิ้มอาหารไทย เป็นต้องติดอกติดใจในรสชาติที่ครบรสของอาหารไทยกันทุกราย นับว่าเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจที่อาหารไทยเป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั่วโลก
สำหรับร้านอาหารไทยร้านนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เป็นที่รู้จักกันทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้รับรางวัล 1 ดาว จากมิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) ประจำปีพ.ศ. 2561 และ ปีพ.ศ. 2562 เรียกว่าได้รับรางวัลการันตีความอร่อยถึง 2 ปีซ้อนกันเลยทีเดียว โดยร้านนี้มีชื่อว่า “เสน่ห์จันทน์” (Saneh Jaan)
ภายในร้านนั้นมีบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัย ประดับตกแต่งด้วยงานศิลป์ สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และเพิ่มความสุนทรีย์ด้วยบทกวีที่แต่งโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์และกวีซีไรต์ หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวที่นี่มีห้องไว้รับรอง 3 ห้อง ได้แก่ ห้องจันทน์ปรุง ห้องจันทน์ปรางค์ และห้องจันทน์หอม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ผ่อนคลาย “จันทน์จรุง” ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้า ที่ต้องการดื่มด่ำกับไวน์ชั้นเลิศและเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ
ในส่วนของเมนูอาหารในร้าน เป็นอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมแบบรสมือแม่ทำ ที่ผสมผสานรสชาติและความงามเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาสัมผัสรสชาติอาหารไทยแบบต้นตำรับอย่างแท้จริง
อาหารไทยชวนกินหลากหลายเมนูภายในร้าน มีทั้งของว่างอย่าง เครื่องว่างสำรับเอก (590 บาท++) เป็นของว่างที่ทางร้านเสน่ห์จันทน์ภูมิใจนำเสนอ เครื่องว่างชุดนี้ประกอบด้วย แตงโมปลาแห้ง ช่อม่วงไส้ปลาหรือกุ้ง จีบนกไส้ปลาหรือกุ้ง ล่าเตียงไส้ปูตำรับของร้าน กุ้งโสร่ง ขนมเบื้องไส้กุ้งแบบโบราณ และทอดมันปลากรายสูตรโบราณ จัดมาแบบพอดีคำ ซึ่งเครื่องว่างของที่นี่จะจัดไม่ซ้ำกัน มีความแปลกใหม่ในทุกวัน เป็นเมนูที่หากินยากในปัจจุบัน
ส่วนเมนูอาหารคาวก็เริ่มจาก แสร้งว่ากุ้งแม่น้ำ (590 บาท++) อาหารไทยรัชกาลที่ 2 ปรากฏอยู่ในกาพย์พระราชนิพนธ์ เดิมเป็นเครื่องจิ้ม ปัจจุบันลักษณะคล้ายกับยำ สำหรับสูตรของทางร้านจะใช้กุ้งแม่น้ำเผา ราดด้วยเครื่องพล่าใส่สมุนไพรไทยต่างๆ คือ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู ส่วนน้ำซอสปรุงจากมะขามเปียก ส้มซ่า พริก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา รสชาติจะออกเปรี้ยวเค็มเผ็ด มีรสหวานนิดๆ หอมกลิ่นส้มซ่า กินเคียงกับปลาสลิดฟู
ต้มกะทิสายบัวหอยเชลล์ (650 บาท++) เป็นต้มกะทิสายบัวในแบบโบราณ แต่ปรับให้ทันสมัยโดยการใช้หอยเชลล์นำเข้าสดๆ นำมาแกงกับกะทิคั้นสด และสายบัวอ่อนคัดมาอย่างดี น้ำแกงกะทิเข้มข้นหอมมัน สายบัวอ่อนสดกรอบ หอยเชลล์เนื้อแน่นหวาน
อีกเมนูแนะนำ แกงมอญคอหมูย่าง (550 บาท++) เป็นแกงแดงของพม่า ใช้เครื่องแกงแดงโขลกเอง ใส่กะทิคั้นสด คอหมูนุ่ม ๆ ย่างให้สุกหอมนำไปแกงกับเครื่องแกงแรงรสเข้ม ใส่พริกหบวกลงไปด้วยเพื่อให้มีความกรอบ น้ำแกงขลุกขลิก รสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี
เมนูนี้ก็ห้ามพลาด ถั่วฝักยาวผัดกะปิ (450 บาท++) เป็นเมนูจากจันทบุรี ผัดถั่วฝักยาวสูตรนี้จะผัดแบบแห้งๆ เพื่อให้ถั่วผักยาวกรอบน่ากิน ใส่กะปิใต้ ผัดคั่วกับกุ้งแห้งกรอบๆ โรยหน้าด้วยกากหมูเจียวใหม่ๆ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ และกลิ่นหอมๆ ของกะปิ
ส่วนของหวานไทยๆ ต้องลองชิม ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ (280 บาท++) เป็นขนมไทยโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย ไข่กบคือเม็ดแมงลัก นกปล่อยคือลอดช่อง บัวลอยคือข้าวตอก และ อ้ายตื้อคือข้าวเหนียวดำ ใส่น้ำเชื่อมที่ใช้น้ำตาลปี๊บเคี่ยวกับกะทิให้หวานหอมมัน เวลากินก็ใส่น้ำแข็งให้หวานเย็นชื่นใจ
สำหรับเมนูอื่นๆ ภายในร้านก็ยังมีให้ลิ้มลองอีกหลายจาน อาทิ แกงรัญจวน (380 บาท++) ต้มข่าไก่ (590 บาท++) ไก่บ้านคั่วใบจั๋น (450 บาท++) ยำส้มโอ (450 บาท++) เป็นต้น มาสัมผัสรสชาติอาหารไทยแบบต้นตำรับกันได้ที่ร้าน “เสน่ห์จันทน์” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “เสน่ห์จันทน์” ตั้งอยู่บริเวณ Glasshouse@Sindhorn อาคารสินธร ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 14.00น. และ 18.00 - 22.00 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-22650-9880 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/sanehjaan และ www.sanehjaan.com ถ้ามากินอาหารที่ร้านแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับฟรีชุดขนมไทย 1 ที่ ต่อเซลส์สลิป ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2562
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ในความรู้สึกของ “ตระเวนกิน” อาหารไทยของเรานั้นเป็นอาหารที่มีรสชาติถึงรสถึงเครื่องแบบครบครัน คือมีทั้งรสหวานเปรี้ยว เค็ม เผ็ด มัน เรียกว่าทุกครั้งที่ได้ลิ้มรสอาหารไทยจะเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ และต้องถือว่า “อาหารไทย” นั้นเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยอันมีเสน่ห์ เรียกได้ว่าไม่ว่าคนชาติใดก็ตามหากได้ลองลิ้มอาหารไทย เป็นต้องติดอกติดใจในรสชาติที่ครบรสของอาหารไทยกันทุกราย นับว่าเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจที่อาหารไทยเป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั่วโลก
สำหรับร้านอาหารไทยร้านนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เป็นที่รู้จักกันทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้รับรางวัล 1 ดาว จากมิชลิน ไกด์ (Michelin Guide) ประจำปีพ.ศ. 2561 และ ปีพ.ศ. 2562 เรียกว่าได้รับรางวัลการันตีความอร่อยถึง 2 ปีซ้อนกันเลยทีเดียว โดยร้านนี้มีชื่อว่า “เสน่ห์จันทน์” (Saneh Jaan)
ภายในร้านนั้นมีบรรยากาศแบบไทยร่วมสมัย ประดับตกแต่งด้วยงานศิลป์ สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย และเพิ่มความสุนทรีย์ด้วยบทกวีที่แต่งโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์และกวีซีไรต์ หรือหากต้องการความเป็นส่วนตัวที่นี่มีห้องไว้รับรอง 3 ห้อง ได้แก่ ห้องจันทน์ปรุง ห้องจันทน์ปรางค์ และห้องจันทน์หอม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ผ่อนคลาย “จันทน์จรุง” ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้า ที่ต้องการดื่มด่ำกับไวน์ชั้นเลิศและเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะ
ในส่วนของเมนูอาหารในร้าน เป็นอาหารไทยรสชาติดั้งเดิมแบบรสมือแม่ทำ ที่ผสมผสานรสชาติและความงามเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาสัมผัสรสชาติอาหารไทยแบบต้นตำรับอย่างแท้จริง
อาหารไทยชวนกินหลากหลายเมนูภายในร้าน มีทั้งของว่างอย่าง เครื่องว่างสำรับเอก (590 บาท++) เป็นของว่างที่ทางร้านเสน่ห์จันทน์ภูมิใจนำเสนอ เครื่องว่างชุดนี้ประกอบด้วย แตงโมปลาแห้ง ช่อม่วงไส้ปลาหรือกุ้ง จีบนกไส้ปลาหรือกุ้ง ล่าเตียงไส้ปูตำรับของร้าน กุ้งโสร่ง ขนมเบื้องไส้กุ้งแบบโบราณ และทอดมันปลากรายสูตรโบราณ จัดมาแบบพอดีคำ ซึ่งเครื่องว่างของที่นี่จะจัดไม่ซ้ำกัน มีความแปลกใหม่ในทุกวัน เป็นเมนูที่หากินยากในปัจจุบัน
ส่วนเมนูอาหารคาวก็เริ่มจาก แสร้งว่ากุ้งแม่น้ำ (590 บาท++) อาหารไทยรัชกาลที่ 2 ปรากฏอยู่ในกาพย์พระราชนิพนธ์ เดิมเป็นเครื่องจิ้ม ปัจจุบันลักษณะคล้ายกับยำ สำหรับสูตรของทางร้านจะใช้กุ้งแม่น้ำเผา ราดด้วยเครื่องพล่าใส่สมุนไพรไทยต่างๆ คือ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู ส่วนน้ำซอสปรุงจากมะขามเปียก ส้มซ่า พริก น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา รสชาติจะออกเปรี้ยวเค็มเผ็ด มีรสหวานนิดๆ หอมกลิ่นส้มซ่า กินเคียงกับปลาสลิดฟู
ต้มกะทิสายบัวหอยเชลล์ (650 บาท++) เป็นต้มกะทิสายบัวในแบบโบราณ แต่ปรับให้ทันสมัยโดยการใช้หอยเชลล์นำเข้าสดๆ นำมาแกงกับกะทิคั้นสด และสายบัวอ่อนคัดมาอย่างดี น้ำแกงกะทิเข้มข้นหอมมัน สายบัวอ่อนสดกรอบ หอยเชลล์เนื้อแน่นหวาน
อีกเมนูแนะนำ แกงมอญคอหมูย่าง (550 บาท++) เป็นแกงแดงของพม่า ใช้เครื่องแกงแดงโขลกเอง ใส่กะทิคั้นสด คอหมูนุ่ม ๆ ย่างให้สุกหอมนำไปแกงกับเครื่องแกงแรงรสเข้ม ใส่พริกหบวกลงไปด้วยเพื่อให้มีความกรอบ น้ำแกงขลุกขลิก รสชาติเผ็ดร้อนกำลังดี
เมนูนี้ก็ห้ามพลาด ถั่วฝักยาวผัดกะปิ (450 บาท++) เป็นเมนูจากจันทบุรี ผัดถั่วฝักยาวสูตรนี้จะผัดแบบแห้งๆ เพื่อให้ถั่วผักยาวกรอบน่ากิน ใส่กะปิใต้ ผัดคั่วกับกุ้งแห้งกรอบๆ โรยหน้าด้วยกากหมูเจียวใหม่ๆ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ และกลิ่นหอมๆ ของกะปิ
ส่วนของหวานไทยๆ ต้องลองชิม ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ (280 บาท++) เป็นขนมไทยโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคสุโขทัย ไข่กบคือเม็ดแมงลัก นกปล่อยคือลอดช่อง บัวลอยคือข้าวตอก และ อ้ายตื้อคือข้าวเหนียวดำ ใส่น้ำเชื่อมที่ใช้น้ำตาลปี๊บเคี่ยวกับกะทิให้หวานหอมมัน เวลากินก็ใส่น้ำแข็งให้หวานเย็นชื่นใจ
สำหรับเมนูอื่นๆ ภายในร้านก็ยังมีให้ลิ้มลองอีกหลายจาน อาทิ แกงรัญจวน (380 บาท++) ต้มข่าไก่ (590 บาท++) ไก่บ้านคั่วใบจั๋น (450 บาท++) ยำส้มโอ (450 บาท++) เป็นต้น มาสัมผัสรสชาติอาหารไทยแบบต้นตำรับกันได้ที่ร้าน “เสน่ห์จันทน์” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “เสน่ห์จันทน์” ตั้งอยู่บริเวณ Glasshouse@Sindhorn อาคารสินธร ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 14.00น. และ 18.00 - 22.00 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-22650-9880 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/sanehjaan และ www.sanehjaan.com ถ้ามากินอาหารที่ร้านแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต KTC รับฟรีชุดขนมไทย 1 ที่ ต่อเซลส์สลิป ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2562
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
