Facebook :Travel @ Manager
เชื่อว่าใครที่ชอบกินไก่ทอด ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน “ไก่ทอดเจ้กี ซ.โปโล” กันมาบ้าง เพราะว่าร้านนี้มีเมนูเด่นดังคือไก่ทอดที่เปิดขายกันมายาวนานกว่า 50 ปี จนกลายเป็นตำนานไก่ทอดเจ้าอร่อยอีกหนึ่งร้าน
ซึ่งที่ร้านนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ไก่ทอดเท่านั้น แต่ยังมีอาหารอีสานหลากหลายเมนูให้ได้เลือกชิม ทั้งส้มตำ ลาบ น้ำตก ต้มแซบ ยำต่างๆ เรียกว่าใครที่อยากกินอาหารแซบๆ เป็นมื้ออร่อยก็ตรงมาที่ร้านนี้ได้เลย
สำหรับที่นั่งของร้านจะมีทั้งโต๊ะนั่งธรรมดา และที่นั่งในห้องแอร์ให้นั่งกินกันแบบไม่ต้องร้อนใจ ซึ่งถ้าใครจะมากินกันหลายคนแล้วต้องการโต๊ะใหญ่ แนะนำให้โทรมาจองก่อนล่วงหน้า ทางร้านจะได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ให้
พูดถึง ไก่ทอด (ตัวละ 260 บาท ครึ่งตัว 130 บาท) แล้วก็เริ่มหิว เดินเข้ามาในร้านก็จะได้กลิ่นไก่ทอดหอมๆ ชวนให้ลิ้มลอง ไก่ทอดของที่นี่จะนำไปหมักกับเครื่องกระเทียมและเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ โดยไม่ได้ชุบแป้ง เสิร์ฟแบบร้อนๆ สับเป็นชิ้นๆ ไก่กรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มหวานสูตรของทางร้าน และทีเด็ดอีกอย่างของไก่ทอดที่นี่ก็คือกระเทียมทอดกรอบ หอมๆ มีรสชาติ ลูกค้าหลายๆ คนก็ชอบสั่งให้ใส่กระเทียมมาเยอะๆ นำมากินกับข้าวเหนียวร้อนๆ นุ่มๆ อร่อยถูกปากสุดๆ
จากไก่ทอด มาเพิ่มโปรตีนจากปลากันหน่อย เลือกเป็นเมนู เมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ (280 บาท) ที่ใช้ปลาทับทิมตัวโต ล้างให้สะอาด แล้วยัดเครื่องเทศเข้าไปในท้อง ทาเกลือไว้ด้านนอกตัวปลา แล้วนำไปเผาด้วยเตาถ่าน เสิร์ฟมาคู่กับชุดผักสด เส้นหมี่ขาว และน้ำจิ้มรสแซบสองแบบ ปลาทับทิมเผามาแบบสุกกำลังดี เนื้อนุ่มแน่น น้ำจิ้มจัดจ้านครบรส
กินไก่กินปลาก็ต้องแกล้มด้วยส้มตำอร่อยๆ เลยสั่ง ส้มตำปูม้า (120 บาท) มาลองชิม ที่นี่ใช้ปูม้าสดตัวใหญ่ๆ นำมาดองกับน้ำปลา ส่วนส้มตำก็เป็นเครื่องแบบส้มจำไทย ใส่กุ้งแห้ว ถั่วลิสง ปรุงรสแบบจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด คลุกเคล้าเข้ากับปูม้าเนื้อสดหวาน
ตามต่อกันมาด้วย ลาบหมู (60 บาท) จานนี้ใช้หมูสับที่คัดมาอย่างดี ปรุงรสกับเครื่องลาบ ใส่หนังหมู ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาวสด ชิมรสชาติลาบครบเครื่อง หอมข้าวคั่วและพริกป่นที่ทำใหม่ๆ ใครที่ไม่ชอบหนังหมูก็เลือกใส่เฉพาะหมูสับก็ได้
อีกเมนูที่ต้องมาด้วยกันคือ คอหมูย่าง (80 บาท) ที่ทางร้านเลือกเฉพาะส่วนสันคอหมูนำมาหมักกับสูตรเฉพาะ แล้วนำไปย่างด้วยเตาถ่าน ได้มาเป็นคอหมูย่างเนื้อนุ่ม แน่น หอมอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มคอหมูสูตรของทางร้าน ที่ออกรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากันกับคอหมูย่างดีมากๆ
อิ่มหนำกับสารพันจานอร่อยแล้ว แต่ที่ร้านนี้ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ชวนให้มาลองชิม อาทิ ทอดมันปลากราย (120 บาท) ตำข้าวโพด (80 บาท) ตำข้าวโพดไข่เค็ม (100 บาท) ปลาช่อนลุยสวน (240 บาท) ยำผักกูดกุ้งสด (120 บาท) เป็นต้น
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ไก่ทอดเจ้กี ซ.โปโล” ตั้งอยู่ที่ซอยโปโล เขตปทุมวัน กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท ให้ตรงมาถึงเพลินจิต แล้วเลี้ยวเข้าถนนวิทยุ ตรงมาเรื่อยๆ จนเลยซอยร่วมฤดี ให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวเข้าซอยสนามคลี (ซอยโปโล) ตรงเข้ามาเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีบริการจัดสั่งทั่ว กทม. โดยคิดค่าบริการตามระยะทาง ร้านเปิดบริการทุกวัน (หยุดวันจันทร์สัปดาห์ที่สองของเดือน) เวลา 07.00-21.00 น. โทร. 0-2251-2772, 0-2252-0856, 0-2655-8489, 08-1300-4444 ส่วนสาขานวมินทร์ ตั้งอยู่ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอม่อ 281 โทร. 0-2946-6544
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เชื่อว่าใครที่ชอบกินไก่ทอด ต้องเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน “ไก่ทอดเจ้กี ซ.โปโล” กันมาบ้าง เพราะว่าร้านนี้มีเมนูเด่นดังคือไก่ทอดที่เปิดขายกันมายาวนานกว่า 50 ปี จนกลายเป็นตำนานไก่ทอดเจ้าอร่อยอีกหนึ่งร้าน
ซึ่งที่ร้านนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ไก่ทอดเท่านั้น แต่ยังมีอาหารอีสานหลากหลายเมนูให้ได้เลือกชิม ทั้งส้มตำ ลาบ น้ำตก ต้มแซบ ยำต่างๆ เรียกว่าใครที่อยากกินอาหารแซบๆ เป็นมื้ออร่อยก็ตรงมาที่ร้านนี้ได้เลย
สำหรับที่นั่งของร้านจะมีทั้งโต๊ะนั่งธรรมดา และที่นั่งในห้องแอร์ให้นั่งกินกันแบบไม่ต้องร้อนใจ ซึ่งถ้าใครจะมากินกันหลายคนแล้วต้องการโต๊ะใหญ่ แนะนำให้โทรมาจองก่อนล่วงหน้า ทางร้านจะได้จัดเตรียมสถานที่ไว้ให้
พูดถึง ไก่ทอด (ตัวละ 260 บาท ครึ่งตัว 130 บาท) แล้วก็เริ่มหิว เดินเข้ามาในร้านก็จะได้กลิ่นไก่ทอดหอมๆ ชวนให้ลิ้มลอง ไก่ทอดของที่นี่จะนำไปหมักกับเครื่องกระเทียมและเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน แล้วนำลงไปทอดในน้ำมันร้อนๆ โดยไม่ได้ชุบแป้ง เสิร์ฟแบบร้อนๆ สับเป็นชิ้นๆ ไก่กรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติ กินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มหวานสูตรของทางร้าน และทีเด็ดอีกอย่างของไก่ทอดที่นี่ก็คือกระเทียมทอดกรอบ หอมๆ มีรสชาติ ลูกค้าหลายๆ คนก็ชอบสั่งให้ใส่กระเทียมมาเยอะๆ นำมากินกับข้าวเหนียวร้อนๆ นุ่มๆ อร่อยถูกปากสุดๆ
จากไก่ทอด มาเพิ่มโปรตีนจากปลากันหน่อย เลือกเป็นเมนู เมี่ยงปลาทับทิมเผาเกลือ (280 บาท) ที่ใช้ปลาทับทิมตัวโต ล้างให้สะอาด แล้วยัดเครื่องเทศเข้าไปในท้อง ทาเกลือไว้ด้านนอกตัวปลา แล้วนำไปเผาด้วยเตาถ่าน เสิร์ฟมาคู่กับชุดผักสด เส้นหมี่ขาว และน้ำจิ้มรสแซบสองแบบ ปลาทับทิมเผามาแบบสุกกำลังดี เนื้อนุ่มแน่น น้ำจิ้มจัดจ้านครบรส
กินไก่กินปลาก็ต้องแกล้มด้วยส้มตำอร่อยๆ เลยสั่ง ส้มตำปูม้า (120 บาท) มาลองชิม ที่นี่ใช้ปูม้าสดตัวใหญ่ๆ นำมาดองกับน้ำปลา ส่วนส้มตำก็เป็นเครื่องแบบส้มจำไทย ใส่กุ้งแห้ว ถั่วลิสง ปรุงรสแบบจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด คลุกเคล้าเข้ากับปูม้าเนื้อสดหวาน
ตามต่อกันมาด้วย ลาบหมู (60 บาท) จานนี้ใช้หมูสับที่คัดมาอย่างดี ปรุงรสกับเครื่องลาบ ใส่หนังหมู ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา น้ำมะนาวสด ชิมรสชาติลาบครบเครื่อง หอมข้าวคั่วและพริกป่นที่ทำใหม่ๆ ใครที่ไม่ชอบหนังหมูก็เลือกใส่เฉพาะหมูสับก็ได้
อีกเมนูที่ต้องมาด้วยกันคือ คอหมูย่าง (80 บาท) ที่ทางร้านเลือกเฉพาะส่วนสันคอหมูนำมาหมักกับสูตรเฉพาะ แล้วนำไปย่างด้วยเตาถ่าน ได้มาเป็นคอหมูย่างเนื้อนุ่ม แน่น หอมอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มคอหมูสูตรของทางร้าน ที่ออกรสเปรี้ยวๆ หวานๆ เข้ากันกับคอหมูย่างดีมากๆ
อิ่มหนำกับสารพันจานอร่อยแล้ว แต่ที่ร้านนี้ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ชวนให้มาลองชิม อาทิ ทอดมันปลากราย (120 บาท) ตำข้าวโพด (80 บาท) ตำข้าวโพดไข่เค็ม (100 บาท) ปลาช่อนลุยสวน (240 บาท) ยำผักกูดกุ้งสด (120 บาท) เป็นต้น
* * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “ไก่ทอดเจ้กี ซ.โปโล” ตั้งอยู่ที่ซอยโปโล เขตปทุมวัน กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท ให้ตรงมาถึงเพลินจิต แล้วเลี้ยวเข้าถนนวิทยุ ตรงมาเรื่อยๆ จนเลยซอยร่วมฤดี ให้ชิดซ้าย แล้วเลี้ยวเข้าซอยสนามคลี (ซอยโปโล) ตรงเข้ามาเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ มีบริการจัดสั่งทั่ว กทม. โดยคิดค่าบริการตามระยะทาง ร้านเปิดบริการทุกวัน (หยุดวันจันทร์สัปดาห์ที่สองของเดือน) เวลา 07.00-21.00 น. โทร. 0-2251-2772, 0-2252-0856, 0-2655-8489, 08-1300-4444 ส่วนสาขานวมินทร์ ตั้งอยู่ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอม่อ 281 โทร. 0-2946-6544
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
