Facebook :Travel @ Manager

“นราธิวาส” หนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย มีความสวยงามของเกลียวคลื่นของทะเล สัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวใต้ ล่าสุดสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.สุราษฏร์ธานี ร่วมกับ 14 จังหวัดภาคใต้ จัดงานภายใต้โครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่นานาชาติ จ.สุราษฏ์ธานี จัดกิจกรรม “กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น “นราธิวาส” จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของทริปนี้

เมื่อมาถึงนราธิวาสกันแล้ว สถานที่แรกที่อยากแนะนำก็คือ “มัสยิดวาดิอัลฮูเซ็น” หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า “มัสยิด 300 ปี” ตั้งอยูที่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร เป็นมัสยิดเก่าแก่แห่งหนึ่งของที่นี่ โดยสร้างขึ้นในปี 2167 ผู้ที่บุกเบิกหมู่บ้านตะโละมาเนาะคือ “วันฮูเซ็น” เป็นอาจารย์สอนศาสนาอิสลามที่บ้านสะนอ


มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยใช้ไม้ตะเคียน และพิเศษไปกว่านั้นคืออาคารทั้งหลังไม่ได้ใช้ตะปูหรือสกรูเหล็กยึดไม้เลย แต่ใช้สลักไม้แทน ศิลปะการก่อสร้างได้รับอิทธิพลจากศิลปะชวา และมีการผสมผสานกับศิลปะท้องถิ่น ซึ่งเป็นลักษณะของมัสยิดก่อนที่อิทธิพลของศิลปะแบบอาหรับจะเข้ามา เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ปัจจุบันมัสยิดนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม ภายในมีเครื่องมือสร้างมัสยิด ภาชนะโบราณประเภทจานชามที่ชาวบ้านยังเก็บรวบรวมไว้

จากนั้นชวนมาชื่นชมพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงาม โดยพระพุทธรูปองค์นี้ ประดิษฐานในปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา ที่ “พุทธอุทยานวัดเขากง” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองใช้เส้นทางนราธิวาส-ระแงะ ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมองเห็นวัดเขากง โดยพระพุทธรูปนั้นคือ “พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล” เป็นพระพุทธรูปสีทองอร่ามปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งกลางแจ้งดูโดดเด่นเปี่ยมศรัทธาอยู่บนเนินเขา ศิลปะแบบสกุลช่างอินเดียตอนใต้ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก องค์พระสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับโมเสคสีทอง หน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 24 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่มีความงดงามและและมีขนาดใหญ่ในภาคใต้

ส่วนอุโบสถสร้างเป็นรูปช้างหมอบถวายดอกบัว อุโบสถหลังนี้มีผนังด้านนอกประดับด้วยกระเบื้องดินเผาแกะสลักทั้งสี่ด้าน หน้าบันเป็นรูปนักรบมีเทวดาถือคนโทถวาย ดูงดงามยิ่งนัก ถัดไปจะมองเห็นเจดีย์สิริมหามายา ทรงระฆัง เหนือซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศมีเจดีย์รายประดับอยู่ ภายในประดิษฐานพระพรหม บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์

หลังจากชมมัสยิดเก่าแก่และพระพุทธรูปองค์ใหญ่กันแล้ว เมืองนราธิวาสนี้ยังมีชายหาดอันงดงามอีกด้วย อย่างที่ “หาดนราทัศน์” เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม โค้งหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถมองเห็นวิวได้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา จรดกับปลายแหลมปากแม่น้ำบางนราทางทิศใต้ ริมหาดที่ร่มรื่นด้วยทิวสนมากมาย

หากใครมาเที่ยวที่หาดนราทัศน์ในช่วงเย็น ก็จะเห็นกลุ่มครอบครัวต่างพาลูกหลานมานั่งรับลมเย็นๆ ผ่อนคลายกัน หรือบางคนก็จะนำอาหารมานั่งกินเคล้าวิวทะเลพร้อมฟังเสียงคลื่น เพิ่มบรรยากาศให้กับมื้ออาหารนั้นได้ดีอีกด้วย และความสวยงามของชายหาดนี้เองจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองนราธิวาส

อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจของนราธิวาส นั่นก็คือ “สะพานเกาะยาว” หากใครที่เดินทางมาที่นี่ จะได้สัมผัสวิถีประมงพื้นบ้านอันแสนเรียบง่ายบนเกาะยาว เกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานไม้ชื่อว่า “สะพานคอย 100 ปี” มีความยาว 345 เมตร ซึ่งทอดผ่านแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว


ด้วยบรรยากาศอันสงบ มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาลในบางมุมของเกาะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพประมงและสวนมะพร้าว


เสน่ห์ยามเช้าของเมืองนราธิวาสก็คงหนีไม่พ้น “ตลาดสดกลางเมือง” เป็นตลาดเช้าของเมืองนราธิวาส คล้ายกับตลาดสดทั่วไป บรรยากาศตลาดเช้าอันแสนคึกคึก ผู้คนน่ารักใจดี มีของขายสารพัดสารพัน พืชผักผลไม้ จะแตกต่างกันตรงที่ตลาดนี้มีอาหารจากท้องทะเลเป็นจำนวนมาก ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สดใหม่ ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ น่าไปเดินเที่ยวชมสัมผัสวิถีชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง ใครที่สนใจจะมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้าลองแวะมาเดินชมกันได้ ให้สังเกตง่ายๆ คือใกล้ตลาดจะมีวงเวียนหอนาฬิกา

สำหรับเมนูอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เมื่อมาแล้วจะต้องไม่พลาดก็คือ “ปลากุเลาเค็ม” ถือเป็นราชาแห่งปลาเค็มที่ครองแชมป์ในเรื่องของรสชาติ ซึ่งเนื้อปลากุเลาเค็มของนราธิวาสนั้นมีรสชาติกลมกล่อมอยู่แล้ว เพียงแค่ซอยพริกขี้หนู ใส่หอมแดงลงไป บีบมะนาวให้หอม ก็ถือว่าได้เมนูอาหารจานเด็ดของมื้อนั้นแล้ว

เมื่อได้เมนูจานเด็ดในส่วนของคาวไปแล้ว เรามาตบท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานกันบ้าง กับเมนู “โรตี” ที่มีให้เลือกหลากหลายร้าน และมีเมนูโรตีให้เลือกกินมากมาย อย่างเช่น โรตีราดนม โรตีใส่ไข่ โรตีตบ เป็นต้น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
“นราธิวาส” หนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย มีความสวยงามของเกลียวคลื่นของทะเล สัมผัสวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของชาวใต้ ล่าสุดสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.สุราษฏร์ธานี ร่วมกับ 14 จังหวัดภาคใต้ จัดงานภายใต้โครงการส่งเสริมมหกรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยวสู่นานาชาติ จ.สุราษฏ์ธานี จัดกิจกรรม “กินเพลินเดินเก๋เท่อย่างใต้” ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้น “นราธิวาส” จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของทริปนี้
เมื่อมาถึงนราธิวาสกันแล้ว สถานที่แรกที่อยากแนะนำก็คือ “มัสยิดวาดิอัลฮูเซ็น” หรืออีกชื่อหนึ่งที่เรียกกันว่า “มัสยิด 300 ปี” ตั้งอยูที่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร เป็นมัสยิดเก่าแก่แห่งหนึ่งของที่นี่ โดยสร้างขึ้นในปี 2167 ผู้ที่บุกเบิกหมู่บ้านตะโละมาเนาะคือ “วันฮูเซ็น” เป็นอาจารย์สอนศาสนาอิสลามที่บ้านสะนอ
มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยใช้ไม้ตะเคียน และพิเศษไปกว่านั้นคืออาคารทั้งหลังไม่ได้ใช้ตะปูหรือสกรูเหล็กยึดไม้เลย แต่ใช้สลักไม้แทน ศิลปะการก่อสร้างได้รับอิทธิพลจากศิลปะชวา และมีการผสมผสานกับศิลปะท้องถิ่น ซึ่งเป็นลักษณะของมัสยิดก่อนที่อิทธิพลของศิลปะแบบอาหรับจะเข้ามา เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ปัจจุบันมัสยิดนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม ภายในมีเครื่องมือสร้างมัสยิด ภาชนะโบราณประเภทจานชามที่ชาวบ้านยังเก็บรวบรวมไว้
จากนั้นชวนมาชื่นชมพระพุทธรูปกลางแจ้งที่งดงาม โดยพระพุทธรูปองค์นี้ ประดิษฐานในปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชรอยู่บนยอดเขา ที่ “พุทธอุทยานวัดเขากง” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองใช้เส้นทางนราธิวาส-ระแงะ ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมองเห็นวัดเขากง โดยพระพุทธรูปนั้นคือ “พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล” เป็นพระพุทธรูปสีทองอร่ามปางปฐมเทศนาขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งกลางแจ้งดูโดดเด่นเปี่ยมศรัทธาอยู่บนเนินเขา ศิลปะแบบสกุลช่างอินเดียตอนใต้ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก องค์พระสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับโมเสคสีทอง หน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 24 เมตร นับเป็นพระพุทธรูปกลางแจ้งที่มีความงดงามและและมีขนาดใหญ่ในภาคใต้
ส่วนอุโบสถสร้างเป็นรูปช้างหมอบถวายดอกบัว อุโบสถหลังนี้มีผนังด้านนอกประดับด้วยกระเบื้องดินเผาแกะสลักทั้งสี่ด้าน หน้าบันเป็นรูปนักรบมีเทวดาถือคนโทถวาย ดูงดงามยิ่งนัก ถัดไปจะมองเห็นเจดีย์สิริมหามายา ทรงระฆัง เหนือซุ้มประตูทั้ง 4 ทิศมีเจดีย์รายประดับอยู่ ภายในประดิษฐานพระพรหม บนยอดสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากชมมัสยิดเก่าแก่และพระพุทธรูปองค์ใหญ่กันแล้ว เมืองนราธิวาสนี้ยังมีชายหาดอันงดงามอีกด้วย อย่างที่ “หาดนราทัศน์” เป็นชายหาดที่มีความสวยงาม โค้งหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถมองเห็นวิวได้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา จรดกับปลายแหลมปากแม่น้ำบางนราทางทิศใต้ ริมหาดที่ร่มรื่นด้วยทิวสนมากมาย
หากใครมาเที่ยวที่หาดนราทัศน์ในช่วงเย็น ก็จะเห็นกลุ่มครอบครัวต่างพาลูกหลานมานั่งรับลมเย็นๆ ผ่อนคลายกัน หรือบางคนก็จะนำอาหารมานั่งกินเคล้าวิวทะเลพร้อมฟังเสียงคลื่น เพิ่มบรรยากาศให้กับมื้ออาหารนั้นได้ดีอีกด้วย และความสวยงามของชายหาดนี้เองจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมของชาวเมืองนราธิวาส
อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจของนราธิวาส นั่นก็คือ “สะพานเกาะยาว” หากใครที่เดินทางมาที่นี่ จะได้สัมผัสวิถีประมงพื้นบ้านอันแสนเรียบง่ายบนเกาะยาว เกาะเล็กๆ ที่เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ด้วยสะพานไม้ชื่อว่า “สะพานคอย 100 ปี” มีความยาว 345 เมตร ซึ่งทอดผ่านแม่น้ำตากใบไปยังเกาะยาว
ด้วยบรรยากาศอันสงบ มีหาดทรายละเอียดสีน้ำตาลในบางมุมของเกาะ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ประกอบอาชีพประมงและสวนมะพร้าว
เสน่ห์ยามเช้าของเมืองนราธิวาสก็คงหนีไม่พ้น “ตลาดสดกลางเมือง” เป็นตลาดเช้าของเมืองนราธิวาส คล้ายกับตลาดสดทั่วไป บรรยากาศตลาดเช้าอันแสนคึกคึก ผู้คนน่ารักใจดี มีของขายสารพัดสารพัน พืชผักผลไม้ จะแตกต่างกันตรงที่ตลาดนี้มีอาหารจากท้องทะเลเป็นจำนวนมาก ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา สดใหม่ ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ น่าไปเดินเที่ยวชมสัมผัสวิถีชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง ใครที่สนใจจะมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้าลองแวะมาเดินชมกันได้ ให้สังเกตง่ายๆ คือใกล้ตลาดจะมีวงเวียนหอนาฬิกา
สำหรับเมนูอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เมื่อมาแล้วจะต้องไม่พลาดก็คือ “ปลากุเลาเค็ม” ถือเป็นราชาแห่งปลาเค็มที่ครองแชมป์ในเรื่องของรสชาติ ซึ่งเนื้อปลากุเลาเค็มของนราธิวาสนั้นมีรสชาติกลมกล่อมอยู่แล้ว เพียงแค่ซอยพริกขี้หนู ใส่หอมแดงลงไป บีบมะนาวให้หอม ก็ถือว่าได้เมนูอาหารจานเด็ดของมื้อนั้นแล้ว
เมื่อได้เมนูจานเด็ดในส่วนของคาวไปแล้ว เรามาตบท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานกันบ้าง กับเมนู “โรตี” ที่มีให้เลือกหลากหลายร้าน และมีเมนูโรตีให้เลือกกินมากมาย อย่างเช่น โรตีราดนม โรตีใส่ไข่ โรตีตบ เป็นต้น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager