Facebook :Travel @ Manager

หากว่ามิตรรักนักกินคนไหนชื่นชอบกินอาหารญี่ปุ่นอย่าง “ทงคัตสึ” (Tonkatsu) ซึ่งเป็นเมนูหมูชุบแป้งทอดที่กรอบนอกนุ่มใน “ตระเวนกิน” ขอแนะนำให้มาอิ่มเอมกับทงคัตสึแบบต้นตำรับญี่ปุ่นขนานแท้กันที่ร้านนี้ “KIMUKATSU TEI” ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า ชั้น G
“KIMUKATSU” เป็นร้านทงคัตสึที่มีชื่อเสียง โดยสาขาแรกอยู่ที่ย่านเอบิสึ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันมีสาขากว่า 20 สาขา ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทยของเราก็มีเปิดอยู่หลายสาขา เพื่อให้เหล่านักกินชาวไทยจะได้ลิ้มรสทงคัตสึรสยอดเยี่ยมแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องบินไปกินไกลถึงประเทศญี่ปุ่น

สำหรับความพิเศษอันโดดเด่นของทงคัตสึของร้านนี้ ก็คือ หมูทอดมิลฟิลคัทสึตามต้นตำรับ (ชื่อมิลฟิล มาจากการเรียงชั้นของหมูที่เมื่อนำมาเรียงชั้น จะคล้ายกับขนมมิลฟิลของฝรั่งเศส) โดย “มิลฟิลคัทสึ” คือเนื้อหมูสไลด์บางถึง 25 ชั้น บรรจงใส่ไส้ต่างๆ และห่ออย่างพิถีพิถัน จากนั้นนำไปชุบเกล็ดขนมปังจนทั่วชิ้น และจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อนจะนำมาทอด
อีกทั้งเมนูหมูทอดมิลฟิล ของที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นเมนูหมูทอดเพื่อสุขภาพ เพราะว่าทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ โดยใช้ น้ำมันคาโนลา ที่หมู่ของคนรักสุขภาพรู้จักกันดีว่าเป็นน้ำมันคุณภาพสูง เนื่องจากสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ นำมาทอดหมูแล้วก็ยังไม่คงความกรอบอร่อยแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี รวมถึงทางร้านยังเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม อย่างข้าวสายพันธุ์ดีส่งตรงจากญี่ปุ่น ตามความเชื่อแบบฉบับคนญี่ปุ่นว่า “การได้กินข้าวที่ดี ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลของชีวิต”

รายการอาหารของที่นี่มีความหลากหลายของเมนูทงคัตสึให้เลือกกินมากมาย รวมถึงยังมีเมนูข้าวหน้าต่างๆ แกงกะหรี่ และของกินเล่นหลายอย่างให้ลองลิ้มกันตามชอบใจ โดยถ้ามาถึงร้านแล้วแน่นอนว่าก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง หมูทอดคิมุคัทสึ (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) มาลิ้มลองกันให้ได้ โดยถ้าสั่งแบบเป็นเซตจะได้อิ่มอร่อยแบบเต็มที่กับทงคัตสึร้อนๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอันโดดเด่นของทางร้าน คือ การนำเอาหมูส่วนสันนอกติดมันนิดหน่อยสไลด์บางๆ หมักกับซอสสูตรพิเศษ แล้วนำหมูมาพันกันเป็นชั้นๆ ถึง 25 ชั้นจนเป็นก้อน แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปังทอดด้วยน้ำมันคาโนลา แบบไฟอ่อนๆ ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กัดกินแล้วขอบอกว่าฟินปากมาก เนื้อหมูกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมันเลย มีความฉ่ำของเนื้อหมูแต่ละชั้นที่ดีเยี่ยม ราดด้วยซอสทงคัตสึสูตรเด็ดรสอร่อยกลมกล่อมปาก พร้อมกับมีข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มให้กินคู่กันแบบอิ่มท้อง แล้วมีซุปมิโซะให้ซดคล่องคอ มีผักดองให้กินเคียง และกะหล่ำปลีฝอยที่เติมได้ไม่อั้น พร้อมกับมีน้ำสลัดครีมงารสชาติดีให้กินคู่กันแบบเพลินปาก

แล้วถ้าใครชอบกินชีสแนะนำเมนูนี้ หมูทอดคิมุคัทสึรสชีส (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) หน้าตาคล้ายเมนูแรกทุกอย่าง แต่แตกต่างกันตรงที่เนื้อหมูแต่ละชั้นจะพันสอดไส้ด้วยเชดด้าชีส ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กัดแล้วจะสัมผัสได้กับชีสสีเหลืองที่นุ่มยืดเยิ้มออกมา กินแล้วเนื้อหมูนุ่มชุ่มชีส กรอบกรุบเกล็ดขนมปัง กินแล้วช่างดีต่อใจยิ่งนัก

จากนั้นชวนมาชิม เซตข้าวหน้าแซลมอนเทอริยากิ (270 บาท++) เป็นปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์แล่เป็นชิ้นกริลล์จนสุกได้ที่ ราดด้วยซอสเทอริยากิสูตรพิเศษ มาพร้อมข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่ม กินแล้วละมุนปากกับเนื้อปลาแซลมอนนุ่มๆ ชุ่มซอสเทอริยากิรสกลมกล่อมถูกปากโดนใจ มีซุปมิโซะหอมกรุ่นให้ซดร้อนๆ ชุ่มชื่นคอ และผักดองให้กินเคียงกัน

ต่อด้วยเมนูนี้ คัทสึด้งอานาโงะ (220 บาท++) ทางร้านคัดสรรปลาไหลทะเลญี่ปุ่นอย่างดี นำมาแล่เอาก้างออกหมด เหลือแต่เนื้อปลานุ่มๆ หมักกับซอสสูตรเด็ดเฉพาะ แล้วชุบเกล็ดขนมปังทอด วางมาบนข้าวญี่ปุ่นที่ผานกระบวนการหุงแบบพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมซุปมิโซะและผักดอง กินแล้วถูกปากกับเนื้อปลาไหลนุ่มนิ่ม กินละมุนลิ้นเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มปาก

ส่วนถ้าใครชอบกินแกงกะหรี่ที่นี่ก็มีให้ชิม แนะนำ ข้าวหน้าแกงกะหรี่เอบิเรนคง (230 บาท++) เป็นกุ้งเอบิตัวใหญ่ชุบแป้ง ชุบเกล้ดขนมปังทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษของทางร้าน ชิมแล้วถูกลิ้นแกงกะหรี่รสเข้มข้นกลมกล่อม กินเข้ากันดีกับกุ้งทอดกรอบนอกนุ่มในและข้าวญี่ปุ่นนุ่มลิ้น แล้วยังมีรากบัวคลุกเกล็ดขนมปังทอดกรอบให้กินแกล้มกัน และซดซุปมิโซะร้อนๆ รสดี

แล้วชวนมาอร่อยกันต่อกับ เมนจิเคมเบจ (ลูกละ 40 บาท++) เป็นหมูหมักสูตรพิเศษของทางร้านหมักกับกะหล่ำปลี คลุกเกล็ดขนมปังทอดกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ หั่นกินส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมทั้งคำ สัมผัสได้ถึงความกรอบของเกล็ดขนมปังและฉ่ำปากกับเนื้อหมูนุ่มๆ ที่ชุ่มน้ำกะหล่ำปลีรสชาติดีเยี่ยมโดนใจ

เมนูอร่อยยังไม่หมด ยังมีเของกินเล่นที่ชวนกินอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ท้องปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว (80 บาท++) เป็นท้องปลาแซลมอนที่เคี่ยวกับซอสซีอิ๊สสูตรพิเศษนาน 2 - 3 ชม. จนน้ำซีอิ๊วซึมถึงเนื้อปลา กินแล้วท้องปลาแซลมอนเนื้อนิ่มไม่มีกลิ่นคาว ได้รสชาติน้ำซีอิ๊วรสกลมกล่อมปาก

สลัดมันฝรั่ง (80 บาท++) ถ้าใครชอบกินสลัดสั่งมากินถูกปากดีจริง กับมันฝรั่งบดที่ปรุงรสมาแล้ว มีส่วนผสมของแครอท แคปเปอร์ และเบคอน บดรวมกันจนเนื้อเนียนนุ่ม โรยด้วยหอมเจียวกับพริกไทยหอมๆ กินมันบดเพลินปากดีแท้

ถัดมาชวนลองลิ้ม ยำสาหร่าย (80 บาท++) ทางร้านนำสาหร่ายญี่ปุ่นมายำปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะ โรยด้วยงาขาว กินยำสาหร่ายเคี้ยวกรุบรสอร่อยถูกปากดีจริง

แล้วอีกหนึ่งเมนูของกินเล่นที่ชวนกินคือ เกี๊ยวซ่าทอด (80 บาท++) ตัวเกี๊ยวชิ้นไม่ใหญ่นัก เป็นเกี๊ยวแบบแป้งบาง ข้างในใส่ไส้หมูปรุงรส ทอดด้วยน้ำมันคาโนลา ไม่อมน้ำมัน กินเกี๊ยวร้อนๆ แป้งบางเคี้ยวกรอบกรุบ เนื้อหมูข้างในมีรสชาติถูกปากกินเพลิน
นอกจากเมนูที่ชวนกินมากหลายเหล่านี้ที่นำเสนอมาแล้ว ในรายการอาหารก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ อุด้งแกงกะหรี่หมูคิมุคัทสึ (230 บาท++) ข้าวหน้าเนื้อเทอริยากิ (290 บาท++) อานาโงะชุบเกล็ดขนมปัง (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) เอบิเรนคงชุบเกล็ดขนมปัง (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) ไอศกรีมฮอกไกโดมิลค์ และไอศกรีมชาเขียวต้นตำรับ (80 บาท++ แต่ถ้าสั่งอาหารเป็นเซตซื้อได้ในราคา 60 บาท++) เป็นต้น ซึ่งถ้าหากว่าใครพิสมัยเมนูทงคัตสึอร่อยๆ ที่กรอบนอกนุ่มใน ขอแนะนำว่า “KIMUKATSU TEI” เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยากชวนให้มาลองลิ้มกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“KIMUKATSU TEI” ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า ชั้น G เปิดวันจันทร์ - วันพฤหัส เวลา 10.30 - 22.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.00 น.) วันศุกร์ เวลา 10.30 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) วันเสาร์ เวลา 10.00 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.00 น.) วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) โทร. 06-1594-5952 แล้ว KIMUKATSU ยังมีสาขาอื่นๆ อีก มีที่สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า พระรามสาม ชั้น 6 โทร. 06-1535-8666, สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 3 โทร. 06-2186-6641, สาขาสยามทากาชิมาย่า ชั้น G และสาขาเดอะมาร์เก็ต ชั้น 3
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
หากว่ามิตรรักนักกินคนไหนชื่นชอบกินอาหารญี่ปุ่นอย่าง “ทงคัตสึ” (Tonkatsu) ซึ่งเป็นเมนูหมูชุบแป้งทอดที่กรอบนอกนุ่มใน “ตระเวนกิน” ขอแนะนำให้มาอิ่มเอมกับทงคัตสึแบบต้นตำรับญี่ปุ่นขนานแท้กันที่ร้านนี้ “KIMUKATSU TEI” ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า ชั้น G
“KIMUKATSU” เป็นร้านทงคัตสึที่มีชื่อเสียง โดยสาขาแรกอยู่ที่ย่านเอบิสึ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันมีสาขากว่า 20 สาขา ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศไทยของเราก็มีเปิดอยู่หลายสาขา เพื่อให้เหล่านักกินชาวไทยจะได้ลิ้มรสทงคัตสึรสยอดเยี่ยมแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องบินไปกินไกลถึงประเทศญี่ปุ่น
สำหรับความพิเศษอันโดดเด่นของทงคัตสึของร้านนี้ ก็คือ หมูทอดมิลฟิลคัทสึตามต้นตำรับ (ชื่อมิลฟิล มาจากการเรียงชั้นของหมูที่เมื่อนำมาเรียงชั้น จะคล้ายกับขนมมิลฟิลของฝรั่งเศส) โดย “มิลฟิลคัทสึ” คือเนื้อหมูสไลด์บางถึง 25 ชั้น บรรจงใส่ไส้ต่างๆ และห่ออย่างพิถีพิถัน จากนั้นนำไปชุบเกล็ดขนมปังจนทั่วชิ้น และจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสมก่อนจะนำมาทอด
อีกทั้งเมนูหมูทอดมิลฟิล ของที่นี่ยังได้ชื่อว่าเป็นเมนูหมูทอดเพื่อสุขภาพ เพราะว่าทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ โดยใช้ น้ำมันคาโนลา ที่หมู่ของคนรักสุขภาพรู้จักกันดีว่าเป็นน้ำมันคุณภาพสูง เนื่องจากสามารถช่วยลดไขมันในเลือดได้ นำมาทอดหมูแล้วก็ยังไม่คงความกรอบอร่อยแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี รวมถึงทางร้านยังเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมียม อย่างข้าวสายพันธุ์ดีส่งตรงจากญี่ปุ่น ตามความเชื่อแบบฉบับคนญี่ปุ่นว่า “การได้กินข้าวที่ดี ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลของชีวิต”
รายการอาหารของที่นี่มีความหลากหลายของเมนูทงคัตสึให้เลือกกินมากมาย รวมถึงยังมีเมนูข้าวหน้าต่างๆ แกงกะหรี่ และของกินเล่นหลายอย่างให้ลองลิ้มกันตามชอบใจ โดยถ้ามาถึงร้านแล้วแน่นอนว่าก็ต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง หมูทอดคิมุคัทสึ (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) มาลิ้มลองกันให้ได้ โดยถ้าสั่งแบบเป็นเซตจะได้อิ่มอร่อยแบบเต็มที่กับทงคัตสึร้อนๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอันโดดเด่นของทางร้าน คือ การนำเอาหมูส่วนสันนอกติดมันนิดหน่อยสไลด์บางๆ หมักกับซอสสูตรพิเศษ แล้วนำหมูมาพันกันเป็นชั้นๆ ถึง 25 ชั้นจนเป็นก้อน แล้วนำไปคลุกเกล็ดขนมปังทอดด้วยน้ำมันคาโนลา แบบไฟอ่อนๆ ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กัดกินแล้วขอบอกว่าฟินปากมาก เนื้อหมูกรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมันเลย มีความฉ่ำของเนื้อหมูแต่ละชั้นที่ดีเยี่ยม ราดด้วยซอสทงคัตสึสูตรเด็ดรสอร่อยกลมกล่อมปาก พร้อมกับมีข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มให้กินคู่กันแบบอิ่มท้อง แล้วมีซุปมิโซะให้ซดคล่องคอ มีผักดองให้กินเคียง และกะหล่ำปลีฝอยที่เติมได้ไม่อั้น พร้อมกับมีน้ำสลัดครีมงารสชาติดีให้กินคู่กันแบบเพลินปาก
แล้วถ้าใครชอบกินชีสแนะนำเมนูนี้ หมูทอดคิมุคัทสึรสชีส (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) หน้าตาคล้ายเมนูแรกทุกอย่าง แต่แตกต่างกันตรงที่เนื้อหมูแต่ละชั้นจะพันสอดไส้ด้วยเชดด้าชีส ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ กัดแล้วจะสัมผัสได้กับชีสสีเหลืองที่นุ่มยืดเยิ้มออกมา กินแล้วเนื้อหมูนุ่มชุ่มชีส กรอบกรุบเกล็ดขนมปัง กินแล้วช่างดีต่อใจยิ่งนัก
จากนั้นชวนมาชิม เซตข้าวหน้าแซลมอนเทอริยากิ (270 บาท++) เป็นปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์แล่เป็นชิ้นกริลล์จนสุกได้ที่ ราดด้วยซอสเทอริยากิสูตรพิเศษ มาพร้อมข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่ม กินแล้วละมุนปากกับเนื้อปลาแซลมอนนุ่มๆ ชุ่มซอสเทอริยากิรสกลมกล่อมถูกปากโดนใจ มีซุปมิโซะหอมกรุ่นให้ซดร้อนๆ ชุ่มชื่นคอ และผักดองให้กินเคียงกัน
ต่อด้วยเมนูนี้ คัทสึด้งอานาโงะ (220 บาท++) ทางร้านคัดสรรปลาไหลทะเลญี่ปุ่นอย่างดี นำมาแล่เอาก้างออกหมด เหลือแต่เนื้อปลานุ่มๆ หมักกับซอสสูตรเด็ดเฉพาะ แล้วชุบเกล็ดขนมปังทอด วางมาบนข้าวญี่ปุ่นที่ผานกระบวนการหุงแบบพิเศษ เสิร์ฟมาพร้อมซุปมิโซะและผักดอง กินแล้วถูกปากกับเนื้อปลาไหลนุ่มนิ่ม กินละมุนลิ้นเข้ากับข้าวญี่ปุ่นเม็ดนุ่มปาก
ส่วนถ้าใครชอบกินแกงกะหรี่ที่นี่ก็มีให้ชิม แนะนำ ข้าวหน้าแกงกะหรี่เอบิเรนคง (230 บาท++) เป็นกุ้งเอบิตัวใหญ่ชุบแป้ง ชุบเกล้ดขนมปังทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษของทางร้าน ชิมแล้วถูกลิ้นแกงกะหรี่รสเข้มข้นกลมกล่อม กินเข้ากันดีกับกุ้งทอดกรอบนอกนุ่มในและข้าวญี่ปุ่นนุ่มลิ้น แล้วยังมีรากบัวคลุกเกล็ดขนมปังทอดกรอบให้กินแกล้มกัน และซดซุปมิโซะร้อนๆ รสดี
แล้วชวนมาอร่อยกันต่อกับ เมนจิเคมเบจ (ลูกละ 40 บาท++) เป็นหมูหมักสูตรพิเศษของทางร้านหมักกับกะหล่ำปลี คลุกเกล็ดขนมปังทอดกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ หั่นกินส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมทั้งคำ สัมผัสได้ถึงความกรอบของเกล็ดขนมปังและฉ่ำปากกับเนื้อหมูนุ่มๆ ที่ชุ่มน้ำกะหล่ำปลีรสชาติดีเยี่ยมโดนใจ
เมนูอร่อยยังไม่หมด ยังมีเของกินเล่นที่ชวนกินอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ท้องปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว (80 บาท++) เป็นท้องปลาแซลมอนที่เคี่ยวกับซอสซีอิ๊สสูตรพิเศษนาน 2 - 3 ชม. จนน้ำซีอิ๊วซึมถึงเนื้อปลา กินแล้วท้องปลาแซลมอนเนื้อนิ่มไม่มีกลิ่นคาว ได้รสชาติน้ำซีอิ๊วรสกลมกล่อมปาก
สลัดมันฝรั่ง (80 บาท++) ถ้าใครชอบกินสลัดสั่งมากินถูกปากดีจริง กับมันฝรั่งบดที่ปรุงรสมาแล้ว มีส่วนผสมของแครอท แคปเปอร์ และเบคอน บดรวมกันจนเนื้อเนียนนุ่ม โรยด้วยหอมเจียวกับพริกไทยหอมๆ กินมันบดเพลินปากดีแท้
ถัดมาชวนลองลิ้ม ยำสาหร่าย (80 บาท++) ทางร้านนำสาหร่ายญี่ปุ่นมายำปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะ โรยด้วยงาขาว กินยำสาหร่ายเคี้ยวกรุบรสอร่อยถูกปากดีจริง
แล้วอีกหนึ่งเมนูของกินเล่นที่ชวนกินคือ เกี๊ยวซ่าทอด (80 บาท++) ตัวเกี๊ยวชิ้นไม่ใหญ่นัก เป็นเกี๊ยวแบบแป้งบาง ข้างในใส่ไส้หมูปรุงรส ทอดด้วยน้ำมันคาโนลา ไม่อมน้ำมัน กินเกี๊ยวร้อนๆ แป้งบางเคี้ยวกรอบกรุบ เนื้อหมูข้างในมีรสชาติถูกปากกินเพลิน
นอกจากเมนูที่ชวนกินมากหลายเหล่านี้ที่นำเสนอมาแล้ว ในรายการอาหารก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีกมากมาย อาทิ อุด้งแกงกะหรี่หมูคิมุคัทสึ (230 บาท++) ข้าวหน้าเนื้อเทอริยากิ (290 บาท++) อานาโงะชุบเกล็ดขนมปัง (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) เอบิเรนคงชุบเกล็ดขนมปัง (เซต 230 บาท++ จานเดียว 180 บาท++) ไอศกรีมฮอกไกโดมิลค์ และไอศกรีมชาเขียวต้นตำรับ (80 บาท++ แต่ถ้าสั่งอาหารเป็นเซตซื้อได้ในราคา 60 บาท++) เป็นต้น ซึ่งถ้าหากว่าใครพิสมัยเมนูทงคัตสึอร่อยๆ ที่กรอบนอกนุ่มใน ขอแนะนำว่า “KIMUKATSU TEI” เป็นอีกหนึ่งร้านที่อยากชวนให้มาลองลิ้มกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“KIMUKATSU TEI” ตั้งอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า ชั้น G เปิดวันจันทร์ - วันพฤหัส เวลา 10.30 - 22.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.00 น.) วันศุกร์ เวลา 10.30 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) วันเสาร์ เวลา 10.00 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 22.00 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.00 น.) วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 - 22.30 น. (สั่งอาหารได้ถึง 21.30 น.) โทร. 06-1594-5952 แล้ว KIMUKATSU ยังมีสาขาอื่นๆ อีก มีที่สาขาเซ็นทรัลพลาซ่า พระรามสาม ชั้น 6 โทร. 06-1535-8666, สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ ชั้น 3 โทร. 06-2186-6641, สาขาสยามทากาชิมาย่า ชั้น G และสาขาเดอะมาร์เก็ต ชั้น 3
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager