โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
![ภูชี้ดาว หนึ่งในจุดชมทะเลหมอกอันงดงามของจังหวัดเชียงราย](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957301.JPEG)
“ณ ราตรีหนึ่ง ซึ่งยังฝังใจ
เชียงรายฟ้าแจ่ม คืนนั้นวาวแวม
ด้วยแสงจันทรา นภาสดใส...”(เพลง : เชียงรายรำลึก)
เวลาขึ้นเหนือไปแอ่วเชียงรายคราใด ผมมักอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเชียงรายรำลึกอยู่เสมอ ๆ
สำหรับราตรีในค่ำคืนนี้ที่เชียงรายก็ไม่ต่างกัน
ผมนั่งโดดเดี่ยวดื่มด่ำดูดาวฮัมเพลงเชียงรายรำลึกไปเบา ๆ อยู่ ณ ที่พักบรรยากาศดีแห่งหนึ่งบริเวณดอยผาตั้ง ซึ่งหลังจากได้ไปเดินขึ้นเขา ชมวิวฝั่งไทย-ลาว และชมพระอาทิตย์ตกบนดอยผาตั้งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
![จุดชมวิวหลักกิโลฯ ไฮไลท์บนยอดภูชี้ดาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957302.JPEG)
ณ ราตรีนี้ที่อาจจะยาวไกลสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมขอสรุปรวบรัดแค่ไม่เกินเที่ยงคืน เพราะพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้ามืด เราต้องออกไปขึ้น“ภูชี้ดาว”เพื่อเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกัน
ภูหัวโล้น
ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ประมาณ 2 ปีเศษ ๆ
![ภูชี้ดาว เดิมชาวบ้านเรียกขานกันว่าภูหัวโล้นตามลักษณะของยอดภูที่ดูโล่งเตียน](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957303.JPEG)
พี่“แสงคม กมลาศน์มรกต” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิ์เงิน(หมู่บ้านแผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง) หนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกปลุกปั้นสร้างชื่อให้กับภูแห่งนี้ เล่าว่า
เดิมภูชี้ดาวชาวบ้านเรียกกันว่า“ภูหัวโล้น” ตามลักษณะของยอดภูที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้าโล่งเตียน
หลังภูชี้ฟ้า(อ.เทิง)มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในยุคโซเชียลมีเดีย ในฐานะจุดชมทะเลหมอกแสนงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
![ราวกันตกบนยอดภูชี้ดาวที่ชาวบ้านมาร่วมกันปรับปรุงเส้นทาง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957304.JPEG)
ชาวบ้านร่มโพธิ์เงินที่คุ้นชินกับภูหัวโล้นมานาน มองเห็นว่าภูลูกนี้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้านั้นก็มีดีไม่แพ้กัน มีทะเลหมอกที่งดงามไม่แพ้กัน จึงได้ขออนุญาตทางหน่วยงานภาครัฐผู้ดูแล พัฒนาภูหัวโล้นให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เคียงคู่กับภูชี้ฟ้า
ชาวบ้านที่นี่จึงได้ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดภู(ด้วยกำลังทรัพย์และกำลังแรงของตัวเอง) ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงถนนขึ้นภู ปรับแต่งทางเดินที่สูงชันให้เป็นทางขั้นบันไดดินที่เดินเหินสะดวกขึ้น ทำราวจับตามจุดต่าง ๆ ในเส้นทางเดินขึ้นภู และทำราวกันตกไว้บริเวณทางเดินบนสันเขายอดภู รวมถึงมีการปรับแต่งภูมิทัศน์แต่พองาม
![ทะเลหมอกยามเช้า เมื่อมองจากยอดภูสอยดาวไปทางฝั่งสปป.ลาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957305.JPEG)
พร้อมกันนี้พวกเขายังเปลี่ยนชื่อเรียกขานภูหัวโล้นเสียใหม่ว่า“ภูชี้ดาว” ตามลักษณะของยอดภูแห่งนี้ ซึ่งในช่วงคืนเดือนหงาย ประมาณตี 4- ตี 5 จะมองยอดภูชี้ขึ้นฟ้าเคียงกับหมู่ดาวและดวงจันทร์ที่สุกสกาวดูสวยงาม
และเพื่อให้สอดรับกับชื่อ“ภูชี้ฟ้า”อันโด่งดัง ซึ่งเป็นต้นตำรับของภูตระกูล“ชี้” อันสวยงามของจังหวัดเชียงราย
ภูชี้ดาว
![จุดชมวิวหลักกิโลฯที่คนมือบอนชอบมาขีดเขียนจนกลายเป็นข่าวใหญ่โต](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957306.JPEG)
ช่วงแรก ๆ ที่เปิดภูชี้ดาวใหม่ ๆ ยังมีคนรู้จักภูแห่งนี้กันไม่มาก แต่หลังจากที่นักร้องชื่อไม่ดังคนหนึ่งไปทำพฤติกรรมน่ารังเกียจไว้ ด้วยพฤติกรรม“มือบอน”เขียนชื่อของตัวเองไว้บนหลักกิโลฯยอดภูชี้ดาว จนถูกชาวเน็ตถล่มเละเทะ
นั่นเลยทำให้ภูชี้ดาวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในฐานะจุดชมทะเลหมอกอันสวยงามอลังการแห่งใหม่ของเมืองไทย พร้อมกันนี้ก็ทำให้คนพลอยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของนักร้องมือบอนคนนั้นกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
มาวันนี้ชื่อเสียงของภูชี้ดาวยังคงอยู่ แต่ชื่อเสียงของนักร้องคนนั้นดูจะเงียบหายเข้ากลีบเมฆหมอกไปอีกครั้ง
![เส้นทางเริ่มต้นที่บ้านร่มโพธิ์เงินในการนั่งรถขึ้นไปสู่ภูชี้ดาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957307.JPEG)
สำหรับการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว นักท่องเที่ยวควรเดินทางจากที่พักมาถึงที่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงินกันตั้งแต่เช้ามืด ราว ๆ ตี 5
จากนั้นให้จอดรถไว้ที่จุดจอดรถของหมู่บ้าน(มีชาวบ้านดูแลให้) แล้วเปลี่ยนมาใช้บริการรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อของชุมชน นั่งรถฝ่าทางวิบากขึ้นเขาไปอีก 3 กม.
![ลานจอดรถขึ้น-ลง ภูชี้ดาว(มองจากยอดภูชี้ดาว)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957308.JPEG)
ทั้งนี้ปัจจุบันที่นี่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาวเอง เนื่องจากเส้นทางเป็นถนนลูกรังขึ้นเขาสูงชันคดเคี้ยว แถมยังแคบอีกต่างหาก ซึ่งหากนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปเองอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง
หลังผมนั่งกระบะ กระเด้งกระดอนฝ่าลมหนาวไปบนถนนลูกรังคดเคี้ยวสูงชัน ประมาณ 3 กม. ก็จะมาถึงยังจุดสิ้นสุดทางถนน
![เส้นทางเดินเท้าขึ้น-ลง ยอดภูชี้ดาว(ประมาณ 350 เมตร)](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957309.JPEG)
ณ จุด ๆ นี้ เราต้องเดินทางขึ้นเขา(ภู)ไปอีกประมาณ 350 เมตร เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชันที่แม้ชาวบ้านจะปรับทางเดินไว้อย่างดี และเดินไม่ไกลมาก(อารมณ์เดียวกับการเดินขึ้นภูชี้ฟ้าแต่ทางเดินสั้นกว่า) แต่ก็ทำเอาผมเดินเหนื่อยลิ้นห้อย ชนิดต้องแวะพักกันอยู่บ่อยครั้ง
ต่อจากนั้นก็จะขึ้นมาถึงแนวสันยอดภูชี้ดาวที่เป็นแนวภูเขาหญ้าโล่งเตียน มีทางเดินเล็ก ๆ แคบ ๆ และมีราวกันตกให้เราค่อย ๆ เดินด้วยความระมัดระวัง เลาะแนวสันบนยอดเขาขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว บนระดับความสูง 1,720 เมตรจากระดับน้ำทะเล(อ้างอิงตัวเลขจากผู้ช่วยแสงคม)
![ทางเดินชมวิวบนยอดภูชี้ดาว แม้มีราวกันตกแต่ก็ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957310.JPEG)
จากแนวสันเขานี้เมื่อมองไปตามทางเบื้องหน้าจะเห็นยอดภูชี้ดาว ที่เป็นสันเขาแคบ ๆ มีปลายยอดเป็นจงอยแหลมเชิดชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงเดือน และหมู่ดาวสมดังฉายา “ภูชี้ดาว”
ทะเลหมอกอลังการ
บนแนวสันยอดภูชี้ดาวมีจุดชมวิวเป็นทางยาว(แต่แคบ) ให้เลือกหามุมถ่ายรูปกัน โดยที่จุดสิ้นสุดของยอดเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวไฮไลท์ได้มีการสร้างราวกันตกและหลักกิโลไว้ แต่เนื่องจากบริเวณนี้มีพื้นที่แคบ ๆ ยืนกันได้ไม่กี่คน ยังไงขอความกรุณานักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนนี้ช่วยแบ่งปันจุดชมวิว(ไฮไลท์)กันแบบเปี่ยมมิตรไมตรี
![วิวทิวทัศน์ทิวเขาและถนนในฝั่งไทย](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957311.JPEG)
อย่ายืนแช่ยึดจุดชมวิวไว้เพียงคนเดียว กลุ่มเดียว เมื่อได้รูปแล้วก็ควรถอยออกมาให้นักท่องเที่ยวคนอื่นเข้าไปถ่ายรูปที่จุดไฮไลท์บ้าง นี่แหละถึงจะได้ชื่อว่า “เที่ยวไทยเท่” ด้วยเสน่ห์แบบไทย ๆ มีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
สำหรับในเช้าวันนั้น ผมกับเพื่อน ๆ มาเดินถึงยอดภูชี้ดาวประมาณ ตี 5 ปลาย ๆ แบบใจหวั่น ๆ เพราะหมอกลอยปกคลุมหนาทึบ มองทัศนียภาพเบื้องหน้าแค่ประมาณ 10 เมตรยังไม่เห็น กระทั่งถึง 6 โมงกว่า ๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ฟ้าก็ยังไม่เป็นใจ หมอกยังคงลอยปกคลุมแน่นหนา จนเราอดคิดไม่ว่าเช้านี้คงจะพลาดหวัง
![ภูชี้ดาวมีปลายยอดแหลมเชิดชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงเดือน และหมู่ดาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957312.JPEG)
แต่จากนั้นไม่นาน ฟ้าก็ค่อย ๆ เปิด ให้เรามองเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าได้อย่างงดงาม โดยทางฝั่งสปป.ลาวนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยภาพของทะเลหมอกอันสวยงามอลังการกว้างไกล ที่กำลังค่อย ๆ ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ที่โผล่ยอดแทรกแซมเติมเต็มในองค์ประกอบ
ครั้นเมื่อแสงตะวันยามเช้าอันเรื่อเรืองได้สาดส่องมาโลมไล้ไปตามหมู่ทะเลหมอกอันขาวโพลน ดูแล้วช่างอบอุ่นนุ่มนวลดุจดังทะเลปุยนุ่นหรือขนมปุยฝ้ายแผ่นยักษ์อันยั่วยวน ดูแล้วน่าประทับใจกระไรปานนั้น
![ทะเลหมอกยามเช้าลอยละล่องทางฝั่งสปป.ลาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957313.JPEG)
ขณะที่วิวทิวทัศน์ทางฝั่งไทยในเช้าวันนั้นมีหมอกค่อนข้างน้อย แต่ที่ดีเสน่ห์มากก็คือ จากจุดชมวิวไฮไลท์ตรงหลักกิโลฯเมื่อมองออกไปจะเห็นแนวสันเทือกเขาของภูชี้ฟ้าทอดยาวตระหง่านเงื้อม มียอดภูแหลมชี้เด่น ซึ่งในเช้าวันนั้นมีภาพของน้ำตกหมอกที่ค่อย ๆ ลอยเลื่อนไหลเข้าปกคลุมยอดภูชี้ฟ้าดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
![แนวเทือกเขาภูชี้ฟ้า(ยอดแหลม)ในช่วงเวลาที่สายหมอกลอยไหลเข้าห่มคลุม](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957314.JPEG)
เที่ยวเชื่อมโยง ภูชี้ดาว-ชี้เดือน-ชี้ฟ้า-ผาตั้ง
ภูชี้ดาวนอกจากจะเป็นหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกอันสวยงามอลังการของบ้านเราแล้ว ยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 4 ประสาน คือ “ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน-ภูชี้ฟ้า และดอยผาตั้ง”
โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมก็คือช่วงเย็นไปชมวิวไทย-ลาว ชมพระอาทิตย์ตกบน “ดอยผาตั้ง” ที่ ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
![เส้นทางเดินและนั่งม้าเที่ยวดอยผาตั้ง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957315.JPEG)
ดอยผาตั้ง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นแห่งทิวเขาหลวงพระบาง(เช่นเดียวกับภูชี้ฟ้า) มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร และอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 25 ก.ม. โดยเป็นภูเขากั้นเขตแดนไทย-ลาว ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดีที่ชมพระอาทิตย์ได้ทั้งในยามเช้าและเย็น โดยในตอนเช้าก็จะได้ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสวยงาม ส่วนยามเย็นถือเป็นจุดชมทิวทัศน์และจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งามไม่แพ้ใคร
![วิวทิวทัศน์ฝั่งลาว ที่มีแม่น้ำโขงไหลผ่าน เมื่อมองจากบนยอดดอยผาตั้ง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957316.JPEG)
บริเวณดอยผาตั้งมีสิ่งน่าสนใจให้เลือกเที่ยวชมกัน อาทิ “ผาบ่อง” ที่เป็นดังประตูสยามสู่ประเทศลาว, “ช่องเขาขาด” อีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ๆ มีลักษณะเป็นช่องเขาแคบ ๆ ที่ขาดแยกออกจากกัน สามารถไปยืนชมวิวของฝั่งลาวประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสวยงาม, เนิน 102 และ เนิน 103 จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้บริเวณผาตั้งยังมี ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่,พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ, ป่าหินยูนนาน และการ"นั่งม้าชมดอย" เที่ยวบริเวณผาตั้งสำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ไม่ชอบเหนื่อย ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างสูง
![นั่งม้าชมดอย หนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที้่ยวนิยมเมื่อมาเที่ยวที่ผาตั้ง](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957317.JPEG)
จากชมวิวผาตั้งยามเย็น ในเช้าวันรุ่งขึ้น มีเส้นทางให้เลือกไปเที่ยวชมทะเลหมอก ใน 3 จุดหลักด้วยกัน คือ ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว และ ภูชี้เดือน ที่ล้วนต่างเป็นจุดชมทะเลหมอกแสนงามและตั้งอยู่ไม่ไกลกัน สามารถเดินทางไปชมความงามของทั้ง 3 ภูได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือภายในช่วงเช้าของทริป(หากว่ามีแรงเดิน)
สำหรับในทริปนี้ผมเลือกเที่ยวภูชี้ดาวเป็นหลักซึ่งมีมนต์เสน่ห์ความงามตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น และเอาภูชี้ดาวเป็นศูนย์กลาง โดยภูชี้ดาวตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 กม.
![ทะเลหมอกภูชี้ฟ้า](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957318.JPEG)
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย อ.เทิง จ.เชียงราย บนรอยต่อของเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นที่เป็นดังหลังคาเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร มีรูปพรรณสัณฐานอันโดดเด่นด้วยลักษณะเป็นหน้าผาตัด ยอดภูเป็นเหลี่ยมแหลมทิ่มแทงฟ้า ถือเป็นต้นตำรับเจ้าแรกแห่งพี่น้องภูตระกูล“ชี้”ของเชียงราย
นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์และทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้ากันตั้งแต่เช้ามืดท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและลมพัดแรง โดยจากบริเวณจุดจอดรถจะต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตรก็จะถึงยอดภูชี้ฟ้า
![ทะเลหมอกและแนวผายอดภู สัญลักษณ์แห่งภูชี้ฟ้า](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957319.JPEG)
นอกจากจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูชี้ฟ้าอันงดงามแล้ว ในระหว่างทางเดินขึ้นยอดภูยังมีจุดชมวิวไฮไลท์ที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูชี้ฟ้า นั่นก็คือ จุดที่สามารถมองเห็นยอดแหลมของภูที่ชี้พุ่งไปสู่ท้องฟ้า ท่ามกลางทะเลหมอกหนาเป็นปุย พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และแนวยอดภูเบื้องล่างได้อย่างลงตัวงดงาม
ขณะที่ในส่วนเส้นทางระหว่างภูชี้ดาวกับภูชี้เดือนนั้น อยู่ห่างกันแค่ประมาณ 500 เมตร
ภูชี้เดือน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ล่าสุด เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึง 2 ปี(หลังภูชี้ดาว) ภูชี้เดือนเป็นเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าหลวง ม.12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 8 ก.ม.
![ภูชี้เดือน สถานที่เที่้ยวชมทะเลหมอกน้องใหม่แห่งภูตระกูลชี้](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957320.JPEG)
สภาพภูมิประเทศของภูชี้เดือนเป็นเนินเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดนฝั่งไทย อีกด้านเป็นพื้นที่ของฝั่ง สปป.ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และมียอดภูชี้เดือน ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร ตั้งโดดเด่นอยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและผาตั้ง และด้วยความสูงของภูชี้เดือน ที่สูงกว่ายอดภูเขาลูกอื่นทำให้สามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ภูชี้ดาว ได้พร้อมกันทั้ง 3 ลูกเลยทีเดียว
และนี่ก็คือเส้นทาง 4 ประสานเชื่อมโยง ดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวเชื่อมโยงให้ครบทั้ง 4 จุด ภายในช่วงเย็นต่อถึงครึ่งวันเช้าได้อย่างไม่ยากเย็น
นับเป็นมนต์เสน่ห์แห่ง 4 จุดชมวิวของจังหวัดเชียงรายที่อยู่ไม่ไกลกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเชียงรายรำลึกอันน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าประทับใจกระไรปานนั้น
![ทิวทัศน์ทะเลหมอกบนยอดภูชี้ดาว](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/561000011957321.JPEG)
....................................................................................................
ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย การเดินทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว สามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง
-เส้นทางที่ 1 : จาก อ.เวียงแก่น ใช้เส้นทาง ผาตั้ง - ภูชี้ฟ้า ก่อนถึงภูชี้ฟ้า 12 กม. จะมีป้ายบอกทางอยู่ซ้ายมือ เป็นหมู่ 11 บ้านร่มโพธิ์เงิน ต.ปอ อ.เวียงแก่น
-เส้นทางที่ 2 : จากภูชี้ฟ้า ใช้เส้นทางภูชีฟ้า - ผาตั้ง ระยะห่างจากภุชี้ไปภูชี้ดาว ประมาณ 12 กม. จะเข้าสู่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงิน ขับรถจนหมู่หมู่ 11 จะมีป้ายภูชี้ดาว อยู่ด้านขวามือ
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเดินทางจากที่พักมาถึงที่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงินกันตั้งแต่เช้ามืด ราว ๆ ตี 4 ครึ่งถึง 5 จากนั้นให้จอดรถไว้ที่จุดจอดรถของหมู่บ้าน(มีชาวบ้านดูแลให้) แล้วเปลี่ยนมาใช้บริการรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อของชุมชน ค่าโดยสารคนละ 100 บาท/คน/2 เที่ยว (นั่งไป-กลับ 6 กม.) หากจำนวนคนน้อยกว่า 5 คน ให้เหมาคันละ 500 บาท และควรโทร.จองก่อนล่วงหน้า
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โทร. 0-5360-2742 , 0-5360-2743, หรือที่ 09-3140 -7132, 09-3253-2649,08-2184-0504
และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายเชื่อมโยงกับภูชี้ดาว ภูชี้เดือน ภูชี้ฟ้า และดอยผาตั้ง รวมถึง ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย (รับผิดชอบพื้นที่ เชียงราย,พะเยา) โทร. 0-5371-7433, 0-5374-4674-5
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
“ณ ราตรีหนึ่ง ซึ่งยังฝังใจ
เชียงรายฟ้าแจ่ม คืนนั้นวาวแวม
ด้วยแสงจันทรา นภาสดใส...”(เพลง : เชียงรายรำลึก)
เวลาขึ้นเหนือไปแอ่วเชียงรายคราใด ผมมักอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเชียงรายรำลึกอยู่เสมอ ๆ
สำหรับราตรีในค่ำคืนนี้ที่เชียงรายก็ไม่ต่างกัน
ผมนั่งโดดเดี่ยวดื่มด่ำดูดาวฮัมเพลงเชียงรายรำลึกไปเบา ๆ อยู่ ณ ที่พักบรรยากาศดีแห่งหนึ่งบริเวณดอยผาตั้ง ซึ่งหลังจากได้ไปเดินขึ้นเขา ชมวิวฝั่งไทย-ลาว และชมพระอาทิตย์ตกบนดอยผาตั้งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
ณ ราตรีนี้ที่อาจจะยาวไกลสำหรับใครบางคน แต่สำหรับผมขอสรุปรวบรัดแค่ไม่เกินเที่ยงคืน เพราะพรุ่งนี้ตั้งแต่เช้ามืด เราต้องออกไปขึ้น“ภูชี้ดาว”เพื่อเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกัน
ภูหัวโล้น
ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ประมาณ 2 ปีเศษ ๆ
พี่“แสงคม กมลาศน์มรกต” ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มโพธิ์เงิน(หมู่บ้านแผ่นดินธรรม-แผ่นดินทอง) หนึ่งในผู้ร่วมบุกเบิกปลุกปั้นสร้างชื่อให้กับภูแห่งนี้ เล่าว่า
เดิมภูชี้ดาวชาวบ้านเรียกกันว่า“ภูหัวโล้น” ตามลักษณะของยอดภูที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้าโล่งเตียน
หลังภูชี้ฟ้า(อ.เทิง)มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในยุคโซเชียลมีเดีย ในฐานะจุดชมทะเลหมอกแสนงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
ชาวบ้านร่มโพธิ์เงินที่คุ้นชินกับภูหัวโล้นมานาน มองเห็นว่าภูลูกนี้ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้านั้นก็มีดีไม่แพ้กัน มีทะเลหมอกที่งดงามไม่แพ้กัน จึงได้ขออนุญาตทางหน่วยงานภาครัฐผู้ดูแล พัฒนาภูหัวโล้นให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่เคียงคู่กับภูชี้ฟ้า
ชาวบ้านที่นี่จึงได้ร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาเส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดภู(ด้วยกำลังทรัพย์และกำลังแรงของตัวเอง) ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงถนนขึ้นภู ปรับแต่งทางเดินที่สูงชันให้เป็นทางขั้นบันไดดินที่เดินเหินสะดวกขึ้น ทำราวจับตามจุดต่าง ๆ ในเส้นทางเดินขึ้นภู และทำราวกันตกไว้บริเวณทางเดินบนสันเขายอดภู รวมถึงมีการปรับแต่งภูมิทัศน์แต่พองาม
พร้อมกันนี้พวกเขายังเปลี่ยนชื่อเรียกขานภูหัวโล้นเสียใหม่ว่า“ภูชี้ดาว” ตามลักษณะของยอดภูแห่งนี้ ซึ่งในช่วงคืนเดือนหงาย ประมาณตี 4- ตี 5 จะมองยอดภูชี้ขึ้นฟ้าเคียงกับหมู่ดาวและดวงจันทร์ที่สุกสกาวดูสวยงาม
และเพื่อให้สอดรับกับชื่อ“ภูชี้ฟ้า”อันโด่งดัง ซึ่งเป็นต้นตำรับของภูตระกูล“ชี้” อันสวยงามของจังหวัดเชียงราย
ภูชี้ดาว
ช่วงแรก ๆ ที่เปิดภูชี้ดาวใหม่ ๆ ยังมีคนรู้จักภูแห่งนี้กันไม่มาก แต่หลังจากที่นักร้องชื่อไม่ดังคนหนึ่งไปทำพฤติกรรมน่ารังเกียจไว้ ด้วยพฤติกรรม“มือบอน”เขียนชื่อของตัวเองไว้บนหลักกิโลฯยอดภูชี้ดาว จนถูกชาวเน็ตถล่มเละเทะ
นั่นเลยทำให้ภูชี้ดาวเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในฐานะจุดชมทะเลหมอกอันสวยงามอลังการแห่งใหม่ของเมืองไทย พร้อมกันนี้ก็ทำให้คนพลอยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของนักร้องมือบอนคนนั้นกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
มาวันนี้ชื่อเสียงของภูชี้ดาวยังคงอยู่ แต่ชื่อเสียงของนักร้องคนนั้นดูจะเงียบหายเข้ากลีบเมฆหมอกไปอีกครั้ง
สำหรับการเดินทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว นักท่องเที่ยวควรเดินทางจากที่พักมาถึงที่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงินกันตั้งแต่เช้ามืด ราว ๆ ตี 5
จากนั้นให้จอดรถไว้ที่จุดจอดรถของหมู่บ้าน(มีชาวบ้านดูแลให้) แล้วเปลี่ยนมาใช้บริการรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อของชุมชน นั่งรถฝ่าทางวิบากขึ้นเขาไปอีก 3 กม.
ทั้งนี้ปัจจุบันที่นี่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาวเอง เนื่องจากเส้นทางเป็นถนนลูกรังขึ้นเขาสูงชันคดเคี้ยว แถมยังแคบอีกต่างหาก ซึ่งหากนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปเองอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง
หลังผมนั่งกระบะ กระเด้งกระดอนฝ่าลมหนาวไปบนถนนลูกรังคดเคี้ยวสูงชัน ประมาณ 3 กม. ก็จะมาถึงยังจุดสิ้นสุดทางถนน
ณ จุด ๆ นี้ เราต้องเดินทางขึ้นเขา(ภู)ไปอีกประมาณ 350 เมตร เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชันที่แม้ชาวบ้านจะปรับทางเดินไว้อย่างดี และเดินไม่ไกลมาก(อารมณ์เดียวกับการเดินขึ้นภูชี้ฟ้าแต่ทางเดินสั้นกว่า) แต่ก็ทำเอาผมเดินเหนื่อยลิ้นห้อย ชนิดต้องแวะพักกันอยู่บ่อยครั้ง
ต่อจากนั้นก็จะขึ้นมาถึงแนวสันยอดภูชี้ดาวที่เป็นแนวภูเขาหญ้าโล่งเตียน มีทางเดินเล็ก ๆ แคบ ๆ และมีราวกันตกให้เราค่อย ๆ เดินด้วยความระมัดระวัง เลาะแนวสันบนยอดเขาขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว บนระดับความสูง 1,720 เมตรจากระดับน้ำทะเล(อ้างอิงตัวเลขจากผู้ช่วยแสงคม)
จากแนวสันเขานี้เมื่อมองไปตามทางเบื้องหน้าจะเห็นยอดภูชี้ดาว ที่เป็นสันเขาแคบ ๆ มีปลายยอดเป็นจงอยแหลมเชิดชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า ดวงเดือน และหมู่ดาวสมดังฉายา “ภูชี้ดาว”
ทะเลหมอกอลังการ
บนแนวสันยอดภูชี้ดาวมีจุดชมวิวเป็นทางยาว(แต่แคบ) ให้เลือกหามุมถ่ายรูปกัน โดยที่จุดสิ้นสุดของยอดเขา ซึ่งเป็นจุดชมวิวไฮไลท์ได้มีการสร้างราวกันตกและหลักกิโลไว้ แต่เนื่องจากบริเวณนี้มีพื้นที่แคบ ๆ ยืนกันได้ไม่กี่คน ยังไงขอความกรุณานักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนนี้ช่วยแบ่งปันจุดชมวิว(ไฮไลท์)กันแบบเปี่ยมมิตรไมตรี
อย่ายืนแช่ยึดจุดชมวิวไว้เพียงคนเดียว กลุ่มเดียว เมื่อได้รูปแล้วก็ควรถอยออกมาให้นักท่องเที่ยวคนอื่นเข้าไปถ่ายรูปที่จุดไฮไลท์บ้าง นี่แหละถึงจะได้ชื่อว่า “เที่ยวไทยเท่” ด้วยเสน่ห์แบบไทย ๆ มีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน
สำหรับในเช้าวันนั้น ผมกับเพื่อน ๆ มาเดินถึงยอดภูชี้ดาวประมาณ ตี 5 ปลาย ๆ แบบใจหวั่น ๆ เพราะหมอกลอยปกคลุมหนาทึบ มองทัศนียภาพเบื้องหน้าแค่ประมาณ 10 เมตรยังไม่เห็น กระทั่งถึง 6 โมงกว่า ๆ พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ฟ้าก็ยังไม่เป็นใจ หมอกยังคงลอยปกคลุมแน่นหนา จนเราอดคิดไม่ว่าเช้านี้คงจะพลาดหวัง
แต่จากนั้นไม่นาน ฟ้าก็ค่อย ๆ เปิด ให้เรามองเห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าได้อย่างงดงาม โดยทางฝั่งสปป.ลาวนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยภาพของทะเลหมอกอันสวยงามอลังการกว้างไกล ที่กำลังค่อย ๆ ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ที่โผล่ยอดแทรกแซมเติมเต็มในองค์ประกอบ
ครั้นเมื่อแสงตะวันยามเช้าอันเรื่อเรืองได้สาดส่องมาโลมไล้ไปตามหมู่ทะเลหมอกอันขาวโพลน ดูแล้วช่างอบอุ่นนุ่มนวลดุจดังทะเลปุยนุ่นหรือขนมปุยฝ้ายแผ่นยักษ์อันยั่วยวน ดูแล้วน่าประทับใจกระไรปานนั้น
ขณะที่วิวทิวทัศน์ทางฝั่งไทยในเช้าวันนั้นมีหมอกค่อนข้างน้อย แต่ที่ดีเสน่ห์มากก็คือ จากจุดชมวิวไฮไลท์ตรงหลักกิโลฯเมื่อมองออกไปจะเห็นแนวสันเทือกเขาของภูชี้ฟ้าทอดยาวตระหง่านเงื้อม มียอดภูแหลมชี้เด่น ซึ่งในเช้าวันนั้นมีภาพของน้ำตกหมอกที่ค่อย ๆ ลอยเลื่อนไหลเข้าปกคลุมยอดภูชี้ฟ้าดูสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย
เที่ยวเชื่อมโยง ภูชี้ดาว-ชี้เดือน-ชี้ฟ้า-ผาตั้ง
ภูชี้ดาวนอกจากจะเป็นหนึ่งในจุดชมทะเลหมอกอันสวยงามอลังการของบ้านเราแล้ว ยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง 4 ประสาน คือ “ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน-ภูชี้ฟ้า และดอยผาตั้ง”
โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมก็คือช่วงเย็นไปชมวิวไทย-ลาว ชมพระอาทิตย์ตกบน “ดอยผาตั้ง” ที่ ตั้งอยู่ที่บ้านผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ดอยผาตั้ง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นแห่งทิวเขาหลวงพระบาง(เช่นเดียวกับภูชี้ฟ้า) มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร และอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 25 ก.ม. โดยเป็นภูเขากั้นเขตแดนไทย-ลาว ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดีที่ชมพระอาทิตย์ได้ทั้งในยามเช้าและเย็น โดยในตอนเช้าก็จะได้ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสวยงาม ส่วนยามเย็นถือเป็นจุดชมทิวทัศน์และจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งามไม่แพ้ใคร
บริเวณดอยผาตั้งมีสิ่งน่าสนใจให้เลือกเที่ยวชมกัน อาทิ “ผาบ่อง” ที่เป็นดังประตูสยามสู่ประเทศลาว, “ช่องเขาขาด” อีกหนึ่งจุดชมวิวสวย ๆ มีลักษณะเป็นช่องเขาแคบ ๆ ที่ขาดแยกออกจากกัน สามารถไปยืนชมวิวของฝั่งลาวประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสวยงาม, เนิน 102 และ เนิน 103 จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้บริเวณผาตั้งยังมี ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่,พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ, ป่าหินยูนนาน และการ"นั่งม้าชมดอย" เที่ยวบริเวณผาตั้งสำหรับคนที่ไม่อยากเดิน ไม่ชอบเหนื่อย ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างสูง
จากชมวิวผาตั้งยามเย็น ในเช้าวันรุ่งขึ้น มีเส้นทางให้เลือกไปเที่ยวชมทะเลหมอก ใน 3 จุดหลักด้วยกัน คือ ภูชี้ฟ้า ภูชี้ดาว และ ภูชี้เดือน ที่ล้วนต่างเป็นจุดชมทะเลหมอกแสนงามและตั้งอยู่ไม่ไกลกัน สามารถเดินทางไปชมความงามของทั้ง 3 ภูได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือภายในช่วงเช้าของทริป(หากว่ามีแรงเดิน)
สำหรับในทริปนี้ผมเลือกเที่ยวภูชี้ดาวเป็นหลักซึ่งมีมนต์เสน่ห์ความงามตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น และเอาภูชี้ดาวเป็นศูนย์กลาง โดยภูชี้ดาวตั้งอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าประมาณ 8 กม.
ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย อ.เทิง จ.เชียงราย บนรอยต่อของเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นที่เป็นดังหลังคาเชียงราย มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร มีรูปพรรณสัณฐานอันโดดเด่นด้วยลักษณะเป็นหน้าผาตัด ยอดภูเป็นเหลี่ยมแหลมทิ่มแทงฟ้า ถือเป็นต้นตำรับเจ้าแรกแห่งพี่น้องภูตระกูล“ชี้”ของเชียงราย
นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปชมทิวทัศน์และทะเลหมอกที่ภูชี้ฟ้ากันตั้งแต่เช้ามืดท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและลมพัดแรง โดยจากบริเวณจุดจอดรถจะต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตรก็จะถึงยอดภูชี้ฟ้า
นอกจากจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูชี้ฟ้าอันงดงามแล้ว ในระหว่างทางเดินขึ้นยอดภูยังมีจุดชมวิวไฮไลท์ที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูชี้ฟ้า นั่นก็คือ จุดที่สามารถมองเห็นยอดแหลมของภูที่ชี้พุ่งไปสู่ท้องฟ้า ท่ามกลางทะเลหมอกหนาเป็นปุย พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า และแนวยอดภูเบื้องล่างได้อย่างลงตัวงดงาม
ขณะที่ในส่วนเส้นทางระหว่างภูชี้ดาวกับภูชี้เดือนนั้น อยู่ห่างกันแค่ประมาณ 500 เมตร
ภูชี้เดือน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ล่าสุด เพิ่งเปิดตัวได้ไม่ถึง 2 ปี(หลังภูชี้ดาว) ภูชี้เดือนเป็นเทือกเขาชายแดนไทย-ลาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าหลวง ม.12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 8 ก.ม.
สภาพภูมิประเทศของภูชี้เดือนเป็นเนินเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาวไปตามแนวชายแดนฝั่งไทย อีกด้านเป็นพื้นที่ของฝั่ง สปป.ลาว ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน และมียอดภูชี้เดือน ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,800 เมตร ตั้งโดดเด่นอยู่ระหว่างภูชี้ฟ้าและผาตั้ง และด้วยความสูงของภูชี้เดือน ที่สูงกว่ายอดภูเขาลูกอื่นทำให้สามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้า ผาตั้ง ภูชี้ดาว ได้พร้อมกันทั้ง 3 ลูกเลยทีเดียว
และนี่ก็คือเส้นทาง 4 ประสานเชื่อมโยง ดอยผาตั้ง-ภูชี้ฟ้า-ภูชี้ดาว-ภูชี้เดือน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวเชื่อมโยงให้ครบทั้ง 4 จุด ภายในช่วงเย็นต่อถึงครึ่งวันเช้าได้อย่างไม่ยากเย็น
นับเป็นมนต์เสน่ห์แห่ง 4 จุดชมวิวของจังหวัดเชียงรายที่อยู่ไม่ไกลกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางเชียงรายรำลึกอันน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าประทับใจกระไรปานนั้น
....................................................................................................
ภูชี้ดาว ตั้งอยู่ที่บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย การเดินทางขึ้นสู่ยอดภูชี้ดาว สามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง
-เส้นทางที่ 1 : จาก อ.เวียงแก่น ใช้เส้นทาง ผาตั้ง - ภูชี้ฟ้า ก่อนถึงภูชี้ฟ้า 12 กม. จะมีป้ายบอกทางอยู่ซ้ายมือ เป็นหมู่ 11 บ้านร่มโพธิ์เงิน ต.ปอ อ.เวียงแก่น
-เส้นทางที่ 2 : จากภูชี้ฟ้า ใช้เส้นทางภูชีฟ้า - ผาตั้ง ระยะห่างจากภุชี้ไปภูชี้ดาว ประมาณ 12 กม. จะเข้าสู่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงิน ขับรถจนหมู่หมู่ 11 จะมีป้ายภูชี้ดาว อยู่ด้านขวามือ
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวควรเดินทางจากที่พักมาถึงที่หมู่บ้านร่มโพธิ์เงินกันตั้งแต่เช้ามืด ราว ๆ ตี 4 ครึ่งถึง 5 จากนั้นให้จอดรถไว้ที่จุดจอดรถของหมู่บ้าน(มีชาวบ้านดูแลให้) แล้วเปลี่ยนมาใช้บริการรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อของชุมชน ค่าโดยสารคนละ 100 บาท/คน/2 เที่ยว (นั่งไป-กลับ 6 กม.) หากจำนวนคนน้อยกว่า 5 คน ให้เหมาคันละ 500 บาท และควรโทร.จองก่อนล่วงหน้า
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โทร. 0-5360-2742 , 0-5360-2743, หรือที่ 09-3140 -7132, 09-3253-2649,08-2184-0504
และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายเชื่อมโยงกับภูชี้ดาว ภูชี้เดือน ภูชี้ฟ้า และดอยผาตั้ง รวมถึง ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางได้ที่ ททท.สำนักงานเชียงราย (รับผิดชอบพื้นที่ เชียงราย,พะเยา) โทร. 0-5371-7433, 0-5374-4674-5
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager