Facebook :Travel @ Manager
ย่างเข้าเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวรับลมหนาวของภาคเหนือแล้ว ก็ยังเป็นช่วงไฮซีซันอันสวยใสของทะเลอันดามัน ซึ่งบัดนี้ปลอดมรสุมคลื่นลมสงบดีแล้ว จึงอยากชวนให้คนรักทะเลไปสัมผัสกับน้ำใสทรายขาวกันบนเกาะงามๆ กลางทะเลอันดามันของ 6 จังหวัดชายฝั่ง ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล โดยคัดเอาจังหวัดละ 1 เกาะน้ำใสทรายขาว ฟินแน่นอน
“เกาะตะรุเตา-หลีเป๊ะ” สตูล
เริ่มกันที่จังหวัดสตูลก่อนเลย ที่ “หมู่เกาะตะรุเตา” ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ “อุทยานแห่งชาติตะรุเตา” ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นคุกเปิดคุมขังนักโทษการเมืองและนักโทษคดีอุจฉกรรจ์ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสวรรค์กลางทะเลอันงดงามยิ่งนัก
บนเกาะตะรุเตามีชายหาดสวยๆ หลายแห่ง อาทิ อ่าวตะโละวาว หาดทรายอ่าวเมาะ หาดทรายอ่าวสน และอ่าวพันเตมะละกา บนเกาะตะรุเตายังเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา มีบ้านพักและจุดกางเต็นท์ให้บริการ ส่วนเกาะอื่นๆ ใกล้เคียงก็ล้วนแล้วแต่สวยงามไม่แพ้กัน อาทิ เกาะอาดัง-ราวี ที่มีน้ำทะเลและชายหาดสวยใส เกาะไข่ที่มีซุ้มประตูหินธรรมชาติขนาดใหญ่ เกาะหินงามที่ทั้งเกาะมีแต่หินสีดำรูปทรงสวยงามทั้งเกาะ และมีจุดดำน้ำเลื่องชื่ออย่างร่องน้ำจาบังที่มีปะการังสมบูรณ์ยิ่งนัก
แต่ที่พลาดไม่ได้ก็คือ “เกาะหลีเป๊ะ” ที่เดิมเป็นหมู่บ้านชาวเล ก่อนจะมีนายทุนมาสร้างโรงแรมร้านอาหารจนเต็มเกาะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามธรรมชาติอันสวยงามเกาะหลีเป๊ะก็ยังคงตราตรึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือน
สำหรับชายหาดหลักๆ อันสวยงามบนเกาะหลีเป๊ะนั้น ได้แก่ หาดบันดาหยาอันเป็นด่านแรกในการเหยียบเกาะหลีเป๊ะ เพราะเป็นจุดขึ้น-ลงเรือเทียบท่าชายฝั่ง ฝรั่งมักเรียกหาดนี้ว่าหาดพัทยา เป็นหาดโค้งยาวสวยงามทรายละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำอาบแดดที่หาดนี้ ส่วนยามค่ำคืนก็คึกคักไปด้วยแสงสีในร้านกินดื่มริมชายหาด สนุกสนานไปกับการควงกระบองไฟและร้านอาหารนานาชนิด และจากหาดสามารถเดินไปถนนคนเดินที่ทอดยาวไปจนถึงกลางเกาะ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งคืน
นอกจากนั้นก็ยังมีหาดชาวเลที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นชั้นดี และหาดเมาเท่นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ หาดชาวเล ซึ่งมีแนวชายหาดขาวเนียนสวยงามยื่นเข้าไปในทะเล เป็นหาดน้ำตื้นที่คนนิยมมาเล่นน้ำกันมาก มีน้ำทะเลสวยใสแจ๋วน่าลงเล่น และหาดซันเซ็ทที่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม
“เกาะกระดาน” ตรัง
ต่อกันที่จังหวัดตรัง “เกาะกระดาน” เป็นเกาะน่ารักในบรรยากาศโรแมนติกที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในจังหวัดตรัง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม พื้นที่อีกส่วนหนึ่งเป็นของชาวบ้านที่ตั้งถิ่นฐานมาก่อนการประกาศเป็นอุทยานฯ บนเกาะกระดานจึงมีทั้งที่พักของเอกชนและที่พักของอุทยานฯให้เลือกพัก
ที่นี่ยังได้ชื่อว่า “เกาะแห่งความรัก” เพราะเคยใช้เป็นที่จัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทร เทศกาลแห่งความรักอันเลื่องชื่อของเมืองตรังมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ส่วนในช่วงฤดูท่องเที่ยวแต่ละวันจะมีเรือนำเที่ยวมาแวะจอดให้นักท่องเที่ยวแวะพักกินอาหารกลางวัน เล่นน้ำ พักผ่อน ดื่มด่ำในความงามของเกาะกระดานกันเป็นจำนวนมาก
หาดทรายของเกาะกระดานเป็นแนวชายหาดอันสวยงามที่ทอดตัวเป็นแนวยาวหลายร้อยเมตร มีทรายละเอียดดุจดังแป้งเดินนุ่มเท้า รวมถึงมีน้ำทะเลหน้าหาดที่ใสแจ๋วแหววชนิดมองลงไปเห็นริ้วทรายใต้พื้นน้ำ ไล่โทนสีฟ้าอ่อนในส่วนน้ำตื้นไปจนถึงน้ำเงินในบริเวณน้ำลึก มองออกไปกลางท้องทะเลเห็นเกาะใกล้เคียง อย่างเกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก ฯลฯ
“เกาะค้างคาว-หมู่เกาะกำ” ระนอง
ทะเลระนองอาจไม่โดดเด่นเท่าภูเก็ตหรือกระบี่ แต่ที่นี่ก็มีของดีอยู่ที่ “หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาว” โดยสามารถขึ้นเรือได้จากหาดบางเบน บริเวณอุทยานแห่งชาติแหลมสม (อ.กะเปอร์) ไปสู่หมู่เกาะกำและเกาะค้างคาวได้
จากหาดบางเบน ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึงยัง “เกาะค้างคาว” (อ.กะเปอร์) เกาะที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในระนอง หาดทรายที่นี่ขาวเนียนละเอียดนุ่ม ส่วนน้ำทะเลก็ใสแจ๋ว ค่อยๆ ไล่โทนจากสีเขียวอ่อนในแนวชายหาดช่วงน้ำตื้น ออกไปสู่ท้องทะเลเป็นสีฟ้าอ่อน และสีน้ำเงินเข้มของน้ำทะเลลึกแห่งอันดามัน
อีกทั้งบริเวณหัวเกาะค้างคาวมีจุดดำน้ำตื้นที่แม้ปะการังและปลาจะไม่มากมาย แต่ว่าก็มีให้ชมกันพอสมควร โดยเฉพาะปลาการ์ตูนนีโม่ที่แหวกว่ายอยู่ในกอดอกไม้ทะเลก็มีให้เห็นพอเป็นสีสันประดับให้เกาะค้างคาวมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น
ส่วน “หมู่เกาะกำ” อยู่ห่างจากเกาะค้างคาวไปประมาณ 20 นาที หมู่เกาะกำตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน (อ.สุขสำราญ) ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ได้แก่ เกาะกำใหญ่ เกาะกำนุ้ย เกาะกำตก (อ่าวเขาควาย) เกาะกำใต้ เกาะกำกลาง (เกาะญี่ปุ่น) เกาะนมสาว (เกาะล้าน) เกาะนกควัก (เกาะนกกวัก) และเกาะไฟแว่บ เป็นต้น โดยไฮไลต์ของหมู่เกาะกำก็อยู่ที่ “เกาะกำตก” นั่นเอง
“เกาะกำตก” หรือที่เรียกว่า “อ่าวเขาควาย” เนื่องจากมีโค้งอ่าวยาวเป็นรูปครึ่งวงกลมคล้ายเขาควายทอดตัวจากเหนือจรดใต้ของเกาะ ที่นี่มีหาดทรายสวย น้ำใส แลดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และชวนให้ลงแหวกว่ายเล่นน้ำยิ่งนัก
บนเกาะกำตกยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ชมวิวอ่าวเขาควายจากมุมสูง มองเห็นโค้งอ่าวและหาดทรายสีขาวกับน้ำทะเลสีเขียวสดใสสวยงามยิ่งนัก
“หมู่เกาะสิมิลัน” พังงา
ในบรรดาหมู่เกาะของจังหวัดพังงาที่ล้วนแล้วแต่สวยงามนั้น ขอเลือก “หมู่เกาะสิมิลัน” มาเป็นตัวแทนทะเลแห่งพังงา โดยหมู่เกาะสิมิลันอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ 11 เกาะด้วยกัน ได้แก่ เกาะหนึ่ง(หูหยง) เกาะสอง(ปายัง) เกาะสาม(ปาหยัน) เกาะสี่(เมียง) เกาะห้า เกาะหก(ปายู) เกาะเจ็ด(หินปูซาร์) เกาะแปด(สิมิลัน) เกาะเก้า(บางู) โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้ผนวกรวมเกาะตาชัยและเกาะบอนที่อยู่ในน่านน้ำละแวกเดียวกันเพิ่มเข้ามา รวมเป็น 11 เกาะ
ไฮไลต์ของหมู่เกาะสิมิลันอยู่ที่ “เกาะสิมิลัน” หรือ “เกาะแปด” เกาะที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในหมู่เกาะนี้และมีเอกลักษณ์ตรงที่มีหินรูปร่างประหลาดที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ อาทิ หินเรือใบที่สามารถขึ้นไปชมวิวเกาะสิมิลันมุมสูงได้ด้วย หินรองเท้าบู้ท หรือหินโดนัลด์ดัก เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์กลางท้องทะเลของหมู่เกาะสิมิลัน
ด้วยธรรมชาติอันสวยงามน่ายลของหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียดราวกับแป้ง อีกทั้งยังมีลักษณะเป็นหาดกว้างและโค้งยาวคล้ายเกือกม้า และน้ำทะเลใสเป็นประกายยามต้องแสงแดด ใต้น้ำนั้นก็สมบูรณ์ไปด้วยกองหิน แนวปะการัง และปลาสวยๆ งามๆ ที่สามารถดำน้ำตื้นชมได้อย่างสบายใจ
ปัจจุบันนี้กรมอุทยานฯ ได้เดินหน้าจัดระเบียบ อช.หมู่เกาะสิมิลัน รับฤดูกาลท่องเที่ยว โดยห้ามนักท่องเที่ยวพักค้างแรมบนเกาะ เที่ยวได้เฉพาะไป-กลับเท่านั้น ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตสำหรับการทำกิจกรรมประเภทดำน้ำลึก
ที่สำคัญคือยังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ไม่เกิน 3,850 คน ต่อวัน โดยแยกเป็นดำน้ำลึกรับได้ 525 คนต่อวัน และท่องเที่ยวชายหาดและดำน้ำตื้น 3,325 คนต่อวัน ซึ่งเป็นไปตามข้อมูลจากผลศึกษาวิจัยในขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานฯ ของนักวิชาการที่จะไม่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมโทรม จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 3,850 คน ต่อวัน พร้อมห้ามเรือบรรทุกเกิน 100 คน วิ่งเข้าเขต อช.สิมิลัน ดังนั้นใครที่อยากไปเที่ยวแล้วไม่แน่ใจในรายละเอียดควรโทรสอบถามกับทางอุทยานฯ ก่อน
“เกาะรอก” กระบี่
จังหวัดกระบี่ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดแห่งทะเลอันดามันที่มีเกาะน้อยใหญ่สวยงามเต็มไปหมด เมื่อพูดถึงเกาะของกระบี่คนอาจจะนึกถึงเกาะพีพี เกาะห้อง หรือเกาะปอดะเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในวันนี้เราขอแนะนำ “เกาะรอก” ที่สวยใสมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน
“เกาะรอก” อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ (ระหว่างรอยต่อของทะเลตรังและทะเลกระบี่) ประกอบไปด้วย 2 เกาะ คือเกาะรอกนอกและเกาะรอกใน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะรอกมักจะซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปมากับบริษัททัวร์ เพราะไม่มีเรือโดยสารสาธารณะมาที่นี่ แต่ถ้าอยากจะค้างคืนบนเกาะรอกก็ได้เพราะบนเกาะรอกนอกมีบ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการ
ความโดดเด่นของ “เกาะรอก” ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันก็คือ ความเงียบสงบและความสวยใสของทรายและน้ำทะเล บนเกาะยังคงความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้น้อยใหญ่ไว้เป็นจำนวนมาก มีชายหาดขาวสะอาดทอดตัวยาวไปตามแนวเกาะ เม็ดทรายขาวเนียนละเอียด ส่วนน้ำทะเลบอกได้คำเดียวเลยว่าสวยใสมาก
กิจกรรมบนเกาะนอกจากเล่นน้ำและถ่ายรูปบนชายหาดแล้ว ก็ต้องไม่พลาดดำน้ำตื้นดูปะการังและเหล่าฝูงปลามากมายที่หน้าเกาะ และคนที่ชอบดำน้ำลึกที่นี่ก็ถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำด้วยเช่นกัน มีทั้งดอกไม้ทะเลและปลาการ์ตูนอาศัยอยู่มากมาย บริเวณที่ลึกยังพบปะการังอ่อน ปะการังสมอง ฯลฯ และสัตว์ทะเลมากมายอีกด้วย
“เกาะราชา” ภูเก็ต
ปิดท้ายด้วย “เกาะราชา” หรือ “เกาะรายา” ในจังหวัดภูเก็ต เพราะเป็นเกาะที่เดินทางได้โดยใช้เวลาไม่นาน แถมยังสวยงามน่าเที่ยว ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
เกาะราชาตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะภูเก็ต ห่างจากฝั่งประมาณ 15 ก.ม. มีเกาะราชาใหญ่ และเกาะราชาน้อย โดยเกาะที่เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวก็คือ “เกาะราชาใหญ่” บนเกาะมีอ่าวใหญ่ 5 อ่าวด้วยกัน ได้แก่ อ่าวตะวันตก หรือ อ่าวปะตก ซึ่งเป็นอ่าวที่สวยงามที่สุดบนเกาะราชา หาดทรายขาวสะอาดเนียนนุ่ม น้ำทะเลเป็นสีฟ้าสดใส ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหรูหลายแห่ง อ่าวสยามเป็นอ่าวที่ยาวที่สุดของเกาะ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ โดยเป็นแหล่งดำน้ำตื้นดูปะการังที่สวยงาม
อ่าวทือเป็นอ่าวเล็กๆ ที่มีชายหาดไม่กว้างมากนัก ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะราชา อ่าวขอนแคก็เป็นจุดชมปะการังอีกแห่งหนึ่ง และอ่าวหลา หาดเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่สวยที่สุดของเกาะราชาใหญ่
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริปไปเล่นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส พร้อมทั้งนอนเล่นบนชายหาดสีขาวสะอาด ชมธรรมชาติงามๆ ของเกาะราชาให้เต็มอิ่มไปเลย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager