xs
xsm
sm
md
lg

“Eat Me” มีดีที่อาหารนานาชาติ บรรยากาศคลาสสิกชวนนั่งชิล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Facebook :Travel @ Manager
สารพัดเมนูเด็ดชวนกิน
หลังจากเลิกทำงาน “ตระเวนกิน” มักจะชอบพาตัวเองมาผ่อนคลายอารมณ์แบบชิลๆ ไปกับการนั่งกินอาหารเลิศรส ท่ามกลางบรรยากาศร้านอาหารสวยๆ ที่ตกแต่งแบบคลาสสิกชวนนั่งแบบเพลินใจ เรียกว่าเป็นการรีเฟรชร่างกาย หลังจากที่ได้ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นล่าง
ว่าแล้วในครั้งนี้เราก็ได้พาตัวเองมานั่งชิลแบบผ่อนคลายกันที่ร้านอาหารแห่งนี้ “Eat Me” (อีท มี) ซึ่งตั้งอยู่ตรงซอยพิพัฒน์ 2 ถนนคอนแวนต์ สีลม ที่นี่เป็นร้านอาหารสวยคลาสสิกที่ชวนให้มาสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง มีรางวัลการันตีติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurants) มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2556 โดยมีอันดับที่ 33 ของ Asia’s 50 Best Restaurantsในปีพ.ศ. 2561 และยังได้รับเลือกให้อยู่ในลิสของ The Plate ของมิชลิน ไกด์บุ๊ค ที่เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปีค.ศ. 2017และได้รับรางวัล Best Restaurant and Bar 2018 จาก Bar Awards Bagnkok
เก้าอี้อาร์มแชร์ชวนนั่งชิลๆ
เมื่อมาถึงร้านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่สวยงามคลาสสิก มีความงดงามรื่นรมย์ ด้วยการออกแบบตกแต่งจากดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกัน เคลลี่ วีทท์ลี (Kelly Wheatly) และถูกตกแต่งด้วยผลงานศิลปะมากมายจาก H Gallery มีถึง 3 ชั้นให้บริการ โดยชั้นหนึ่งมีเก้าอี้นั่งสบายๆ รายล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจี ด้านในมีส่วนของเคาน์เตอร์บาร์ บริการเครื่องดื่มหลากหลาย และมีเก้าอี้อาร์มแชร์เบาะหนังชวนนั่งชิลๆ สไตล์เลาจ์นดูดีมีสไตล์ ชั้นสองจัดเป็นห้องนั่งกินอาหารในห้องแอร์เย็นๆ แล้วยังมีส่วนของบริเวณระเบียงด้านนอก ให้ได้เลือกนั่งรับลมธรรมชาติเย็นใจ รื่นรมย์ไปด้วยแมกไม้สบายตา และชั้นสามมีพื้นที่โต๊ะนั่งกินข้าวที่มีความเป็นส่วนตัวไว้ให้บริการ
บรรยากาศโต๊ะนั่งชั้นสองในห้องแอร์
สำหรับอาหารของที่นี่ทางร้านนำเสนออาหารนานาชาติ ที่คิดค้นรังสรรค์เมนูต่างๆ โดยเชฟ ทิม บัทเลอร์ และได้มีการผสมผสานอาหารตะวันตกและตะวันออกให้เข้ากันแบบลงตัว โดยเชฟได้เลือกเฟ้นวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เกรดพรีเมียมจากทั่วโลก มาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารเลิศรส ที่ทั้งหน้าตาและรสชาติของอาหารล้วนแล้วแต่ชวนกินมากมาย รวมถึงที่นี่ยังมีบาร์เทนเดอร์มากฝีมือ สร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มหลายหลากที่ชวนดื่มคู่กับอาหารรสเลิศ
Spicy Wagyu Tartare “Laab”
อาหารจานเด็ดที่ชวนลิ้มรสของที่นี่มีหลายเมนู อย่างที่อยากแนะนำให้ชิมกันก็มี Spicy Wagyu Tartare “Laab” (890 บาท+) เชฟคัดสรรเนื้อวัววากิวชั้นดีจากออสเตรเลีย ส่วนเทนเดอร์ลอยน์นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วปรุงกับเครื่องลาบครบเครื่องแบบไทย ใส่ข้าวคั่ว หอมแดง พริกสด และมะนาวสด ใส่ไข่แดงมาด้วย เวลากินคลุกเคล้าให้ไข่เข้ากับเนื้อ ลองลิ้มแล้วสัมผัสได้ถึงความนุ่มหนึบของเนื้อชั้นดี ได้รสชาติลาบแบบครบเครื่อง กินคู่กับขนมปังบาแก็ตเข้ากันดีแท้
Grilled Veal Tongue
ถัดมาลองลิ้มเมนู Grilled Veal Tongue (690 บาท+) เป็นลิ้นวัวพันธุ์วากิวนำเข้าจากออสเตรเลีย ต้มกับสมุนไพรไทยให้หอม และตุ๋นนานถึง 4 ชม. จนได้ลิ้นวัวที่นุ่มกำลังดี แล้วนำไปจี่ให้ผิวมีความกรอบนิดๆ ราดด้วยซอสโฮมเมดสูตรพิเศษของเชฟ กินลิ้นวัวนุ่มๆ แทบละลายในปาก ได้รสชาติน้ำซอสรสกลมกล่อม ตัดเลี่ยนด้วยกิมจิและแอปเปิ้ลเขียวแบบลงตัว
Tamarind Glazed Quail
ตามติดมาด้วยเมนูจานเด่น Tamarind Glazed Quail (880 บาท+) หน้าตาชวนกิน เป็นนกกระทาจากฝรั่งเศส ทาด้วยซอสมะขามสูตรเด็ดของเชฟ และย่างจนสุกได้ที่ ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ และมีพริกสดโรยมาด้วยเพื่อแกล้มแก้เลี่ยน แล่ชิ้นเนื้อนกกระทาส่งเข้าปาก สัมผัสได้ถึงความนุ่มของเนื้อนกรสดี ชุ่มซอสมะขามรสกลมกล่อมโดนใจปาก
Grilled Abalone + Plankton Rice
จากนั้นมาอร่อยกับ Grilled Abalone + Plankton Rice (50g 950 บาท+ / 100g 1,820 บาท+ / 200g 3,550 บาท+) เป็นหอยเป๋าฮื้อญี่ปุ่นที่ส่งตรงมาจากตลาดปลาสึกิจิ เชฟนำหอยมากริลล์ให้พอสุกปรุงรสด้วยพริกไทย เกลือ แล้วก็มีข้าวริซอสโตผสมกับผงแพลงตอนปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะ ลิ้มรสหอยเป๋าฮื้อเคี้ยวนุ่มเด้งหนึบเต็มปากเต็มคำ มีความหวานสดได้ใจ กินเข้ากันดีกับข้าวริซอสโตรสเยี่ยม
Mixed Clams
อีกหนึ่งเมนูหอยที่คนชอบกินหอยไม่ควรพลาด คือ Mixed Clams (750 บาท+) มีหอยตลับมะนิลาจากวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา และหอยหลอดจากฝรั่งเศส นำมาปรุงเป็นซุปหอยตามสูตรเด็ดของเชฟ ใส่กระเทียม ไวน์ขาว และเด็ดตรงที่ใส่แหนมมาด้วย กินแล้วได้รสชาติซุปหอยที่กลมกล่อมลิ้น หอยแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่เนื้อเด้งนุ่มมีความหวานสดโดนใจ ส่วนแหนมที่ใส่มารสดีกินเข้ากันลงตัว แถมยังมีมะนาวสดมาให้บีบเพิ่มรสชาติความเปรี้ยวนิดๆ กินฟินเพลินปาก
Pan Seared Bluefoot Mushrooms
แล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ Pan Seared Bluefoot Mushrooms (650 บาท+) เชฟนำเห็ด bluefoot จากฝรั่งเศส ไปจี่ให้สุก แล้วปรุงรสด้วยกระเทียม หัวหอม โรสแมรี่ และยังใส่ผักร็อกเก็ต แก่นตะวัน (เป็นสุมนไพรชนิดหนึ่ง) ฮาเซลนัท ชีสนมแพะ ราดด้วยซอสที่มีส่วนผสมของไวน์แดงที่ผ่านการปรุงเคี่ยวมาเป็นพิเศษ ลิ้มรสเห็ดรสชาติดี ได้รสซอสกลมกล่อมลิ้น กินเข้ากันกับกับเครื่องต่างๆ ที่ใส่มาถูกปากดีจริง
Sticky Date Pudding Hot Butterscotch Sauce + Vanilla Ice Cream
แนะนำเมนูของคาวแล้วก็ขอชวนกินเมนูของหวานล้างปาก Sticky Date Pudding Hot Butterscotch Sauce + Vanilla Ice Cream (390 บาท+) เป็นคัพเค้กสูตรเด็ดของเชฟที่ทำจากอินทผาลัมสดจากอียิปต์ ราดซอสคาราเมล กินคัพเค้กนุ่มเนียน รสชาติละมุนละไม หอมหวานซอสคาราเมล กินคู่กับไอศกรีมโฮมเมดรสวานิลลาหวานเย็นดีต่อใจยิ่งนัก
เคาน์เตอร์บาร์บริการเครื่องดื่มหลากหลาย
แต่ว่าเมนูจานเด่นของที่นี่ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะว่ายังมีเมนูเลิศรสอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ Bouillabaisse (1,550 บาท+) Pan-Seared Sea Scallops ( 850 บาท+) Japanese Ohmi Wagyu A5 Tataki (75g 1,150 บาท+ / 100g 1,500 บาท+ / 200g 2,900 บาท+) Red Curry Oxtail + Bone Marrow (1,050 บาท+) และอีกสารพัดเมนูนานาชาติรสเด็ด ที่ชวนให้สั่งมากินแบบอิ่มเอม ท่ามกลางบรรยากาศคลาสสิกสบายๆ ที่อยากชวนให้ทุกคนลองมาสัมผัสกันด้วยตัวเองที่ร้าน “Eat Me”
โต๊ะนั่งรับลมธรรมชาติ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 

“Eat Me” (อีท มี) ตั้งอยู่ที่ 1/6 ซอยพิพัฒน์ 2 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 15.00 - 01.00 น. ทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย ถ้าจะมากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2238-0931 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eatmerestaurant.com/reservations, www.facebook.com/eatmerestaurant, www.instagram.com/eatmerestaurant, www.eatmerestaurant.com
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


กำลังโหลดความคิดเห็น